ตอนที่ 295
ตอนที่ 295
ในวันนี้ตระกูลเต๋าเฉลิมฉลองร่วมกัน และมีสมาชิกเผ่าหนาแน่นเรียงรายอยู่สองข้างถนน
วันนี้ไม่ใช่แค่วันเกิดของเต๋าเทียนหยุนเท่านั้น แต่ยังเป็นพิธีบรรลุนิติภาวะของเขาด้วย
ตระกูลเต๋าเลือกบุตรแห่งสวรรค์ทุกปีเพื่อการแข่งขันชิงโชคชะตาที่กำลังจะมาถึง
แม้ว่าเต๋าเทียนหยุนจะยังไม่ได้ฝึกฝน แต่ในฐานะลูกชายของหัวหน้าเผ่าแล้ว ทุกการเคลื่อนไหวของเขาล้วนดึงดูดความสนใจของผู้คนมากมาย
-
เวทีสำหรับพิธีบรรลุนิติภาวะได้ถูกเตรียมไว้แล้ว และชาวเผ่าที่เฝ้าดูความตื่นเต้นทั้งสองด้านของถนนก็ส่งเสียงเชียร์
เต๋าเทียนหยุนค่อยๆ เดินขึ้นบันไดทีละขั้น ราวกับกำลังอาบอยู่ท่ามกลางสายลมฤดูใบไม้ผลิ
เขายืนอยู่ตรงกลางเวทีประลอง โดยมีตัวตนระดับสูงจากตระกูลเต๋ายืนอยู่ทั้งสองด้าน
บางคนส่งเสียงเชียร์เบื้องล่าง และกลีบของดอกไม้ก็ปลิวผ่านสายลมเต็มท้องฟ้า
นี่คือพิธีบรรลุนิติภาวะที่ยิ่งใหญ่
"ข้า.. " เต๋าเทียนหยุน เงยหน้าขึ้นอย่างช้าๆ ด้วยเหตุผลบางอย่าง ในวันพิธีนี้จิตใจของเขากลับกลายเป็นว่างเปล่า
ราวกับว่าความทรงจำถูกล้างออกไปด้วยบางสิ่ง และจิตสำนึกของเขาก็กลายเป็นพร่ามัว
“เทียนหยุน พูดเร็วเข้า” คนที่อยู่ข้างๆก็เร่งเร้า
ในขณะนี้ จู่ๆสายฟ้าก็สว่างวาบไปทั่วท้องฟ้า และเสียง "บูม" ก็ระเบิดในอากาศ
จากนั้นเส้นแสงสายฟ้าก็ฟาดลงมา
สีหน้าของเต๋าเทียนหยุนกลายเป็นหยุดนิ่ง และเขารู้สึกราวกับว่ามีสายฟ้าระเบิดอยู่ในความทรงจำของเขา
และความทรงจำมากมายที่ไม่ได้เป็นของเขาก็เริ่มปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ข้าเป็นบุตรแห่งสวรรค์ของเผ่าเต๋าไม่ใช่รึ?”
เขาคุกเข่าลงครึ่งหนึ่งบนพื้น คลุมศีรษะและคำราม ความผิดปกตินี้ก็ดึงดูดความสนใจของทุกคนทันที
ออร่าที่ทรงพลังเป็นอย่างมากก็ระเบิดออกมาจากร่างกายของเขา
หลังจากผ่านไปนาน เขาก็ยืนขึ้นอย่างช้าๆ
จู่ๆจิตวิญญาณของเขาก็ดูสูงส่งยิ่งขึ้น มีกลิ่นอายที่แปลกประหลาดอย่างมากปรากฏในดวงตาของเขา
เขายืนอยู่บนแท่นเวที และหลังจากพูดเพียงไม่กี่คำ เขาก็หมดสติและล้มลงไปกับพื้น
“ข้าผู้กลับชาติมาเกิด จะกลับมาเดินเป็นเส้นทางนิรันดร์อีกครั้ง !” เขาคำรามอยู่ในใจขณะที่สลบไป
-
เต๋าซุนออกจากเมืองหมื่นอาคมและมุ่งหน้าไปที่แดนตะวันตกไกล
บนทวีปตะวันออกไปทางตะวันตก ถนนที่สั้นที่สุดตามธรรมชาติคือเส้นทางผ่านภูเขาหมื่นลูก
เขานอนบนเสือฟ้ามืดและไม่ได้รีบร้อนเดินทางแต่อย่างใด
ขณะที่เดินทางบนถนนกว้าง เต๋าซุนก็พบกับคนเดินถนนมากขึ้นเรื่อยๆ
“เจ้าเคยได้ยินไหม? มีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นกับตระกูลหวง”
“หวงไหนอ่ะ?” มีคนถามอย่างสงสัย
“แน่นอนว่าต้องเป็นตระกูลหวงแห่งเมืองตะวันตกเฉียงเหนือน่ะรึ”
“โอ้ ตระกูลหวงที่สืบทอดมาจากเทพดาบคนหนึ่งน่ะรึ !” จู่ๆ คนข้างๆ ก็นึกออกและถามทันที
“เกิดอะไรขึ้นกับตระกูลหวงกัน?”
“ข้าได้ยินมาว่ามีเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ถูกตระกูลหวงทอดทิ้งเดินทางกลับมาล้างแค้นพวกเขาน่ะสิ
ตอนนี้พวกเรามีเรื่องสนุกๆให้ดูแล้ว ”
เต๋าซุนตกตะลึงเล็กน้อยเมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้สัญจรไปมารอบตัวคุยกัน
คนเหล่านี้ต่างก็รีบไปที่บ้านตระกูลหวงเพื่อชมความสนุกสนาน
หยานปู้หุ่ยเป็นลูกนอกสมรสของตระกูลหวง และเต๋าซุนก็ไม่แน่ใจว่าเด็กหนุ่มที่ถูกทอดทิ้งคนนั้นใช่หยานปู้หุ่ยหรือไม่
เขาก็เลยตัดสินใจไปยุ่ง… เอ้ย… ไปดู
-
เมืองตะวันตกเฉียงเหนือตั้งอยู่ภายในดินแดนที่ปกครองโดยตระกูลตัน
ผู้ก่อตั้งตระกูลของพวกเขา เทพดาบเทียนหวง ก็เป็นอัจฉริยะแห่งรุ่นเช่นกัน และชื่อเสียงของเขายังเลื่องลือจากการแข่งขันชิงโชคชะตาอีกด้วย
เพื่อที่จะได้เป็นสหายที่ดีกับเทพดาบเทียนหวง ตระกูลตันถึงกับแบ่งแยกเมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือออกจากเขตอำนาจของตนเพื่อมอบให้กับเทพดาบเทียนหวงเลยทีเดียว
ต่อมา เมืองตะวันตกเฉียงเหนือก็กลายเป็นทรัพย์สินส่วนตัวของตระกูลหวงไป
แม้ว่าเมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือจะอยู่ในดินแดนที่ควบคุมโดยตระกูลตัน แต่พวกเขาก็ไม่ได้อยู่ภายใต้อำนาจของตระกูลตันเลย
น่าเสียดายที่เทพดาบเทียนหวงนั้นไปไม่ถึงจุดสูดสุดตอนนั้น
สุดท้ายชายชื่อหยินเทียนก็ได้เอาชนะขวากหนามและขึ้นแบกรับชะตากรรมของยุคนั้นไป
ส่วนผลลัพธ์สุดท้ายของเทพดาบเทียนหวงนั้น…
บางคนบอกว่าเขาเสียชีวิตไปในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับจักรพรรดิหยินเทียนในตอนที่แย่งชิงโชคชะตาสวรรค์
บางคนบอกว่าเขาเข้าสู่เส้นทางอมตะ และในที่สุดก็เก็บตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งบนแดนตะวันตกไกลและตั้งใจฝึกฝนไปตลอดทั้งชีวิต
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร ก็ไม่สามารถเปลี่ยนความแข็งแกร่งที่ตระกูลหวงอันเป็นกองกำลังระดับหนึ่งมีได้
ในการทำลายตระกูลหวง มันเป็นไปไม่ได้เลยหากไม่มียอดฝีมือบนเส้นทางอมตะลงมือ
เต๋าซุน ขี่เสือฟ้ามืดและติดตามการหลั่งไหลของผู้คนมายังเมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือ
ระหว่างทาง เขาได้สอบถามและตระหนักว่าบุคคลที่ต้องการทำลายตระกูลหวงนั้นก็คือ หยานปู้หุ่ย
เมื่อไม่กี่วันก่อนหยานปู้หุ่ยได้ออกจดหมายท้าทายตระกูลหวง โดยบอกว่าเขาต้องการขอความยุติธรรมสำหรับการตายของแม่เขา และเรียกร้องความเป็นธรรมจากการปฏิบัติอันไม่ยุติธรรมที่เขาได้รับตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ครั้งสุดท้ายที่เต๋าซุนเห็นหยานปู้หุ่ยก็คือที่เมืองโบราณหุนหยวน
อีกฝ่ายเอาชนะชินเฟยหมิงได้ และติดตามชินเฟยหมิงไปที่ศาลานภากว้างเพื่อรับมรดกของ เทพดาบนิรันดร์
ในช่วงเวลาสั้น ๆ เช่นนี้ เต๋าซุนคิดไม่ถึงเลยว่าอีกฝ่ายมีพลังพอที่จะทำลายตระกูลหวงได้แล้ว
คำอธิบายเดียวที่สามารถอธิบายเหตุการณ์นี้ได้ก็คือ เขาได้รับความช่วยเหลือจากใครสักคน
-
เมืองใหญ่ตั้งอยู่ระหว่างสวรรค์และโลก
เมื่อมองจากทิศตะวันตกเฉียงเหนือเมื่อใดก็ตามที่พระอาทิตย์ตกดิน รัศมีของดวงอาทิตย์ตก ณ ขอบฟ้าก็จะอยู่ในระดับเดียวกับเมือง
เมื่อพระอาทิตย์ตกดินในเมือง ท้องฟ้าครึ่งหนึ่งก็สวยงามอย่างที่ไม่เคยเป็น
ตระกูลหวงดำเนินกิจการในเมืองตะวันตกเฉียงเหนือมาเป็นเวลาหลายพันปีและหยั่งรากลึกมายาวนาน
พวกเขากลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่เหมือนเจ้าเหนือหัวของเมืองโดยปริยาย
เมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือนั้นกว้างใหญ่มาก และไม่ได้มีแค่ผู้คนของตระกูลหวงเท่านั้นที่อาศัยอยู่ที่นี่
เมื่อเต๋าซุนมาที่นี่ ก็เย็นมากแล้ว
เมืองนี้สว่างไสวและดูเหมือนจะมีชีวิตชีวามากเนื่องจากการมาถึงของคนภายนอกจำนวนมาก
เต๋าซุนหาโรงแรมแห่งหนึ่งและรอการมาถึงของหยานปู้หุ่ยอย่างเงียบ ๆ
ในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา หนึ่งร้อยปีหลังจากนี้ หยานปู้หุ่ยจึงจะค่อยมาที่ตระกูลหวงเพื่อแก้แค้น
แต่ชีวิตนี้ ทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นในความทรงจำของเต๋าซุนนั้นเปลี่ยนแปลงไปในระดับหนึ่ง
แต่เขาก็ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องของหยานปู้หุ่ยมากนัก
แม้ว่าศาลานภากว้างจะทรงพลัง แต่พวกเขาก็ไม่สามารถใช้อำนาจของตัวเองทำลายตระกูลหวงได้ อย่างมากก็คงได้แค่ตอบสนองความอาฆาตพยาบาทส่วนตัวเล็กๆน้อยๆของหยานปู้หุ่ยเท่านั้น
ที่สำคัญกว่านั้นหยานปู้หุ่ยเองก็ยังไม่เคยไปทวีปกลางสักครั้ง
ศาลานภากว้างที่อยู่ที่นี่เป็นเพียงสาขาหนึ่งซึ่งอยู่ในทวีปตะวันออกเท่านั้น
ดังนั้นความแข็งแกร่งของพวกเขาย่อมไม่เพียงพอที่จะทำลายตระกูลหวงแน่นอน และอีกเหตุผลสำคัญที่พวกเขาไม่สามารถทำได้ก็คือ
เทพดาบเทียนหวงนั้นยังมีชีวิตอยู่…
ในชีวิตก่อนของเขา เต๋าซุนได้เห็นเทพดาบเทียนหวงจากระยะไกลมาแล้วครั้งหนึ่ง
ด้วยการมีอยู่ของเทพดาบเทียนหวง ตระกูลหวงนั้นอาจเทียบได้กับนิกายระดับจักรพรรดิบางแห่งเลยทีเดียว
เพียงแต่ว่าคนในตระกูลหวงนั้นไม่ได้รับรู้ถึงการมีอยู่ของบรรพบุรุษคนนี้แม้แต่น้อย
-
หนึ่งคืนก็ผ่านพ้นไป เมืองที่ยังคงหลับใหลในสภาพที่มืดครึ้ม จู่ๆ ก็เกิดเสียงฟ้าร้องดังขึ้น
เสียง “เปรี้ยง” ทำให้ทุกคนในเมืองตกใจ
หลายคนวิ่งออกจากห้องและมองออกไปนอกเมือง
และพวกเขาก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งลอยอยู่ในอากาศ เสื้อผ้าสีขาวและพวกเขากระพือปีกมาจากระยะไกลอย่างรวดเร็ว
ผู้นำไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก หยานปู้หุ่ย
หลังจากไม่ได้เจอมานานแล้ว ตอนนี้หยานปู้หุ่ยดูโตขึ้นเป็นอย่างมาก
ออร่ารอบตัวเขาถูกควบแน่น และพลังระดับ 5 สะท้อนออกมา
เจตจำนงแห่งดาบอันเป็นเอกลักษณ์กระจายออกมาทั่วความว่างเปล่า และเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเฉียบคมของมัน
“คนจากตระกูลหวงอยู่ที่ไหน?” เสียงตะโกนดังดังขึ้นบนท้องฟ้า
คนที่อยู่ด้านหลังหยานปู้หุ่ยก็ตะโกนด้วยพลังอันยิ่งใหญ่
ที่ใจกลางเมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือ อันเป็นที่ตั้งของตระกูลหวง
ในขณะนี้ ท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยพลังจิตวิญญาณ หัวหน้าตระกูลหวง หวงกู่หยวนก็พาผู้อาวุโสหลายคนขึ้นมาบนท้องฟ้า
และลอยตรงข้ามกับหยานปู้หุ่ย
“ท่านพ่อที่รัก ท่านเคยคิดไหมว่าจะมีวันเช่นนี้เกิดขึ้น?” หยานปู้หุ่ยถามด้วยน้ำเสียงไม่แยแสขณะที่เขาเหลือบมอง