ตอนที่ 36 วิธีที่ง่ายที่สุด
ตอนที่ 36 วิธีที่ง่ายที่สุด
"ใครอยากจับคนให้ไปที่เรือนเหมย!"
ยามนี้จี้หรูเปยแตกต่างจากที่เซียวเฉินเคยเห็นเมื่อหลายวันก่อนโดยสิ้นเชิง มาดทรงภูมิยังคงอยู่ ทว่าคำพูดของเขากลับเต็มไปด้วยความหนักแน่นที่ไม่อาจโต้แย้งได้
อย่างที่เขาเคยบอกกับเซียวเฉิน ไม่มีใครสามารถรังแกลูกศิษย์เรือนเหมยได้!
จัวเหลี่ยและคนอื่น ๆ เผยแววเกรงกลัวในดวงตาของพวกเขา ให้ไปที่เรือนเหมยเพื่อจับคนต่อหน้าอาจารย์เหมยหรือ
ผู้ใดจะกล้าเช่นนั้น
"หลีกทางไป" จี้หรูเปยพูดอีกครั้ง ร่างของเขาราวกับมีเงาอักษรโบราณเปล่งแสงเจิดจ้าล้อมรอบ
ดวงตาของจัวเหลี่ยแดงก่ำ หากจี้หรูเปยพาคนไปในเวลานี้ ตระกูลจัวจะเอาหน้าไปไว้ที่ใดอีก
"จี้หรูเปย แม้เจ้าจะได้อันดับสองในงานเลี้ยงโอรสสวรรค์ แต่นั่นก็เป็นตอนที่เจ้ายังอยู่ในขอบเขตสะพานชีวา บัดนี้เจ้าเป็นเพียงผู้เริ่มต้นในขอบเขตตำหนักลี้ลับ กล้าหยิ่งทะนงเช่นนี้เชียวหรือ"
จัวเหลี่ยจ้องจี้หรูเปยเขม็ง แม้เขาจะไม่ได้รับเลือกให้เป็นแปดอัจฉริยะแห่งเมืองไพศาล แต่ก็ฉิวเฉียดไปเพียงเส้นบาง ๆ เท่านั้น
อีกทั้งเขายังอยู่ในขอบเขตตำหนักลี้ลับขั้นสองซึ่งสูงกว่าจี้หรูเปย แม้จี้หรูเปยจะโด่งดังในเมืองไพศาล แต่ก็ใช่ว่าเขาไม่มีปัญญาต่อสู้กับอีกฝ่ายได้
"ดูเหมือนมันจะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการแก้ปัญหาสินะ"
สีหน้าของจี้หรูเปยสงบนิ่งขณะหันมองเซียวเฉิน "ศิษย์น้องจำไว้ ในโลกนี้หมัดมักเป็นวิธีแก้ปัญหาวิธีที่ตรงไปตรงมาและเร็วที่สุด"
เซียวเฉินพยักหน้าอย่างเข้าใจ
จี้หรูเปยยิ้มบาง ก้าวเท้าออกไปข้างหน้า เงาคัมภีร์โบราณเปล่งประกายแสงศักดิ์สิทธิ์ปรากฎสั่นไหวอยู่ด้านหลัง
เซียวเฉินหรี่ตาลงเล็กน้อย ดูเหมือนจะเป็นคัมภีร์โบราณที่จี้หรูเปยอ่านอยู่เมื่อสองวันก่อน มันกลายเป็นวิธีการต่อสู้ของเจ้าตัวหรอกหรือ
‘ฝึกฝนในม้วนคัมภีร์’ เซียวเฉินนึกถึงคำพูดของจูชิงฮวน ลูกศิษย์เรือนเหมยคล้ายจะมีวิธีการฝึกฝนที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง
แล้วของเขาคืออะไรเล่า
"ชื่อเสียงเลื่องลือของจี้หรูเปย ข้ากังขานักว่าจะสมชื่อหรือไม่"
จัวเหลี่ยตะโกน ดาบโบราณบนหลังของเขาคำรามก้องฟ้า ส่งเสียงดังเคร้งแล้วปลดปล่อยปราณดาบแหลมคมล้นทะลัก
วันนี้เขาหมายทำลายความเย่อหยิ่งของจี้หรูเปย ทำให้สำนักสวรรค์ไร้ขอบเขตรู้ว่าจี้หรูเปยหาใช่อัจฉริยะแต่เพียงผู้เดียว!
"วันนี้เป็นพิธีสอบคัดเลือก แต่กลับกลายเป็นการต่อสู้ของผู้แข็งแกร่งขอบเขตตำหนักลี้ลับหรือ"
ผู้คนต่างสั่นสะท้านในใจ การสอบคัดเลือกของสำนักสวรรค์ไร้ขอบเขตในปีนี้แตกต่างไปจากเดิมจริง ๆ
เงาของจี้หรูเปยและจัวเหลี่ยทะยานขึ้นไปบนฟ้า จัวเหลี่ยชิงลงมือก่อน เขาชี้นิ้วไปข้างหน้า ดาบโบราณร้องคำรามขณะพุ่งไปข้างหน้า ปราณดาบแผ่กระจายไปทั่วและทะลวงเข้าหาจี้หรูเปยอย่างบ้าคลั่ง
คัมภีร์โบราณด้านหลังจี้หรูเปยสั่นสะเทือน อักษรโบราณเปล่งประกายโอบล้อมร่างเขาราวกับแสงศักดิ์สิทธิ์คอยปกป้องเขาไว้ ทำลายปราณดาบที่โจมตีเข้ามาหมดสิ้น
จัวชิงจ้องจูชิงฮวนและเซียวเฉินอย่างเย็นชา ผู้คนด้านหลังเขาขยับไหวงกเงิ่นคล้ายต้องการใช้โอกาสนี้จับกุมเซียวเฉิน
"ผลแพ้ชนะยังไม่ปรากฏ แน่ใจหรือว่าจะเคลื่อนไหวโดยประมาท" จูชิงฮวนถามอย่างเย็นชา
จัวชิงเงยหน้าขึ้นมองไปที่การต่อสู้บนท้องฟ้า แล้วโบกมือสั่งให้คนถอยกลับไป
"จี้หรูเปย เจ้าโอ้อวดว่าเจ้าอ่านคัมภีร์ของสำนักสวรรค์ไร้ขอบเขตทั้งหมด แต่หลับฝึกเคล็ดวิชาป้องกันเพียงอย่างเดียวอย่างนั้นหรือ" เงาดาบยักษ์ลอยเหนือศีรษะจัวเหลี่ย เจ้าตัวเหยียบอากาศก้าวไปข้างหน้า พลังดาบไหลเวียนก่อนส่งเงาดาบยักษ์ฟันลงมายังจี้หรูเปย
"ข้าได้ยินมาว่าตระกูลจัวเป็นตระกูลที่เชี่ยวชาญด้านดาบที่สุดในแคว้นไพศาล จึงชักอยากเห็นเพลงดาบของตระกูลจัวสักหน่อย ไม่คาดคิดว่าจะผิดหวังยิ่งนัก"
จี้หรูเปยกล่าวเย้ยหยันพร้อมกำหมัด ทันใดนั้นเงาคัมภีร์โบราณก็จู่โจมลงมาจากฟ้า ร้อยรัดดาบยักษ์ที่กำลังออกอาละวาด อักษรโบราณเปล่งแสงก่อนเงาดาบยักษ์จะระเบิดหายไป
เงาดาบยักษ์ที่แตกสลายทำให้สีหน้าของจัวเหลี่ยยิ่งไม่สู้ดี
"แล้วเจ้าจะต้านทานการโจมตีของข้าได้หรือไม่"
เสื้อคลุมสีขาวของจี้หรูเปยปลิวไสว ชี้นิ้วไปตามอักษรโบราณตรงหน้า มันพลันพุ่งออกขณะกลายเป็นขวานศักดิ์สิทธิ์เปิดสวรรค์ผ่าลงมา!
จัวเหลี่ยเหวี่ยงดาบโบราณฟันไปข้างหน้า ทว่าเมื่อขวานยักษ์ฟาดลงมามันก็ถูกกระแทกจนกระเด็นปลิว ร่างของจัวเหลี่ยถอยกรูดกลางอากาศ เลือดไหลออกมาจากมุมปากของเขา
“ถอยแล้ว!” ฝูงชนร้องด้วยความตกตะลึง จัวเหลี่ยถูกจี้หรูเปยเล่นงาน!
“อักษรโบราณโอบล้อมกายจี้หรูเปย ถ้อยคำพวกนั้นคือเคล็ดวิชาการจู่โจม เขาจะช่ำชองเพียงไหนกันเล่า”
“คัมภีร์ของสำนักทุกเล่มล้วนผ่านตาเขามาแล้ว หรือเขาจะฝึกฝนเคล็ดวิชาเหล่านั้นทั้งหมดแล้ว”
ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ จี้หรูเปยก้าวออกไป สะบัดมือก่อนอักษรโบราณมากมายตรงหน้าเขาสั่นสะเทือน กลายเป็นโซ่ตรวนที่ส่งเสียงและฉวัดเฉวียนเหนือฟ้าไปพันธนจาการร่างของจัวเหลี่ย
“ฟัน!”
ดาบคมโอบล้อมจัวเหลี่ย หมายจะโจมตีออกไปข้างหน้าและตัดโซ่เหล่านั้นทิ้ง
ทว่าโซ่ตรวนนั้นราวกับถูกหลอมจากเจตจำนงแห่งเต๋า หลังปะทะกับดาบคมหลายครั้ง จัวเหลี่ยก็รับรู้ได้เพียงปราณแห่งการกักขังที่โจมตีมา โดยที่เขาไม่อาจใช้พลังรากฐานแก่นแท้ขอบเขตตำหนักลี้ลับของตนเองได้ดั่งใจ
เคร้ง!
โซ่ร้อยรัดจัวเหลี่ย จี้หรูเผยกระทืบเท้ากลางอากาศ อักษรโบราณแปรเปลี่ยนเป็นรอยเท้ายักษ์เหยียบย่ำทับร่างจัวเหลี่ย
จัวเหลี่ยเบิกตากว้าง เขาเองก็เป็นอัจฉริยะแห่งขอบเขตตำหนักลี้ลับของตระกูลจัว แต่จี้หรูเปยกลับเอาชนะเขาได้โดยง่าย!
ลานประลองพังทลายท่ามกลางฝุ่นฟุ้งตลบ จัวเหลี่ยเลือดโทรมกาย น่าอัปยศยิ่งนัก
"จัวเหลี่ยพ่ายแพ้แล้ว!" ผู้คนมองไปที่จัวเหลี่ยที่ตกอยู่ในสภาพน่าสังเวชเช่นเดียวกับจัวหยวน ทุกคนต่างมีสีหน้าตกตะลึง
จัวเหลี่ยถูกจี้หรูเปยเอาชนะข้ามขั้นได้!
"สมแล้วที่จี้หรูเปยเป็นหนึ่งในแปดอัจฉริยะแห่งเมืองไพศาล!"
"สมกับที่เป็นลูกศิษย์เรือนเหมยจริง ๆ" บางคนถอนหายใจ ก่อนหน้านี้เซียวเฉินกวาดล้างสิบอันดับแรกของการสอบคัดเลือกและข้ามขั้นเอาชนะหยางฉีได้ จากนั้นจี้หรูเปยก็เอาชนะจัวเหลี่ยอย่างภาคภูมิ ราวกับผู้คนในเมืองไพศาลมารวมตัวกันที่นี่เพื่อเป็นสักขีพยานในความแข็งแกร่งของพวกเขา
ใครจะคิดว่าคนที่โดดเด่นที่สุดในพิธีสอบคัดเลือกจะเป็นศิษย์สายตรงของอาจารย์เหมยซึ่งไม่ได้เข้าร่วมการสอบคัดเลือก
พวกเขามาที่นี่เพื่อไป๋เนี่ยนปิงเท่านั้น
"ศิษย์น้อง เจ้าได้เรียนรู้วิธีที่ง่ายที่สุดแล้วหรือยัง" จี้หรูเปยถามเซียวเฉิน
เซียวเฉินยิ้มพลางพยักหน้า "เรียนรู้แล้ว"
ไม่รู้ว่ามีผู้คนด้านล่างลานประลองมากมายเพียงใดจับจ้องไปยังจี้หรูเปยและเซียวเฉินบนลานประลองด้วยสายตาริษยา
ถึงกระนั้นก็มีบางคนที่เผยท่าทีบึ้งตึง เช่นเดียวกับผู้แข็งแกร่งตระกูลจัวบนอัฒจรรย์ผู้ชม
จัวหยวนและจัวเหลี่ยต่างเป็นอัจฉริยะของตระกูลจัว ทว่าพวกเขากลับพ่ายแพ้อย่างน่าสังเวช
และทั้งคู่ก็พ่ายแพ้ต่อลูกศิษย์เรือนเหมย
ราวกับพวกเขามีอยู่เพื่อเป็นไม้ประดับให้กับจี้หรูเปยและเซียวเฉินเท่านั้น
"เรือนเหมย... เซียวเฉิน... บัญชีนี้จะต้องสะสางในภายหลัง!"
ผู้แข็งแกร่งของตระกูลจัวจากไปอย่างเงียบ ๆ ในใจลอบจดจำชื่อของเซียวเฉินและจี้หรูเปยไว้
วันนี้ควรเป็นวันที่ตระกูลจัวจะได้ประกาศศักดา จัวหยวนได้เข้าร่วมสำนักสวรรค์ไร้ขอบเขตด้วยเกียรติยศของอันดับหนึ่งในการสอบคัดเลือก และตระกูลจัวได้จากไปท่ามกลางสายตาริษยาของผู้คน
ทว่าการปรากฏตัวของเซียวเฉินกลับเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของจัวหยวนและตระกูลจัวไป
อย่างไรก็ตามแท้จริงคนที่วางแผนการนี้หาใช่เซียวเฉิน แต่เป็นจัวชิงต่างหาก
ยามนี้จัวชิงมองจี้หรูเปยที่เดินนำเซียวเฉิน ไป๋เนี่ยนปิง และพรรคพวกออกไปด้วยจิตใจที่ปั่นป่วน
เพื่อช่วยโจวหลิงเสวี่ยจัดการกับเซียวเฉิน เขาได้วางแผนอย่างรอบคอบโดยพิจารณาถึงความเป็นไปได้มากมาย
สิ่งเดียวที่เขานึกไม่ถึงคือความแข็งแกร่งของเซียวเฉิน มันแข็งแกร่งมากเสียจนทำให้พิธีสอบคัดเลือกกลายเป็นเครื่องมือของเจ้าตัว!
จัวชิงยืนอยู่บนลานประลองเพียงลำพังและรับรู้ถึงสายตาจากทุกสารทิศ เขาสูดหายใจเข้าลึกแล้วก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงไร้กำลัง
"พิธีสอบคัดเลือกสิ้นสุดลงแล้ว!"