ตอนที่แล้วตอนที่ 36 การแสดง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 38 ยาย้อนฝันทั้งสามเม็ด

ตอนที่ 37 ร่วมมือ


ตอนที่ 37 ร่วมมือ

ซูลั่วก้มศีรษะลงคิดอยากปฏิเสธ แต่ภายหลังไตร่ตรอง นางรู้สึกว่าเรื่องราวที่ได้ฟังสมควรเป็นความจริง

หากว่านางเป็นคนที่เกี่ยวข้องทางตรงกับเรื่องราวนี้ ภายหลังทราบเรื่อง ก็คงยากที่จะสงบสติอารมณ์รับฟังคำอธิบาย

“ก็ได้ ก็ได้ ข้าจะไม่บอกที่อยู่ของเจ้าให้กับศิษย์พี่หญิงโม่หลี…” เด็กสาวพึมพำเสียงเบาตอบกลับมา

“แค่ก แค่ก ขอบพระคุณศิษย์พี่หญิงซูขอรับ”

ถ้ำแห่งนี้จึงตกอยู่ในสถานการณ์เงียบงันอีกครั้ง ซูลั่วนั่งเหม่อ นางไม่คิดเร่งร้อนไปไหน แต่กำลังนึกย้อนถึงภาพฉากตอนที่จี้เตี๋ยฉวยโอกาสกับนางเมื่อไม่นานมานี้ จนสุดท้ายนางต้องเผยใบหน้าแดงเรื่อประหนึ่งถูกไฟเผา

เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้อีกฝ่ายพบเห็น ซูลั่วเร่งร้อนหาหัวข้อสนทนาใหม่

“เจ้าไปสร้างความแค้นอะไรกับหลิ่วเฉิง?”

นางรู้จักหลิ่วเฉิง เพราะอีกฝ่ายมีชื่อเสียงในยอดเขาโอสถ ทั้งยังครอบครองกำลังกายอันแข็งแกร่งและความสามารถในด้านการต่อสู้อันยอดเยี่ยมจนเป็นที่รู้จัก

“ข้าไม่เคยมีเรื่องบาดหมางใดกับเขาขอรับ เพียงแต่ก่อนหน้านี้ ศิษย์สำนักนามหลิวเหวินปินพยายามจะปล้นชิงข้า ทำให้ข้าสั่งสอนบทเรียนแก่มันไป และหลิ่วเฉิงสมควรเป็นคนที่มันเรียกมาเพื่อช่วยเหลือขอรับ” จี้เตี๋ยบอกเล่าเรื่องราวโดยคร่าวให้นางทราบ

“เหอะ! ถึงขั้นมีเรื่องราวเช่นนี้เกิดขึ้น บ้านป่าเมืองเถื่อนโดยแท้ เมื่อใดกลับไปแล้วข้าจะรายงานผู้อาวุโสให้สั่งลงโทษพวกมันอย่างสาสม…” ซูลั่วรู้สึกคันไม้คันมือ เพราะนางเพิ่งเสียหน้าพ่ายแพ้ให้กับหลิ่วเฉิง แม้สุดท้ายจี้เตี๋ยจะเข้ามาช่วยเอาไว้เลยไม่ได้รับบาดเจ็บมากมาย แต่ไม่ใช่ว่าความโกรธของนางจะเลือนหาย

“แค่กแค่ก ศิษย์พี่หญิงซู ขอท่านอย่าเพิ่งบอกกล่าวผู้อาวุโสได้หรือไม่ขอรับ?”

จี้เตี๋ยกำลังรู้สึกนึกขอบคุณวายร้ายทั้งสอง เพราะหากอีกฝ่ายไม่โผล่มาขวาง เขากับซูลั่วก็คงไม่มีโอกาสได้ปรับความเข้าใจ

ยิ่งไปกว่านั้น เขายังชิงถุงมิติมาจากคนทั้งสอง หากเรื่องราวนี้เปิดเผยออกไป เกรงว่าจะไม่เหลือผลประโยชน์ใดตกถึงมือของเขา

“ทำไมกัน?”

พบเห็นเด็กสาวเผยความสงสัยมองตอบกลับมา จี้เตี๋ยจึงรู้สึกลำบากใจก่อนจะตอบคำ “พวกมันคิดแย่งชิงถุงมิติของข้า ดังนั้นข้าก็เลยสั่งสอนแล้วชิงกลับมา…”

“…มีความกล้าที่ดี! เจ้าถึงขั้นกล้าปล้นชิงถุงมิติของศิษย์ร่วมสำนัก หากว่าผู้อาวุโสล่วงรู้ เจ้าเองก็ต้องเผชิญปัญหาใหญ่ไม่ต่างจากพวกมัน!” ซูลั่วฮึมฮัมออกมา

“ศิษย์พี่หญิงซูลั่ว ท่านพอจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับได้หรือไม่ขอรับ? อย่างไรเรื่องก็เกิดขึ้นเพราะพวกมันลงมือก่อนนะขอรับ” จี้เตี่ยพยายามแสดงท่าทีชวนเวทนาให้เห็น เพียงแต่ซูลั่วแค่เปรยสายตามองตอบ ไม่ได้ตอบรับอย่างชัดเจนว่าตกลงหรือปฏิเสธกันแน่

“ในเมื่อศิษย์พี่หญิงซูไม่กล่าวอะไร ข้าจะถือว่าตกลงนะขอรับ ขอบพระคุณขอรับ”

จี้เตี๋ยเผยยิ้มออกมา แต่ก่อนอีกฝ่ายจะทันได้โมโหโต้แย้ง เขาเร่งร้อนเปลี่ยนหัวข้อสนทนาไปยังเรื่องอื่น “ศิษย์พี่หญิงซูต้องการหญ้าจักรพรรดิหยก เพราะท่านต้องการปรุงยาย้อนฝันหรือขอรับ?”

“ข้าทราบว่าเจ้ากำลังคิดอะไร ข้าไม่อาจมอบหญ้าจักรพรรดิหยกให้ได้ เพียงแต่ข้าต้องการยาย้อนฝันเพียงแค่หนึ่งเม็ดก็สามารถทะลวงสู่การกลั่นลมปราณขั้นที่หกได้ ดังนั้นพวกเราสามารถร่วมมือต่อกันได้” ซูลั่วย่อมพบเห็นว่าเขากำลังต้องการอะไร

“หญ้าจักรพรรดิหยกถือเป็นส่วนที่ข้าลงทุน ดังนั้นข้าจะเก็บมันเอาไว้กับตัวก่อน ส่วนเมื่อใดเจ้ารวบรวมสมุนไพรวิญญาณอื่นได้ครบ ข้าจะปรุงยาย้อนฝันขึ้นมา ภายหลังจากนั้นข้าต้องการยาย้อนฝันหนึ่งเม็ด เช่นนี้ตกลงหรือไม่?”

ซูลั่วมองมา เนื่องจากวัตถุดิบปรุงยาย้อนฝันไม่ใช่สิ่งที่หาได้ง่าย อย่างน้อยในระยะเวลาอันสั้นนี้นางก็ไม่สามารถหามาได้ ดังนั้นหากร่วมมือกับจี้เตี๋ยแล้วจะได้มาเร็วขึ้นก็ไม่ถือว่าใช่เรื่องแย่

“ขอรับ” จี้เตี๋ยไม่นึกคิด กระทั่งประหลาดใจ เขาเร่งร้อนตอบรับด้วยความยินดี เพราะมันคือเงื่อนไขเดียวกับที่เขาเคยเสนอให้หวังซื่อ

“นี่แผนที่ถ้ำของข้า เมื่อใดรวบรวมสมุนไพรวิญญาณได้ครบแล้วให้มาพบกันอีกครั้ง” ซูลั่วเป็นคนเถรตรง นางส่งแผนที่จากถุงมิติยื่นให้กับจี้เตี๋ย

มันคือแผนที่ของยอดเขาโอสถ โดยมีเครื่องหมายระบุถึงที่ตั้งถ้ำของนางเอาไว้ด้วย

“ขอรับ” จี้เตี๋ยรับมาตรวจสอบ สุดท้ายจึงเก็บลงถุงมิติของตนเองไป

บรรยากาศกลายเป็นเงียบงันอีกครั้ง ซูลั่วไม่ทราบว่าควรพูดอะไรต่อ ดังนั้นนางจึงเพียงแค่นั่งจ้องผนังถ้ำ ขณะที่ภายในใจกำลังสับสนและสงสัย ว่าวันนี้มันเกิดเรื่องราวใดขึ้นบ้าง

ยามพบเห็นว่านางเพียงแค่นั่งนิ่งไม่พูดไม่กล่าว จี้เตี๋ยก็ไม่กล้าถามว่านางจะกลับเมื่อไหร่ ดังนั้นพอต้องอยู่ร่วมภายในถ้ำเดียวกันเช่นนี้โดยไม่อาจทำธุระส่วนตัว เขาจึงนั่งหลับตาลงเพื่อฝึกฝน

“แย่แล้ว! ข้าเกือบลืมไปว่าศิษย์พี่หญิงโม่หลีกำลังรอข้าอยู่!”

เด็กสาวชะงักงันไปชั่วครู่ ก่อนสีหน้าจะกลายเป็นตื่นตระหนก นางเร่งร้อนลุกพรวดขึ้นยืน กระทั่งไม่พูดพร่ำ นางตรงไปผลักก้อนหินที่ขวางทางเข้าออกถ้ำก่อนจะออกไปภายนอก

“ศิษย์พี่หญิงซูดูแลตัวเองด้วยขอรับ!”

จี้เตี๋ยมายืนส่งมองนางจากไป สุดท้ายจึงเช็ดผงแป้งบนใบหน้าและเผยยิ้ม ริมฝีปากของเขาในเวลานี้ก็ดูมีน้ำมีนวลเช่นคนปกติทั่วไปแล้วเช่นกัน

“ฮ่า ๆ ๆ! เป็นผลไม้ที่ดีซะจริง!”

ภายหลังเช็ดหน้าเช็ดตาหลายครั้ง ความรู้สึกขื่นขมภายในปากของเขาก็ลดเลือนลงไปไม่น้อย

เนื่องจากใกล้เคียงถ้ำแห่งนี้มีผลไม้อยู่มากมาย แต่รสชาติของพวกมันเลวร้าย กล่าวคือไม่ขมก็เปรี้ยวจนเกินต้านทาน ภายหลังกินเข้าไป ปากของเขายังจะเผยคราบสีแดงปรากฏให้เห็น กระทั่งยามถ่มน้ำลายออกยังเป็นสีแดง ทำให้ดูไปแล้วเหมือนเลือดไม่มีผิดเพี้ยน

ตอนที่มาถึงแถบนี้ แรกเริ่มเขาคิดใช้พวกมันเป็นอาหาร แต่ภายหลังได้ลองทานกลับต้องล้มเลิกความคิด

เรื่องราวเกินคาดคือ ครั้งนี้มันสามารถใช้จนหลอกลวงซูลั่วได้สำเร็จ…

“นางอาจมีพรสวรรค์ที่ดี แต่ยังขาดประสบการณ์ทางโลกจนถูกหลอกได้ง่ายถึงเพียงนี้” จี้เตี๋ยเองก็รู้สึกผิดอยู่บ้าง ที่ต้องฉวยโอกาสจากความอ่อนต่อโลกของนางมาหลอกลวงเช่นนี้

ทว่ามันเป็นเรื่องที่เขาจำเป็นต้องทำ

ภายหลังส่ายศีรษะละทิ้งความรู้สึกผิด เขาจึงนำถุงมิติออกมาพร้อมเรียกหม้อทองแดง ถัดจากนั้นจึงใส่กิ่งตงฮวยเข้าไป

ภายหลังแสงสว่างสาดส่องออกมา จี้เตี๋ยจึงนำเอากิ่งตงฮวยที่ผ่านการยกระดับแล้วออกมาจากหม้อ

ภายหลังการยกระดับ กิ่งตงฮวยเกิดความเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมาก ลายที่หน้าตัดไม้ปรากฏเส้นเพิ่มมากขึ้น และเหมือนมันจะเป็นเส้นวงปีของตัวไม้

“กิ่งตงฮวยร้อยปีนี้น่าจะยอดเยี่ยมยิ่งกว่ากิ่งตงฮวยร้อยปีปกติทั่วไปแน่” จี้เตี๋ยครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ภายหลังจากนั้นจึงนำวัตถุดิบปรุงยาย้อนฝันออกมาวางเรียงรายตรงหน้า

สมุนไพรวิญญาณเหล่านี้มีสีสันที่แตกต่าง บ้างก็เป็นเถาวัลย์ที่มีสีแดงประหนึ่งเลือดระกา แต่กลับมีใบเป็นสีเขียวสด และบ้างก็เป็นอะไรที่คล้ายหัวไชเท้าจิ๋ว…

“ตอนนี้ขาดแค่เถาวัลย์อำพัน เถาวัลย์อำพันจะเติบโตขึ้นในที่ชื้นแฉะ ตอนที่เติบโตแล้วจะสูงราวหนึ่งฉื่อ เป็นสีดำ มีใบโปร่งแสง เพราะเหตุนั้นถึงได้ชื่อว่าเถาวัลย์อำพัน…”

จี้เตี๋ยนั่งขัดสมาธิขณะพึมพำถึงรายละเอียดของเถาวัลย์อำพันที่บันทึกนักปรุงยากล่าวถึง ตอนนี้เองที่เขาต้องตบศีรษะตนเอง เพราะเกิดนึกขึ้นมาได้ว่าภายในถุงมิติของตนเองก็ยังมีสมุนไพรวิญญาณอยู่ไม่น้อย

บางทีมันอาจจะมีเถาวัลย์อำพันอยู่ก็เป็นไปได้!

“ตามหาเถาวัลย์อำพันมาสองวัน ทำไมไม่เคยนึกมาก่อนเลยกันนะ หลงลืมไปได้ยังไงกัน…”

จี้เตี๋ยเริ่มนำสมุนไพรวิญญาณออกมาจากถุงมิติด้วยความกระตือรือร้น

ภายหลังผ่านไปชั่วครู่ เขาจึงได้พบสมุนไพรวิญญาณที่ดูคล้ายกับในบันทึกนักปรุงยา ใจของเขาถึงกับเต้นระรัว!

มันมีเถาวัลย์อำพันอยู่จริง!

กลายเป็นว่าเขามีวัตถุดิบปรุงยาย้อนฝันครบถ้วนแล้ว!

“ศิษย์พี่หญิงโม่หลี!”

บริเวณยอดเขาโอสถที่ซึ่งปกคลุมด้วยเมฆหมอก หอใหญ่ตั้งตระหง่านเสียดแทงทะลุผ่านหมู่เมฆ ขณะที่รอบด้านประกอบด้วยศาลาน้อยสูงใหญ่ต่างกันรายรอบ

พื้นที่นี้เป็นสถานที่หวงห้ามในยอดเขาโอสถ ยกเว้นผู้อาวุโสแห่งยอดเขาโอสถและซูลั่ว ยามปกติน้อยคนจะมีโอกาสได้มาเยือนย่ำสถานที่แห่งนี้

เพียงแต่วันนี้ ที่นี่มีสตรีในชุดแดงยืนรอคอยอยู่พร้อมเส้นผมยาวที่พลิ้วไหว นางยืนรอเงียบงันด้วยรูปโฉมงดงามประหนึ่งรูปสลัก

ซูลั่วที่มองมาแต่ไกลก็พบเห็น ก่อนจะเข้ามาใกล้นางยังพยายามปรับสภาพจิตใจเล็กน้อยเสียด้วยซ้ำ

“ลั่วลั่ว ไปไหนมากัน?” เจียงโม่หลีหันกลับมามอง พร้อมได้ตระหนักถึงความผิดแปลกทางสีหน้าของคู่สนทนา ทำเอานางนึกสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น

“ข้าไปพบศิษย์คนหนึ่งเรื่องการซื้อขาย แต่พอดีเกิดเรื่องราวเล็กน้อยระหว่างทาง…” ดวงตาของซูลั่วคล้ายหลบเลี่ยง นางไม่กล้าพูดกล่าวว่าเพิ่งโดนล่วงเกินมา

และเพื่อเปลี่ยนหัวข้อสนทนา นางนำเอาขวดหยกใบหนึ่งออกมาพร้อมเอ่ยคำ “แล้วก็สิ่งนี้ เป็นยาที่ศิษย์พี่หญิงโม่หลีสั่งเจ้าค่ะ”

“ขอบคุณ” เจียงโม่หลีมองตอบโดยไม่คิดอะไรมากความ นางเผยยิ้มพร้อมยกแขนขาวราวหยกสลักขึ้นมารับเอาไว้ สำรวจตรวจสอบ ถัดจากนั้นจึงเก็บมันลงถุงมิติ

“มีข่าวคราวของมันผู้นั้นหรือไม่…”

“ไม่… ไม่มีเลย…” ซูลั่วส่ายศีรษะ เพราะนางรับปากจี้เตี๋ยเอาไว้แล้ว ว่าจะไม่บอกที่อยู่ของเขาให้เจียงโม่หลีทราบ

“ไม่เลยหรือ… ซ่อนตัวเก่งนักนะ…” เจียงโม่หลีแค่นเสียงขึ้นจมูก

“ศิษย์พี่หญิงโม่หลี…” ตอนนี้เองที่ซูลั่วลอบมอง

“มีอะไรหรือ?” เจียงโม่หลีพบเห็นคู่สนทนามีท่าทีสับสน จึงทำเอานางเกิดความสงสัย

“คือว่า… ท่าน… ได้ตรวจสอบเรื่องนี้โดยกระจ่างหรือยังเจ้าคะ? ข้าคิดว่า… บางทีชายที่ชื่อจี้เตี๋ยคนนั้นอาจไม่ได้เป็นคนพูด คือว่า สิ่งที่ข้าจะหมายถึงคือ เป็นไปได้หรือไม่ว่าเรื่องของท่านจะเป็นผู้อื่นที่พูดขึ้นมาและกล่าวโทษเขา?”

“เหอะ! เป็นไปไม่ได้! ข้าสอบถามไปทั่วแล้ว มันเป็นคนบอกกับผู้อื่นเอง ว่าข้ากับมันเป็นหวานใจวัยเด็กเติบโตมาด้วยกัน มันนั่นแหละที่เป็นคนพูด!”

5 3 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด