ตอนที่แล้วตอนที่ 30 สัตว์ประหลาดล่องหน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 32 เหตุการณ์แปลกๆ

ตอนที่ 31 ไร้ปราณี


ตอนที่ 31 ไร้ปราณี

ในจักรวาลของโจโจ้ แสตนด์เป็นผู้พิทักษ์ซึ่งมีเพียงผู้ใช้แสตนด์เท่านั้นที่สามารถมองเห็นได้

เหตุผลง่ายๆ คือ สแตนด์เป็นการรวมตัวของจิตใจที่แข็งแกร่ง หากไร้ซึ่งจิตใจเช่นนั้น ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมองเห็นสแตนด์ แน่นอนว่าคนที่มีจิตใจเข้มแข็งมักจะเป็นผู้ใช้สแตนด์อยู่แล้ว แต่ก็มียกเว้นอยู่บ้าง

(หมายเหตุจากคนแต่ง: เขาใส่เรื่องนี้เข้ามาเพื่อเพิ่มรสชาติให้กับเนื้อเรื่อง ถ้าไม่มีใครมองเห็นสแตนด์ได้เลยนอกจากตัวเอกก็คงจะน่าเบื่อเกินไป ดังนั้นอย่าถือสาการปรับแต่งตรงนี้มากนักนะครับ)

ในสายตาของริคตัน แม้จะมีเหยื่อจำนวนมากแล้วแต่ก็ยังไม่มีใครเห็นเงื่อนงำใดๆ นอกจากความผิดปกติในอากาศราวกับมีคลื่นไหวกระเพื่อม พวกเขาไม่รู้เลยว่านั่นคืออะไร ขณะเดียวกัน เพื่อนร่วมแก๊งค์ของพวกเขาก็ล้มลงทีละคนเลือดสาดกระเซ็นอย่างบ้าคลั่ง บางคนแม้แต่ร่างกายยังไม่อาจระบุตัวตนได้

เสียงปืนดังกึกก้องไปทั่ว แม้ว่าสถานที่นี้น่าจะเป็นที่ซ่อนตัวชั้นดี ยากที่คนจะหาเจอหรือมาป้วนเปี้ยนบริเวณนี้ และถึงจะมีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้นพวกเขาก็น่าจะได้เปรียบเพราะพื้นที่นี้ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ อย่างไรก็ตาม...สถานการณ์ตรงหน้ากลับแตกต่างจากที่ริคตันเคยจินตนาการอย่างสิ้นเชิง

ริคตันถูกต้อนจนมุมมากจนถึงขนาดคิดบุกทะลวงไปยังเขตใจกลางเมืองที่ตั้งของสำนักงานตำรวจ ในเมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้แล้ว เขายอมเน่าตายอยู่ในคุกยังดีกว่าต้องจบชีวิตอย่างน่าอนาถอยู่ในเงื้อมมือของอสูรกายล่องหนตนนี้

ริคตันและลูกน้องคงเริ่มเสียใจกับทุกการตัดสินใจที่นำพามาให้พวกเขาต้องเผชิญกับสถานการณ์สุดสะพรึงเช่นนี้

"ออกมาเดี๋ยวนี้ ไอ้สัตว์ประหลาด! โผล่หัวออกมาซะ!" ดวงตาของริคตันแดงก่ำเต็มไปด้วยความกระหายเลือด เขายิงปืนสาดกระสุนอย่างไร้สติและตะคอกราวกับคนบ้า

เขาเคยคิดว่าการเผชิญหน้ากับ เดอะ พันนิชเชอร์ คงเป็นฝันร้ายที่สุดและน่าจะเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต แต่หลังจากหลบหนีออกมาจาก เฮลส์คิทเช่น ได้ เขาก็ต้องเผชิญกับฝันร้ายอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้ทั้งโหดร้ายและไร้สาระมากกว่า

"ถ้าเป็นเพียงแค่ฝันร้าย ทำไมฉันถึงยังไม่ตื่นอีกนะ? หรือทางรอดเดียวคือความตายเท่านั้น?" ริคตันหมดหวังและใกล้จะเสียสติเต็มที ประสบการณ์ชีวิตและทักษะการวิเคราะห์ของเขาใช้ไม่ได้ผลกับวิกฤตครั้งนี้

ริคตัน ในฐานะบอสใหญ่อยู่บนจุดที่ใกล้จะล่มสลายทางจิตใจหลังจากเห็นลูกน้องถูกสังหารทีละคนอย่างโหดเหี้ยมต่อหน้าต่อตา

บางสถานการณ์ ความตายก็อาจไม่ใช่สิ่งที่แย่ที่สุดที่จะเกิดขึ้นกับคนเรา ความหวาดกลัวจากอสูรกายที่คอยซุ่มอยู่ในความมืดมิด และไม่รู้ว่าเจ้านั่นจะโผล่มาพรากชีวิตไปเมื่อใดนั้น อาจเลวร้ายกว่า

"ฉันทนไม่ไหวแล้วโว้ยยย" หนึ่งในสมาชิกแก๊งค์บุทเชอร์เริ่มระเบิดอารมณ์และกำลังจะสติแตกเต็มที เขาโยนปืนทิ้งอย่างไม่ใยดีแล้ววิ่งสุดชีวิตหนีเข้าไปในตรอกเล็กๆ

"กลับมานี่ไอ้โง่! นี่มันแค่แผนของศัตรู!" ริคตันรู้ดีว่านี่คือกลอุบายเพื่อลดจำนวนพวกเขาลงทีละคนและทำให้จิตใจแตกสลาย แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้คำพูดเขาไม่มีค่าใดๆ อีกแล้ว เขาไม่สามารถปกป้องชีวิตตัวเองได้ด้วยซ้ำจะไปสนชีวิตคนอื่นทำไม

"อ๊ากกกก!" ชายคนนั้นที่วิ่งหนีเอาชีวิตรอดเมื่อครู่ถูกซัดกระเด็นกลับมาในพริบตา เลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว ร่างกายบอบช้ำ ดวงตาเบิกกว้าง หน้าอกยุบจนแหลกละเอียดราวกับถูกบรรทุกพุ่งชน

นี่คือพลังระดับใดกันถึงทำลายร่างของคนได้โหดร้ายถึงเพียงนี้!

ตอนนี้เหลือสมาชิกแก๊งค์บุทเชอร์อยู่เพียงราวสิบกว่าคน

ดิโอรุ้สึกโล่งใจหลังจัดการชายนิรนามที่วิ่งมาทางที่ตนซ่อนตัวอยู่เมื่อครู่ และด้วยจำนวนสมาชิกแก๊งค์ที่เหลืออยู่เพียงเท่านี้ เขาเริ่มมั่นใจว่าจะสามารถช่วยวิลล์ได้ เขาสังเกตเห็นว่าพลังคลื่นมนตราของตนเองถูกใช้ไปหลายพันหน่วยแล้ว โชคดีที่ [เดอะ เวิลด์] มีค่าความทนทานในระดับ A ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่อาจรักษารูปกายของสแตนด์นี้ไว้ได้นานขนาดนี้

"อย่าทำอะไรพวกเรา เราขอยอมแพ้แล้ว!"

ในขณะที่ดิโอตั้งมั่นว่าจะกำจัดคนเหล่านี้ทิ้งให้สิ้นซาก ริคตันและลูกน้องกลับทิ้งอาวุธและยกมือขึ้นยอมจำนนอย่างกะทันหัน

ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะขยับตัว บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด

ดิโอไม่เคยคิดถึงบทสรุปของเหตุการณ์แบบนี้ ปกติแล้วเขาจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องตนเอง รวมถึงการฆ่าศัตรูที่เผชิญหน้าด้วย แต่การยอมจำนนของศัตรูทำให้เขาตกอยู่ในที่นั่งลำบาก

เขาไม่อาจปล่อยให้พวกอันธพาลเหล่านี้ลอยนวลไปได้ เพราะพวกมันอาจคิดแผนแก้แค้นอยู่ในใจแม้จะไม่มีทางรู้ว่าดิโอเป็นใครก็ตาม ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าพวกมันหนีรอดไปได้ ก็มีความเป็นไปได้ที่จะกลับมาคุกคามชีวิตของวิลล์อีก

แต่จำเป็นด้วยหรือที่ต้องลงมือสังหารพวกมัน ทั้งๆ ที่พวกมันยอมจำนนแล้วเหรอ?

ดิโอเกิดลังเล ก่อนคืนนี้เขาเป็นเพียงชายหนุ่มที่ไม่เคยฆ่าใครมาก่อนในชีวิต ทว่าหลังจากฆ่าชายผิวขาวสองคนที่เขาเจอตอนต้นราวกับมีสวิตช์บางอย่างในตัวพลิกกลับ ความรู้สึกคลื่นไส้และความผิดบาปไม่ตามหลอกหลอนเขาอีก และเขาเริ่มไม่รู้สึกอะไรต่อการพรากชีวิตคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นหนึ่ง สอง สิบ หรือยี่สิบ...

เพราะพลังอันมหาศาลของ [เดอะ เวิลด์] นี่เองที่ทำให้เขาสามารถพรากชีวิตคนได้ง่ายดาย แม้จะไม่ตั้งใจก็ตาม

ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดกับตัวเขาสร้างความหวาดกลัวให้ดิโออย่างมาก ราวกับว่าชื่อ 'ดิโอ แบรนโด' ได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความเฉยชาต่อชีวิตผู้อื่น

ความเงียบเชียบนี้ทรมานริคตันและลูกน้องราวกับพวกเขากำลังรอคำตัดสิน ชะตากรรมระหว่างความเป็นและความตาย...แต่พวกเขาก็รู้สึกโล่งใจเล็กน้อยที่ศัตรูลึกลับยังไม่โจมตีในตอนนี้

แต่แล้วบทสรุปของชะตากรรมพวกเขาก็มาถึงในวินาทีต่อมา!

"ความเมตตาต่อศัตรูจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง และทำร้ายผู้บริสุทธิ์คนอื่นๆ ขอโทษด้วย แต่ฉันรับคำยอมแพ้ของพวกแกไม่ได้!"

ขณะที่ดิโอกำลังพูด [เดอะ เวิลด์] ก็ได้มุ่งหน้าไปหาพวกริคตันแล้ว และทันทีที่คำพูดสุดท้ายของดิโอหลุดออกจากปาก ร่างสีทองอร่ามก็เริ่มระดมหมัดใส่พวกนั้นอย่างรวดเร็ว!

"มันอยู่ตรงนั้น!"

หนึ่งในคนที่รอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์ค้นพบต้นตอของเสียงพูดของศัตรู เขาหยิบปืนที่ซุกไว้ในกระเป๋าออกมา แต่ทันทีที่เขากำลังเหนี่ยวไก [เดอะ เวิลด์] ก็บิดคอหักและซัดหัวของเขาลงกับพื้นอย่างรวดเร็ว

คิดจะหนี?

เปล่าประโยชน์!

อ้อนวอนขอชีวิต?

เปล่าประโยชน์!

สู้กลับ?

เปล่าประโยชน์!

แต่แปลกตรงที่...เมื่อเห็นลูกน้องของตนถูกสังหารโหดต่อหน้าต่อตาโดยอสูรกายล่องหน ริคตันกลับยิ้มออกมา และมันเป็นรอยยิ้มที่น่าสะพรึงกลัวอย่างบอกไม่ถูก

"แกต้องตายไปพร้อมกันกับฉัน ไอ้ปีศาจ!"

ระเบิดมือพร้อมสลักที่ถูกดึงออกไปแล้วกลิ้งไปตกอยู่ข้างหน้าริคตัน!

ปรากฏว่าในเสี้ยววินาทีที่ดิโอประกาศโทษประหาร พวกริคตันก็พร้อมที่จะตายไปพร้อมกัน จังหวะที่ [เดอะ เวิลด์] ชกเข้าใส่หน้าอก ระเบิดในมือของเขาก็กระเด็นตกลงพื้นส่องแสงสว่างจ้าไปทั่วบริเวณก่อนระเบิดตูมสนั่น!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด