ตอนที่แล้วตอนที่ 219 ความคิด(มโน)ของ โจวล่าง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 221 เงินปันผลหุ้นจาก Worster Group

ตอนที่ 220 จางเยวี่ย ออกอัลบั้มแล้ว


“มูลค่าตลาด 750,000 ล้าน ติดอันดับ 125 ของโลก?”

เมื่อกี้นี้ อู๋ ซูหลิง ได้สัมผัสถึงความแข็งแกร่งของขนาดของบริษัทนี้แล้ว

แต่เธอยังไม่รู้ว่าบริษัทแห่งนี้มีความแข็งแกร่งแค่ไหน

แต่เมื่อฟัง รองประธานเกา พูดแบบนี้ อู๋ ซูหลิง ย่อมรู้ได้ทันที

และซึ่งเธอรู้สึกตกใจอย่างมาก

มีแม้กระทั่งช่วงเวลาหนึ่งที่เธอรู้สึกว่าหัวสมองของเธอนิ่งงันไปแล้ว

พระเจ้า!

บริษัทที่มีมูลค่าตลาดมากกว่า 750,000 ล้าน ติดอันดับ 500 อันดับแรกของโลก ควรใหญ่แค่ไหน?

เธอแทบไม่อยากจะเชื่อเลย

บริษัทขนาดใหญ่เช่นนี้เป็นของลูกพี่ลูกน้องของเธอจริงๆ

แต่ชายร่างสูงใหญ่ที่อยู่ข้างๆ เขาก็คือ รองประธานของ ฉู่ห่ง กรุ๊ป

แม้แต่ รองประธานยังปฏิบัติต่อ ซูเหวิน ด้วยความเคารพ งั้นแสดงว่าลูกพี่ลูกน้องของเธอ เห็นได้ชัดว่ามีเพียงตัวตนเดียวเท่านั้น นั่นคือ ประธานบริษัทแล้ว

ในขณะที่ อู๋ ซูหลิง ตกใจกับเรื่องนี้ พวกเขาได้เดินมาถึงอาคารคอนโดที่อยู่ไม่ไกลนัก และพากันเดินเข้าไปทันที

อาคารชุดแห่งนี้สูงอย่างน้อยห้าสิบชั้น

ในเมืองม่อถือว่าเป็นคอนโดชั้นนําอย่างแน่นอน เพียงแค่ภายนอกมันดูค่อนข้างพิเศษ และดูหรูหราโอ่อ่าไม่น้อยเลย

แต่เดิมคอนโดนี้เป็นที่พักที่บริษัทจัดให้เป็นพิเศษสำหรับพนักงานที่มีตำแหน่งตั้งแต่ผู้บริหารขึ้นไป

อู๋ ซูหลิง ไม่ได้เป็นพนักงานธรรมดาด้วยซ้ำในขณะนี้ แต่สามารถอาศัยอยู่ในคอนโดแห่งนี้ได้แล้ว ซึ่งเธอถือเป็นเพียงคนเดียวในบริษัท

ในลิฟต์ รองประธานเกา ได้พาพวกเขาตรงไปที่ชั้น 35 ของอาคารก่อนจะเดินออกจากลิฟต์

ที่เห็นต่อไปคือทางเดินอันหรูหรา

ซูเหวิน และลูกพี่ลูกน้องของเขา พลางมองชื่นชมโดยรอบไปพลางเดินตาม รองประธานเกา เข้าไปข้างใน

ไม่นานก็มาถึงหน้าห้องชุดหนึ่ง

“ห้องนี้ครับ”

เมื่อพูดเช่นนั้น รองประธานเกา หยิบพวงกุญแจออกมาเปิดประตู

ต่อจากนั้นพา ซูเหวิน และอู๋ ซูหลิง เข้าไปด้านในห้องชุดนี้

ทันใดนั้น ดวงตาของทั้งสองพลันเป็นประกายขึ้น

พวกเขาเห็นเพียงห้องตรงหน้าได้รับการตกแต่งอย่างหรูหรา

พื้นหินอ่อน เพดานสีสันสดใส แต่ก็ให้ความเรียบหรู มองรวมๆ แล้วสวยงาม และให้ความรู้สึกสบายตามาก

เฟอร์นิเจอร์มีครบทุกชนิด

และทั้งหมดดูใหม่เอี่ยม

ที่สำคัญห้องชุดนี้ดูมีขนาดใหญ่มากเป็นพิเศษ

ซูเหวิน ประเมินไว้ว่าอย่างน้อยต้อง 150 ตารางเมตร

แม้ว่า ลุงใหญ่ กับป้าใหญ่จะมาที่นี่ดูแล้วก็เกินพอสำหรับทั้งสามคน

“เป็นไงบ้าง คุณพอใจไหมครับ?”

รองประธานเกา ถามด้วยรอยยิ้ม

“พอใจ.. พอใจมากค่ะ”

“ฉันยังไม่ทันได้ทำงานเลย ก็ได้อยู่บ้านดีๆ แบบนี้แล้ว.. ฉันไม่รู้จะพูดอะไรด้วยซ้ำ”

อู๋ ซูหลิง มองบ้านสวยหลังนี้ และหากบอกว่าเธอไม่รู้สึกตื่นเต้นนั่นคงจะเป็นเรื่องโกหก

ท้ายที่สุดแล้วที่นี่คือ เมืองม่อ

ในเมืองม่อ การที่สามารถอาศัยอยู่ในคอนโดหรูระดับนี้ได้ เมื่อก่อนเธอไม่แม้แต่จะกล้าคิดจินตนาการด้วยซ้ำ

“อืม ห้องนี้ดูดีมาก มันไม่เลวจริงๆ”

ในเวลานี้ ซูเหวิน ก็พยักหน้าชื่นชมเช่นกัน

ซูเหวิน เคยชินกับการเห็นสถานที่ หรือคฤหาสน์ที่หรูหรามาก็มาก ซึ่งการที่ ซูเหวิน ยังคงแสดงความคิดเห็นเช่นนี้ออกมาได้ ดูเหมือนว่าห้องชุดนี้จะไม่เลวเลยจริงๆ

“เอาล่ะ เนื่องจากห้องนี้ไม่เลวจริงๆ ผมจึงรู้สึกวางใจได้แล้ว”

“พี่สาว คุณสามารถอยู่ที่นี่ได้หลังจากนี้ ตอนนี้ผมจะต้องขอกลับไปที่มหาลัยก่อนแล้ว ที่เหลือฝาก รองประธานเกา บอกต่อกับเธอด้วย”

“แล้วหากมีอะไรก็ตามในอนาคต คุณสามารถติดต่อหา รองประธานเกา ได้โดยตรง หรือส่งข้อความมาหาผมก็ได้”

ซูเหวิน กล่าวต่ออีกครั้ง

หลังจากดูที่พักให้เธอแล้วเขาจึงไม่มีอะไรให้ต้องทำอีก เช่นนั้นคงถึงเวลาต้องไปแล้ว

ในส่วนเรื่องงานมี รองประธานเกา อยู่ เขาไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร

“อืม ถ้านายจะไปเข้าเรียน นายควรกลับไปก่อนเถอะ ทางนี้ฉันอยู่ได้ แถมยังมี รองประธานเกา อยู่ด้วย”

อู๋ ซูหลิง ก็พยักหน้าทันที

ครั้งนี้เธอรบกวนลูกพี่ลูกน้องของเธอมากแล้ว

ตอนนี้.. มันดูจะเป็นการดีที่จะไม่ทำให้อีกฝ่ายเสียเวลาอีก

“แต่ครั้งนี้ฉันก็ต้องขอบคุณเธอจริงๆ”

อู๋ ซูหลิง กล่าวอีกครั้ง

ครั้งนี้ เธอรู้สึกขอบคุณ ซูเหวิน จากก้นบึ้งของหัวใจจริงๆ

ถ้าไม่ใช่เพราะ ซูเหวิน เธอคงไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้

ยิ่งไปกว่านั้นไม่ต้องพูดถึงการได้เข้ามาทำงานในบริษัทใหญ่ขนาดนี้

ซูเหวิน ที่เห็นเขาทำเพียงยกยิ้มให้กับเธอ และไม่ได้พูดอะไรมาก

ท้ายที่สุดเราต่างเป็นญาติกัน ดังนั้นหากสามารถช่วยเหลือได้ก็ควรช่วย…

แล้วเหตุใดต้องพูดอะไรให้มาก?

หลังจากนั้นเขากล่าวกับ รองประธานเกา อีกสองสามคำ ก่อนจะขอตัวจากไป

หลังจากออกจากบริษัทแล้ว ซูเหวิน ก็กลับไปที่มหาลัยโดยตรง

พอตกกลางคืน รองประธานเผิง จากบริษัท ช่านซิง เอนเตอร์เทนเมนท์ ก็ได้โทรเข้ามา

เล่าว่า จางเยวี่ย จะออกอัลบั้มในอีก 3 วัน

เตรียมพร้อมเริ่มต้นสิ่งดีดีในปีใหม่นี้

ดังนั้นนั่นจึงเป็นเหตุผลที่เขาโทรมา โดยอยากบอกข่าวดีนี้กับ ซูเหวิน

พอได้ยินชื่อ จางเยวี่ย ซูเหวิน ก็พลันนึกถึงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่มีพรสวรรค์ในการเต้นคนนั้น ดูเหมือนว่าในท้ายที่สุดเธอจะได้รับรางวัลชนะเลิศในการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ครั้งนั้น

โดยไม่คาดคิดเลยว่าเพียงพริบตาเดียวจะผ่านไปหลายเดือนแล้ว

และเธอกำลังจะออกอัลบั้มในเร็วๆ นี้?

“อืมม มันเป็นสิ่งที่ดี ส่วนพวกคุณสนับสนุนเธออย่างเต็มที่ก็พอแล้ว”

“จริงสิ ในอัลบั้มมีกี่เพลง?”

ซูเหวิน ถามอย่างสงสัย

“มีทั้งหมด 7 เพลง โดยเธอแต่งเอง 3 เพลง ที่เหลือเป็นนักแต่งเพลงมืออาชีพของทางเราที่ช่วยแต่งเพลงให้เธอ ส่วนเรื่องมิวสิควิดีโอ(MV)ได้ถ่ายทำไว้หมดแล้วครับ”

รองประธานเผิง ตอบทันที

ซูเหวิน พยักหน้าอย่างลับๆ

ในเวลาเพียงไม่กี่เดือน มันค่อนข้างดีแล้วที่สามารถแต่งเพลงเองได้ถึง 3 เพลงด้วยกัน

เช่นนั้นคงต้องส่งออกไป เพื่อดูกระแสตอบรับแล้ว!

ไม่ต้องพูดถึงว่าต้องฮิตทุกเพลง ขอแค่ดังเพลงเดียวก็ถือว่าประสบความสำเร็จมากแล้ว

และสิ่งที่ ซูเหวิน ไม่คาดคิดก็คือ เป็นเพราะอัลบั้มนี้ จางเยวี่ย ถึงได้โด่งดัง และพีคที่สุดของเธอสำหรับก้าวแรกในวงการ

ด้วยอัลบั้มนี้ นอกจากเธอจะกลายเป็นที่รู้จักกันทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว เธอยังก้าวขึ้นสู่กระแสสูงสุดโดยตรง และกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่อีกคนแห่งวงการบันเทิง…

.........

วันเวลาเองได้ผ่านไปเช่นนี้

ไม่นานก็ผ่านไปห้าวันแล้ว

ซึ่งเป็นวันที่สามที่อัลบั้มของ จางเยวี่ย ถูกปล่อยออกไป

ซูเหวิน เพิ่งกลับจากทานอาหารกลางวันที่โรงอาหาร และเพิ่งเอนตัวนอนพักผ่อนอยู่บนเตียง

ทันใดนั้น พวกเพื่อนสนิททั้งสามของเขาก็เข้ามาหา ซูเหวิน ทันที และพูดคุยกันอย่างตื่นเต้น

“โคตรเชี้ยเลย เหล่าซู นายรู้เรื่องนี้หรือยัง ที่ว่า ช่านซิง มีนักร้องที่กำลังมาแรง”

“ใช่แล้ว! เธอชื่อ จางเยวี่ย เมื่อสองวันก่อนออกอัลบั้ม ‘ฝันอันเหน็บหนาว(冰与梦)’ ซึ่งมันดีมากจริงๆ”

“ถูกถูกถูก ฉันยังดู MV ของเธอมาแล้วด้วย ไม่ใช่แค่ร้องเพลงดีเท่านั้นนะ แต่การเต้นก็ยังเต้นได้ดีมากด้วย เจ๋งสุดๆ”

จูเหยี่ยน, เฉินหมิง และเหอ เหวินเฟิง พูดคุยกับเสียงเจี๊ยวจ๊าว ดูเหมือนพวกเขาจะตื่นเต้นมาก

“จางเยวี่ย?”

ซูเหวิน ตกตะลึงก่อนครู่หนึ่ง จากนั้นก็นึกขึ้นได้

ใช่ ตามเวลานี้ จางเยวี่ย ควรออกอัลบั้มเมื่อสองวันก่อนไปจริงๆ

แต่แค่ จางเยวี่ย เป็นเพียงดาราหน้าใหม่ที่เพิ่งออกอัลบั้ม ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงรู้เรื่องนี้?

มันฟังดูดีมาก?

มากจนแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว...

และในขณะที่เขาสงสัย เหล่าจู ก็เปิดโทรศัพท์มือถือของเขา

จากนั้นเพลงหนึ่งก็ถูกเปิดให้เขาฟัง

ในเวลาเพียงแค่สิบวินาที ซูเหวิน ก็ประหลาดใจแล้ว

นั่นเพราะเพลงนี้เพราะมากจริงๆ

แทบจะทันทีที่ได้ยินท่วงทำนองนี้ ซูเหวิน เขาก็ถูกดึงดูดทันที

สามนาทีต่อมา พอเพลงนี้จบแล้ว ซูเหวิน กลับยังคงดื่มด่ำกับมัน นึกไปถึงท่วงทํานองเมื่อครู่นี้

ไม่เลว ไม่เลวเลยจริงๆ

เพลงนี้ร้องได้เยี่ยมมาก

ทำนองก็ติดหู เนื้อเพลงก็ไพเราะ..

ซูเหวิน ไม่ได้คาดหวังว่า จางเยวี่ย คนนี้ไม่เพียงแต่เต้นได้ดีเท่านั้น แต่การร้องเพลง เธอก็ยังมีศักยภาพที่ยอดเยี่ยมมากเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม.. ในขณะที่ ซูเหวิน กำลังแอบยกย่องชื่นชม จางเยวี่ย อยู่นั้น

ทันใดนั้น เพื่อนๆ ของเขาก็เปิดเพลงอีกเพลงหนึ่งขึ้นมา

ทันใดนั้น มันก็ทำให้ ซูเหวิน ต้องประหลาดใจอีกครั้ง

นั่นเพราะเพลงนี้ดูมีสไตล์ร็อกนิดๆ เมื่อเทียบกับเพลงเมื่อกี้

ไม่เพียงแต่ทำนองจะติดหูเท่านั้น แต่มันยังทำให้เลือดแทบร้อนระอุด้วย..

ด้วยเหตุนี้ ซูเหวิน จึงได้ฟังเพลงติดต่อกันหลายเพลง

แต่ละเพลงมันยอดเยี่ยมมาก ไพเราะมาก จนทำให้คนฟังรู้สึกจมลงไปกับบทเพลง และท่วงทำนอง ซูเหวิน เองอดช็อกไม่ได้…

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด