ตอนที่แล้วตอนที่ 284
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 286

ตอนที่ 285


ตอนที่ 285

เขาไม่เข้าใจว่าทำไม เต๋าซุน ถึงยังสงบได้ในเวลานี้

เมื่อมองดูท่าทางสงบของเต๋าซุน นักบุญฟู่เทียน ก็รู้สึกไม่ดีในใจ

 เมื่อเห็นมือใหญ่ที่ปกคลุมท้องฟ้าในภาพวาดคว้าลงมาอีกครั้ง มือใหญ่ก็ตกลงลงมาพร้อมกับแสงอันไม่มีที่สิ้นสุด

แต่ทันที พวกเขาก็เห็นหมอกสีดำที่แต่เดิมปกคลุมทุกสิ่งรอบตัวพลันพุ่งสูงขึ้น

ความปั่นป่วนของหมอกดำรวมตัวกันจนกลายเป็นใบหน้าที่ดุร้ายและชั่วร้าย

ใบหน้าที่ดุร้ายเปิดปากที่เปื้อนเลือดและกลืนมือใหญ่เข้าไป

  "บูม"!

ท้องฟ้าเปิดออกจนกลายเป็นหลุมดำ และแสงอันไม่มีที่สิ้นสุดกับพลังปีศาจสีดำก็ถูกทำลายล้างไปพร้อมๆ กัน

 ในขณะนี้ มือใหญ่และใบหน้าที่ดุร้ายก็หายไปพร้อมๆ กัน

 “นี่เป็นไปได้ยังไง” นักบุญฟู่เทียน ที่อยู่ข้างๆ  พูดกับตัวเองด้วยความประหลาดใจ

เสียงระเบิดบนท้องฟ้ายังคงดังก้องอยู่

พลังปีศาจที่ห่อหุ้มพวกเขาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนเกือบทำให้ท้องฟ้าทั้งหมดกลายเป็นสีดำสนิท

 เมฆปีศาจพุ่งออกมาจากพลังปีศาจ ซึ่งเต็มไปด้วยพลังทำลายล้าง

ในระหว่างที่ปกคลุมไปทั่วอากาศ ส่วนใบหน้าของเมฆสีดำก็ปรากฏเปลวไฟลุกโชนขึ้น

เมฆปีศาจเป็นเหมือนลูกบอลไฟที่มีพลังปีศาจหยั่งลึกและไร้ขอบเขตลอยอยู่รอบๆ  จากนั้นมันก็พุ่งเข้าหาภาพวาดที่ลอยอยู่ในอากาศด้วยความเร็วสูง

 มือใหญ่ในภาพวาดพยายามหยุดไว้ แต่ก็ไม่เกิดผล

เมฆปีศาจทำลายมือใหญ่และตกลงบนภาพวาดโดยตรง

 ในขณะนี้ พลังปีศาจในท้องฟ้าก็ยิ่งรุนแรงยิ่งขึ้น

ภาพวาดนั้นขัดขืนอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ถูกเมฆปีศาจกลืนหายไปและสลายไปทันที

จากนั้นมิติปั่นป่วนในความว่างเปล่าก็ลุกลามไปทั่วอากาศ มันก็กลายเป็นก้อนเขม่าและกระจัดกระจายอยู่ทั่วท้องฟ้า

-

นักบุญฟู่เทียน จ้องไปที่ภาพวาดที่ถูกทำลายหายไปด้วยสีหน้าว่างเปล่า และร่างกายของเขาก็แข็งชา

 ในขณะที่ภาพวาดหายไป ร่างกำยำของไป่เหมินก็ค่อยๆ ปรากฏออกมา

 พลังปีศาจเพิ่มสูงขึ้น และเขาก็ลืมตาขึ้นราวกับว่าเขาเป็นปีศาจที่มาจากบุคโบราณ

 ออร่าบนร่างกายของเขาดูยิ่งใหญ่อย่างน่าประหลาดใจ

“นี่มัน... จักรพรรดิรึ?” เมื่อรู้สึกถึงรัศมีอันยิ่งใหญ่รอบๆไป่เหมิน การแสดงออกของนักบุญฟู่เทียนก็เปลี่ยนไปอย่างมาก และเขาพูดด้วยความหวาดกลัว

“ไม่  เป็นไปไม่ได้ โชคชะตายังไม่ได้ถูกกำหนด ดังนั้นจักรพรรดิจะปรากฏขึ้นในยุคสมัยนี้ได้ยังไง?”

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ บรรพบุรุษฟู่เทียนก็ส่ายหัวอย่างรวดเร็ว เขามองไปเหมินแล้วพูดว่า "เจ้าเป็นใคร"

“คนตายไม่จำเป็นต้องรู้มาก” เสียงของไป่เหมินสั่นไปทั่วท้องฟ้า และเขาก็กดฝ่ามือลงมา

 สัมผัสแห่งเต๋าที่ไม่มีที่สิ้นสุดปรากฏอยู่ในนั้น และพลังแห่งเต๋าก็สะท้อนออกมาและดังก้องไปทั่วทั้งท้องฟ้า

ในมือใหญ่นั้น มีท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยพลังปีศาจพลุ่งพล่าน

 เพียงแค่เสียง "บูม" ดังขึ้น

 ร่างของนักบุญฟู่เทียนก็บินไปข้างหลังโดยตรง

 จุดที่เขายืนอยู่มีรอยแตกมิติหลายจุดเปิดออก  และพื้นที่ทั้งหมดก็พังทลายลง

 มือใหญ่ยังคงคว้าลงมา   และอาคมป้องกันที่อยู่รอบนิกายจื่อเทียนก็ถูกฉีกออกจากกันโดยตรง

ยอดเขาสูงตระหง่านพังทลายลงจนเหลือเพียงซากปรักหักพัง

ลูกศิษย์หลายร้อยคนถูกฝังตรงจุดที่ภูเขาถล่มเพราะหนีไม่พ้น

-

“ข้าจะหยุดเขาเอง เจ้าพาศิษย์ทั้งหมดหนีไปซะ” นักบุญฟู่เทียนตะโกนใส่บรรพบุรุษจูต้าว

“ข้าเกรงว่าเราคงไม่มีโอกาสจะทำเช่นนั้นแล้ว”บรรพบุรุษจูต้าวถอนหายใจ

ยอดฝีมือมตะทั้งห้าที่ถูกโจมตีก่อนหน้านี้ก็กลับมาอีกครั้ง และปิดล้อมรอบนิกายจื่อเทียนไว้ด้วยพลังอมตะอันยิ่งใหญ่

  แทบจะไม่มีทางเลยที่นิกายจื่อเทียนของพวกเขาจะหนีรอดไปได้

 ด้วยการมีอยู่ของตัวตนอมตะทั้งห้า การที่พวกเขาจะทะลุผ่านและหนีไปได้นั้นยากเสียยิ่งกว่าไต่ท้องฟ้าเสียอีก

“สวรรค์นั้นได้กำหนดให้นิกายจื่อเทียนของข้าล่มสลายจริงๆรึ ?” นักบุญฟู่เทียนมองขึ้นไปบนท้องฟ้าและพูดด้วยเสียงเศร้า

 เขาหันกลับมาและมองย้อนกลับไป

เขาเป็นหนึ่งในคนกลุ่มแรกที่ออกจากเผ่าสวรรค์ และยังเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งที่ร่วมมือก่อตั้งนิกายจื่อเทียนขึ้นมาด้วยตัวเอง

 ในนิกายจื่อเทียนปัจจุบัน นิกายจื่อเทียนแทบจะกลายเป็นทุกสิ่งสำหรับเขา

 เมื่อเทียบกับความรู้สึกของเขาที่มีต่อนิกายนี้แล้ว

เขาก็รักมันไม่ต่างอะไรจากลูกตัวเองเลย

 ครั้งหนึ่งเขาเคยเห็นเด็กคนนี้เติบโตขึ้นทีละก้าวจนกระทั่งเติบใหญ่จนน่าตกใจ

แต่ตอนนี้………….

นักบุญฟู่เทียนก็หันศีรษะและมองไปที่เต๋าซุน และพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม: "ไม่มีโอกาสสำหรับการพูดคุยอีกแล้วใช่หรือไม่  "

 “นี่เป็นเรื่องของผลจากการกระทำที่พวกเจ้าทำไว้ และผู้ที่ถูกเจ้ากระทำก็จ้างวานข้ามา ” เต๋าซุน ส่ายหัวและตอบ

“ถ้ายังมีเงื่อนไขใดอื่น  โปรดอย่าลังเลที่จะบอกพวกเรา พวกเรานิกายจื่อเทียนจะทำทุกวิถีทางเพื่อทำมันให้สำเร็จ” นักบุญฟู่เทียนกล่าวอย่างรวดเร็ว

“ข้าไม่ได้ต้องการอะไร ข้าแค่อยากทำลายนิกายของพวกเจ้าให้สิ้นและเปลี่ยนสถานที่แห่งนี้เป็นทะเลเลือดเท่านั้น นี่เจ้ายังไม่เข้าใจจริงๆรึ  ?”

“ไม่ใช่ว่านี่เองก็เป็นสิ่งเดียวกับที่พวกเจ้าทำกับเผ่าสวรรค์ในตอนนั้นรึไง” เต๋าซุนถามด้วยคำพูดชั้นเชิง

นักบุญฟู่เทียนพูดไม่ออกไปครู่หนึ่งและถอนหายใจด้วยความละอายใจ

เต๋าซุนส่ายหัวเล็กน้อยแล้วหันกลับมาพยักหน้า

 ในขณะนี้ ไป่เหมินและห้าตัวตนอมตะก็เริ่มลงมือ

นักบุญฟู่เทียนต้องการหยุดเขาไว้  แต่ไป่เหมินนั้นทรงพลังเกินไป

บรรพบุรุษจูต้าวที่อยู่ข้างๆก็ถูกปิดล้อมโดยผู้อมตะห้าคน และร่างของเขาก็กำลังเริ่มค่อยๆแตกสลายไป

โกลาหล และ หมิงเหอพุ่งเข้าไปในนิกายจื่อเทียนพร้อมกัน และทุกสิ่งมีชีวิตในนิกายก็กลายเป็นเหมือนกับลูกแกะที่รอถูกฆ่าทันที

-

“เจ้าปีศาจ !” จูหวู่หมิงผู้นำคนปัจจุบันของนิกายจื่อเทียนก็มองดูการสูญสิ้นตรงหน้าด้วยความโศกเศร้า

ดวงตาของเขาแดงก่ำและเขาก็คำรามใส่เต๋าซุน

“เจ้าไม่มีทางได้ตายดีแน่  ตายไปซะ หลังจากเจ้าตายเจ้าจะต้องตกนรกขุมที่สิบแปด”

“ไร้สาระ ถ้าเรื่องเช่นนั้นมีจริง ข้าเองก็จะทำลายนรกที่เจ้าว่าทิ้งเช่นกัน  ”

เต๋าซุนยิ้มอย่างเฉยเมยและตอบว่า: "ว่าแต่เจ้าพูดถึงข้าเช่นนั้น

 แล้วตอนที่เจ้ากวาดล้างเผ่าสวรรค์ก่อนหน้านี้เล่า  เจ้าเคยคิดไหมว่าวันเช่นนี้จะมาถึงเจ้าบ้าง?

ถ้านรกสิบแปดขุมมีจริง ข้าว่าเจ้าเองนั่นแหละที่จะไปอยู่ที่นั่นหลังจากตายไปแล้ว"

เมื่อได้ยินคำพูดของเต๋าซุน จูหวู่หมิงก็คำรามอย่างไม่เต็มใจ

แต่ท้ายที่สุด เขาก็เป็นเพียงนักรบระดับ 7 เท่านั้น  ไม่ใช่คู่มือของโกลากลแม้แต่น้อย

 เมื่อมองไปที่ซากปรักหักพังของนิกาย

เสียงคร่ำครวญของเหล่าศิษย์ดังไปทั่วภูเขาและที่ราบ พร้อมกับภาพของซากศพที่กองเป็นภูเขา

มรดกที่จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองสร้างขึ้นตั้งแต่ยุคก่อนได้ดับสิ้นลงด้วยมือของพวกเขาเอง

จูหวู่หมิงไม่รู้เลยว่าการทำลายเผ่าสวรรค์นั้นผิดร้ายแรงเพียงใด

 ตอนนั้นเขาคิดว่าพวกเขาเป็นกลุ่มหมาป่าที่ล่ากระต่ายตามวัฏจักรชีวิตเท่านั้น

กลุ่มหมาป่าต้องการจะชิงสมบัติของกระต่ายแล้วมันจะผิดอะไร ….

 แต่ตอนนี้ เมื่อถูกเสือบุกเข้ามาเยือนที่กลุ่ม หมาป่าอย่างพวกเขาก็พบแล้วว่าตนเองนั้นอ่อนแออย่างน่าสมเพชเช่นกัน

-

ไป่เหมินกำหราบนักบุญฟู่เทียนอย่างไม่ออมมือ

เสียงของเส้นทางแห่งเต๋าดังก้องไปทั่วโลก และกลิ่นอายปีศาจก็กลายเป็นใบหน้าที่ดุร้ายและสิ้นหวัง เจาะเข้าไปในร่างของนักบุญฟู่เทียนโดยตรง

 เมื่อใบหน้าปีศาจทะลุเข้าไปในร่างของนักบุญฟู่เทียน เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ในร่างของเขาก็แทบจะดับลงอย่างสมบูรณ์

บรรพบุรุษฟู่เทียนก็ค่อยๆหันศีรษะของเขาไปและมองดูนิกายที่เขารักมากที่สุดกำลังล่มสลาย

นิกายในปัจจุบันได้ถูกทำลายลงจนเหลือเพียงซากปรักหักพัง

มุมปากของเขากระตุก เผยให้เห็นรอยยิ้มอันน่าเศร้า จากนั้นดวงตาของเขาก็ปิดลงช้าๆ

 เปลวไฟศักดิ์ศิทธิ์ที่สั่นคลอนในร่างกายของเขาขยับเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต จากนั้นมันก็ได้มอดดับลงสูญหายไปอย่างสิ้นเชิง

 บางทีโลกอาจไม่มีวันได้รู้อีกแล้ว

ว่าเหตุใดครานั้นเขาถึงได้ปล่อยวางและผลักดันให้จักรพรรดิจื่อเทียนขึ้นเป็นจักรพรรดิแทนตนเอง

จะไม่มีวัน…

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด