บทที่ 1791 : รวมตัวกัน! สมาคมดารา! (2) (ตอนฟรี)
บทที่ 1791 : รวมตัวกัน! สมาคมดารา! (2) (ตอนฟรี)
จื่อห่าวเฉิน: …
ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนกำลังโดนแกล้ง
ทุกคนแอบหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าโกรธเคืองของเขา
“เอาล่ะ หยุดแกล้งเขาได้แล้ว” เยว่ฉีเฉียวปิดปากของเธอแล้วหัวเราะ
“เอาล่ะ ในเมื่อพี่สาวเยว่พูดมางั้น ฉันก็จะปล่อยเขาไปในครั้งนี้” ตู้เซียวป้าหัวเราะเบาๆ
หวังเต็งยิ้มและส่ายหัว “ก่อนหน้านั้นให้ฉันแนะนำใครบางคนก่อน”
เขามองไปที่บอเร็ตซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ อย่างเงียบๆ และแนะนำเขาด้วยรอยยิ้ม
“เอนท์!”
ทุกคนต่างมองบอเร็ตอย่างสงสัย
เผ่าเอนท์นั้นหาได้ยากยิ่งในจักรวาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอนท์ที่ทรงพลัง
ความจริงที่ว่าบอเร็ตสามารถเข้าเรียนในสถาบันได้นั้นบ่งบอกว่าเขาไม่ได้อ่อนแอ ยิ่งไปกว่านั้น หวังเต็งยังเป็นคนที่แนะนำเขาอีก มันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับพวกเขาที่จะคาดเดาไปต่างๆ นานา
ไม่มีใครอ่อนแอเมื่ออยู่ข้างหวังเต็ง
เอนท์ตัวนี้จะต้องมีคุณสมบัติพิเศษบางอย่างแน่นอนเพื่อให้ได้รับการยอมรับจากหวังเต็ง
“สวัสดีทุกคน โปรดดูแลฉันในอนาคตด้วย” บอเร็ตเกาหัวแล้วพูด
ทุกคนเงยหน้าและแนะนำตัวเอง
จากนั้นหวังเต็งก็เริ่มเข้าหัวข้อหลัก เขาอธิบายแผนการทำธุรกิจอย่างละเอียด
“ทำยา!”
“ตีอาวุธ!”
“และขายมัน!”
“การแย่งชิงธุรกิจจากคนอื่น นี่เป็นความคิดที่ดี!”
ดวงตาของทุกคนเป็นประกายเมื่อได้ยินสิ่งนี้ การหายใจของพวกเขาเร็วขึ้นราวกับว่าพวกเขาเห็นคะแนนจำนวนนับไม่ถ้วนที่บินเข้าหาพวกเขา
“ให้ตายเถอะ หวังเต็ง นายเป็นพี่ชายที่แสนดีจริงๆ นายกำลังแบ่งปันธุรกิจที่ดีนี้กับเรา” จื่อห่าวเฉินกล่าว เขาแทบจะน้ำตาไหล
มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ว่าเมื่อเร็วๆ นี้เขาต้องประหยัดเงินมากเพียงใด คะแนนเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกที่ในสถาบัน และคะแนนที่เขาได้รับมาเมื่อเข้ามาครั้งแรกก็หมดลงอย่างรวดเร็ว เขาไม่เคยรู้สึกยากจนขนาดนี้มาก่อนตั้งแต่เกิดนมา
คนอื่นๆ ต่างก็ตื่นเต้นเช่นกัน สำหรับนักเรียนรุ่นพี่ การได้รับคะแนนก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แล้วนับประสาอะไรกับนักเรียนใหม่?
หวังเต็งได้เปิดเส้นทางสู่ความมั่งคั่งให้กับพวกเขา แบบนี้แล้วพวกเขาจะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร?
“มีใครคัดค้านบ้างไหม?” หวังเต็งถาม
“ฉันไม่มีข้อโต้แย้ง หากฉันสามารถได้รับคะแนน อะไรก็ดีทั้งนั้นแหละ” จื่อห่าวเฉินส่ายหัวอย่างเร่งรีบ
“ช่วยมีศักดิ์ศรีหน่อยได้ไหม?” เยว่ฉีเฉียวพูดไม่ออก
“ถ้าเธอมีคะแนน เธอจะมีศักดิ์ศรีไปทำไม?” จื่อห่าวเฉินหัวเราะเบาๆ
“ฉันไม่อยากยุ่งกับนายแล้ว” เยว่ฉีเฉียวกลอกตาของเธอ เธอหันมาจริงจังและพูดว่า “ฉันคิดว่ามีบางอย่างที่เราต้องพูดคุยกันเพิ่มเติม”
ทุกคนตกตะลึงเมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของเธอ
หวังเต็งเลิกคิ้วขึ้น เขาไม่แน่ใจว่าเยว่ฉีเฉียวกำลังทำอะไรอยู่ เธอไม่เคยแสดงความคิดเห็นใดๆ มาก่อน
“วัตถุดิบต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับการทำยาและการสร้างอาวุธ” เยว่ฉีเฉียวพูดช้าๆ เมื่อกลุ่มหันมาสนใจเธอ
คนอื่นๆ เข้าใจอย่างรวดเร็วว่าเธอต้องการจะพูดอะไร
“แม้ว่าคะแนนส่วนใหญ่ที่ได้รับมาจากการขายสินค้าเหล่านี้จะไปที่หวังเต็ง และเราก็รับผิดชอบเฉพาะการขายและรับเปอร์เซ็นต์ที่แน่นอน แต่ฉันก็เชื่อว่าเราควรแยกคะแนนบางส่วนไว้เพื่อซื้อวัตถุดิบด้วย”
“จะมีผู้ซื้อสำหรับสินค้าเหล่านี้อย่างแน่นอน ดังนั้นมันคงจะไม่ยุติธรรมที่จะได้รับคะแนนจำนวนมากมาโดยไม่มีส่วนร่วมอะไรเลย” เยว่ฉีเฉียว กล่าว
“ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนักก็ได้ มันไม่ร้ายแรงขนาดนั้น ฉันไม่ได้รู้สึกอยากจัดการกับเรื่องการขายอยู่แล้ว และข้อตกลงก่อนหน้ามันก็ค่อนข้างยุติธรรมแล้ว” หวังเต็งพูดก่อนใครจะมีโอกาสพูด
สำหรับเขาแล้ว มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรอยู่แล้ว เขาได้รับส่วนแบ่งผลกำไรมหาศาลและไม่มีการสูญเสียใดๆ
นอกจากนี้ เขายังทำเช่นนี้เพื่อผูกมัดคนเหล่านี้ไว้ด้วยกัน โดยก่อตั้งสมาคมนักช่วยเหลือขึ้นมา ความโปรดปรานที่ให้ตอนนี้น่าจะได้รับการชำระคืนในอนาคต
“ฉันคิดว่าคำแนะนำของเย่ว์ฉีเฉียวนั้นถูกต้อง เราควรมีส่วนร่วมบ้าง” ทิโมธีลูบคางอย่างครุ่นคิด “มันอาจไม่มาก แต่อย่างน้อยก็แสดงให้เห็นถึงความพยายามของเรา”
“ฉันเห็นด้วย!” จื่อห่าวเฉินตอบโดยไม่ลังเลใดๆ
“ฉันก็เห็นด้วยเหมือนกัน!” เล้งเฉียนเสวี่ยพยักหน้าอย่างสงบและเป็นบุคคลที่สามที่แสดงความคิดเห็นของเธอ
คนอื่นๆ ก็แสดงจุดยืนของพวกเขา ไม่มีใครคัดค้าน
พวกเขาตระหนักดีว่าการเพิ่มแต้มเข้าไปเล็กน้อยในตอนนี้อาจนำไปสู่การได้รับแต้มเพิ่มในภายหลัง มันจะไม่มีการสูญเสียสำหรับพวกเขา
หวังเต็งไม่ได้คาดหวังว่าทุกคนจะตกลง ไม่มีใครแสดงความลังเลใดๆ เขาค่อนข้างประหลาดใจ
“ในเมื่อทุกคนตกลงกันแล้ว งั้นเราก็มาทำข้อตกลงกันเลยดีไหม?” เยว่ฉีเฉียวมองไปที่หวังเต็งและยิ้ม
“ถามจริง” หวังเต็งไม่รู้จะหัวเราะหรืออะไรดี
“หวังเต็ง นายเคยคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างไหม? ตอนนี้ทุกคนที่อยู่ที่นี่คือคนที่นายรู้จัก ดังนั้นนายอาจจะไม่ว่าอะไร แต่แล้วในอนาคตล่ะ? เมื่อมีผู้คนเข้าร่วมมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาทั้งหมดจะเข้ามาและรับสิทธิประโยชน์ฟรีๆ งั้นหรอ? มันไม่มีข้อตกลงที่ดีเช่นนี้ในโลกหรอกนะ” เยว่ฉีเฉียวกล่าวอย่างเคร่งขรึม
“พี่เยว่พูดถูก ลูกพี่ ฉันเห็นด้วยกับพี่เยว่” เวดยกมือขึ้น “มันต้องมีความพยายามก่อนที่จะได้รับ ด้วยวิธีนี้ เราก็จะไม่มีทางขาดทุน”
“เราจำเป็นต้องสร้างกฎที่มีรายละเอียดมากขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นเอาเปรียบเรา” เยว่ฉีเฉียวกล่าว
“เอาล่ะ เธอพูดไปหมดแล้ว ฉันคิดว่าฉันสามารถนั่งพักได้แล้วล่ะ” หวังเต็งยักไหล่และยิ้ม
“นายกำลังทำตัวไร้เดียงสาหลังจากได้รับประโยชน์จากมัน” เยว่ฉีเฉียวกลอกตาของเธอ
ทันทีที่เธอพูดจบ เธอก็สังเกตเห็นทุกคนมองเธอด้วยสีหน้าแปลกๆ...