บทที่143 ความเจ็บป่วยระยะสุดท้ายของอาเมะยูริ ริงโกะ ฟรี
แคว้นแม่น้ำ
เสียงหัวเราะร่าของริวอุนดังขึ้น จากนั้นร่างของเขาก็กระพริบไปอยู่ตรงหน้าเทรุมิ เมย์ คุไนในมือเขาจ่อเข้าไปตรงคอขาวของลูกศิษย์ตนเอง
เมย์ซึ่งกำลังเต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ต้องชะงักแล้วกลืนน้ำลายหนืดลงคอ เหงื่อเย็นไหลจากหน้าผาก
“ฉันบุกเข้าไปหาเธอตรง ๆแต่ก็ยังรับมือไม่ได้ นี่แสดงให้เห็นว่าเธอยังอ่อนแอเกินไป ครั้งหน้าเธอควรจะท้าทายร่างแยกของฉันก่อนจะมาท้าทายร่างจริงอย่างฉันนะ” ริวอุนเคาะหัวเมย์เบา ๆแล้วเก็บคุไนกลับเข้ากระเป๋าไป
หลังจากการสู้รบบนหุบเขานากาคุสิ้นสุดลง แคว้นแม่น้ำก็เข้าสู่ช่วงสงบสุขอันน่าประหลาด นินจาซึนะไม่ได้รับคำสั่งอะไรจากหมู่บ้าน พวกเขาเลยประจำอยู่ในค่ายเงียบ ๆ
ฝั่งโคโนฮะ พอได้ยินข่าวการต่อสู้ พวกเขาก็ออกคำสั่งให้ปกป้องค่ายเอาไว้โดยไม่จำเป็นต้องต่อสู้กันต่อ
ในเมื่อไม่มีสงคราม ริวอุนก็ผ่อนคลายเช่นกัน เขาเลยใช้ช่วงเวลานี้ไปฝึกให้กับเมย์ทุกวัน
“อาจารย์ขี้โกง!” เมย์หน้ามุ่ยด้วยความไม่พอใจ
“เอาน่า ทำตามที่บอกแล้วฝึกฝนขีดจำกัดสายเลือดของเธอให้ดีก็แล้วกัน” ริวอุนเคาะหัวเมย์ไปอีกโป๊ก
เมย์พยักหน้าเบา ๆอย่างเชื่อฟัง แล้วเดินจากไปเพื่อฝึกฝนคาถาหลอมละลายและคาถาเดือดพล่านของเธอต่อ
คิซาเมะกับคุโมะเองก็กำลังฝึกอยู่ไม่ไกลเหมือนกัน โดยคิซาเมะฝึกการใช้คาถาฉลามของเขา ส่วนคุโมะจะเป็นการเปลี่ยนจักระลมเพื่อตัดใบไม้
“คิซาเมะ ฉันมีของขวัญจะให้เธอด้วย” ริวอุนมองตามหลังเมย์แล้วหันกลับมาตะโกนเรียกคิซาเมะแทน
“ของขวัญเหรอครับอาจารย์” คิซาเมะหยุดฝึกก่อนจะเบนสายตามามองอาจารย์ของตน
“ใช่ เธอจะรู้เองเมื่อถึงเวลา” ริวอุนคลี่ยิ้ม เขาไม่ได้บอกใบ้เลย เพราะของขวัญของคิซาเมะคือซาเมฮาดะหรือดาบหนังฉลามนั่นเอง แต่ดาบหนังฉลามยังอยู่ในมือของซุยอินคาซัน ฟุกุคิอยู่
ทว่าเขาจำสงครามโลกนินจาครั้งที่ 3 ได้ดี เพราะว่าซุยอินคาซัน ฟุกุคิ จะต้องตาย พอถึงเวลานั้น เขาค่อยไปชิงดาบนั้นมาให้
“ครับอาจารย์” คิซาเมะตอบรับแล้วไม่ถามอะไรอีก
ต่อมาริวอุนก็เบนสายตาไปมองยูฮิ คุเรไน เด็กสาวมีสีหน้าลังเลนิดหน่อยราวกับว่าอยากถามแต่ก็กลัว
“นี่ ฉันรู้ว่าเธออยากถามอะไร... อยากให้ฉันสองวิธีฝึกให้ใช่ไหม?” ริวอุนกล่าวถาม
“อืม” คุเรไนพยักหน้าราวกวับไก่
ตอนนี้เธออายุเท่าเมย์ แต่เมย์ได้กลายเป็นจูนินไปแล้วและบวกกับความแข็งแกร่งของขีดจำกัดสายเลือด ทำให้เมย์ยิ่งเก่งขึ้นกว่าเดิม กลับกัน เธอในฐานะคนอายุเท่ากันกลับยังย่ำอยู่กับที่
“ฉันไม่มีปัญหานะ มาสิ!” ริวอุนกวักมือเรียก
แม้ว่าเขาจะไม่ใช่นินจาผู้เชี่ยวชาญคาถาลวงตา เขาก็ยังใช้เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาได้ ดังนั้นถ้าแค่ให้คำแนะนำก็ไม่มีปัญหา
เวลาผ่านไป ทุกคนต่างก็ฝึกฝนตามคำสั่งริวอุน ในขณะที่กำลังจะกลับค่าย ริวอุนก็ได้ยินเสียงทักทายอันคุ้นเคย พอหันกลับไปดูก็เห็นว่าเป็นบิวะ จูโซ
“จูโซ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?” ชายหนุ่มถาม
“ริงโกะป่วย” บิวะ จูโซกล่าว สีหน้าของเขาดูมีความวิตกกังวลมาก
“ริงโกะ? ป่วย?” ริวอุนขมวดคิ้ว
ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงมังงะต้นฉบับออก ในฐานะหนึ่งในเจ็ดดาบนินจาในอนาคต อาเมะยูริ ริงโกะไม่ได้ตายในสนามรบแต่เสียชีวิตด้วยอาการป่วยระยะสุดท้าย
ตอนเธอถูกปลุกขึ้นมาจากคาถาสัมภเวสีคืนชีพ เธอมีอายุเพียงสิบแปด สิบเก้าปีเท่านั้นเอง กล่าวอีกนัยหนึ่ง ริงโกะจะเสียชีวิตภายในเวลาใกล้ ๆนี้
“นินจาแพทย์วินิจฉัยแล้ว ว่ากันว่าเธอเป็นโรคร้ายแรงระยะสุดท้าย ระดับการรักษาของคิริงาคุเระมันไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้เลย” จูโซพูดขึ้น
“ไว้ก่อน พาฉันไปหาริงโกะหน่อย” ริวอุนไม่ได้พูดอะไรมาก เขาหายตัวไปยังหน่วยแพทย์สนามทันที
บิวะ จูโซเองก็รีบตามไปติด ๆ
ในกระโจมแพทย์
อาเมะยูริ ริงโกะกำลังนอนอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าซีดเซียว เธอพบอาการของเธอเริ่มหนักขึ้นตั้งแต่เมื่อเดือนก่อน ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก
จนมาวันนี้ ริงโกะก็เป็นลมไป พอตื่นขึ้นก็มานอนอยู่ในกระโจมหน่วยแพทย์แล้ว
“รู้สึกยังไงบ้าง?” เสียงคุ้นเคยดังขึ้นมา ริงโกะหันไปมองริวอุนช้า ๆ
“นายมาดูสภาพน่าทุเรศของฉันงั้นเหรอ? ฉันอยากตายในสนามรบมากกว่าตายบนเตียงพยาบาลโง่ ๆนี่” ริงโกะหัวเราะสมเพชตัวเอง เธอได้รู้ข่าวสภาพตัวเองจากหน่วยแพทย์แล้วว่าตัวเธอนั้นคงไม่มีโอกาสรอดชีวิต
“ยายโง่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่น่ะ?” ริวอุนเดินเข้ามาดีดหน้าผากริงโกะด้วยสีหน้าโกรธเคือง
แม้ว่าริงโกะจะน่ารำคาญแต่เธอก็น่านับถือ พวกเขาสองคนเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเดียวกันและรู้จักกันมานานกว่าสิบปีแล้ว เวลาแบบนี้จะให้เขามาเยาะเย้ยเธอได้ยังไง?
“แล้วทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่เล่า?!” ริงโกะดูสดใสขึ้นนิดหน่อย หญิงสาวจ้องริวอุนด้วยแววตาต้องการสู้กับเขา
“ก็มาเพื่อช่วยเธอไงล่ะ” ริวอุนหยิบใบรับรองแพทย์ข้างเตียงนอนของริงโกะขึ้นมาอ่าน แค่มองเขาก็เข้าใจเลยว่าริงโกะอาการหนักจริง ๆถึงเขาจะไม่เข้าใจวิชาแพทย์ก็ตาม
ไม่ต้องพูดถึงการแพทย์ของคิริงาคุเระ แม้แต่ซึนะเดะซึ่งได้ชื่อว่าแพทย์ที่เก่งที่สุดก็ยังไม่สามารถรักษาโรคนี้ให้หายขาดได้
“มาช่วยฉัน?” ดวงตาริงโกะเบิกกว้าง แววตาที่เคยสิ้นหวังเริ่มกลับมามีความหวังอีกครั้ง
“ก็ใช่ แค่วิธีนี้มันอันตราย ถ้าไม่สำเร็จ เธอก็ต้องตายอยู่ดี” ใบหน้าริวอุนมีความจริงจังเป็นพิเศษ
เขาอาจไม่รู้วิชาแพทย์แต่อย่าลืมว่าเขามีร่างเซียนขั้นสูง ตราบใดที่ริงโกะฉีดเซลล์ของเขาเข้าไป การเจ็บป่วยระยะสุดท้ายนี้จะหายไปแน่นอน เพียงแค่มันมีความเสี่ยงสูงเท่านั้น
เพราะเซลล์ของเขามันเหมือนกับเซลล์ของโฮคาเงะรุ่นที่ 1 หากริงโกะผ่านมันไปไม่ได้ เธอจะต้องตายไม่ต้องสืบเลย
กลับกัน หากริงโกะผสานเข้ากับเซลล์ของเขาได้ ไม่เพียงโรคจะหายดี เธอจะยังได้รับร่างเซียนเข้าไปเล็กน้อย ซึ่งมันเพิ่มจักระและความแข็งแกร่งของเธอมากกว่าเดิมเสียอีก
ริวอุนบอกความเสี่ยงทั้งหมดให้ริงโกะฟัง ซึ่งเธอก็พยักหน้าแบบไม่ลังเล ในเมื่อตอนนี้เธอกำลังจะตาย ยอมเสี่ยงแล้วมีโอกาสหายก็น่าจะดีกว่า หากสำเร็จก็ดี ไม่สำเร็จก็แค่ตายเร็วขึ้นเท่านั้น
***************************