ตอนที่ 219 ความคิด(มโน)ของ โจวล่าง
เมื่อมองดูรูปถ่ายในมือของเขา เช่นเดียวกับหญิงสาวงามที่อยู่ในภาพ โจวล่าง จู่ๆ หัวใจพลันเต้นตึกตักขึ้นมา ก่อนจะเผยยิ้มกว้างอย่างหลงใหล
ด้วยรูปนี้ และด้วยภูมิหลังของตระกูลโจว ของเขา..
ยังกลัวอีกเหรอว่าจะหาผู้หญิงในภาพให้เจอไม่ได้?
หลังจากคิดเรื่องนี้แล้ว โจวล่าง พูดคุยกับ มู่ อวี๋เฟิง อีกสองสามคํา แล้วเดินออกจากร้านถ่ายรูปไป
เมื่อออกจากร้านถ่ายรูปมา เขารีบหยิบโทรศัพท์มือถือแล้วโทรออกไปทันที
ดังนั้น ครึ่งชั่วโมงต่อมา ..ณ ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง
โจวล่าง ได้มาพบกับผู้ชายคนหนึ่ง
พร้อมกันนี้เขายังส่งรูปถ่ายใบหนึ่งให้อีกฝ่ายด้วย
พอผู้ชายคนนั้นเห็นรูปที่ คุณชายโจว ส่งมา ก็ตกใจก่อนจะพูดทันทีว่า : “เอ่อ... คุณชายโจว นี่คือคนที่คุณกำลังตามหา?”
“ไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมอื่นเลย?”
ผู้ชายคนนั้นดูมีสีหน้าสับสน
ดูเหมือนเขาจะไม่คิดว่า คุณชายโจว จะให้ข้อมูลมาน้อยขนาดนี้
“อืม ไม่มีข้อมูลอื่นแล้ว แค่รูปถ่ายนี้”
“คุณกัว คุณเป็นประธานของ เจียงฉือ กรุ๊ป และผมเชื่อว่า ด้วยความสามารถของคุณ คุณย่อมต้องมีหนทางที่จะค้นหาผู้หญิงคนนี้เจอได้อย่างแน่นอน”
“แน่นอนว่า.. ผมก็ไม่ได้ขอให้คุณหาคนเดียว ผม โจวล่าง มีเพื่อนมากมายในเมืองนี้ แม้มีไม่ถึงร้อยแต่ก็ย่อมมีหลายสิบคน และเมื่อถึงเวลาผมจะให้พวกเขาช่วยด้วยอีกแรง”
โจวล่าง ยิ้มเบาๆ เขาดูเหมือนไม่เร่งรีบ
ปรากฎว่าผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงข้าม โจวล่าง ผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็น กัวเฉียง ประธานของ เจียงฉือ กรุ๊ป ของตระกูลโจว
“เช่นนั้น มันก็ต้องมีขอบเขตคร่าวๆ ใช่ไหมครับ?”
กัวเฉียง ถามอีกครั้ง
โจวล่าง พยักหน้า : “รูปนี้หากดูเวลาจากด้านล่างนี้แล้ว จะเห็นว่าถูกถ่ายไว้เมื่อไม่กี่วันก่อน หลายวันมานี้ มู่ อวี๋เฟิง เพื่อนของผมคนนั้นอยู่ในเมืองม่อมาตลอด ดังนั้นคนในรูปนี้ต้องอยู่ในเมืองม่อแห่งนี้แน่ๆ ดังนั้นคุณแค่มองหาในเมืองม่อนี้ก็พอ”
“อืม ได้ครับ!”
“ผมจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อตามหาผู้หญิงคนนี้”
“ว่าแต่.. ผู้ชายคนนี้ล่ะครับ?”
ทันใดนั้น กัวเฉียง ก็ชี้ไปที่ ซูเหวิน ในรูปถ่าย แล้วถามอย่างสงสัย
“อย่าไปสนใจ”
“ผมสนใจแค่ผู้หญิง ไม่ใช่ผู้ชาย”
คุณชายโจว พูดด้วยท่าทางไม่สนใจ
เขาทราบดีว่าผู้ชายในภาพคนนี้เป็นแฟนหนุ่มของสาวสวยคนนี้
แต่แล้วไงล่ะ?
ผู้หญิงที่เขาต้องการ ใครสามารถเข้ามาขัดขวางเขาได้?
แฟนหนุ่มแล้วมันยังไงก็แค่นั้น โยนเงินหลายหมื่นก็วิ่งหนีแล้ว
และหากว่าอีกฝ่ายเลือกมองข้ามความหวังดีของผู้อื่น เช่นนั้นคงต้องสอบให้รู้จักบทเรียนสักเล็กน้อยบ้าง
เช่นนี้แล้ว มีอะไรที่ไม่สามารถแก้ไขได้?
ในขณะนี้ ซูเหวิน ที่อยู่ไกลจากมหาลัยคงไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้
เพียงแค่รูปถ่าย แฟนสาวของตัวเองกลับถูกคนอื่นจ้องมองแล้ว...
.........
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวก็ผ่านไปอีก 2 วัน
ซูเหวิน เพิ่งตื่นนอนตอนเช้าได้ไม่นาน ก็ได้รับโทรศัพท์จากลูกพี่ลูกน้อง โดยเธอบอกว่าวันนี้เธอจะมาถึงเมืองม่อ และเธอสามารถไปรายงานตัวที่บริษัทได้ในพรุ่งนี้
สำคัญคือเธอไม่รู้ว่าบริษัทที่ ซูเหวิน กล่าวถึงนั้นเป็นบริษัทแบบไหน และตั้งอยู่ที่ใด
ซูเหวิน กล่าวกับเธอว่าสิ่งเหล่านี้ไม่จําเป็นต้องไปกังวล
รอจนกระทั่งเธอมาถึงเมืองม่อแล้ว ให้โทรกลับมาหาเขา
พอถึงเวลาเขาจะไปรับเธอพาไปที่บริษัท
อู๋ ซูหลิง ยากที่จะปฏิเสธการเชื้อเชิญนี้ได้ เมื่อเห็นลูกพี่ลูกน้องของเธอพูดเช่นนี้แล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องตอบตกลง
ในขณะเดียวกัน อู๋ ซูหลิง ยังบอก ซูเหวิน ถึงข่าวที่ว่า ลุงใหญ่ และป้าใหญ่ของเขาจะไม่มาที่เมืองม่อ ชั่วคราวในเวลานี้
ผู้เฒ่าทั้งสองยังต้องการรอให้เธอตั้งหลักในเมืองม่อได้ก่อน
ไม่งั้นหากพวกเขาไปอยู่ด้วยก็มีแต่จะไปเพิ่มภาระให้กับลูกสาวเท่านั้น
ในเรื่องนี้ ซูเหวิน ไม่ได้พูดอะไรมาก
ท้ายที่สุดแล้วมันก็เป็นเรื่องของคนในครอบครัวอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจะไม่เข้าไปยุ่งด้วย
ต้องบอกว่าบ้านเกิดของ ซูเหวิน อยู่ค่อนข้างห่างไกลจากเมืองม่อมาก
แม้จะนั่งรถไฟความเร็วสูงก็ต้องมาถึงในช่วงบ่ายๆ
เขาจึงรอถึงเวลาบ่ายสองหรือบ่ายสามโมง ก่อนเขาจะได้รับข้อความจากลูกพี่ลูกน้องของเขา
ขณะเดียวกัน ซูเหวิน ที่รู้อยู่ก่อนแล้วว่าลูกพี่ลูกน้องของเขาจะมาถึงในช่วงบ่าย เขาจึงไม่ได้ไปเข้าเรียนเช่นกัน
จากนั้นเขาก็ขับรถ Lamborghini ออกจากมหาลัย ไปรับลูกพี่ลูกน้องที่สถานีรถไฟความเร็วสูง(高铁站)
เขารอรับลูกพี่ลูกน้องก่อน
แล้วเขาค่อยพาลูกพี่ลูกน้องไปที่บริษัทโดยตรงอีกครั้ง
ท้ายที่สุดแล้วทางบริษัท รองประธานเกา ได้จัดเตรียมที่พัก และตำแหน่งงานให้กับลูกพี่ลูกน้องของเขาเรียบร้อยนานแล้ว
ซึ่งวันนี้ตราบใดที่เขาพาลูกพี่ลูกน้องมาถึง ก็สามารถเข้าดูตำแหน่งงาน และที่พักได้ทันทีแน่นอน
ขณะเดียวกันเขาก็มีความสงสัยเช่นกัน
คอนโดชั้นนําที่จัดโดยบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง ฉู่ห่ง กรุ๊ป นั้นเป็นอย่างไรบ้าง วันนี้เขาจึงมีโอกาสได้ไปดูพอดี
“เอ่อ เสี่ยวเหวิน บริษัทที่นายเปิดอยู่ที่ไหน และมุ่งเน้นโดยเฉพาะเกี่ยวกับอะไร?”
ช่วงระหว่างทางไปบริษัท อู๋ ซูหลิง ที่นั่งอยู่ข้างคนขับ จู่ๆ เธอก็ได้หันมอง ซูเหวิน ที่กำลังขับรถ แล้วถามอย่างอยากรู้อยากเห็น
ในขณะนี้ เธอกำลังไปที่บริษัทที่ ซูเหวิน ทํางานจริงๆ
อู๋ ซูหลิง จึงมีความคาดหวังเล็กน้อย และเริ่มรู้สึกประหม่าอีกครั้ง
“อืม มันอยู่ในทําเลที่ดีในย่านที่คึกคักไม่น้อย แต่ตอนนี้เราใกล้จะถึงที่นั่นแล้ว”
“และคุณวางใจได้ ไม่ต้องกังวลอะไรมาก บริษัทของเราเป็นบริษัทด้านการลงทุน และตรงกับวิชาเอกที่คุณเรียนจบมา ความรู้ของคุณที่มีจะใช้งานได้ดีกับที่นี่อย่างแน่นอน”
ซูเหวิน ยิ้มอย่างสงบ พลางพูดปลอบใจเธอ
ระหว่างพูดคุย รถได้ขับมาถึงหน้าทางเข้าบริษัทแล้ว
หลังจาก ซูเหวิน จอดรถแล้ว เขาก็ลงจากรถพร้อมกับ อู๋ ซูหลิง
พอลงจากรถมา ซูเหวิน รีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหา รองประธานเกา แล้วขอให้เขาลงมารับพวกเขา
ส่วน อู๋ ซูหลิง ลูกพี่ลูกน้องของ ซูเหวิน เธออึ้งไปนานแล้ว
“เสี่ยว... เสี่ยวเหวิน นี่คือสิ่งที่นายพูดถึง บริษัทที่นายเปิด?”
อู๋ ซูหลิง พูดละล่ำละลักขณะที่เธอค่อยๆ หันหน้ามาพูดกับเขา
สีหน้าของเธอดูไม่เชื่อ ..ซึ่งมันเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อได้จริงๆ
เธอเห็นเพียงตึกสูงหลายหลังตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าเธอ
มันงดงามยิ่งใหญ่อลังการ มันดูตระการตาเกินกว่าจะบรรยายออกมาได้
ยิ่งไปกว่านั้น อาคารเหล่านี้ล้วนมีสีเดียวกันทั้งหมด เห็นได้ชัดว่าเป็นของบริษัทเดียวกัน..
เป็นเรื่องยากสำหรับ อู๋ ซูหลิง ที่จะจินตนาการได้
ที่ว่าบริษัทแห่งหนึ่งจะมีขนาดใหญ่ได้ขนาดนี้จริงๆ…
มองดูอาคารที่สูงตระหง่านเสียดฟ้าตรงหน้านี้
พลันนึกถึงบริษัทที่เธอเคยทำงานที่บ้านเกิดอีกครั้ง..
อู๋ ซูหลิง รู้สึกว่ามันเทียบไม่ได้เลย
มันไม่ได้อยู่ในมิติเดียวกันด้วยซ้ำ
“นี่คือบริษัทของผม ฉู่ห่ง กรุ๊ป”
“พื้นที่บริเวณนี้ทั้งหมดเป็นอาคารของบริษัทเรา”
เมื่อเห็นลูกพี่ลูกน้องของเขาตกใจมาก ซูเหวิน จึงยิ้มบางเบา และไม่ได้พูดอธิบายอะไรให้มาก
เดี๋ยวเมื่อ รองประธานเกา มาถึง ปล่อยให้ รองประธานเกา คนนี้พูดเองคงจะดีกว่า
และทันทีที่เขานึกถึง รองประธานเกา รองประธานเกา ก็ลงมาถึงที่ชั้นล่างแล้ว
เขารีบเดินออกจากอาคารตรงมาทางนี้ทันที
รองประธานเกา คนนี้สกุล เกา และพอเติบโตขึ้นเขาก็สูงตามไปด้วย
เขาสูงกว่า ซูเหวิน เล็กน้อย ซึ่งเขาสูงถึง 1.8 เมตร
บวกกับวัยสี่สิบกว่าปีของเขา ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนที่ดูน่าเชื่อถือมากเมื่อมองในแวบแรก
ตอนนี้เมื่อทั้งสองฝ่ายพบหน้ากันแล้ว ย่อมต้องทักทายกันก่อนเป็นธรรมดา
พอได้รู้จักกันแล้ว
ซูเหวิน จึงพูดถามว่า : “รองประธานเกา เป็นยังไงบ้าง คอนโดหรืออะไรถูกจัดเตรียมเอาไว้พร้อมแล้วใช่ไหม?”
“จัดเตรียมไว้พร้อมแล้วครับ ทั้งเรื่องตำแหน่งงานเช่นกัน..”
“ไม่ทราบว่าจะพา คุณอู๋ ไปดูคอนโดก่อนแล้วค่อยมาดูที่บริษัทดีไหมครับ?”
รองประธานเกา ได้พยักหน้าแล้วถามต่อ
“อืม งั้นเราไปดูที่คอนโดก่อนจะได้เก็บสัมภาระ หรือวางข้าวของอะไรต่างๆ”
ซูเหวิน พยักหน้าเห็นด้วยทันที
จากนั้นเขา และลูกพี่ลูกน้องของเขาก็ติดตาม รองประธานเกา ไปด้านข้าง
“เสี่ยวเหวิน ฉันไม่คิดเลยว่าบริษัทของเธอจะใหญ่ขนาดนี้ มันทําให้ฉันรู้สึกกลัวจริงๆ”
ระหว่างทาง อู๋ ซูหลิง อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
เมื่อมองไปที่อาคารเหล่านี้ หัวใจของเธอยังคงสั่นอยู่ไม่น้อยเลยในเวลานี้
“ฮ่าฮ่าๆ, คุณอู๋ ล้อเล่นแล้ว”
“เรา ฉู่ห่ง กรุ๊ป เป็นกลุ่มบริษัทด้านการลงทุนที่มีมูลค่าตลาดมากกว่า 7 แสนล้านหยวน บริษัทมีผู้ถือหุ้นหลายสิบคน อยู่ในอันดับที่ 125 ของการจัดอันดับองค์กรของโลก เป็นธรรมดาที่บริษัทของเราจะมีขนาดใหญ่มาก”
ทันใดนั้น รองประธานเกา ก็ยิ้มหัวเราะ และเริ่มพูดอีกครั้ง…