ตอนที่แล้วตอนที่ 7 เพื่อบ้านเมือง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 9 สนมฮวา

ตอนที่ 8 โยนงาน


ตอนเกาหลิงเฟิงตื่น หลินว่านเอ๋อร์ก็แต่งตัวเสร็จแล้ว นางกำลังรอเกาหลิงเฟิงให้ตื่น มันเป็นยามเช้า ความรู้สึกของการไม่ต้องเข้าราชสำนักช่างสดชื่น!ทันใดนั้น ระบบก็แจ้งเตือน

[หลงระเริงในความงาม!-1000โชคลาภ!]

[ขอแสดงความยินดกับท่านที่ประสบความสำเร็จ - สาวงามในฮาเร็ม!ได้รับรางวัล : ยันต์เป็นตาย!]

[เหลือเวลาอีกหนึ่งวันจะครบวันสรุปรายเดือน!]

[โปรดทำงานให้หนัก ทำลายโชคลาภบ้านเมืองเพิ่ม!]

[ค่าโชคลาภปัจจุบัน : 96000!]

หักไปสี่พันแล้ว!ข้ามันอัจฉริยะ!ถ้าข้าทำงานหนักเช่นนี้ต่อ ข้าจะกลายเป้นเซียนในสามเดือน! จากนั้นเขาก็มองรางวัล

[ยันต์เป็นตาย : วิชายุทธ์พิเศษ!เปลี่ยนยาพิเศษเป็นยันต์และถ่ายเข้าตัวศัตรู มันจะช่วยให้ควบคุมยันต์เหล่านี้ผ่านพลังปราณ ทำให้ศัตรูทรมานอย่างยิ่ง!’

นี่คือวิชายุทธ์ที่ไว้ใช้ควบคุมลูกน้อง?วิชานี้ทรงพลังมาก!ดีมาก ดี!เกาหลิงเฟิงรับรางวัลอย่างมีความสุข

หลินว่านเอ๋อร์ได้เตรียมให้สาวใช้ช่วยเกาหลิงเฟิงล้างหน้าล้างตา ชีวิตนี้น่าเพลิดเพลินนัก!ด้วยสาวใช้สาวคอยดูแล เกาหลิงเฟิงล้างหน้า แต่งตัว และเวลานั้นเอง ขันทีน้อยก็มาปรากฏตรงหน้าเกาหลิงเฟิง

“เสี่ยวเต๋อจือ วันนี้เจ้าไปไม่หอคัมภีร์หรือ?”เกาหลิงเฟิงประทานรางวัลให้เสี่ยวเต๋อจือไปศึกษาที่หอคัมภีร์ และเขาก็ไปทุกเช้า ทำไมวันนี้ถึงมา?

เสี่ยวเต๋อจือคุกเข่า“ฝ่าบาท เสี่ยวเต๋อจือไม่อยากไปหอคัมภีร์อีกแล้ว!เสี่ยวเต๋อจืออยากรับใช้ท่าน!”

พอเห็นเสี่ยวเต๋อจือเช่นนี้ เกาหลิงเฟิงก็ตระหนักว่าเด็กนี่คงทนงานหนักไม่ไหวแน่!การฝึกวิชายุทธ์เหนื่อยมาก เสี่ยวเต๋อจืออายุยี่สิบแล้ว ผ่านช่วงอายุที่ดีสุดสำหรับการฝึก เด็กนี่ต้องทนไม่ไหวแน่ เลยกลับมารับใช้ข้า

เสี่ยวเต๋อจือค่อนข่างมีพรสวรรค์! ยิ่งเกาหลิงเฟิงมองเสี่ยวเต๋อจือ เขายิ่งพอใจ!ภักดี!มีฝีมือในการจัดการเรื่องต่างๆ! ขาดความอดทนในการฝึกและบุ่มบ่ามในการกระทำ!ขันทีเช่นนี้คือสหายที่ดี!

ด้วยเสี่ยวเต่อจือข้างกาย ข้าจะต้องกังวลเรื่องโชคลาภบ้านเมืองที่ลดลงอีกเหรอ?มังกรซ่อนของข้า!ยิ่งเกาหลิงเฟิงมองเสี่ยวเต๋อจือ เขายิ่งพอใจ

เขาไม่สังเกตว่าทั้งตัวของเสี่ยวเต๋อจือแผ่กลิ่นอายยับยั้ง ตอนนี้ เสี่ยวเต๋อจือถึงสภาวะหวนคืนแล้ว! เกาหลิงเฟิง นักรบขั้นหนึ่งที่เพิ่มขึ้นมาโดยการกินยาจึงไม่อาจสังเกตเห็นความลึกล้ำของเสี่ยวเต๋อจือได้

เสี่ยวเต๋อจือขอกลับมาข้างกายเกาหลิงเฟิงเพราะเขาได้อ่านเคล็ดวิชาส่วนใหญ่แล้ว! เขาเข้าใจและซึมซับวิชาเหล่านั้นและตอนนี้ก็ไม่มีอะไรให้เขาเรียนรู้อีก!

เวลานี้ ขันทีจากห้องทรงอักษรนำตะกร้าเอกสารเข้าวังจักรพรรดินี

เยอะมาก!เกาหลิงเฟิงรู้สึกปวดหัวทันที!เขาอาจไม่เข้าราชสำนักได้ แต่ไม่อาจหนีจากการจัดการกับจดหมายเหตุเหล่านี้ได้!การเป็นจักรพรรดิคืองานหนัก!

เกาหลิงเฟิงมองจดหมายเหตุที่กองเป็นภูเขา จักรพรรดิองค์ก่อนขยันมาก และขุนนางในราชสำนึกก็จะส่งจดหมายเหตุ ระหว่างสามปีแรกของเกาหลิงเฟิง เขาก็ขยันมาก ขุนนางมากมายมาถวายจดหมายเหตุบ่อย

การลาออกของสามราชเลขาแห่งคณะรัฐมนตรีคืองานใหญ่สำหรับการเมือง ดังนั้นจดหมายเหตุเหล่านี้จึงเทเข้าวังเหมือนเกล็ดหิมะ เกาหลิงเฟิงมองเอกสารและถามเสี่ยวเต๋อจือ“เจ้าจัดการกับพวกมันได้ไหม?”

เสี่ยวเต๋อจือกลัวและรีบคุกเข่า“ฝ่าบาท โปรดละเว้น!ละเว้นข้าด้วย ฝ่าบาท!”

เกาหลิงเฟิงนึกได้ว่าจักรพรรดิผู้ก่อตั้งได้ออกกฎห้ามขันทีจากการยุ่งเรื่องการเมือง ถ้าเสี่ยวเต๋อจืออนุมัติเอกสารพวกนี้ เขาน่าจะโดนเหล่าขุนนางฆ่าตาย

ช่างมัน ขันทีเหล่านี้ไม่มีทางเข้าใจได้อยู่ดี ไม่ต้องพูดถึงขันที แม้กระทั่งเกาหลิงเฟิงก็พบว่ามันยากมากที่จะอ่านเอกสารเหล่านี้!ราชวงศ์ต้าเฉียนเลืองลื่อด้านวรรณกรรม และขุนนางเหล่านี้ก็คือบัณฑิตที่เก่งการเขียน เอกสารเหล่านี้ที่ถูกเขียนจึงเขียนด้วยภาษาที่สละสลวย ยืดยาว

ทุกครั้งที่เกาหลิงเฟิงอ่าน มันทรมานเขามาก พอเห็นว่าจักรพรรดิหงุดหงิดแค่ไหน เสี่ยวเต๋อจือก็เข้าใจเหตุผล แค่อ่านเอกสารเหล่านี้ก้ต้องใช้เวลานานมาก คนงานคนอื่นจะทำงาน9 ชั่วโมงแล้วพัก แต่จักรพรรดิทรงงานตลอด

นอกจากขันทีและสาวใช้ ใครจะมาแบ่งเบาภาระของข้าได้?ทันใดนั้น เกาหลิงเฟิงก็คิดถึงคนหนึ่ง!ใช่ จักรพรรดินีไง!คนชั้นสูงเช่นนางจะขาดด้านนี้ได้ไง?

พ่อของจักรพรรดินีคือบัณพิตขั้นสูง จากตระกูลบัณฑิต ตอนนางเป็นองค์หญิง จักรพรรดินีคุ้นชินกับตำราขงจื๊อ นี่ก็เหมือนการอ่านจดหมายเหตุพวกนี้?

เกาหลิงเฟิงยืนขึ้นทันที ไปกับเสี่ยวเต๋อจือ จักรพรรดินีกำลังเตรียมอาหารเช้า ตอนสาวใช้เห็นเกาหลิงเฟิงมา พวกนางก็คุกเข่า“ฝ่าบาท!”

เกาหลิงเฟิงดึงตัวจักรพรรดินีตรงไปทางโถงชั้นนอก ถึงแม้นางจะรับใช้เขาเมื่อวาน มันก็เป็นครั้งแรกที่หลินว่านเอ๋อร์โดนเขาดึงตัวเช่นนี้ คอของนางแดง และหัวก็วิงเวียนขณะที่มาถึงโถงหน้า

ในวัง ทุกโถงจะมีส่วนหน้าและหลัง โถงหน้าคือที่ที่ทำธุระอย่างเป็นทางการ และถ้าจักรพรรดิอยู่ ก็จะคล้ายกับห้องทรงอักษร

เกาหลิงเฟิงหยิบจดหมายเหตุขึ้นมาสุ่มๆและส่งให้หลินว่านเอ่อร์“จักรพรรดินี ช่วยดู”และบอกข้าว่ามันเขียนไว้ว่าอย่างไร”

หลินว่านเอ่อร์หน้าซีด“ฝ่าบาท!ไม่ได้เด็ดขาด!นี่คือจดหมายเหตุจากเหล่าเสนาบดีถึงพระองค์!”

แต่เกาหลิงเฟิงยืนกราน“ข้าขอให้เจ้าดู ก็ดู!”

หลินว่านเอ่อร์ได้แต่หยิบขึ้นมาและอ่านสักพักก่อนจะปิด“ฝ่าบาท นี่คือเอกสารร้องเรียนพ่อของสนมของท่าน”

เกาหลิงเฟิงรู้สึกอับอาย

“เจ้าอ่านเร็วจัง?”บันทึกเล่มหนานี่ เกาหลิงเฟิงต้องใช้เวลาอ่านอย่างน้อยยี่สิบนาที แต่หลินว่านเอ่อร์อ่านเสร็จในสองนาที

หลินว่านเอ่อร์ยิ้ม“ท่านพ่อเคยบอกว่าตอนเขียนจดหมายเหตุ หน้าแรกๆไร้สาระหมด เนื้อหาจริงอยู่ท้ายๆ ข้าเลยอ่านส่วนท้ายก่อน จากนั้นก็เข้าใจจุดประสงค์ของมัน”

จริงหรือ?เกาหลิงเฟิงคิด และดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น!

เกาหลิงเฟิงดึงหลินว่านเอ๋อร์มาใกล้“จักรพรรดินีของข้า เจ้าช่วยข้าดูจดหมายเหตุเหล่านี้และทำเครื่องหมายส่วนสำคัญได้หรือไม่?”

“แต่ แต่นี่ขัดต่อกฎบรรพชน!”

“ผิดตรงไหน?บรรพชนบอกว่าพวกสนมไม่อาจยุ่งเรื่องการเมือง แต่ไม่ได้บอกว่าจักรพรรดินไม่สามารถนี่?”

พอพูด เกาหลิงเฟิงก็ตบกองเอกสารและพูด“อีกงานสำหรับเจ้าคืออ่านจดหมายเหตุเหล่านี้ จักรพรรดิข้า ขอบใจเจ้ามากนะ!”

พอเห็นสีหน้าของเกาหลิงเฟิง หลินว่านเอ๋อร์ก็ได้แต่พยักหน้าตกลง

[ให้ฮาเร็มยุ่งเรื่องการเมือง โชคลาภ-10001]

สำเร็จ!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด