ตอนที่ 169: ตามใจบุตรสาว!
แม้ว่าหม้อศักดิ์สิทธิ์เสิ่นหนง จะเป็นสมบัติของตระกูลเหวิน
แต่ในเวลานี้ทุกคนก็รู้สึกว่าหลินซวน เหมาะจะเป็นเจ้าของที่แท้จริง
“ตี้ฟู่ได้มอบชีวิตให้เด็กหญิงตัวน้อยผู้นี้ จากนี้ไม่เพียงแค่ชีวิตของเด็กหญิงตัวน้อย ทว่าทั้งตระกูลเหวินล้วนแต่เป็นของตี้ฟู่แล้ว!”
“หากตี้ฟู่มีประสงค์ใด จากนี้เป็นต้นไป เด็กหญิงตัวน้อยและตระกูลเหวิน ยินดีที่จะบุกน้ำลุยไฟเพื่อพระองค์!”
แม้นว่าเหวินจุนเหยาจะเป็นคนเอ่ย.
เหล่าอาวุโสตระกูลเหวินและคนอื่น ๆ ต่างก็พยักหน้าลับ ๆ.
เมื่อตี้ฟู่ยอมรับเตาศักดิ์สิทธิ์เสิ่นหนง ตระกูลเหวินก็มีความสัมพันธ์กับอีกฝ่ายในทันที.
แม้นว่าตี้ฟู่จะมาจากแดนเป่ยเสวียนเทียนก็ตาม.
แต่ใครจะกล้าท้าทายความแข็งแกร่งและพลังของเขากัน?
ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ด้วยต้นไม้สูงตระหง่านที่ยืนอยู่ข้างหลัง ตระกูลเหวิน พวกเขาย่อมมีอนาคตที่สดใสในอู๋เหลียงเทียน!
"ใช่." หลังจากที่หลินซวนพยักหน้าเล็กน้อย เขาก็เดินออกไปที่ประตูบ้านของเหวินพร้อมกับบุตรสาวของเขา
“น้อมส่งตี้ฟู่!”
เหวินจุนเหยาและคนอื่น ๆ ดูตื่นตะลึง! มองดูร่างสีขาวกำลังเหินลอยออกไป
เห็นเพียงแค่แผ่นหลังของหลินซวนที่ห่างไกลออกไปเรื่อย ๆ.
แม้ว่าจะอยู่ไกลออกไปยังเต็มไปด้วยความสง่างาม.
ไม่นานหลังจากที่หลินซวนออกจากตระกูลเหวินก็เห็นราชองค์รักษ์นำขบวนที่ทรงเกียรติเคลื่อนเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว.
พวกเขาที่ตั้งแถวเกียรติยศเป็นสองแถว.
มีราชรถสองคันอยู่ข้างหน้า ซึ่งเป็นราชรถที่ได้รับการประดับตำแหน่งอย่างสง่างาม ดูสมพระเกียรติเป็นอย่างมาก.
ผู้นำที่รีบเข้ามาหาหลินซวนอย่างรวดเร็ว.
เป็นบุรุษวัยกลางคนสวมเสื้อคลุมมังกรเดินออกมาจากราชรถคันแรกก้าวเข้ามาหาหลินซวนอย่างรวดเร็ว.
เมิ่งฉางเซิ่งที่เอ่ยทักทายหลินซวน “กษัตริย์อาณาจักรชางเฟิง เมิ่งฉางเซิ่ง ถวายพระพรจักรพรรดิเป่ยเสวียนเทียน!”
หลินซวน ไม่ได้คาดหวังว่ากษัตริย์ชางเฟิงจะมาหาเขาโดยตรง.
หลังจากคิดถึงเรื่องนี้ ตระกูลเหวินอยู่ในเมืองหลวงของอาณาจักรชางเฟิง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากพระราชวัง ด้วยเหตุนี้จึงดึงดูดความสนใจของเมิ่งฉางเซิ่งเป็นธรรมดา.
จากนั้นเขาก็เอ่ยออกมาว่า "มีอะไรเกิดขึ้นกับเจ้ารึ?"
เมิ่งฉางเซิ่งกล่าวด้วยความเคารพ“เรียนตี้ฟู่ ข้าได้รับข่าวว่าพระองค์มาเยือนบ้านตระกูลเหวิน ข้าจึงมาทักทาย!”
“บังเอิญว่าวันนี้เป็นงานรวมตัวของราชวงศ์ จึงต้องการเชิญพระองค์เข้าร่วมงานด้วย!”
“หลังจากงานเลี้ยงแล้ว ยังมีเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ในเมืองหลวงให้เพลิดเพลินด้วย!”
เป็นไปได้ว่าอีกฝ่ายต้องการกระชับความสัมพันธ์
หลินซวนส่ายหน้าอย่างลับ ๆ เตรียมที่จะปฏิเสธ
ในเวลาเดียวกัน เสวียนจู่ และเด็กหญิงตัวน้อยทั้งสี่ ก็แสดงความสนใจออกมา
“ว้าว มีงานเทศกาลด้วย จำได้ว่าเสด็จแม่พาพวกเราไปเมื่อก่อน สนุกมาก!”
“ใช่ ใช่! มันต้องมีชีวิตชีวาแน่ ๆ!”
“ข้าอยากจะไปสนุกอีกครั้งจริง ๆ!”
เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ใจกว้างมากและชอบงานที่มีชีวิตชีวาเช่นนี้โดยธรรมชาติ
พวกนางรู้สึกว่าเสด็จพ่อพาพวกนางมาเล่น ดังนั้นพวกนางจึงต้องการเข้าร่วมด้วย.
เมื่อเห็นว่าบุตรสาวสนใจมาก หลินซวนก็ไม่มีทางเลือกนอกจากเอ่ยว่า: "ถ้าอย่างนั้นเสด็จพ่อจะพาเจ้าไปที่นั่น!"
"เยี่ยมเลย!" สาวน้อยปรบมืออย่างมีความสุขทันที
เมิ่งฉางเซิ่งที่ผายมือเชิญทันที“เชิญตี้ฟู่!”
เขาเห็นหลินซวนดูลังเลในครั้งแรก ซึ่งเขาก็ไม่อาจทำอะไรได้เช่นกัน หากถูกปฏิเสธ
แต่แล้วเขาก็ค้นพบว่าหลินซวนเปลี่ยนใจเพราะบุตรสาวของเขา
ทำให้เขาแอบชื่นชม...
จักรพรรดิเป่ยเสวียนเทียนเป็นปีศาจที่รักบุตรสาวของเขาจริง ๆ!
หลังจากนั้น หลินซวน ก็เข้ามานั่งอยู่ในราชรถที่หรูหราและมุ่งหน้าไปยังพระราชวังอาณาจักรชางเฟิง.
-
จิวติงเทียน.
วันนี้เป็นวันที่ยิ่งใหญ่สำหรับภูเขาลั่วหยาง ซึ่งเป็นนิกายต่าง ๆ ในดินแดนทางเหนือ จัดงานชุมนุมหารือเกี่ยวกับเต๋ายุทธ
พระอาทิตย์ยามเช้าเพิ่งทอแสงส่องสู่พื้นโลก
ปรมาจารย์ยุทธสองแสนคนจากดินแดนทางเหนือมารวมตัวกันบนยอดเขาแห่งนี้
เหล่าคนที่โดดเด่นน่าจับตาที่สุด.
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นชายหนุ่มนิกายเต๋าอี้ที่ยืนอยู่บนเวทีการต่อสู้ท่ามกลางฝูงชน.
เขาอายุสิบเจ็ดหรือสิบแปดปี มีคิ้วเฉียบคมราวกับใบกระบี่และดวงตาสดใสเป็นประกายราวกับดวงดารา มีรูปร่างหน้าตาหล่อเหลา และมีท่าทางที่ไม่ธรรมดา
คนที่คุ้นเคยกับเขาย่อมรู้ว่าเขาคือฉินซวน และเขาเป็นศิษย์ของนิกายเล็ก ๆ ที่เรียกว่านิกายอี้เต๋า
เมื่อเอ่ยถึงนิกายนี้ กล่าวได้ว่าเคยเป็นนิกายที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก เมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน.
เมื่อยุครุ่งเรือง ผู้นำนิกายคือยอดอัจฉริยะไม่มีใครเทียบได้ ที่มีขอบเขตเหนือจักรพรรดิ
อย่างไรก็ตามเหล่าผู้สืบทอดกับไม่อาจแบกรับภารกิจรักษาความรุ่งเรืองเอาไว้ได้ ทำให้นิกายค่อย ๆ เสื่อมถอยลงเรื่อย ๆ.
จวบจนถึงวันนี้ ทั้งนิกายมีสมาชิกไม่ถึง 30 คน.
เมื่อเปรียบเทียบกับนิกายอื่น ๆ ที่มีผู้คนหลายแสนคน เทียบได้กับน้ำหยดเดียวในทะเลเท่านั้น.
เหตุผลที่ฉินซวนยืนอยู่บนเวทีต่อสู้ เพราะเขาต้องการท้าทายผู้นำกองกำลังที่ทรงพลังทางเหนือสามแห่ง.
เสวี๋ยชุนไห่ ผู้นำนิกายจินหยาง เป็นยอดฝีมือจ้าววิญญาณขั้นกลาง และนิกายนี้ก็มีศิษย์ถึง 80,000 คน
ผู้นำหมู่บ้านเทียนเซี่ยง เหม่ยเฉิงหมิง ฐานบ่มเพาะจ้าววิญญาณขั้นกลาง และมีศิษย์ 110,000 คน
สำหรับนิกายกระบี่เสวียนเจี้ยน ผู้นิกายฉู่เฟิง มีข่าวลือว่ามีขอบเขตกึ่งจักรพรรดิ และความสำเร็จขอบเขตกระบี่ของเขานั้นได้มาถึงดินแดนที่สามแล้ว!
เมื่อเปรียบเทียบกับพวกเขาแล้ว ฉินซวนซึ่งมาจากนิกายเล็ก ๆ ดูสุดโต่ง อ่อนแอและกระจิริดมาก
บางคนถึงกับคิดว่าการท้าทายของฉินซวน นั้นเป็นการฆ่าตัวตาย เอาไข่ไปกะเทาะหิน!
มีเพียงฉินซวนเท่านั้นที่รู้ว่าสามคนนี้เป็นไก่อ่อนแอสามตัวในสายตาของเขาเท่านั้น!
เพราะตัวตนที่แท้จริงของเขาคือบรรพบุรุษของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ชิงหวู่ บรรพบุรุษชิงหวู่!
“เด็กคนนี้ชื่อฉินซวนเกิดมาพร้อมกับรากฐานทางจิตวิญญาณห้าประการ และมีกายาศักดิ์สิทธิ์ของราชาสงครามที่หายาก นับว่าเขาเป็นอัจฉริยะที่หายากจริง ๆ!”
“บรรพบุรุษผู้นี้เพียงต้องการที่จะยึดร่างกายของเขา เพื่อฟื้นฟูความแข็งแกร่งของข้ากลับไปสู่จุดสูงสุดอย่างเงียบ ๆ เป็นเรื่องน่าเสียดายที่สามนิกายนี้ไม่เพียงแบ่งแยกดินแดนศักดิ์สิทธิ์ชิงหวู่ของของข้าเท่านั้น แต่ยังรังแกนิกายอื่น ๆ อีกด้วย”
“บรรพบุรุษผู้นี้ คงทำได้แค่ทำลายขยะทั้งสามนี้ก่อน เพื่อคืนความสงบให้กับดินแดนทางเหนือ!”
บรรพบุรุษชิงหวู่หรี่ตาลง
หลังจากใช้ "ศิลปะจั๊กจั่นทองคำ" เพื่อหลบหนีออกมาจากพันธนาการของกรงกาลอวกาศ เขาได้พบกับฉินซวน เด็กชายอัจฉริยะที่หายากในโลกนี้
หลังจากฉวยโอกาสจากความประมาทของอีกฝ่าย บรรพบุรุษชิงหวู่ก็เข้ายึดร่างของฉินซวน.
เขาที่ซ่อนอยู่ในนิกายอี้เต๋า ลอบฟื้นฟูความแข็งแกร่ง.
โดยไม่คาดคิด เขาได้รับข่าวว่านิกายจินหยาง หมู่บ้านเทียนเซี่ยงและนิกายเสวียนเจี้ยน ได้ยึดครองกองกำลังที่ยังคงเหลือของแดนศักดิ์สิทธิ์ชิงหวู่ไป.
ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากกองกำลังหลักทั้งสามนี้อยู่ใกล้นิกายอี้เต๋า นิกายที่ซ่อนของเขาก็ถูกกดขี่อย่างบ้าคลั่ง.
ด้วยเหตุนี้ บรรพบุรุษชิงหวู่จึงไม่สามารถนั่งนิ่งอยู่ได้
จึงคิดจะใช้ประโยชน์จากการชุมนุมเต๋ายุทธครั้งนี้ จัดการกับผู้นำกองกำลังทั้งสามนี้ซะ
อย่างไรก็ตาม ตัวตนของฉินซวนนั้นปกปิดตัวเองได้อย่างสมบูรณ์แบบ.
แม้นว่าเขาจะสร้างชื่อเสียงกระฉ่อนโลก แต่ก็ไม่มีความกังวลที่จะกระตุ้นหลินซวน ทำให้อีกฝ่ายระมัดระวังและมาจัดการเขาไปก่อนที่เขาจะได้ล้างแค้น.
“พวกเจ้าสามคนเข้ามาพร้อมกันเลย!”
บรรพบุรุษชิงหวู่จ้องมองเจ้านิกายทั้งสาม พร้อมกับเผยท่าทางดูแคลน.
ในความเห็นของผู้ฝึกยุทธมากกว่า 200,000 คนในดินแดนทางเหนือ
เป็นเรื่องที่บ้าคลั่งมากที่ชายหนุ่มไร้ชื่อเสียง กล้าท้าทายเจ้านิกายทั้งสามพร้อม ๆ กัน.
ในเวลานี้.
ไม่เพียงแค่เสวี๋ยฉินไห่และคนอื่น ๆเท่านั้น แต่ยังมีผู้คนมากมายที่อยู่รอบ ๆ ต่างก็เผยท่าทางดูแคลนเยาะเย้ยบรรพบุรุษชิงหวู่.
จนกระทั่งเสวี๋ยซิงไห่และพวกทั้งสามคน ทนความเย่อหยิ่งของเขาไม่ไหว ในที่สุดก็ก้าวขึ้นไปบนเวทีประลอง.
“ไอ้สามสารเลว บรรพบุรุษผู้นี้ จะส่งพวกเจ้าไปสู่ที่ชอบ ๆ เดี๋ยวนี้!”
จากนั้นบรรพบุรุษชิงหวู่ก็ควบแน่นปราณกระบี่
ภายใต้ความสนใจของสาธารณชน เขาได้ตัดศีรษะของทั้งสามผู้นำนิกายด้วยกระบี่เล่มเดียวทันที!
เมื่อเห็นภาพฉากที่เกิดขึ้น ผู้ฝึกยุทธทุกคนก็ตื่นตะลึง! และแม้แต่สั่นสะท้านต่อหน้าพลังที่ครอบงำของบรรพบุรุษชิงหวู่
นับจากนี้ไป ตำนานเขาก็เริ่มแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วในจิ่วติงเทียน
นั่นคือฉินซวน อัจฉริยะหนุ่มจากนิกายที่ตกต่ำ.
หลังจากเงียบงันเป็นเวลา 18 ปี กระบี่หนึ่งเล่มก็สั่นสะเทือนสามพันนิกายในดินแดนทางเหนือของจิ่วติงเทียน
เพียงไม่นานหลังจากนั้น.
ตำนานดังกล่าวนี้ก็เข้าสู่หูคนระดับสูงของจิ่วติงเทียน.
รัฐมนตรีหยินจื่อไห่ รีบเดินเข้าไปในห้องโถงของพระราชวังและรีบแจ้งข่าวจักรพรรดิจิ่วติงเทียน ซือหม่าหวู่เซียงให้ได้รับฟัง
“ฝ่าบาท พระองค์ทรงขอให้ข้าพระองค์จับตาชายผู้ทรงพลังที่เกิดในดินแดนอมตะเก้าสวรรค์ครั้งที่แล้ว ตอนนี้มีข่าวแล้ว!”
ตั้งแต่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ชิงหวู่ถูกทำลาย ปรมาจารย์มายาสวรรค์ไม่อาจทำนายผลได้
ซือหม่าอู๋เซี่ยงได้ให้หยินจื่อไห่ให้ความสนใจกับยอดฝีมือไม่มีใครเปรียบในดินแดนอมตะเก้าสวรรค์.
แทบทุกวันหยินจื่อไห่ที่รวบรวมข้อมูลไปทั่วจิวติงเทียน.
หลังจากเปรียบเทียบค้นหาข้อมูล เขาก็พบว่าฉินซวนดูแตกต่างออกไปจากคนอื่น ๆ เป็นพิเศษ.
ดวงตาของซือหม่าหวู่เซียงเป็นประกายแล้วเอ่ยออกมาว่า "เขาเป็นใคร"
หยินจื่อไห่เอ่ย “ในจิวติงเทียนทางเหนือ มีชายหนุ่มคนหนึ่งมาจากนิกายเล็ก ๆ แต่วันนี้เขาสามารถตัดศีรษะสามผู้นำนิกายทั้งสามด้วยกระบี่เล่มเดียว”
“ตามข่าวที่ได้รับมา ผู้นำนิกายทั้งสามนั้นล้วนแต่มีพลังบ่มเพาะจ้าววิญญาณขั้นกลางและสูง อีกทั้งยังมีมือกระบี่ที่ทรงพลังอีกคนที่มีพลังบ่มเพาะเข้าใกล้ดินแดนจักรพรรดิแล้ว!”
เมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าว ดวงตาของซือหม่าหวู่เซียงก็เต็มไปด้วยความตกใจ ทรงพลังขนาดนั้นเลยเหรอ? -
ซือหม่าอู๋เซียงหรี่ตาและวิเคราะห์ในใจอย่างลับ ๆ
เขารู้สึกว่าความสามารถของฉินซวนในการกุดศีรษะคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งสามคนด้วยกระบี่เล่มเดียว หมายความว่าระดับพลังยุทธของฉินซวนนั้นอาจสูงกว่าอาณาจักรจักรพรรดิ.
ในดินแดนจิวติงเทียนอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้เช่นนี้ ไม่ได้ปรากฏตัวมาหลายปีแล้ว.
"ฉินซวนผู้นี้สมควรได้รับความสนใจ เขาปรากฏตัวขึ้นไม่นานหลังจากที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ชิงหวู่ถูกทำลาย นี่ไม่ใช่เหตุบังเอิญ!"
ซือหม่าหวู่เซียงสั่งการทันที: "เวลานี้ให้มุ่งเน้นจับตาการเคลื่อนไหวของฉินซวน หากมีความผิดปกติใด ๆ ในตัวเขา ให้รายงานต่อข้าทันที!"
เขาสงสัยว่าถ้าฉินซวนเป็นฆาตกรที่ทำลายแดนศักดิ์สิทธิ์ชิงหวู่ เมื่อแน่ใจแล้วเขาจะลงมือจัดการอีกฝ่ายเอง
ถ้าไม่อย่างนั้น เขาก็ต้องหาวิธีในการเอาชนะฉินซวนให้ได้
ท้ายที่สุดแล้ว อัจฉริยะที่หาได้ยากในโลกเช่นนี้ เมื่ออยู่ใกล้ ๆ เขา ก็ถือว่าเป็นภัยคุกคามที่น่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก.