ตอนที่แล้วข้านี่แหละจอมเวทไร้เทียมทาน ตอนที่ 16
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปข้านี่แหละจอมเวทไร้เทียมทาน ตอนที่ 18

ข้านี่แหละจอมเวทไร้เทียมทาน ตอนที่ 17


ข้านี่แหละจอมเวทไร้เทียมทาน ตอนที่ 17

บ้านตระกูลจั่ว

จั่วจิงเย่นิ่งเงียบขณะที่กำลังอ่านรายงานเกี่ยวกับหลินอวี่ที่อยู่ในมือ

เกิดในครอบครัวธรรมดา ทั้งพ่อและแม่เสียชีวิตไปในเหตุการณ์ฝูงมอนสเตอร์ถล่มเมื่อห้าปีก่อน

หลายปีมานี้หลินอวี่ไม่ได้แสดงความพิเศษออกมาแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ปลุกพลังและได้รับอาชีพนักเวทมาเมื่อวาน พลังต่อสู้ของเขากลับเหนือยิ่งกว่าอาชีพหายากสองคน!

หลังจากนิ่งเีงยบอยู่สักพัก จั่วจิงเย่ก็ค่อยๆพูดขึ้นว่า

"หมายเลขหนึ่ง นายคิดยังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้?"

มีเสียงของหมายเลขหนึ่งดังออกมาจากในเงามืด

"บ่าวคิดว่านี่เป็นข้อมูลแค่เพียงผิวเผินเท่านั้น หลินอวี่ต้องไม่เรียบง่ายเหมือนดังที่เห็นจากเปลือกนอก"

จั่วจิงเย่พยักหน้า

"คนธรรมดาอย่างเขาจะไปมีอุปกรณ์ที่ทรงพลังแบบนั้นหลังจากเพิ่งปลุกพลังได้ยังไง? เขากระทั่งยังมีสกิลที่ต้องสงสัยว่าจะอยู่ในระดับ D อีกด้วย บางทีเบื้องหลังของเจ้าหนูนี่อาจจะมีผู้เข้มแข็งคอยหนุนหลัง"

จั่วจิงเย่หรี่ตาลง น้ำเสียงของเขาเพิ่มความเคร่งขรึมขึ้นมา

"และเกรงว่าจะไม่ใช่แค่ผู้เข้มแข็งธรรมดา"

หมายเลขหนึ่งเองก็พูดขึ้นว่า

"นายท่าน อยากให้กีดกันหลินอวี่ไหมครับ?"

จั่วจิงเย่ส่ายหน้าเบาๆ

"ไม่ต้อง ในเมื่อเขาเป็นเพื่อนร่วมชั้นของเด็กสาวตระกูลหยาน อีกทั้งเขายังเคยช่วยเหลือเด็กสาวคนนั้นและมู่เกอของเรา คงไม่ใช่ศัตรู ยิ่งกว่านั้น ในเมื่อบุคคลที่หนุนหลังเขาอยู่ไม่ต้องการจะเปิดเผยตัว พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องไปสืบเรื่องของเขา"

"ครับ!"

"หลินอวี่....ช่างเป็นเด็กหนุ่มที่น่าสนใจจริงๆ"

จั่วจิงเย่มองดูข้อมูลที่อยู่ในมือขณะยิ้มบาง

เขามีแผนการอยู่ในใจแล้ว

เมืองประกายแสง ดูจากเปลือกนอกแล้วเหมือนจะแข็งแกร่ง หากแต่ในความจริงกลับรายล้อมไปด้วยศัตรูเข้มแข็ง หากมีประตูมิติที่ทรงพลังปรากฏขึ้นอีกสักสองสามแห่ง พวกเขาก็คงจะได้รับความกดดันจนยากจะขยับตัว

ตอนนี้กลับมีอัจฉริยะอย่างหลินอวี่ปรากฏตัวขึ้น

เขาย่อมบังเกิดความยินดี

หลินอวี่ หลินอวี่ ฉันหวังว่าเธอจะเติบโตขึ้นโดยเร็ว

จั่วจิงเย่คิดขึ้นในใจ

......................

รถบัสหยุดจอดที่สถานีสนับสนุนซึ่งตั้งอยู่ในทุ่งหญ้าสีเทา

"เอาล่ะ ถึงสถานีสนับสนุนแล้ว ทุกคนลงจากรถได้!"

หลี่ซวนปรบมือปลุกเด็กๆ

หลินอวี่เหลือบมองหยานจีและจั่วมู่เกอที่กำลังนอนซบไหล่เขาด้วยความจนปัญญา

ใช่แล้ว เมื่อผ่านไปได้ครึ่งทาง แม้แต่หยานจีก็ยังถูกการบรรยายของหลี่ซวนทำให้ง่วงจนตาปิด

ตอนแรกเธอไม่ได้เอนซบไหล่ของหลินอวี่

แต่หลังจากนอนได้สักพัก เธอก็เริ่มปรับตำแหน่งให้นอนสบาย สุดท้ายจึงเอนมาซบไหล่ของหลินอวี่

หลินอวี่เกิดความสงสัยเล็กน้อย พวกเธอดูจะหลับสบายไปรึเปล่า?

"นี่ พวกเธอ ตื่นได้แล้ว"

เขายื่นมือออกไปดึงแก้มของหยานจีและจั่วมู่เกอ

อืม นุ่มมือจริงๆ

มาใช้ไหล่ฉันนอนแบบนี้ ก็ต้องคิดดอกเบี้ยสักหน่อยล่ะนะ

"อืม?"

จั่วมู่เกอลืมตาขึ้นอย่างงัวเงีย

"หืม ที่นี่ที่ไหน?"

เธอลุกขึ้นนั่งตัวตรงก่อนจะจัดผมอย่างเป็นธรรมชาติ

ขณะที่หยานจียังนิ่งอึ้งอยู่

เธอตื่นขึ้นมาและพบว่าตัวเองนอนซบไหล่หลินอวี่มาตลอดทาง! ดังนั้นยามนี้ใบหน้าของเธอจึงเห่อร้อนขึ้นมา

นี่ฉันเอนไปพิงเขาตอนไหนกัน?

"หลับสบายมั้ย?"

เมื่อหลินอวี่ถามขึ้น หยานจีก็เผลอพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว

"อืม สบายมาก"

จากนั้นเธอก็รู้สึกตัว ร่างกายของเธอแข็งค้าง เธอเงยหน้าขึ้นด้วยความเขินอายและพบว่าหลินอวี่กำลังจ้องเธออยู่

เธอก้มหน้าลงเงียบๆด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ

หลินอวี่พบว่าสีหน้าของเธอน่าดูมาก

ปกติแล้วหยานจีมักจะมีท่าทางสง่างามและดูสูงส่งสมเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่

คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะมีท่าทางเขินอายที่น่ารักแบบนี้ด้วย

น่าดูกว่าผู้หยิงหน้าหนาที่อยู่ข้างๆซะอีก

เขามองจั่วมู่เกอที่กำลังเหยียดแขนขาเพื่อยืดเส้นยืดสาย

อืม ใหญ่จริงๆ....

"ลงจากรถกันได้แล้ว"

นักเรียนต่างลุกจากที่นั่งและทยอยลงจากรถ

โดยเฉพาะเหล่านักเรียนที่อยู่ใกล้ๆกับหลินอวี่

พวกเขารีบลงจากรถไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อได้เห็นท่าทางกระหนุงกระหนิงระหว่างทั้งสาม พวกเขาก็รู้สึกอิจฉาจนอกแทบแตก

หลังลงจากรถกันแล้ว พวกเขาก็มาถึงสถานีสนับสุนน

มีสถานีสนับสนุนเช่นนี้อยู่มากมายในพื้นที่ที่มีมอนสเตอร์

ในแง่หนึ่ง หน้าที่ของมันคือการสนับสนุนเหล่าผู้มีพลังพิเศษ

และในอีกแง่หนึ่ง ที่นี่ก็คือสถานีรบของทางกองทัพเพื่อคอยเฝ้าระวังพวกมอนสเตอร์

หากเกิดฝูงมอนสเตอร์รวมตัวกันอีก พวกเขาก็จะพบเห็นและเตรียมการรับมือได้ทัน

หากถึงคราวจำเป็น ทหารที่ประจำการอยู่ที่นี่ก็จะต้องต้านทานฝูงมอนสเตอร์เอาไว้

ซึ่งหากเกิดสถานการณ์เช่นนั้น ส่วนใหญ่ทหารธรรมดาก็มักจะถูกฆ่าจจนเกือบหมด

สถานีสนับสุนนนั้นทำหน้าที่คล้ายสถานีที่อยู่ภายในมิติลับ

หลี่ซวนไม่ได้พาพวกเขาเดินชมที่นี่ แต่พาพวกเขามุ่งหน้าเข้าไปในทุ่งหญ้าสีเทาโดยตรง

ทุ่งหญ้าแห่งนี้ถูกปกคลุมไปด้วยต้นหญ้าสีเทาซึ่งมันจะสะท้อนแสงเล็กน้อยยามมีแสงอาทิตย์ส่องกระทบ

"เอาล่ะ ทุกคนเริ่มตั้งทีมได้! จำเอาไว้ว่าจงเลือกพวกพ้องที่เชื่อใจได้ เพราะหากตั้งทีมกับคนที่เราไม่สามารถไว้ใจ เช่นนั้นก็รังแต่จะมีผลเสียเพราะขาดความเป็นทีมเวิร์ค"

เมื่อมาถึงทุ่งหญ้าสีเทา หลี่ซวนก็สั่งให้นักเรียนเริ่มทำการจับกลุ่ม

นักเรียนหลายสิบคนเริ่มเดินหาเพื่อนที่จะมาตั้งทีมด้วยกันทันที

หลายคนมองมาทางหยานจีและจั่วมู่เกอ

สองคนนี้คืออาชีพหายาก!

หากสามารถตั้งทีมกับพวกเธอได้ ทีมของพวกเขาก็จะต้องแข็งแกร่งมากแน่ๆ

น่าเสียดายที่ทั้งหยานจีและจั่วมู่เกอต่างก็เอาแต่ยืนอยู่ด้านข้างหลินอวี่โดยไม่มีทีท่าจะไปเข้าทีมอื่นแต่อย่างใด

หลินอวี่มองหญิงสาวทั้งสองด้วยความสงสัย

"ทำไมพวกเธอถึงมาตามฉัน?"

"แน่นอน ก็เพราะว่าพวกเราจะมาตั้งทีมกับนายไง"

จั่วมู่เกอพูดด้วยรอยยิ้ม นับเป็นผู้หญิงที่หน้าหนามาก

หยานจีเองก็มองหลินอวี่เช่นกัน

"อาหวี่ มาตั้งทีมด้วยกันเถอะ"

หลินอวี่รู้สึกจนปัญญา "ที่แบบนี้ยังต้องตั้งทีมด้วยเหรอ? พวกเธอคงไม่ได้ล้อฉันเล่นใช่มั้ย?"

ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขาแต่ละคน ที่นี่ยังมีอะไรคุกคามพวกเขาได้ด้วยเหรอ?

นักเรียนที่อยู่รอบๆ "......"

ขอบใจมาก เหมือนถูกหยามหน้ายังไงยังงั้น!

หลี่ซวนพลันขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำพูดของหลินอวี่

เขาต้องการจะดุหลินอวี่สักหน่อย แต่เมื่อสายตาเหลือบเห็นหยานจีและจั่วมู่เกอที่อยู่ข้างๆหลินอวี่แล้ว เขาก็ได้แต่เก็บคำพูดเอาไว้

ถึงแม้หลินอวี่จะเป็นแค่นักเวทธรรมดา แต่คนที่หนุนหลังเขาอยู่จะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

อีกทั้งเขายังมีความสัมพันธ์อันดีกับหยานจีและจั่วมู่เกอด้วย

นี่เป็นบุคคลที่เขาไม่สามารถล่วงเกินได้

อย่างไรก็ตาม ในใจเขาก็ยังอดส่ายหน้าไม่ได้

ช่างเป็นทายาทที่เอาแต่พึ่งพาบารมีของคนรุ่นก่อนจริงๆ