บทที่ 508 : พิธีสวดส่งวิญญาณ (6)
[แฟนเพจBamแปลNiyay:ลงแบบราคาถูกโคตรในmy-novel(ลงช้ากว่าThai-novel100ตอน)กับthai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นนอกจากสองเว็บนี้คือไม่ใช่ผมนะ ถ้าเจอคนอ่านก็อปดันเยอะกว่าก็ท้อเป็นนะครับ]
[ถ้าอ่านฟรีแบบเถื่อนไม่ว่าจะได้มายังไงนั้น ผมไม่ว่าเลยครับ และต่อให้ไม่มีคนอ่าน ผมก็ยังจะแปลต่อจนจบด้วย แต่ถ้าจะจ่ายเงินให้เว็บหรือคนที่copyไปขายอีกที คุณโคตรแย่เลยครับ]
[หลังแปลจบจะมีการแก้คำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้น ดังนั้นถ้าคุณอ่านแบบเถื่อน ก็เชิญเลยครับ เพราะมันไม่มีอัพเดทให้หรอก]
บทที่ 508 : พิธีสวดส่งวิญญาณ (6)
การรักษาความปลอดภัยชั้นบนของเรือสำราญเข้มงวดมาก แต่ฉันลดความสนใจของพวกเขาลงและฝ่าฟันช่องโหว่ต่างๆ ไป จากนั้นที่ทางเข้าชั้น 7 ฉันรูดบัตรผ่านที่ประตูเหล็ก
บี๊บ
สัญญาณสีแดงเปลี่ยนเป็นสีเขียว
ฉันเปิดประตูหน้าและเข้าไปในชั้น 7 ของเรือสำราญ
'ถึงเวลาแล้ว……ตอนนี้ตี 1'
ฉันเดินไปรอบๆ เรือ ดูแผนที่เรือลำนี้ที่ฉันปล้นมาจากยาม
ฉันสบตากับพนักงานคนหนึ่ง แต่เขาผ่านฉันไปเหมือนไม่รู้อะไรเลย
มันเป็นเรื่องธรรมชาติเพราะตอนนี้ฉันเปลี่ยนเป็นชุดยามและสวมหมวกยามสีน้ำเงินเข้ม
แต่พวกนั้นกลับละหลวมอย่างน่าประหลาดใจ
ฉันสามารถเข้าไปในห้องประชุมได้โดยไม่มีข้อจำกัดใดๆ
มีโต๊ะกลมเรียงกันเป็นแถวและไม่มีใครในห้องประชุม
ฉันเดาว่ายังไม่ถึงเวลาประชุม
ฉันมองไปรอบๆ ห้องประชุมนั้น
มีโปรเจ็กเตอร์สำหรับเล่นวิดีโอวางอยู่บนโต๊ะกลม
มีการติดตั้งหน้าจอยาวไว้ด้านหน้า ฉันเดาว่าพวกเขาจะแสดงตอนจบของโดราโดที่นี่
ฉันมองไปที่ห้องประชุมอีกครั้ง
มันเป็นห้องประชุมธรรมดาๆ ที่ไม่มีอะไรพิเศษนอกจากโปรเจ็กเตอร์และจอ แต่มีช่องระบายอากาศอยู่ที่มุมห้อง
ฉันกระโดดขึ้นและเปิดฝาออก มันค่อนข้างที่จะสกปรกนิดหน่อย แต่...…ฉันคิดว่าฉันสามารถแอบเข้าไปได้ มุมของช่องระบายอากาศและหน้าจอก็เข้ากัน ถ้าฉันเข้าไปที่นี่และปิดฝา ฉันสามารถมองหน้าจอผ่านช่องว่างโดยไม่ให้ใครเห็น
'แล้วฉันต้องทำอะไรแบบนี้จริงๆเหรอ?'
ฉันรู้สึกสงสัยอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะฉันมาไกลขนาดนี้แล้ว
ฉันเอาตัวเองเข้าไปในช่องระบายอากาศ ฝุ่นและกลิ่นอับเข้าตาและจมูกฉันทันที
ฉันดูนาฬิกาในห้องประชุมแล้วตัดสินใจรอให้ทุกคนมารวมตัวกันตามเวลานัดหมาย
02.00 น.
5 นาทีที่แล้ว
ในห้องประชุมมีคนเกือบสิบคนกำลังนั่งกระซิบ
ดูเหมือนว่าคนส่วนใหญ่มารวมตัวกันครบแล้ว แต่หัวโต๊ะและที่นั่งทางด้านซ้ายกลับว่างเปล่า โต๊ะตรงนั้นน่าจะจะเป็นที่นั่งของอัลฟ่าซีโร่ และเก้าอี้ทางซ้ายคือคนที่ฉันเพิ่งฆ่าไป
“กำลังจะพูดถึงลาสกันดาอีกแล้วเหรอ? มันจบไปตั้งนานแล้ว ฉันเบื่อเรื่องนี้มาก”
ชายวัยกลางคนที่มีท้องยื่นออกมาพึมพำ
ราวกับเป็นการตอบสนองผู้บริหารของโมเบียส หลายๆคนก็บ่นออกมาอย่างต่อเนื่อง
ความวุ่นวายเงียบลงเมื่อประตูด้านข้างห้องประชุมเปิดออก
‘คนๆนั้น...….'
นั่นคือไซเซล เลขาของผู้กำกับ
ไซเซลเดินไปที่หัวโต๊ะด้วยก้าวย่างที่มั่นใจ
“ผู้กำกับอยู่ไหน? การประชุมจะเริ่มต้นได้หรือยัง?”
“สุขภาพของเขาทรุดลงอย่างรวดเร็ว…ดังนั้นพวกคุณก็ไปพักผ่อนเถอะค่ะ”
“แล้วการประชุมล่ะ…?”
ไซเซลส่ายหัว
“เราจะเลื่อนออกไปในภายหลัง ฉันขอโทษที่สร้างปัญหา ฉันหวังว่าทุกคนจะสนุกกับวันหยุดบนเรือสำราญของเรา”
“มีอะไรร้ายแรงหรือเปล่า?”
“จู่ๆ เขาก็มีอาการชัก…”
ไซเซลหรี่ตาลง
ผู้บริหารบางคนฟังแล้วก็เดินออกจากห้องประชุมไปทันที
'...เดี๋ยวนะ'
หากเป็นแบบนี้ จะเป็นการเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์
ไซเซลถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังในห้องประชุม กำลังจัดเอกสารบนโต๊ะ
กริ๊ก
ทันใดนั้นไซเซลที่กำลังจัดเอกสารก็ล็อกประตูห้องประชุมและปิดมู่ลี่ที่หน้าต่าง
“ออกมานะ โลกิ”
ไซเซลพูดด้วยน้ำเสียงสงบ
ฉันเตะฝาครอบช่องระบายอากาศแล้วกระโดดลงไปที่พื้น
แล้วฉันก็ปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้า
“รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
"ตั้งแต่แรก"
ไซเซลถอนหายใจออกมา
“ฉันไม่เคยคิดเลยว่านายจะฆ่าหัวหน้าทีมที่ 2 ของแผนกจัดการบนเรือ คิดว่าว่าเขาไม่รู้เหรอ? ทุกสายตาของอัลฟ่าซีโร่ต่างจับจ้องไปที่สถานที่แห่งนี้ ไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงได้ แม้แต่ CEO”
ไซเซลใส่เอกสารที่จัดเรียงอย่างเรียบร้อยลงในเครื่องทำลายเอกสารที่อยู่ติดกับโต๊ะ
กระดาษที่ขาดเป็นชิ้นๆตกลงไปในถุงด้านล่าง
'เขารู้ไหม?'
“คนๆ นั้นมีความผิดฐานดูหมิ่นผู้บังคับบัญชา ยังไงเขาก็จะถูกไล่ออกอยู่แล้ว”
ไซเซลหัวเราะคิกคัก
เธอเติมน้ำจากเครื่องกรองน้ำลงในถ้วยกระดาษแล้วยื่นให้ฉัน
ฉันจิบน้ำเบาๆ
“แล้วเขาชวนฉันมาทำไม?”
ฉันโยนถ้วยกระดาษลงในถังขยะ
“เขาตั้งใจเรียกฉันมาใช่ไหม? ฉันไม่ได้บังเอญถูกเชิญเพียงเพื่อเฉลิมฉลองหรืออะไรสักอย่างอย่างแน่นอน”
“...”
“ถ้าจะทำอะไรแบบนี้ มีธุระอะไรกับฉันเหรอ?”
ไซเซลมองมาที่ฉัน
จากนั้นเธอก็เเตะที่ผนังด้านในหน้าจอ
ครืน
มีการสั่นสะเทือนเล็กน้อย และผนังด้านหน้าก็เคลื่อนไปด้านหลัง
“…กรุณาตามฉันมาค่ะ”
ไซเซลเดินเข้าไปในเส้นทางลับโดยไม่ลังเล
'เธอกำลังพยายามจะทดสอบฉันเหรอ?'
ถ้ามาห้องประชุมไม่ได้ ทุกอย่างมันจะถูกยกเลิกมั้ย?
หรือฉันทำอะไรโง่ ๆ ลงไปหรือเปล่า?
นั้นฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
ฉันยักไหล่แล้วเดินตามเธอไป
ฉันเดินผ่านทางแคบๆ อันมืดมิดเป็นเวลานาน
และทันใดนั้นบริเวณโดยรอบก็สว่างขึ้น
ห้องอันกว้างขวาง
คอมพิวเตอร์ จอภาพ และสายไฟที่ซับซ้อนเรียงกันเป็นแถว
นอกจากนี้ ยังมีอุปกรณ์กลไกต่างๆ ที่ไม่ทราบจุดประสงค์ที่โดดเด่นอีกด้วย
“นี่คือห้องทำงานของผู้กำกับ หลังจากออกจากสำนักงานใหญ่แล้วเขาก็ทำงานที่นี่”
“...”
“เขาจะมาที่นี่เร็วๆ นี้”
เอี้ยด!
เสียงล้อรถเข็นที่ชำรุด
ฉันมองไปด้านข้าง ชายวัยกลางคนกำลังเข็นรถเข็นเข้ามาใกล้ๆฉัน
เขาสวมชุดนอนขนสัตว์สีชมพู และชุดนอนมีตัวละครสกรีนอยู่
'ตัวละครตัวนั้น….'
ผมสีบลอนด์พราวและดวงตาสีเขียว
เกราะเงินและดาบluเพลิง
เซริส
ฉันถึงกับต้องเอามือจับหน้าผากของฉันเอาไว้
“……โลกิ”
ผู้กำกับที่สบตากับฉันแล้วพึมพำออกมา
ไซเซลเดินไปข้างหลังเขาและคว้าที่จับของรถเข็น
“เซริสจัง…….”
ไซเซลก้อหน้าลงไปฟังชายคนนั้นพึมพำบางอย่าง
“เขาบอกว่ายินดีที่ได้รู้จัก”