ตอนที่ 32 ยาย้อนฝัน
ตอนที่ 32 ยาย้อนฝัน
หลิวเหวินปินที่ยืนอยู่ไม่ไกล ย่อมได้เป็นประจักษ์พยานต่อเรื่องราวจนเผยใบหน้าซีดเผือดเพราะหวาดกลัว ถึงขนาดว่าลืมเลือนความเจ็บปวดจนเร่งร้อนเผ่นหนีให้ไกลห่างจากคนทั้งสอง!
“รับชม ลิ่วล้อนั่นไม่ห่วงเจ้าแม้แต่น้อย!” จี้เตี๋ยแค่นเสียงเย้ยแต่ไม่คิดไล่ตาม อย่างไรเสียอีกฝ่ายก็คงไม่กล้ามาสร้างปัญหาอีกแล้ว!
“จะ… เจ้า… ต้องการอะไร! ข้า… ขอเตือนที่ตรงนี้ จง… ปล่อยข้าไปเสีย!” หลิวจงพูดตะกุกตะกักไม่ชัดเจน ใบหน้าในปัจจุบันมีแต่รอยเลือด ขณะเดียวกันก็รับรู้ถึงน้ำหนักจากเท้าที่เหยียบหน้าอกตนเองจนเวลานี้พยายามดิ้นรน!
“ยังคิดแข็งขืนงั้นหรือ?” จี้เตี๋ยแค่นเสียงเย้ยก่อนจะเหยียบหน้าอีกฝ่ายจนกดศีรษะลงจมไปในดิน
“อ๊าก!” หลิวจงที่ไม่เคยประสบพบเจอเรื่องราวและความเจ็บปวดเช่นนี้มาก่อน เขาพยายามดิ้นรนหาทางรอด แต่สุดท้ายกลับถูกเตะใส่ท้องจนร่างกระเด็นลิ่วไปอีกครั้ง!
พบเห็นจี้เตี๋ยที่เป็นประหนึ่งมารร้ายเดินเข้ามาใกล้ ในที่สุดสายตาของเขาก็เผยความหวาดกลัวออกมา
“ยกโทษให้ด้วย ยกโทษให้ข้าด้วยเถอะ ข้าจะมอบวัตถุดิบสำหรับใช้ปรุงยาย้อนฝันให้!”
จี้เตี๋ยไปหยุดยืนตรงหน้าอีกฝ่ายพลางส่งเสียงเย็นเยือกเอ่ยถาม “ยาย้อนฝันงั้นหรือ มันคือยาอะไร?”
“ยาย้อนฝันเป็นยาขั้นสูงระดับหนึ่ง ภายหลังกินเข้าไปแล้วมันจะช่วยส่งเสริมการฝึกตนของเจ้า ยาหนึ่งเม็ดเทียบเท่าช่วงเวลาที่ศิษย์ธรรมดาต้องประสบความยากลำบากตลอดหลายปี! ข้า… ข้ารวบรวมสมุนไพรวิญญาณเอาไว้เกือบครบแล้ว ด้วยเถาวัลย์เลือดระกาที่เจ้าขโมยไป มันยังขาดอีกเพียงแค่สามสิ่ง หญ้าจักรพรรดิหยก เถาวัลย์อำพัน แล้วก็กิ่งตงฮวยอายุร้อยปี แค่มีสามอย่างนั้นข้าก็สามารถปรุงยาย้อนฝันได้!” หลิวจงมองอีกฝ่ายด้วยกายสั่นเทิ้มและสายตาหวาดเกรง
“ขอเพียงปล่อยข้า แล้วข้าจะมอบให้!”
ยาหนึ่งเม็ดที่เทียบเท่าระยะเวลาฝึกฝนของศิษย์ทั่วไปหลายปี!
เพียงได้ยินก็ทำเอาหัวใจของจี้เตี๋ยเต้นรัว เขากำลังคาดหวังต่อสรรพคุณของยาดังกล่าว
หากว่าปรุงยาดังกล่าวได้สำเร็จ ถ้าอย่างนั้นก็เท่ากับเป็นบัตรผ่านตรงสู่การกลั่นลมปราณขั้นที่หกไม่ใช่หรือ?!
เพียงแต่จากที่อีกฝ่ายกล่าวบอก สมุนไพรวิญญาณที่รวบรวมมายังไม่ครบกระบวนความ!
“สมุนไพรที่เหลืออยู่ที่ไหน!” จี้เตี๋ยก้มมองด้วยสายตาเย็นเยือก
“อยู่ในถุงมิติของข้า!” หลิวจงไม่กล้าปิดซ่อน เขาพยายามตะเกียกตะกายใช้มืออันสั่นเทายื่นส่งถุงมิติด้วยสองมือ
“ลบรอยประทับจากถุงมิตินี่เสีย!” จี้เตี๋ยตอบคำโดยไร้ซึ่งอารมณ์ใดเจือปน
“ขอรับ!” หลิวจงที่พยายามหายใจอย่างยากลำบาก ภายหลังลบรอยประทับเรียบร้อย เขาจึงยื่นถุงมิติส่งให้ด้วยสองมือ
จี้เตี๋ยรับเอามาตรวจสอบ นอกจากศิลาวิญญาณและหม้อสีดำใบหนึ่ง มันมีสมุนไพรวิญญาณอีกประมาณหนึ่งอยู่ด้านใน เขานึกสงสัยว่าพวกมันใช่วัตถุดิบสำหรับปรุงยาย้อนฝันที่กล่าวถึงหรือไม่
นอกจากนี้แล้วภายในยังมีขวดยาอีกหลายขวด และเหมือนจะมียาทุ่งสมุทรรวมอยู่ด้วย!
“เจ้าเอ่ยปากมอบให้ ไม่ใช่ข้าบีบบังคับเอามาแต่อย่างใด!” จี้เตี๋ยจ้องมองตาอีกฝ่าย
“ขอรับ ขอรับ ขอรับ ทั้งหมดนี้เป็นของกำนัลจากข้าขอรับ” หลิวจงรู้สึกประหนึ่งถูกมีดกรีดเอาเลือดจากหัวใจ เพียงแต่เวลานี้เขาไม่กล้าพูดเป็นอื่น
สมุนไพรวิญญาณเหล่านี้คือความยากลำบากตลอดหลายปีของเขา เดิมเขาคิดว่าภายหลังรวบรวมวัตถุดิบได้ครบแล้ว จะตามหานักปรุงยาขั้นสูงระดับหนึ่งสักคนมาช่วยปรุงยา ถึงเวลานั้นเขาจะได้ทะลวงสู่การกลั่นลมปราณขั้นที่หก เพียงแต่เวลานี้ความพยายามทั้งหมดนั้นถูกจี้เตี๋ยช่วงชิงเอาไป
จี้เตี๋ยค่อนข้างพอใจต่อท่าทีที่อีกฝ่ายตอบสนอง ขณะนี้จึงเก็บถุงมิติของอีกฝ่าย แต่ทันใดนี้เองที่เกิดนึกอะไรขึ้นมาได้ เขาจึงมองด้วยสายตาเย็นเยือกก่อนจะเอ่ยถาม
“เจ้าน่าจะปรุงยาย้อนฝันที่เพิ่งพูดถึงเมื่อครู่ได้กระมัง!”
“นายท่าน ข้าเป็นเพียงนักปรุงยาขั้นกลางระดับหนึ่งขอรับ! ข้าไม่อาจปรุงยาขั้นสูงระดับหนึ่งได้ขอรับ!” หลิวจงตัวสั่นขณะอ้าปากที่เจ็บช้ำตอบคำกลับ
“ฝั่งใต้ของพวกเรา นอกจากผู้อาวุโสเถียนแล้ว นักปรุงยาขั้นสูงก็มีแต่ศิษย์พี่หญิงซูลั่วขอรับ หากว่าต้องการปรุงยาย้อนฝัน ก็มีแต่ต้องขอให้ศิษย์พี่หญิงซูลั่วช่วยขอรับ”
“ศิษย์พี่หญิงซูลั่ว…” จี้เตี๋ยลอบขมวดคิ้วขณะจดจำนามนี้เอาไว้ ภายหน้าเขาคงต้องไปสอบถามเรื่องขอให้ช่วยปรุงยา
หลิวจงในเวลานี้สูญเสียทั้งแรงกายแรงใจจะต่อต้าน เขาไม่กล้าปิดซ่อนอะไรจนบอกความจริงทั้งหมดให้อีกฝ่ายทราบ “ในการปรุงยาจำเป็นต้องมีพลังแห่งจิตวิญญาณที่ก้าวล้ำกว่าใคร มีแต่เป็นเช่นนั้นจึงสามารถเบิกทะเลแห่งจิตสำนึกเพื่อคัดแยกเอาแก่นแท้ของสมุนไพรวิญญาณออกมารวบรวมเป็นเม็ดยาได้ นอกจากนี้…”
หลิวจงเริ่มพูดหลากหลายเรื่องราวออกมา ราวกับกลัวว่าหากพลาดรายละเอียดใดไปจะทำให้จี้เตี๋ยเกิดความไม่พอใจ
จี้เตี๋ยเองก็ทำตัวเป็นผู้รับฟังที่ดี
การปรุงยาไม่ใช่แค่การต้มยาแล้วใส่ส่วนผสม ยามใช้งานหม้อปรุงยา มันยังมีปัจจัยอื่นอีกหลากหลายมาเกี่ยวข้อง
ประการที่หนึ่งคือการเบิกทะเลแห่งจิตสำนึก ทางหนึ่งก็เพื่อคัดแยกเอาแก่นแท้ของสมุนไพรวิญญาณออกมา
อีกทางหนึ่งคือความจำเป็นต้องใช้พลังจิต เพื่อประคับประคองและตรวจสอบการเคลื่อนไหวภายในหม้อปรุงยา
อย่างไรแล้วระหว่างการปรุงยาก็มีอุณหภูมิที่สูงมาเกี่ยวข้อง ดังนั้นหม้อปรุงยาจึงต้องถูกปิดฝาจนไม่อาจมองเห็นภายในหม้อด้วยตาเปล่า
เพียงแต่พลังจิตคืออะไร?
หลิวจงเริ่มอธิบายอีกครั้ง
“พลังจิตนั้นเกิดขึ้นจากทะเลแห่งจิตสำนึก ขณะที่ทะเลต้นกำเนิดนั้นเกิดขึ้นจากจิตวิญญาณ ยามที่ผู้ฝึกตนสำเร็จถึงการกลั่นลมปราณระดับสูง ทะเลแห่งจิตสำนึกจะเปิดออก และถึงตอนนั้นผู้ครอบครองจะสามารถปลดปล่อยพลังจิตออกไปปกครองทั้งสายลมและใบหญ้าข้างเคียง”
“แน่นอนว่ามีบางคนถือกำเนิดขึ้นมาพร้อมกับพลังแห่งจิตวิญญาณอันแข็งแกร่ง ยามคนผู้นั้นสำเร็จการกลั่นลมปราณขั้นที่หนึ่ง พวกเขาจะสามารถเบิกทะเลแห่งจิตสำนึกขึ้นด้วยตนเองได้”
“ทะเลแห่งจิตสำนึก… พลังจิต…” จี้เตี๋ยครุ่นคิดไปชั่วครู่ เพราะมันคือชุดความรู้ที่เขาเพิ่งเคยได้ทราบ มันเปรียบเสมือนการได้เปิดหูเปิดตา!
โชคร้ายที่แม้เขาฝึกฝนจนถึงการกลั่นลมปราณขั้นที่ห้าแล้ว กลับยังไม่เคยเบิกทางไปถึงทะเลแห่งจิตสำนึก
มันคือข้อพิสูจน์ว่าพลังแห่งจิตวิญญาณของเขาไม่แข็งแกร่งมากพอจะเป็นนักปรุงยา…
“ไม่แปลกใจเลยที่เงื่อนไขการเป็นนักปรุงยาจะเข้มงวดถึงขนาดนี้…”
จี้เตี๋ยทำได้เพียงแค่ถอนหายใจพลางรู้สึกอับจน แน่นอนว่าเขาไม่ได้ถึงกับหดหู่เพราะเรื่องนี้ เพราะในเมื่อปรุงยาด้วยตนเองไม่ได้ เขาก็ยังสามารถขอให้ผู้อื่นปรุงให้ได้ ดังนั้นจึงเริ่มสอบถามหลิวจงไปอีกหลายคำถาม
ในบรรดาเรื่องราวเหล่านั้น ก็มีเรื่องสมุนไพรวิญญาณอีกสามอย่างสำหรับใช้ปรุงยาย้อนฝันรวมอยู่ด้วย
“ภายในถุงมิติของข้า มันมีตำราปรุงยาที่ผู้อาวุโสมอบให้ มันไม่เพียงบันทึกวิธีการปรุงยาและความรู้เรื่องยา แต่ยังมีบันทึกถึงสมุนไพรวิญญาณบางส่วน ในจำนวนนั้นย่อมมีหญ้าจักรพรรดิหยกและกิ่งตงฮวยรวมอยู่ด้วย”
“เจ้าไปได้แล้ว” จี้เตี๋ยที่พบเจอบันทึกนักปรุงยาภายในถุงมิติเรียบร้อย เวลานี้จึงเอ่ยบอกให้อีกฝ่ายไปให้พ้น
หลิวจงรู้สึกประหนึ่งได้รับการยกเว้นโทษอันร้ายแรง เขาไม่รู้สึกคับแค้นใด กระทั่งรู้สึกว่าเพิ่งรอดจากความตายเสียด้วยซ้ำ
จี้เตี๋ยเดินตรงกลับไปยังถ้ำของตนเอง นั่งขัดสมาธิกับพื้น ถัดจากนั้นจึงครุ่นคิดเรื่องยาย้อนฝัน
ยาหนึ่งเม็ดเทียบเท่าความยากลำบากในการฝึกฝนหลายปี มันย่อมดีกว่ายาทุ่งสมุทรไม่รู้เท่าไหร่!
บางทีมันอาจช่วยทำให้เขาทะลวงสู่การกลั่นลมปราณขั้นที่หกได้สำเร็จ!
“เถาวัลย์อำพัน… หญ้าจักรพรรดิหยก… กิ่งตงฮวยอายุร้อยปี… นึกสงสัยนักว่าพอจะหาซื้อสมุนไพรวิญญาณทั้งสามเหล่านี้ได้หรือไม่!’
สายตาของจี้เตี๋ยทอประกาย วันพรุ่งนี้เขาตัดสินใจไปพบต้วนคุนเพื่อสอบถาม ว่าพอจะมีช่องทางจัดหาสมุนไพรวิญญาณที่เหลือมาได้หรือไม่
เพียงแต่การปรุงยายังคงเป็นปัญหา เพราะมันจำเป็นต้องใช้นักปรุงยาขั้นสูงระดับหนึ่ง!
“ซูลั่วงั้นหรือ…”
จี้เตี๋ยลอบขมวดคิ้ว เขาไม่รู้จักอีกฝ่าย แต่ก่อนอื่นเขาตัดสินใจรวบรวมสมุนไพรวิญญาณที่เหลือให้ครบเสียก่อน
ภายหลังไตร่ตรองอีกชั่วระยะ จี้เตี๋ยจึงนำตำราออกมา
บันทึกนักปรุงยา!
เมื่อเปิดอ่านหน้าแรก ตัวอักษรน้อยแถวหนึ่งจึงปรากฏให้พบเห็น
“ยาคือการรวบรวมแก่นแท้แห่งฟ้าดิน อัดแน่นด้วยหยินและหยางแห่งโลก…”
มันเป็นเสมือนอารัมภบท ที่เขียนไว้โดยบรรพชนของสำนักเจ็ดลึกล้ำ
“บรรพชนของสำนักเจ็ดลึกล้ำ… เป็นคนเขียนตำราเล่มนี้งั้นหรือ?” จี้เตี๋ยครุ่นคิดด้วยความสงสัยขณะเปิดมันอ่าน
ตำราเล่มนี้ค่อนข้างหนา มันไม่ได้บันทึกเอาไว้เพียงการปรุงยา แต่ยังมีคำอธิบายถึงตัวสมุนไพรวิญญาณ ทว่าจะบันทึกเอาไว้เพียงแค่สมุนไพรวิญญาณอายุหลักร้อยปีขึ้นไป
“เถาวัลย์อำพัน… หญ้าจักรพรรดิหยก… กิ่งตงฮวยร้อยปี” จี้เตี๋ยตรวจสอบหาข้อมูลของสมุนไพรวิญญาณทั้งสาม มันประกอบด้วยคำอธิบายถึงรูปร่างหน้าตาและสรรพคุณความสามารถ ภายหลังจดจำพวกมันได้เรียบร้อยเขาจึงเก็บตำราไป