ตอนที่แล้วตอนที่ 4 ลาออกทั้งคณะ!ได้!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 6 แต่งตั้งพ่อตาเป็นอัครมหาเสนาบดี

ตอนที่ 5 เส้นทางของขุนนางผู้โกงกิน


เวลานี้ หลินเจี้ยนเฉิง เสนาบดีกรมพิธีการเพิ่งทำงานที่กรมพิธีการเสร็จ เขากลับไปจวนหลังใหญ่รอบนอกของเมืองหลวง

“ท่านพ่อ ท่านกลับมาแล้ว!”

หลินเจี้ยนเฉิงเจอเข้ากับลูกชายเขา หลินฟาง พอเห็นท่าทางของหลินฟาง หลินเจี้ยนเฉิงก็รำคาญ!เด็กนี่ต้องสร้างเรื่องอีกแล้ว!หลินเจี้ยนเฉิงคือปราชญ์ชั้นนำ แต่ลูกชายเขาหลินฟางไม่สืบพันธุกรรมเขามาแล้ว คะแนนของหลินฟางที่สำนึกศึกษากระจอกมาก แถมเขายังไล่คนสอนไปแล้วแปดคน

อีกด้าน ลูกสาวเขาหลินว่านเอ๋อร์ ร่วมกับหลินฟาง ได้รับคำชี้แนะของหลินเจี้ยนเฉิงที่บ้าน นางมีสติปัญญาสูง และเชี่ยวชาญอะไรๆตั้งแต่เด็ก

ส่วนเขาเติบโตจนกลายเป็นเสนาบดีกรมพิธีการ ขุนนางขั้นสูงแห่งราชวงศ์ต้าเฉียน ลูกสาวเขาคือจักรพรรดินี และแม้หลินฟางจะไม่ได้เรื่อง ก็ยังได้รับแต่งตั้งเป็นขุนนางขั้นจ็ดในกรมแรงงานเพราะภูมิหลังครอบครัว

ในราชวงศ์ต้าเฉียน มีคำบอกที่ว่าเสนาบดีมาจากบัณฑิต ขุนนางขั้นเจ็ดที่ได้รับแต่งตั้งเพราะครอบครัวคือจุดสิ้นสุดของสายอาชีพแล้ว ดังนั้น หลินฟางจึงไม่มีความทะเยอทะยานในราชการและใช้ชีวิตกับการเที่ยวเล่นหลังเลิกงาน

พอเห็นลูกชายไม่ได้ความ หลินเจี้ยนเฉิงก็โกรธ เขาถาม“เจ้าจะไปไหน?”

หลินฟางก้มหัว“ข้าจะไปกินข้าวเย็นกับเพื่อน”

หลินเจี้ยนเฉิงมองลูกชายเหยียดๆ โบกมือ”ไป แล้วรีบกลับมา!’

หลินฟางรู้สึกราวกับเขาได้รับคำอนุมัติและรีบวิ่ง

หลังกลับบ้าน ภรรยาของหลินเจี้ยนเฉิงก็เดินออกมา“ท่านพี่ วันนี้กลับบ้านเร็วจัง”

“ราชสำนักไม่มีเรื่องเร่งด่วน ข้าเลยกลับมา”

“ลูกสาวเราเพิ่งให้สาวใช้มาส่งข้อความ บอกว่าฝ่าบาทสุขภาพดี จึงต้องฉลอง”ฮูหยินอวี่พูด

“ฝ่าบาทโชคดีจริงๆ”หลินเจี้ยนเฉิงพูด จากนั้นก็เดินไปห้องทำงานเขา“เรียกข้าด้วยพอถึงเวลาข้าวเย็น”

เขาหายไปในห้องทำงานและฮูหยินอวี่ก็ไม่แปลกใจ สีมนางมักเป็นเช่นนี้ตั้งแต่หนุ่ม มักใช้เวลาในห้องทำงาน

หลังเข้าห้องทำงาน หลินเจี้ยนเฉิงก็เปิดเอกสารที่เขียนแค่ครึ่งเดียว ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาเตรียมจะนำเสนอต่อจักรพรรดิผู้ล่วงลับตอนเพิ่งกลายเป็นบัณฑิตชั้นนำ

เนื้อหาของมันคือการวิงวอนให้ปฏิรูป!

มันคือการยื่นคำร้องต่อราชสำนักให้ปฏิรูปวิถีของมัน!

หลินเจี้ยนเฉิงถอนหายใจ นึกได้ว่าเขารู้สึกเช่นไรตอนกลายเป็นบัณฑิตชั้นนำ เวลานั้น เขามักจะส่งจดหมายเหตุบ่อยๆ และถือว่ามีชื่อเสียง

แต่ไม่ช้า เพราะความหยิ่งในวัยเยาว์ เขาจึงทำให้อัครมหาเสนาบดีในเวลานั้นไม่พอใจ และไม่มีจดหมายเหตุใดที่ไปถึงมือจักรพรรดิองค์ก่อน

ต่อมา หลินเจี้ยนเฉิงได้รู้ว่าจักรพรรดิไม่เคยเหลียวแลจดหมายเหตุจากขุนนางขั้นเจ็ดชั้นผู้น้อยอย่างเขา เพราะเขาทำให้มหาเสนาบดีไม่พอใจ เลยถูกส่งไปชนบท

นับจากนั้น หลินเจี้ยนเฉิงก็เปลี่ยนไป!

เขาเปลี่ยนจากขุนนางหนุ่มที่ตรงไปตรงมาเป็นคนเจ้าเล่ห์ในแวดวงการเมือง เขาเริ่มประจบขุนนางชั้นสูงและสร้างสายสัมพันธ์กับเพื่อน่รวมงาน และยังแต่งงานลูกสาวกับเจ้าชายรัชทายาท!

ด้วยสถานะของเครือญาติราชวงศ์ เขาเลยเติบโตเป็นเสนาบดีกรมพิธีการ

แต่ลึกๆแล้ว หลินเจี้ยนเฉิงยังมีหัวใจที่ดี!

เขขากางกองกระดาษและรีบเขียน“อุทิศตัวเองอย่างสมบูรณ์ และตายโดยไม่เสียใจ”

หลินเจี้ยนเฉิงหยิบจดหมายเหตุเขามาอีกและเริ่มวางแผนปฏิรูป เขาสงสัยว่าตอนจักรพรรดิ ลูกเขยได้เห็นจะคิดอย่างไร!

หลินเจี้ยนเฉิงรู้สึกร้อนรุ่ม แต่ผลักความคิดนั้นออกไป ถ้าเขาไม่ถึงตำแหน่งของราชเลขา เขาจะปฏิรูปได้ไง!

ต่อให้ ข้า หลินเจี้ยนเฉิงต้องเป็นตัวร้าย ข้าก็จะเปลี่ยนแปลงราชสำนักให้จงได้!

หลินเจี้ยนเฉิงสาบานเงียบๆ

ในขณะเดียวกัน หลี่ฟางก็กำลังรอประกาศิตมาถึงตัว นี่ไม่ใช่ครั้งแรก หลี่ฟางใช้วิธีการลาออกเพื่อกดดันจักรพรรดิมาหลายครั้งแล้ว เขายังสวมชุดอย่างเรียบร้อย รอรับโองการเงียบๆ

“ราชโองการมาถึงแล้ว!”เสียงของขันทีดังที่ประตูหน้า

หลี่ฟางสั่งให้ข้ารับใช้ไปเปิดประตูหลักและเดินออกไปอย่างสงบ หึ แค่คืนเดียวพระองค์ก็รอไม่ไหว ถึงกับออกประกาศิตมาง้อเขา!

หลี่ฟางรู้สึกเย้ยหยัน!

“ถ้าข้าลาออก ราชวงศ์ต้าเฉียนจะหยุดชะงัก!’

หลังคิดเช่นนั้น หลี่ฟางก็คุกเข่า

“โองการของจักรพรรดิถือเป็นโอกงารแห่งสวรรค์!”

“หลี่ฟาง ราชเลขาธิการคณะเสนาบดีและบัณฑิตใหญ่แห่งสถาบันเหวินฮวา เจ้าทำงานหนักและประสบความสำเร็จอย่างมาก ถือเป็นเสาหลักของราชวงศ์!”

“ข้าไม่สามารถทำอะไรได้ถ้าไม่มีใต้เท้าหลี่!วันนี้ ใต้เท้าหลี่เสนอตัวจะลาออก เดิมที ข้าตั้งใจจะห้าม !แต่งานเลี้ยงทั้งหมดย่อมมีวันเลิกรา ใต้เท้าหลี่แก่แล้วและสุขภาพไม่ดี ไม่เหมาะที่จะรับภาระของบ้านเมือง!”

“ข้าอนุญาตให้หลี่ฟางเกษียณและกลับบ้าน โดยมีตราประทับขั้นหนึ่งและทองคำร้อยตำลึงเป็นรางวัล!’

ขันทีเฒ่าหรี่ตาและพูดกับหลี่ฟาง“ใต้เท้าหลี่ โปรดรับโองการ”ด้านหลังเขา ขันทีหนุ่มยื่นถาดทองคำแท่งมาให้

“อะไรนะ!”

หลี่ฟางตาเหลือก จักรพรรดิอนุมัติ!อนุญาตให้เขาเกษียญ!หลี่ฟางกรีดร้องในใจ”ฝ่าบาท!ข้ารับใช้ของท่านเพิ่ง79!ข้ายังรับใช้ราชวงศ์ได้อีกสิบปี!’

แต่หลี่ฟางไม่กล้าพูดเสียงดัง เพราะการเกษียณเป็นการเสนอตัวของเขาเอง และในโองการ เขาเขียนด้วยตัวเองว่าเขาสุขภาพไม่ดี ถ้าเขากลับคำพูดตอนนี้ จะมีโทษหลอกลวงจักรพรรดิ!

หลี่ฟางไม่กล้าบอกว่าเขาสุขภาพดี แต่เขาไม่เต็มใจจะเกษียณ หลี่ฟางก้มหัว

ขันทีเฒ่าเร่ง“ใต้เท้าหลี่ โปรดรับโองการโดยด่วน ข้ายังต้องไปเยี่ยมอีกตั้งสองหลัง!”

“สองหลัง?”หลี่ฟางถามทันที“หลังไหน?”

ข้ารับใช้ของหลี่ฟางยัดแท่งทองสองแท่งเข้ามือขันทีเฒ่า แต่ขันทีเฒ่าไม่รับ เขากลับผลักแท่งทองกลับ “มันเป็นรองราชเลขาทั้งสอง บัณฑิตจางซือกับบัณฑิตหวงจง ฝ่าบาทอนุมัติการลาออกของพวกเขา!”

หลี่ฟางยิ่งตกตะลึงและนั่งลงกับพื้น!เป็นแบบนี้ได้ไง?เลขาทั้งสามลาออก จักรพรรดิบ้าไปแล้ว ตอนนี้ทั้งราชสำนักจะวุ่นวายไปใหญ่ นอกจากทั้งสามแล้ว ใครจะมาชี้นำราชสำนักได้/

พอเห็นหลี่ฟางเหม่อ ขันทีเฒ่าก็นึกถึงความสัมพันธ์ในอดีต และโน้มตัวไปกับกระซิบ”ใต้เท้าหลี่ ฝ่าบาททรงแต่งตั้งหลินเจี้ยนเฉิงเป็นราชเลขาคนใหม่!’

หลินเจี้ยนเฉิง?หลี่เฟิงยิ่งมึน มันเป็นเขา!

หลี่ฟางคิดสักพักและเค้นคำพูด“ฝ่าบาททรงพระปรีชา ทรงพระปรีชาอย่างยิ่ง!”

จากนั้นเขาก็คุกเข่า รับโองการ“ผู้น้อยรับโองการ!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด