ตอนที่ 4 ลาออกทั้งคณะ!ได้!
“แด่ท่านหลี่!ดื่ม!”
“องค์ชาย ข้ามิกล้า!”
ในห้องลับ อัครมหาเสนาบดี หลี่ฟางกับองค์ชายแปด เกาฉีนั่งดื่มด้วยกัน ถ้าข่าวนี้กระจาย มันจะเปิดเผยการสมคบคิดระหว่างทั้งสอง และพวกเขาจะโดนโทษประหาร!แต่ ท่าทีสงบของพวกเขาบ่งชี้ว่านี่ไม่ใช่การพบครั้งแรก
หลี่เฟิงลูบเครา“แผนของพระองค์ฉลาดจริงๆ ฝ่าบาทถึงกับขี้เกียจที่จะบริหารบ้านเมือง”
องค์ชายเก้าหัวเราะ“หลานของข้ายังเขียวไป เขาอยากควบคุม แต่รับมือเรื่องเล็กๆไม่ได้ เช่นนั้น ข้าเลยนำเรื่องเล็กๆทั้งหมดเข้าราชสำนัก แล้วดูว่าเขาจะรับมือยังไง?”
องค์ชายแปดยกถ้วยสุรา”เริ่มจากวันนี้ ท่านหลี่จะควบคุมขุนนางทั้งหมด!’
หลี่เฟิงยกสุราและดื่ม ทั้งหมดนี้คือการสมคบคิดระหว่างหลี่ฟางกับเกาฉี ตอนแรกของการขึ้นบัลลังก์ของเกาหลิงเฟิง เขาสั่งขุนนางให้คุยเรื่องบ้านเมืองระหว่างการประชุมยามเช้า
เกาฉีบอกหลี่ฟางให้นำทุกเรื่องมาคุย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่หรือเ,กอย่างการซื้อหมึกและกระดาษ ทุกครั้ง เหล่าขุนนางจะเถียงกันด้วยเรื่องเล็ก
หลังผ่านไปสามปี สุดท้ายจิตใจของจักรพรรดิก็แหลก ตอนนี้ที่จักรพรรดิจะไม่เข้าราชสำนักอีก มันก็หมายความว่าอำนาจนั้นตกอยู่ในมือของราชเลขาไม่ใช่เหรอ?
สุดท้ายแผนของพวกเขาก็ประสบความสำเร็จ ฮ่าๆ
หลี่ฟางลูบเครา“แต่ แม้ฝ่าบาทจะขี้เกียจ เราในฐานะขุนนางก็ยังต้องแนะนำเขา รองเลขาของข้าสองคนกับข้าจะช่วยกันชี้แนะฝ่าบาท!”
เกาฉีหัวเราะ”แน่นอน!การแนะนำจักรพรรดิถือเป็นหน้าที่ของเหล่าเสนาบดี!’
หลี่ฟางพูดต่อ”เวลานี้ เราต้องแนะนำฝ่าบาทถึงตำแหน่งเรา!’
เกาฉีหัวเราะ หลี่ฟางใช้กลอุบายมามาก ขู่จักรพรรดิว่าจะลาออกทุกครั้ง เกาหลิงเฟิงมีอำนาจได้สามปี และไม่มีคนมีพรสวรรค์มารับตำแหน่งราชเลขา ถ้าหลี่ฟางลาออก ทั้งบ้านเมืองจะระส่ำระส่าย
ดังนั้น ทุกครั้ง เกาหลิงเฟิงจึงกลืนความภาคภูมิใจและอ้อนวอนให้หลี่ฟางกลับมารับตำแหน่งราชเลขา ตอนนี้ หลี่ฟางกำลังใช้กลอุบายเดิมอีก รับชื่อเสียงที่กล้าสั่งสอนฝ่าบาท!
ตอนเกาหลิงเฟิงกลับสู่ฮาเร็ม เขาก็เจอเสี่ยวเต๋อจือ เสี่ยวเต๋อจือเพิ่งกลับจากหอคำราและทักทายเกาหลิงเฟิง
“ฝ่าบาท!”
“อา เสี่ยวเต๋อจือ!การฝึกของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”เกาหลิงเฟิงถาม
วิชายุทธ์ยากจะเชี่ยวชาญ แม้จะด้วยการอุทิศของเสี่ยวเต๋อจือ เขาก็สำเร็จไม่ได้มาก เขาตอบ“ข้าน้อยดูเคล็ดบ่มเพาะมากมายและพยายามฝึก แต่มันรู้สึกไม่ถูก”
“โอ้ ติดปัญหาตรงไหน?”
“ข้าน้อยงง!ตำราเล่มหนึ่งบอกว่าวิชายุทธ์ควรเริ่มฝึกด้วยการบ่มเพาะปราณ แต่อีกเล่มบอกว่าควรเริ่มจากการฝึกฝนร่างกาย ข้าน้อยดูหลายเคล็ดบ่มเพาะ แต่ละเล่มมีวิธีของตน ฝ่าบาท ข้าควรจะฝึกฝนเช่นไร?”
คำถามนี้จู่โจมเกาหลิงเฟิง แม้เขาจะเป็นผู้บ่มเพาะแล้ว ความรู้ก็จำกัด คำถามขเงเสี่ยวเต๋อจือคือประเด็นพื้นบานของผู้บ่มเพาะ
เกาหลิงเฟิงไม่สามารถตอบได้ และได้แต่เปลี่ยนเรื่อง“ไว้ค่อยคุยเรื่องนี้เพิ่มในห้องทรงอักษร!”
ในห้องทรงอักษร เกาหลิงเฟิงกำลังจะไล่เสี่ยวเต๋อจือไปด้วยไม่กี่คำ แต่จู่ๆก็มีขันทีมารายงาน“ฝ่าบาท!ฝ่าบาท!ราชเลขาหลี่กับสองรองราชเลขามายื่นขอลาออกขอรับ!”
ความโกรธของเกาหลิงเฟิงพุ่ง!ตาแก่สามคนนี่!ใช้กลอุบายเดิมอีกเพื่อขู่เขา!แต่ทันทีที่ความโกรธพุ่ง อารมณ์ของเกาหลิงเฟิงก็เปลี่ยนไป ในอดีต เพื่อเป็นจักรพรรดิที่ดี เขายอมกลืนความภาคภูมิใจและโน้มน้าวให้ทั้งสามกลับมา แต่ตอนนี้ ถ้าอยากเป็นทรราช ทำไมถึงต้องโน้มน้าว?แค่อนุมัติการลาออกไปเลย!
แต่ใครจะมาเติมเต็มที่ว่าง?หาคนอื่น?ไม งั้นข้าจะทำลายบ้านเมืองยังไง?ต้องหาขุนนางโกงกิน ดีสุดถ้าเชื่อฟัง ไม่สร้างปัญหาทุกวัน ควรเป็นคนมีความสามารถ ไม่งั้นข้าต้องตัดสินใจทุกสิ่ง แล้วข้าจะเป็นทรราชได้ไง?
มีขุนนางเช่นนั้นไหม?เกาหลิงเฟิงครุ่นคิดและพบคนที่เหมาะสมในความทรงจำ! พ่อตาของเขา!หลินเจี้ยนเฉิง เสนาบดีกรมพิธีคนปัจจุบันและพ่อของจักรพรรดินีหลินว่านเอ๋อร์ เขาคือคนเช่นนั้นนี่?
หลินเจี้ยนเฉิงคือปราชญ์ในยุคของจักรพรรดิองค์ก่อน สามารถบรรลุตำแหน่งจอมปราชญ์ เขาต้องมีความสามารถ แต่ ไม่เหมือนคนอื่น หลินเจี้ยนเฉิงขี้ประจบ จักรพรรดิองค์ก่อนไม่ชอบคนเช่นนี้
แต่ไม่มีอะไรผิดกับงานของหลินเจี้ยนเฉิง เขาค่อยๆไต่เต้ากลายเป็นเสนาบดีกรมพิธีการ ขี้ประจบ มีความสามารถ และไม่เป็นที่ชอบโดยปราชญ์คนอื่น เขาคือคนที่สมบูรณ์แบบ!และยังเป็นพ่อตาของข้า!
สำคัญศุด ชื่อของหลินเจี้ยนเฉิงเหมาะเจาะ!หลินเจี้ยนเฉิง!ขุนนางชั่วหลิน!เกิดมาเพื่อโกงกินชัดๆ!แต่ต้องถามถึงชื่อเสียงของอีกฝ่ายก่อน
พอมองเสี่ยวเต๋อจือ เกาหลิงเฟิงก็ถาม“เสี่ยวเต๋อจือ เจ้ามีความรู้ ชื่อเสียงของใต้เท้าหลินเจี้ยนเฉิงเป็นอย่างไร?”
หลินเจี้ยนเฉิง?พ่อของจักรพรรดินี?เสี่ยวเต๋อจือหลั่งเหงื่อเย็น จักรพรรดินีพยายามฆ่าข้าหลายครั้ง!แน่นอน เขาไม่พูดเพื่อพ่อของจักรพรรดินี แต่ถ้าพูดร้ายลับหลังและจักรพรรดินีรู้เขา เขาจะซวย ความคิดนับไม่ถ้วนวิ่งผ่านหัวของเสี่ยวเต๋อจือ
เขาก้มหัว“ฝ่าบาท ข้าแค่ขันทีน้อย ข้าจะไปรู้อะไร?”
“พูดมา และพูดความจริงด้วย!”
เสี่ยวเต่อจือพูด“ฝ่าบาท!ลือกันอย่างกว้างขวางว่าใต้เท้าหลินเจี้ยนเฉิงโกงกิน!”เสี่ยวเต๋อจือคิด“ในเมื่อตอแยจักรพรรดินีไปแล้ว งั้นก็ช่างมัน ข้าควรไปเอาใจสนมฮวา!”
เกาหลิงเฟิงได้ยินชื่อเสียงของใต้เท้าหลินและดีใจ“ดี!งั้นเขียนประกาศิตไปเลย อนุมัติการลาออกของราชเลขาทั้งสาม แต่งตั้งใต้เท้าหลินเจี้ยนเฉิงเป็นราชเลขาแทน!”
ว่าไงนะ?เสี่ยวเต่อจือตกใจ ฝ่าบาท ทำไมถึงไม่ทำตามมาตรการปกติ!