ตอนที่ 148: พบผู้สนับสนุน!
บุรุษในชุดคลุมสีดำก้าวเดินเหมือนกับพยัคฆ์มังกร ดวงตาที่คมกล้าราวกับดาบที่คมกริบ
หยิงหู่และทุกคนตกใจและไม่กล้าสบตากับเขา
“ฯพณฯท่านเป็นใคร”หยิงหู่ที่หรี่ตา ซ่อนเจตนาสังหารที่แข็งแกร่งเอาไว้อย่างดี.
เขาไม่ได้โง่ อีกฝ่ายสามารถเดินเข้ามาที่นี่ได้โดยตรงโดยไม่มีใครขวางได้ ต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน.
หลังจากสัมผัสลมหายใจของชายชุดดำอย่างระมัดระวัง หยิงหู่ก็ตื่นตะลึงมากยิ่งขึ้น.
เขาตัดสินได้ว่าคู่ต่อสู้นั้นมีฐานบ่มเพาะอาณาจักรจ้าววิญญาณอย่างแน่นอน.
“กษัตริย์เซียนฉิน ระวังปาก คนที่อยู่ด้านหน้าเจ้าคือผู้นำนิกายหู่กั๋ว อาณาจักรซือฉี!”
ศิษย์ที่อยู่ข้างหลังจ้าวอี้เฉิง บุรุษเสื้อคลุมดำเอ่ยเสียงดัง
และในขณะที่เขาตะโกนเช่นนั้น อากาศในกลุ่มผู้ชมก็แข็งตัวเล็กน้อย
ปรากฏว่าคนที่ร้ายกาจผู้นี้ก็คือคนของอาณาจักรซือฉีนี่เอง.
เหล่ยหยางและเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ ที่สัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่จ้าวอี้เฉิงแผ่ออกมาก็แสดงความหวาดกลัว.
เมื่อเผชิญหน้ากับบุรุษที่แข็งแกร่งเช่นนี้ พวกเขาไม่กล้าขยับเลย
ไม่เช่นนั้นหนึ่งนิ้วของจ้าวอี้เฉิงคงสามารถบดขยี้เนื้อหนังและกระดูกของพวกเขาทั้งหมดได้.
ในห้องโถงในขณะนี้ มีเพียงดวงตาของหยางซินเท่านั้นที่เต็มไปด้วยความสุข
เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบันผู้นำนิกายหู่กั๋ว ควร สามารถกำราบหยิงหู่และคนของเขาได้
แม้นว่าหยิงหู่จะระดมกำลังทหารนับพัน แต่เกรงว่าคงไม่อาจขวางผู้นำนิกายจ้าวที่จะช่วยชีวิตนางได้อย่างแน่นอน.
“ฮิฮิ ความแข็งแกร่งของผู้นำนิกายจ้าวนั้น ไม่ธรรมดาจริง ๆ”
ในขณะเดียวกันนั้นจู่ ๆ หยิงหู่กลับหัวเราะดังขึ้นมาแทน
“ข้าได้ยินมาว่านิกายหู่กั๋วแห่งรัฐซือฉีนั้น ยืนหยัดมานับพันปีไม่เคยล้มลง ดังนั้นข้าจึงรู้ว่าสมาชิกของนิกายหู่กั๋วทุกคน กระทั่งผู้นำนิกายคนก่อนก็แข็งแกร่งมาก.”
“น่าเสียดาย ความแข็งแกร่งของข้านั้น นอกเหนือจินตนาการของเจ้าไปแล้ว!”
ซูมมมม!
แรงกดดันที่น่าพรั่นพรึง น่าเกรงขามก็แผ่ออกมาปกคลุมพื้นที่รอบ ๆ ทันที.
ภายใต้แรงกดดันนี้ แม้แต่จ้าวอี้เฉิงก็ขมวดคิ้ว มือขวาของเขาที่สั่นไปมาเล็กน้อย.
จ้าวอี้เฉิงที่มีลางสังหรณ์ว่ามีคนที่แข็งแกร่งมากกว่าเขาซ่อนอยู่ที่นี่.
ปัง
โดยไม่รอให้จ้าวอี้เฉิงหันกลับไป ก็มีอะไรบางอย่างที่พุ่งชนหลังของเขาอย่างรุนแรง ทำให้เขากระเด็นออกไปหลายฟุต.
หลังจากนั้นจ้าวอี้เฉิงก็ล้มครูดไปกับพื้น ที่ลำคอมีบางอย่างเอ่อล้น ก่อนพ่นโลหิตออกมาเต็มปาก.
เขารู้สึกว่าอวัยวะภายในที่ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง.
เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมาก็มองเห็นชายชราในชุดสีเขียวยืนอยู่ที่ประตูห้องโถง.
“ขอบเขตจ้าววิญญาณขั้นสูงสุด!”
หลังจากนั้นจ้าวอี้เฉิงdHกลายเป็นระมัดระวัง ดวงตาของเขาที่สั่นไหว.
ตั้งแต่เขาเป็นนิกายหู่กั๋ว เขาก็ได้บ่มเพาะขัดเกลายกระดับพลังของตัวเองก้าวไปบนวิถีเต๋าอย่างตั้งใจ.
เขาไม่ค่อยสนใจสถานการณ์ในประเทศ เพื่อนบ้านและเรื่องของภายนอกโลกแต่อย่างใด.
ดังนั้นวันนี้หลังจากได้รับจดหมายด่วนจากหยางซุน
เขาจึงเดินทางมายังอาณาจักรเซียนฉินเป็นการส่วนตัว เพื่อจับตัวหยินหู่ เพื่อบังคับให้เขาเลิกแล้วต่อกัน.
แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่าเขาใจร้อนเกินไปและควรระมัดระวังให้มากกว่าขึ้น
มิฉะนั้นเขาคงไม่ได้รับบาดเจ็บจากชายชราที่ยืนอยู่หน้าประตู
หยิงหู่ยิ้มด้วยความดีใจ และเอ่ยเล็กน้อยออกมาว่า "อาวุโสซู รบกวนท่านแล้ว!"
เมื่อเหล่ยหยาง ส่งคนไปจับหยางซิน เขาได้ส่งคนไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์หลิงฉื่อ เพื่อขอความช่วยเหลือจากพวกเขาโดยเฉพาะ
โดยไม่คาดคิด
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์หลิงฉื่อมีจริงใจมาก ถึงกับส่งอาวุโสซูคังออกมาจริง ๆ.
ดูเหมือนว่าเซิ่งจู่แดนศักดิ์สิทธิ์หลิงฉื่อจะมองการณ์ไกลได้จริง ๆ คาดว่าจ้าวอี้เฉิงจะมาสร้างปัญหา.
ดังนั้นจึงได้ส่งอาวุโสซูคังมาที่นี่เพื่อไม่ให้คนของอาณาจักรซือฉีสร้างปัญหาอะไรได้.
"ใช่." ซูคังพยักหน้าอย่างภาคภูมิใจ เดินเข้าไปในห้องโถงโดยเอามือไพล่หลัง มองลงไปที่จ้าวอี้เฉิง “ราชวงศ์เซียนฉินนั้นสาบานว่าจะภัคดีต่อดินแดนศักดิ์สิทธิ์หลิงฉื่อของพวกเรา”
“เจ้ากล้าสร้างปัญหาในวังเซียนฉิน ชายชราคงต้องเชือดไก่เพื่อเตือนลิง!”
ขณะที่เขาเอ่ยเขาก็ยกมือขวาขึ้น
สายลมที่รุนแรงกลายเป็นเจตนาสังหารที่เฉียบคม.
เมื่อเห็นสิ่งนี้ หัวใจของจ้าวอี้เฉิงก็จมลงทันที.
เขาไม่สงสัยเลยว่าฝ่ามือของซูคังนั้นสามารถสังหารเขาได้อย่างแน่นอน
หัวใจของหยางซินเองก็รู้สึกเย็นยะเยือบไปด้วยเช่นกัน.
นางคิดว่าจ้าวอี้เฉิงจะสามารถพลิกสถานการณ์ได้ แต่ไม่คาดคิดเลยว่าจะไม่อาจทำอะไรได้เลย.
"หยุด!"
ขณะซูคังกำลังลงมือ ก็มีเสียงเคร่งขรึมดังมาจากนอกห้องโถง.
ฮุ่ยเหนิงและหยางเหวินยวี่ที่ร่อนลงที่ด้านนอกห้องโถง พร้อมกับตรงเข้ามาเลย.
เนื่องจากองค์รักษ์ด้านนอกถูกจ้าวอี้เฉิงจัดการไปหมดแล้ว พวกเขาจึงสามารถตรงมายังห้องโถงได้เลย.
“พี่ใหญ่ พี่สอง อย่ามาตายที่นี่นะ!”
เมื่อหยางซินเห็นคนที่ปรากฏขึ้น นางก็แทบลืมตัวเร่งรีบเอ่ยตะโกนออกไป.
ฮุ่ยเหนิงเหลือบมองหยางซินด้วยความรักเอ็นดู แล้วเอ่ยว่า "พระอมิตาพุธ พุทธเจ้า น้องสาว อย่ากังวลเลย"
หยางซินเปิดปากเล็ก ๆ ของนาง ไม่คาดคิดเลยว่าประโยคที่พี่ใหญ่ของนางจะเอ่ยเป็นประโยคนี้.
เป็นไปได้ไหมที่พี่ใหญ่เป็นพระมานาน จนกลายเป็นพระจริง ๆ ไปแล้ว?
ไม่ต้องกังวล?
นางจะไม่กังวลได้อย่างไร!
“ฮิฮิ พระน้อย เจ้าคงไม่คิดว่าเพราะเจ้าเป็นลูกศิษย์ของจิงไห่ ข้าจึงต้องไว้หน้าของเจ้า?”
เขามีความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องราวต่าง ๆ เช่นกัน แม้แต่รู้ความคับข้องใจของอีกฝ่ายที่มีต่ออาณาจักรซือฉีด้วย ฮุยเหนิงเดิมทีมีนามว่า หยางหยวนเหนียน ที่ไม่พอใจบิดาจนหนีไปออกบวช
หยางเหวินยวี่ ก้าวไปข้างหน้าและเอ่ยออกมาว่า "กษัตริย์เซียนฉิน พี่ชายของข้าไม่อาจจัดการเจ้าได้อย่างแน่นอน!"
"ไม่ต้องเอ่ยเลยว่า ไม่แม้แต่หยุดเจ้าที่แย่งชิงน้องสาวของข้าออกมาจากพระราชวังเซียนฉิน!"
หยิงหูได้ยินเรื่องดังกล่าวนี้ จึงอดสงสัยไม่ได้จึงเอ่ยถามออกมา:
“โอ้ว ดูเหมือนว่าเจ้าจะมีผู้สนับสนุนที่ยอดเยี่ยมแล้วสินะ”
“บอกข้าหน่อยสิว่าผู้สนับสนุนเจ้าเป็นใคร จิงไห่ วัดต้าเหล่ยหยินอย่างงั้นรึ?”
เวลานี้แม้แต่ผู้นำนิกายหู่กั้วก็ยังหมดสภาพไปแล้ว.
คนที่พอที่จะทำให้หยิงหู่นึกได้ก็มีเพียงวัดต้าเหล่ยหยิน และกองกำลังที่อยู่เบื้องหลังฮุยเหนิงเท่านั้น.
อย่างไรก็ตามซูคังอดไม่ได้ที่จะเผยท่าทางรังเกียจ.
“พระวัดต้าเหล่ยหยินที่มีชื่อเสียงได้ละทางโลกไปแล้ว พวกเขากล้าเข้ามาแทรกแซงในเรื่องนี้ พวกเขาก็มีแต่จะถูกชาวโลกติฉินนินทา”
“และแม้ว่าพวกเขาต้องการเคลื่อนไหว พวกเขาก็ต้องดูด้วยว่า นี่คืออาณาจักรของเป่ยเสวียนเทียน พวกเขามีคุณสมบัติที่จะเคลื่อนไหวหรือไม่?”
คำพูดของซูคังทำให้หยิงหู่และคนอื่น ๆ พยักหน้าเห็นด้วย.
ใช่ นี่คือดินแดนเป่ยเสวียนเทียน.
แม้นว่าวัดต้าเหล่ยหยินมีความกล้าหาญ แต่ย่อมไม่กล้าเข้ามาแทรกแซงกิจการของอาณาจักรเซียนฉีและอาณาจักรซือฉีได้.
ฮุยเหนิงพยักหน้าเมื่อได้ยินและเอ่ยออกมาว่า“อมิตาพุธ การวิเคราะห์ของท่านค่อนข้างสมเหตุสมผล”
หยางเหวินยวีอดหัวเราะไม่ได้ และเอ่ยถามด้วยสีหน้าแดกดัน:“แล้วถ้าเป็นคนจากเป่ยเสวียนเทียนล่ะ?”
หยิงหู่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และเผยสีหน้าเย็นชา: "เจ้าไม่มีคุณสมบัติใดที่จะขอให้จักรพรรดินิลงมือดำเนินการได้"
กษัตริย์แห่งอาณาจักรซือฉี ไม่มีคุณสมบัติที่จะไปที่พระราชวังเสวียนปิงได้ และเขาไม่เชื่อว่าพวกเขาสามารถเชิญจักรพรรดินิเสวียนปิงมาได้
หยางเหวินยวี่ ส่ายหน้าและถอนหายใจ: "เจ้าเอ่ยถูก เราไม่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะเชิญจักรพรรดินีมาได้"
"แต่สวรรค์ก็ยังคงโปรดปรานพวกเรา ทำให้พวกเราได้พบกับตี้ฟู่!"
ตี้ฟู่!
ได้ยินนามดังกล่าวไม่เพียงแค่หยิงหู่เท่านั้น แม้แต่ซูคัง และเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ ต่างก็ตื่นตะลึง.
จักรพรรดินีเสวียนปิงแข็งแกร่งและมีอำนาจไม่ธรรมดา และยังมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ไร้ความปราณีต่อคนที่ทำผิด.
ในฐานะบุรุษของนาง ตี้ฟู่ไม่อาจจินตนาการได้เลยว่าเขานั้นจะร้ายกาจเพียงใด.
หากอาณาจักรซือฉีได้พบกับตี้ฟู่ แล้วได้รับการช่วยเหลือจากพระองค์ล่ะ
ถ้าอย่างงั้น…
ไม่ต้องเอ่ยถึงอาณาจักรเซียนฉินเลย แม้แต่เพิ่มแดนศักดิ์สิทธิ์หลิงฉื่อก็ไม่เพียงพอให้อีกฝ่ายเหยียบย่ำ
ขณะทุกคนตื่นตระหนก หายใจแผ่วบางอยู่นั้น แสงเจิดจ้าก็แวบเข้ามาจากด้านนอกห้องโถง
ทุกคนเงยหน้าขึ้นและมองออกไปนอกประตู เลยขึ้นไปบนท้องฟ้า.
ราชรถหยกวิหคปีกฟ้าที่หรูหรา ก็ค่อย ๆ ร่อนลงมาช้า ๆ.
รัศมีของผู้ทรงเกียรติราวกับจะปิดกั้นโลกหล้า ทำให้ทุกคนในปัจจุบันรู้สึกหวาดกลัว อดไม่ได้ที่จะนั่งคุกเข่าบูชา