ตอนที่แล้วตอนที่ 22
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 24

ตอนที่ 23


ตอนที่ 23

กระบวนการรักษาของเจนนี่นี่เรียกได้ว่าชวนสยองขวัญแต่ก็ 'ยั่วสายตา' อยู่เหมือนกัน เพราะเธอขอให้ดิโอทำให้สีผิวทั้งหมดให้เข้ากันกับใบหน้า ทำให้เธอรู้สึกคันไปทั่วร่างกาย ทำให้เธอเผลอเกาเองโดยไม่ได้คิด แต่เพราะใส่เสื้อผ้าอยู่ด้วย เลยเกิดอาการรำคาญแล้วก็ถอดเสื้อผ้าออกโดยไม่รู้ตัว

ช่วงแรกดิโอพยายามหลบเลี่ยงที่จะมองเจนนี่ตามหลักคุณธรรมในใจ แต่สัญชาตญาณของผู้ชายไม่อาจยอมทำตามได้ เลยแอบแวบไปเห็นร่างเปลือยเปล่าของเธอ

แล้วก็ 'ไม่ได้คาดหวัง' ว่าเจนนี่จะดูเย้ายวนยิ่งกว่าตอนใส่เสื้อผ้าอีก

หลังจากเจนนี่เสร็จกระบวนการรักษาและสวมเสื้อผ้ากลับเข้าที่แล้ว ดิโอเข้าไปหาเหมือนกับว่าไม่เกิดอะไรขึ้น

"การรักษาเสร็จสิ้นครบถ้วนแล้วครับ ได้ตามที่คุณขอไว้ หวังว่าวันนี้จะพอใจนะครับ"

เพราะพื้นที่จะต้องทำให้สม่ำเสมอนั้นกว้าง ต่อให้ทำถึงสามขั้นตอนแต่ก็ปรับเปลี่ยนได้แค่ส่วนบนของร่างกายเท่านั้น

แต่โชคดีที่เจนนี่พอใจมากอยู่แล้ว แต่เพราะเมื่อครู่เผลอให้ดิโอเห็นหมด ปากก็ไม่อยากจะพูดมาก แค่เอาเช็คหมื่นเหรียญวางไว้บนโต๊ะแล้วก็ชิ่งออกมาอย่างไวกับเจสสิก้า

ดิโอรีบเก็บเช็คอย่างอารมณ์ดี แล้วก็ตะโกน "วิลล์ จะหลับนานแค่ไหนกันน่ะ? ออกมาช่วยทำความสะอาดหน่อย!"

อีกด้านหนึ่ง เจนนี่และเจสสิก้าที่กำลังยุ่งเหยิงวิ่งห้อขึ้นรถมาอย่างเร็ว ต่างจ้องมองร้านของดิโออยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเข้าไปในรถ อาจจะอิจฉานิดๆ ที่เขาจะได้กินอาหารมหัศจรรย์เมื่อไหร่ก็ได้

พอปิดประตูรถแล้ว ทั้งสองก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

"เกินจะอายแล้วนะแบบนี้ โชคดีนะที่แฟนหนุ่มจอมทะเล้นของเธอยอมให้ฉันยืมเสื้อผ้าไว้ใส่แก้ขัด" เจสสิก้าซึ่งนั่งอยู่ในตำแหน่งคนขับสตาร์ทเครื่องรถอย่างรวดเร็ว ก้มลงมองกางเกงเปียกๆ ของตัวเองด้วยรอยยิ้มแล้วก็เหยียบคันเร่ง

เจนนี่ก็อยากจะปลอบว่าครั้งแรกที่เธอโดนก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน แต่พอรู้จักนิสัยเจสสิก้าดีแล้วก็อดใจไม่พูด เพราะกลัวโดนล้อกลับภายหลัง

"ตอนนี้เชื่อคำพูดของฉันแล้วใช่มั้ยล่ะ? ถ้าไม่ใช่เพื่อนกันฉันคงไม่แบ่งปันความลับแบบนี้กับเธอหรอกนะ"

เจนนี่ทำหน้าอวดดีเพราะเจสสิก้ารู้แล้วว่าอาหารของดิโอมัน 'มีอยู่จริง'

"ยอมรับก็ได้ว่าใจร้อนเกินไปหน่อย ฉันขอโทษด้วยค่ะ แต่ช่วยอธิบายได้มั้ยว่าทำไมในโทรศัพท์ของเธอก็เลยมีรูปฉันเต็มไปหมด?"

เจสสิก้ารู้ว่าตอนที่เธอมัวยุ่งอยู่นั้นเจนนี่ถ่ายรูปเล่นไปเพียบ แล้วยังเล่นโทรศัพท์ไปหัวเราะไปด้วย เธอรีบคว้าโทรศัพท์มาจากเจนนี่ทันที!

ถึงจะขอโทษไปด้วยความจริงใจ แต่ในฐานะผู้หญิงที่ต้องห่วงภาพลักษณ์ด้วยแล้ว ไม่มีสิทธิ์ปล่อยให้มีรูปน่าขายหน้าโผล่มาได้แน่ ยิ่งคนถ่ายเป็นเจนนี่ด้วยแล้ว!

"เฮ้ เธอรู้ว่าฉันแค่ล้อเล่น?"

"งั้นถ้าแบบนั้นแสดงว่าไม่รังเกียจที่จะให้ฉันลบละสิ?"

"แน่นอน..." เจนนี่จำใจต้องตอบ

"เอาจริงๆ นะ ฉันก็มีรูปของเธอเหมือนกันนะ เป็นภาพเปลือยแบบชัดแจ๋วด้วย อยากดูมั้ยล่ะ?"

"โห! ตะโกนด่าฉันได้ แต่ยังถ่ายรูประหว่างที่ฉันไม่ทันสังเกตอีกนะ!"

"เอาคำพูดที่เธอพูดก่อนหน้านี้มาใช้บ้างก็แล้วกัน เธอรู้ว่าฉันแค่ล้อเล่น? ถึงแม้มันจะไม่ตลกซักเท่าไหร่ก็เถอะ"

"โอเคๆๆ เธอชนะ ฉันขอโทษแล้วกัน หมื่นเหรียญที่ติดค้างเธอฉันจะรีบหามาคืนให้" เจนนี่ยอมแพ้แล้ว

"ไม่ เรื่องนั้นฉันไม่ใส่ใจ แค่ลบรูปฉันทิ้งให้หมดก็ได้แล้ว ไม่ได้แบ็กอัพไว้ที่ไหนด้วยใช่มั้ยล่ะ?"

เจนนี่ทำหน้ายิ้มฝืดๆ "แน่นอนอยู่แล้ว ฉันไม่มีทางทำเรื่องที่ไร้สาระแบบนั้น"

"งั้นก็โอเค ต่อไปอย่าทำอย่างนี้อีกนะ เดี๋ยวภาพลักษณ์ของฉันเสียหมดพอดี เข้าใจมั้ย?"

เจนนี่พยักหน้าอย่างหดหู่ ถือว่าต่างคนต่างคืนกัน ถึงแม้จะพูดแบบนั้นแต่ในอีกที่เก็บข้อมูลก็ยังมีรูปของแต่ละคนอยู่อีกหลายใบเหมือนกัน แต่ทั้งคู่ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ เก็บไว้เป็น 'ไพ่ตาย' กันต่อไปมากกว่า

พอตกลงเรื่อง 'การลบรูป' กันเสร็จก็หัวเราะขำๆ แล้วเปลี่ยนเรื่องคุย

ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีจะเป็นฤดูกาลเสียภาษีเงินได้ ในสหรัฐอเมริกาช่วงนี้จะต่อเนื่องไปถึงกลางเดือนเมษายน

แต่ดิโอตอนนี้กระเป๋าแฟบ ค่าซื้อร้านเล็กๆ นี้ทำให้พ่อแม่ของเขาทุ่มเงินแทบหมดตัว นอกจากค่าใช้จ่ายที่เหลือก่อนจะเสียชีวิตแล้วก็แทบจะไม่ได้ทิ้งอะไรไว้ให้เป็นมรดกเลย ดิโอเอาเงินนั้นมาใช้จัดงานศพให้ท่านด้วย

แต่กรมเก็บภาษีไม่ได้สนใจถึงฐานะของดิโอ หลังจากยื่นภาษีไปแล้วนอกจากเงินได้แล้วยังมีภาษีมรดก รวมไปถึงบรรดาภาษีจุกจิก ทำให้สีหน้าของดิโอหม่นหมองเมื่อนึกถึงหน่วยงานนี้ขึ้นมา

เขาได้รับอนุญาตให้เลื่อนกำหนดเวลาจ่ายได้เพียง 6 เดือนเท่านั้น ก็เพราะแบบนี้แหละเลยพยายามทำเงินให้มากที่สุดในช่วงแรก ไม่อย่างนั้นคงถูกเล่นงานได้ พวกกรมเก็บภาษีหาเรื่องมาใส่ความจนสามารถออกหมายจับได้แน่

พวกเขาทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย ถึงแก๊งเจ้าถิ่นโหดๆ ยังสู้เขาไม่ได้เลย ฉะนั้นดิโอไม่มีทางจะไปสู้กับเขา

หลังจากยื่นเรื่องขยายเวลารายงานชำระภาษีแล้ว ก็รีบเอาเช็คเงินสดมูลค่าแสนหนึ่งเหรียญไปแลกมา แล้วก็เดินทางไปยังร้านขายทองคำ ซื้อทองคำแท่งมา 100,000 ดอลลาร์ ได้ทองคำแท่งน้ำหนัก 100 กรัมมา 20 แท่ง ค่าภาษีก็สี่พันเหรียญ

ก่อนจะออกจากร้าน ผู้จัดการร้านได้ยื่นนามบัตรให้กับดิโอด้วย ถึงจะไม่แปลกว่ามีลูกค้าใช้เงินเกินแสน แต่ที่แปลกคือซื้อเป็นทองคำแท่งทั้งหมดเลย คนที่มีพฤติกรรมแบบนี้มักใช้ในจุดประสงค์อื่น ไม่ใช่เพื่อเก็บสะสมหรือใช้ในชีวิตประจำวันแน่

ยังไงก็ตาม การรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าขาใหญ่ไว้ก่อนเป็นเรื่องสำคัญ

ยิ่งหลังจากยื่นนามบัตรให้แล้ว ผู้จัดการหัวล้านยังกระซิบเบาๆ กับดิโออีกว่า "คราวต่อไปถ้าคุณต้องการทองคำราคาถูกหน่อยก็ติดต่อผมได้นะ"

ดิโอพยักหน้านิ่งๆ แล้วออกจากร้านไป

แน่นอนอยู่แล้วที่เขาเข้าใจว่าผู้จัดการร้านกำลังบอกอะไร คำว่า 'ของถูก' ในที่นี้หมายถึง 'ของผิดกฎหมาย' ที่ไม่สามารถเอามาขายตามร้านทั่วๆ ไปได้!

ก็ไม่แปลกใจที่เขามีเส้นสายในเรื่องพวกนี้ ลองคิดดูดีๆ ก็พอจะรู้ว่าพวกทองคำหรือเครื่องประดับที่ถูกขโมยมาจะมีคนรับซื้อในราคาถูก เพราะเป็นของผิดกฎหมายและไม่มีใบรับรอง

ผู้จัดการร้านเหมือนกำลังบอกดิโอว่าทองคำแท่งที่ใช้ในการจับสลากไม่ต้องเป็นของแท้ก็ได้ ถึงจะเป็นของขโมยมาเขาก็ยินดีขาย แล้วต่อให้เอฟบีไอมาสืบก็ไร้หลักฐานเพราะไม่ได้ออกใบรับรองให้ตั้งแต่แรก

แล้วเพราะไม่ต้องผ่านขั้นตอนทางกฎหมายแบบนี้มันเลยถูกมาก แม้จะตั้งราคาแค่หนึ่งในสามของราคาปกติก็ยังไม่มีใครบ่นได้!

ถึงจะมองเห็นช่องทางแล้ว แต่ดิโอตอนนี้ไม่มีความสามารถพอที่จะป้องกันตัวเอง ไม่อยากไปดึงดูดความสนใจเกินความจำเป็น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด