ตอนที่แล้วตอนที่ 30 พี่น้อง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 32 คุณหมอเกา

ตอนที่ 31 งานใหม่ของเกาหมิง


"ทางศูนย์ใหญ่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องถูกตรวจสอบอย่างละเอียดและผ่านการคัดกรองหลายขั้นตอน ต่อให้คุณมีความสามารถ แต่ด้วยอายุงานของคุณพวกเขาก็คงไม่ยอมรับอยู่ดี" ไป๋เสี่ยวหยิบเอกสารบนโต๊ะขึ้นมา

"ต้องมีคนคอยปกป้องถนนหมินหลงและถนนหลี่จิง งานของคุณก็สําคัญไม่น้อยไปกว่างานของเรา"

หลังจากพูดจบ ไป๋เสี่ยวก็เริ่มหารือเกี่ยวกับแผนปฏิบัติการสําหรับคืนนี้กับสมาชิกในทีมที่เหลืออีกสามคน โดยพิจารณาทุกผลลัพธ์ที่เป็นไปได้อย่างรอบคอบและเตรียมพร้อมสําหรับสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ

เกาหมิงไม่ได้มีส่วนร่วมในบทสนทนานี้ ตอนนี้เขาพบสิ่งที่เขาต้องการในคอมพิวเตอร์ของฉินเทียนแล้ว

ศูนย์สืบสวนมีทีมผู้เชี่ยวชาญในการค้นหาและรวบรวมข้อมูล เกาหมิงจึงติดต่อหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้โดยตรง โดยใช้ประโยชน์จากเครือข่ายที่กว้างขวางของศูนย์เพื่อติดตามบุคคลสําหรับภารกิจส่วนตัว

เกาหมิงเริ่มป้อนข้อมูลอาชญากรจำนวนมากที่เขาเคยออกแบบไว้ลงไป บุคคลอันตรายจำนวนมากเหล่านี้ควรถูกยับยั้งโดยไวที่สุด

เนื่องจากเกาหมิงเป็นคนออกแบบอาชญากรเหล่านี้ทั้งหมดด้วยตัวเอง เขาจึงรู้ถึงข้อบกพร่องและจุดอ่อนของคนเหล่านั้นเป็นอย่างดี เกาหมิงจึงเป็นคนเดียวที่กล้าพอที่จะจัดการกับกลุ่มคนบ้าสุดโต่งและอันตรายเหล่านี้

'เกมระทึกขวัญที่ออกตามกระแสส่วนใหญ่จะไม่มีการใส่เรื่องเหนือธรรมชาติลงไป แต่เราไม่ใช่นักออกแบบตามกระแส อาชญกรหลายคนที่เราออกแบบไว้น่าจะมีความสามารถพิเศษเหมือนอย่างซวนเหวิน...'

ครึ่งชั่วโมงต่อมาเจ้าหน้าที่จากศูนย์ส่งข้อมูลถึงเกาหมิงเกี่ยวกับเป้าหมายรายแรกที่ตรวจพบ

ด้วยความสูงที่ผิดปกติรวมถึงลักษณะที่โดดเด่น ทําให้แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะหลบเลี่ยงเครือข่ายการเฝ้าระวังรอบเมือง เว้นแต่เขาจะจงใจหลบซ่อนตัว

"คลับต่อสู้ใต้ดิน?"

เกาหมิงประทับใจกับการทํางานที่รวดเร็วของศูนย์ หลังจากดูข้อมูลทั้งหมดแล้วจึงคว้าเสื้อกันฝน เตรียมออกเดินทาง

"คุณจะไปไหน? ฉันขอไปด้วยได้ไหม!" จูเหมียวเซียวยืนขึ้นและรีบคว้าขวานของเธอ

"ผมไปไม่นาน คุณรออยู่ที่นี่ก็ได้"

"แต่.. ผอ.เฉินบอกให้ฉันอยู่กับคุณ" จูเหมียวเซียววางขวานลงก่อนวิ่งไล่ตามเกาหมิงออกไป "มีภารกิจใหม่หรอ?"

"ผมแค่ออกไปพบเพื่อน" ครั้งนี้เกาหมิงไม่ได้ปฏิเสธเธอ พวกเขาร่วมกันขึ้นรถของทีมสืบสวนและขับไปทางบริเวณท่าเรือ

ฮั่นไห่หนึ่งในสามท่าเรือเสรีที่ใหญ่ที่สุดของโลก เป็นสถานที่ที่เงินสามารถซื้อได้เกือบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นงานศิลปะที่ดีที่สุดในโลก หรือกระทั่งสิ่งที่เลวร้ายที่สุด ที่นี่คุณสามารดื่มด่ำกับความสุขใดๆก็ได้ หากคุณยินดีจ่ายราคามากพอ ทุกอย่างที่คุณต้องการจะอยู่ตรงหน้าคุณ

เกาหมิงขับรถของสํานักงานอย่างชํานาญผ่านถนนที่พลุกพล่านของเมือง ในที่สุดก็ถึงถนนควีนส์สายที่สิบเอ็ด เขาจอดรถไว้ใกล้กับร้านอาหารแห่งหนึ่ง

'จากข้อมูลของศูนย์ เป้าหมายจะมาที่นี่เพื่อรับประทานอาหารกลางวันตรงเวลาทุกวัน' เกาหมิงลดหมวกลง มองจูเหมียวเซียวซึ่งนั่งตึงเครียดอยู่ในรถ ตั้งท่าพร้อมจะกระโจนลงมือตลอดเวลา เกาหมิงส่งสัญญาณมือเพื่อให้เธอสงบลง ฝนเริ่มลดน้อยลง เกาหมิงมองไปที่แอ่งน้ำที่สะท้อนภาพของเมือง รอการมาถึงของเป้าหมายอย่างใจเย็น

ทันใดนั้นเสียงฝีเท้าหนักๆ ก็รบกวนความเงียบสงบ รองเท้าบูทหนักเหยียบแอ่งน้ำกระเซ็นไปทุกที่ ผู้สัญจรไปมาก้าวหลบออกโดยสัญชาตญาณสร้างเส้นทางที่ชัดเจนขึ้นมา

เมื่อเกาหมิงมองไปที่หัวมุมเข้าสู่ถนนก็พบร่างสูงตระหง่านเกือบสองเมตร สวมชุดสูทสั่งตัดพิเศษ แนบไปกับผิวกาย เห็นได้ชัดถึงโครงสร้างกล้ามเนื้อที่พิเศษ ผิวที่เผยออกมาให้เห็นถูกปกคลุมไปด้วยรอยสักที่ซับซ้อนของยักษ์และผีที่น่าสยดสยอง

ชายคนนั้นกำลังตรงไปที่ร้านอาหาร

"นั่นเขา.. เหมือนกับภาพที่เราจินตนาการไว้จริงๆ" เกาหมิงพึมพำเบาๆ

เขาจ้องมองชายคนนั้นแล้วยิ้มเล็กน้อย แม้จากระยะนี้เกาหมิงยังรู้สึกได้ถึงความกดดันจากชายคนนั้น

เขาผลักประตู ลูกค้าภายในร้านหลีกทางให้เขาโดยอัตโนมัติ

"เหมือนเดิม!" เสียงของชายคนนั้นดังก้อง ลึกและหยาบ น่าจะเป็นผลมาจากอาการบาดเจ็บในอดีต เขานั่งลง กล้ามเนื้อของเขาตึงแน่นจนชุดสูทของเขาดูเหมือนกําลังจะระเบิด บรรยากาศในร้านอาหารตึงเครียด ลูกค้ารายอื่นกินเร็วขึ้นเพื่อที่พวกเขาจะได้ออกไปให้เร็วที่สุด

เขาดูไม่สะทกสะท้านกับสิ่งที่เห็น ซึ่งเป็นฉากที่เขาคุ้นเคยอยู่เป็นประจำ

"เถ้าแก่ บะหมี่สอง กลับบ้าน!" เกาหมิงตะโกนไปทางเคาน์เตอร์ จากนั้นเดินอย่างมั่นใจผ่านที่นั่งว่างเปล่าจำนวนมาก ก่อนนั่งลงโต๊ะตรงข้ามชายคนนั้น

เกาหมิงเทน้ำร้อนสองถ้วยให้ตัวเอง สภาพของเขาดูผ่อนคลายเป็นอย่างมาก "ได้ยินมาว่าคุณเป็นนักชกใต้ดิน แถมชนะรวดสิบสามนัด? แต่ทําไมคุณถึงใช้ชื่อปลอมลงแข่งล่ะ?"

สีหน้าของชายคนนั้นเปลี่ยนไป  ใบหน้าที่มีรอยสักของเขาบิดเบี้ยวราวกับว่ามันกำลังมีชีวิตขึ้นมา เผยให้เห็นปากที่อ้าขึ้นอย่างแปลกประหลาด

"ผมเคยรู้จักนักมวยคนหนึ่งที่หน้าตาคล้ายคุณมาก ชีวิตในวัยเด็กของเขาไม่ง่ายเลย" เกาหมิงยิ้มเล็กน้อยก่อนพูดต่อ "แม่ของเขาป่วยเรื้อรัง หลังจากที่สามีเสียชีวิต เธอก็แต่งงานใหม่เพื่อลูกชายลูกสาวของเธอและหวังชีวิตที่ดีขึ้น แต่กลับพบว่าชายคนนั้นเป็นแค่คนขี้แพ้ที่ติดพนัน อารมณ์ร้ายและหยาบคาย และสิ่งที่เขาชอบทำคือการรักษาศักดิ์ศรีที่น่าสมเพชของตัวเองต่อหน้าภรรยาและลูกบุญธรรมที่ยังเล็ก"

ขณะที่เกาหมิงพูดบรรยากาศภายในร้านอาหารดูตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ ลูกค้าที่เหลืออยู่ไม่กี่คนรีบทานอาหารให้เสร็จและจากรีบจากไป

อย่างไรก็ตาม เกาหมิงไม่มีทีท่าว่าจะจากไป เขาตั้งใจแน่วแน่กับการเผชิญหน้าครั้งนี้

"นักพนันคนนั้นไม่สมควรเป็นพ่อของใคร หลังจากที่ภรรยาของเขาเสียชีวิต เขาปฏิบัติต่อเด็กทั้งสองด้วยความรุนแรง เขาสั่งให้ลูกสาวทํางานบ้านทั้งหมดและทุบตีเธอทุกครั้งเวลาที่เธอแสดงท่าทีไม่พอใจแม้เพียงเล็กน้อย"

"เมื่อเทียบกับลูกสาวคนโต ลูกชายคนเล็กน่าเวทนายิ่งกว่า" เกาหมิงรักษาท่าทางที่สงบ เขาโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยในขณะเล่าเรื่องต่อไป เสียงของเขามีจังหวะที่ช้าลงสม่ำเสมอ "เด็กชายไร้เดียงสาและใจดีคนนั้นถูกพ่อเลี้ยงทําร้ายร่างกายและข่มขู่อยู่ตลอดเวลา ความหวาดกลัวและความเครียดที่เขาต้องเจอ ทำให้เขาต้องทุกข์ทรมารจากการปัสวะรดที่นอนเรื้อรัง และปัญหานี้ก็ยังหลอกหลอนเขามาจนถึงทุกวันนี้"

สายตาของชายที่นั่งตรงข้ามโต๊ะเปลี่ยนไป ความทรงจําอันน่าเศร้าฉีกผ่านการปลอมตัวของเขาทีละเล็กทีละน้อย

เกาหมิงสังเกตุเห็นทุกอย่าง เขาหยิบถ้วยขึ้นมาหมุนไปมา ก่อนจะเขย่าเบาๆเป็นจังหวะพิเศษ " ทุกครั้งที่เด็กชายฉี่รดที่นอน เขามักจะตบเด็กคนนั้นด้วยผ้าที่เด็กชายฉี่รดไว้ จากนั้นจะจับเด็กกดหัวลงชักโครก เยาะเย้ยเขาและคอยพร่ำบอกเด็กชายเสมอว่า แม้แต่สุนัขยังรู้ว่าต้องถ่ายอุจจาระที่ไหน"

"จบหรือยัง!" การหายใจของชายคนนั้นถี่ขึ้น ดวงตาของเขาแดงก่ำเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย ความทรงจําอันเจ็บปวดในใจของเขาถูกกระตุ้น ฝันร้ายกำลังกลับมา

ในอนาคตหยานฮัวจะกลายเป็นฆาตกรที่บ้าคลั่ง แต่ตอนนี้เขายังเบ่งบานได้ไม่เต็มที่

"เพราะกลัวที่จะฉี่รดที่นอน เขาจึงเริ่มกลัวการนอนหลับ ในแต่ละคืนเขาจะบังคับตัวเองให้ลืมตาอยู่เสมอ สิ่งนี้ทำให้เด็กเริ่มผิดปกติขึ้นเรื่อยๆ" เกาหมิงพูดเร็วขึ้นโทนเสียงเริ่มเปลี่ยนไป "ยิ่งเขาต่อต้านมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งพบเจอสิ่งที่โหดร้ายมากขึ้นเท่านั้น เขารู้ว่าความรุนแรงจะก่อให้เกิดความรุนแรงมากขึ้น ยิ่งนานวันเข้าเขายิ่งทำตัวเกินเด็ก ในขณะเดียวกันก็ยังเก็บงําความปรารถนาอันบ้าคลั่งไว้"

ชายคนนั้นค่อยๆลุกขึ้นยืน กล้ามเนื้อรัดเข้ากับชุดสูท ถูกฉีกออกจากกันด้วยกล้ามเนื้อที่ตึงเหมือนภูเขา

"พ่อเลี้ยงของเขาไม่เคยเห็นเขาเป็นมนุษย์ แม้แต่ตั้งชื่อผู้หญิงให้เขาว่าหยานฮัว" เกาหมิงพูดต่อ เสียงยังคงมั่นคง

"หุบปาก!" ชายคนนั้นยกกําปั้นขึ้นและเล็งไปที่เกาหมิง ความเดือดดาลภายในใจของเขาถึงจุดแตกหักแล้ว

"แม้ว่าเขาจะโตขึ้นและฝึกฝนจนเกือบถึงขั้นทรมานตัวเอง ความกลัวก็ยังคงอยู่ อาการบนเตียงของเขาก็ยิ่งแย่ลงเท่านั้น" เกาหมิงกล่าวเสริมอย่างไม่สะทงสะท้าน

"ฉันจะทำให้แกหุบปาก!" เสียงของชายคนนั้นเป็นส่วนผสมของความโกรธและความสิ้นหวังร่างกายของเขาสั่นสะท้าน จนกระทั้งกระดูกนิ้วของชายคนนั้นแตกออกภายใต้ความเครียด

"เขาดูถูกร่างกายของตัวเอง ผลักดันตัวเองให้หนักขึ้นในการฝึกซ้อม แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้เหตุผลที่แท้จริงเบื้องหลังความพยายามของเขา" เกาหมิงกล่าว เสียงของเขาตอนนี้ราวกับเป็นเสียงกระซิบ

เกาหมิงพูดประโยคสุดท้ายก่อนที่หมัดจะพุ่งเข้ามา "ทั้งหมดที่เขาต้องการคือฆ่าพ่อบุญธรรม"

กําปั้นหยุดลงเพียงไม่กี่นิ้วจากใบหน้าของเกาหมิง แช่แข็งอยู่กลางอากาศ คําพูดที่เฉียบคมและเปิดเผยของเขาทะลุทะลวงการป้องกันของชายคนนี้ โดยเปิดเผยความลับที่ซ่อนอยู่มานานกว่าสองทศวรรษ การเปิดเผยทําให้ชายคนนั้นรู้สึกเปราะบางราวกับยืนเปลือยกายท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด