ตอนที่ 15 ข่าวลือจาก เฮลส์ คิทเช่น
"หึ? เกิดอะไรขึ้น?"
"ก็เป็นเรื่องที่ฉันได้ยินมาจากพวกจรจัดน่ะครับ พวกเขาว่าจู่ๆ ก็มีคนแปลกหน้า 2 คนโผล่มา แล้วไปหาเรื่องสมาชิกแก๊งชื่อดัง จากที่ได้ยินมา พวกมันเจ็บตัวกันทุกคน พวกขอทานดันเห็นเหตุการณ์เข้าก็เลยวิ่งแจ้นกันเลย
"แน่นอนว่าฉันชอบสองคนที่พึ่งโผล่มามากกว่าพวกนักเลงพวกนั้นนะ เพราะสองคนนั้นไม่ได้หาเรื่องคนอื่น มีแต่จะไปยุ่งกับพวกแก๊งเท่านั้น"
เรื่องแบบนี้สำหรับวิลล์แล้วแทบจะเป็นผู้เชี่ยวชาญเลย ไม่มีอะไรต้องสงสัยเลย
ดิโอคาดไว้แล้วว่าคงจะมีเรื่องแนวๆ นี้เกิดขึ้น ไม่แปลกใจอะไรเท่าไหร่เลย อาจจะมีโอกาสได้พบกับ 'คุณปู่สแตนลี' (ผู้ให้กำเนิดเหล่ามาร์เวล) ด้วยซ้ำไป
จากที่ได้ยินมา ดิโอเดาได้เลยว่าวิลล์รู้สึกสนใจ 2 คนที่ไปหาเรื่องมาเฟียนั่นอยู่พอสมควร หนึ่งในสองคนนั้นเขาพอเดาออกว่าเป็นใคร แต่คนที่เหลือยังไม่รู้ว่าเป็นใครกัน ยอมเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงกับพวกแก๊งเนี่ย ไม่ใช่เป็นสิ่งที่วิลล์จะทำแน่ๆ
แน่นอนว่ามันเป็นวิธีป่าวประกาศชื่อและ "กำจัดคนชั่ว" ที่ได้ผลดีมาก เหมาะแก่การสร้างชื่อเป็น 'วีรบุรุษ' หรือ 'ผู้กล้า' อย่างไรอย่างนั้น แต่ว่าภารกิจแบบนี้นั้น ถ้าไม่มีพลังพิเศษเหนือธรรมชาติ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยที่จะเอาตัวรอดในสถานการณ์วิกฤตแบบเมื่อโดนยิงจากมุมอับนะ ถึงจะมีคลื่นมนตราช่วยก็เถอะ
เป้าหมายหลักของดิโอตั้งแต่แรกคือดูแลให้ตัวเองปลอดภัย ส่วนการกอบกู้โลกมนุษยชาติน่ะเหรอไม่เคยคิดจะทำอยู่แล้ว ไม่มีใครคาดหวังให้คนอย่างเขามาทำด้วย แล้วถึงจะมีพลังวิเศษอะไร เขาก็จะไม่ยุ่งกับเรื่องพวกนั้นอยู่ดี
อาจจะยกเว้นไว้หน่อยนึงถ้ามันเป็นเรื่องคอขาดบาดตายจริงๆ ถึงจุดนั้นค่อยว่ากันใหม่ ตอนนี้ยังมีเวลาไม่ต้องรีบร้อนคิดถึงเรื่องยากๆ
จากนั้นวิลล์ก็ถามถึงการตกแต่งร้านของดิโอ
ดิโอรีบล็อกประตูให้เรียบร้อย กลัวจะมีใครเปิดเข้ามาได้ยินสิ่งที่กำลังจะพูดอยู่
สีหน้าของดิโอเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมาทันที พูดกับวิลล์ว่า "ฉันดันไปเจอตำรับอาหารบำรุงจากตะวันออกเข้า นายคงสังเกตเห็นแล้วว่าช่วงนี้สุขภาพกายและใจฉันดีขึ้นเยอะเลยใช่มั้ยล่ะ? ก็ต้องขอบคุณสูตรอาหารนี่แหละ แต่สมุนไพรต่างๆ ที่ต้องใช้แพงมาก คนทั่วไปจ่ายค่าอาหารแบบนี้คงไม่ไหว ก็เลยจำเป็นต้องมีแค่โต๊ะเดียว อีกอย่าง ถ้าผมตั้งหลายโต๊ะเต็มร้านแบบปกติ แขกก็จะไม่รู้สึกว่ามันพิเศษยังไงน่ะ พอเหลือโต๊ะนี้แค่โต๊ะเดียว ทุกคนก็จะเข้าใจว่าสมุนไพรพวกนั้นหายาก เจ๋งมั้ยล่ะ"
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเพชรสามารถหาได้ตามท้องถนน เหมือนหินธรรมดา มันจะมีราคาขึ้นมาได้ยังไง? ก็เพราะมันมีจำนวนน้อยไงล่ะ ถึงได้แพง
เหตุผลอีกอย่างนึงที่ดิโอไม่กล้าบอกวิลล์ก็คือ เขาไม่อยากทำงานหนักเพื่อหาเงินมากกว่าที่จำเป็นเท่านั้นเอง! แต่เพราะตอนนี้เป็นผู้ใช้สแตนด์ในจักรวาลมาร์เวลแต่ละอย่าง ถ้าไม่ทำอะไรบ้างเลยก็จะรู้สึกไม่ดี
วิลล์พยักหน้าอย่างใจลอย แล้วก็ถามเหมือนไม่ได้สนใจเท่าไหร่ "แพงขนาดนั้นเชียวเหรอ?"
"คนละหมื่นเหรียญ" ดิโอกล่าวสบายๆ
"หมื่นเหรียญ!? นายบ้าไปแล้วหรือไง?" สีหน้าตกใจของวิลล์เหมือนกับที่เจนนี่แสดงออกตอนนั้นไม่มีผิด ถึงกับอยากลากดิโอไปหาหมอจิตเวช
"ถ้ายังไม่ได้ลองกับตัวเองนายก็คงไม่เข้าใจหรอก วันนี้ฉันเปิดร้านแล้วล่ะ เดี๋ยวจะทำอาหารบำรุงให้กิน พอเสร็จแล้วนายค่อยบอกก็ได้ว่ามันคุ้มกับหมื่นเหรียญแค่ไหน" ดิโอพูดอย่างมั่นใจเต็มเปี่ยม
"โห! อาหารหนึ่งมื้อราคามันหลักหมื่น เกิดมาไม่เคยได้ลองอะไรแพงขนาดนั้นมาก่อนเลยนะ ขอบใจมากนะเพื่อน!" วิลล์ไม่เชื่อหรอกนะว่าร้านเล็กๆ ของดิโอจะทำอาหารที่สมควรกับราคาหลักหมื่นได้ อีกอย่าง ถึงจะมีเงินเยอะขนาดนั้นก็เอาไปกินในร้านหรูๆ ดื่มไวน์ชั้นดีไม่ดีกว่าเหรอ
ดิโอรู้ดีว่าวิลล์ไม่เชื่อ แต่เขาก็ไม่สนใจอยู่แล้ว เดี๋ยวพูดไปก็ไม่มีประโยชน์ พอได้ลิ้มรสฝีมือเขาแล้วต้องเปลี่ยนความคิดไปเองแน่ๆ
ดิโอมองดูร่างกายวิลล์อย่างละเอียด เพื่อที่จะให้การรักษาที่เหมาะกับเขาที่สุด
เพราะวิลล์เป็นคนผิวดำ เลยทำให้เรื่องทำให้ผิวขาวขึ้นหมดความหมายไป เพราะฉะนั้นต้องคิดหนักเลยว่าเขามีปัญหาตรงไหนอีกบ้าง อย่างเช่นดิโอสังเกตเห็นรอยฟกช้ำตามตัวเขามากมาย แน่นอนว่าต้องมาจากการต่อสู้ ถึงจะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร แต่เพราะอยากให้วิลล์ประหลาดใจที่จู่ๆ รอยช้ำพวกนั้นหายไป ก็เลยจะรักษาให้
พอเข้าครัวแล้ว ดิโอเร่งเรียก 'มะเขือเทศลูกเล็ก' ออกมา 3 อัน
"เลือกเป้าหมาย วิลล์"
"การรักษา รอยฟกช้ำทั่วไป นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย ลบรอยแผลเป็น"
"เฮ้! เฮ้!"
เจ้า 'มะเขือเทศลูกเล็ก' 3 อันลอยอยู่ในอากาศแล้วก็พยักหน้าพร้อมกัน จากนั้นก็พุ่งเข้าไปผสมกับวัตถุดิบที่ดิโอเตรียมไว้ วัตถุดิบ 'สุดแพง' ที่เขาซื้อมาเตรียมไว้เพื่อวันเปิดร้านก็คือไก่ดำ กับเห็ดนี่แหละ
ถึงจะเก็บความลับเรื่อง 'สูตรอาหารบำรุง' ไว้อีกเยอะ แต่ก็ต้องเปิดเผยบางส่วนกับวิลล์อยู่ดี โชคยังดีที่ดิโอยังมีข้ออ้างมากมายเผื่อมีคนแถวนี้สงสัยหรือถามขึ้นมา สุดท้ายเขาคงไม่คิดอะไรมาก ตัดสินใจว่ามันเป็นเวทมนตร์หรืออะไรทำนองนั้นเอง
ขอแค่ไม่ดึงดูดความสนใจของหน่วยชีลด์มาที่เขา ก็คงอยู่รอดได้อีกพักใหญ่ จนกว่าจะเก่งพอที่จะปกป้องตัวเองได้
ที่สำคัญคือ ถึงชีลด์จะเริ่มสงสัยแล้ว ก็ยังหาหลักการทำงานของ 'อาหารบำรุง' ของเขาไม่เจอแน่ๆ ซึ่งจะทำให้เขาพอมีเวลาเหลือเฟือที่จะฝึกใช้พลังต่อไปอีกหน่อย
หลังจากล้างผัก หั่นผักอย่างชำนาญแล้ว ดิโอก็จุดเตา เอาหม้อต้มที่มีไก่ดำกับเห็ดต่างๆ วางไว้บนเตา
ระหว่างรออาหารหลักให้สุกได้ที่ เขาก็ไม่ได้ปล่อยเวลาให้เสียดาย เตรียมส่วนประกอบอื่นๆ ไปด้วยเลย
ผ่านไปสักพัก ก็มีโทรศัพท์จากเจนนี่มา บอกว่าใช้ความพยายามอย่างหนักกว่าจะหาเพื่อนในกลุ่มไฮโซที่มีฐานะรวยๆ มาลองกิน 'อาหารหมื่นเหรียญ' ของเขาได้ "อืม ผู้หญิงคนนั้นคงเป็นคุณหนูไฮโซที่ชอบไปสายสินะ"
พอได้เวลาแล้ว เขาก็เอาไก่ที่ต้มไว้มาผัด แล้วก็เตรียมพุดดิ้งเป็นของหวาน
ถ้าใครได้เห็นวิธีทำอาหารของเขาแล้วเนี่ย มีโดนฟ้องแน่ๆ ฐานขายอาหารแบบนี้ด้วยราคาหมื่นเหรียญ
ผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง แขกผู้ร้อนใจก็เริ่มหมดความอดทนแล้วกับการนั่งรออาหารหมื่นเหรียญอยู่
หม้อต้มหนึ่งอัน สเต๊กร้อนๆ อีกจาน และพุดดิ้งที่ดูภายนอกแล้วเหมือนซื้อมาจากซูเปอร์มาร์เก็ต...เสร็จเรียบร้อยพร้อมเสิร์ฟ