ตอนที่แล้วตอนที่ 145: สมบัติของพุทธศาสนา วาสนาของหลินซวน!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 147: หนึ่งชีวิตต่อหนึ่งชีวิต!

ตอนที่ 146: ไม่อนุญาตให้มีร่องรอยของสิ่งสกปรกกับตงหวงจื่อโหยว


นามจริงของฮุ่ยเหนิงก็คือหยางหยวนเหนียน เป็นพี่ชายขององค์ชายรองหยางเหวินยวี่

เขาและหยางเหวินยวี่มีน้องสาวนาม หยางซิน

ทั้งสามเป็นองค์ชายและธิดาของหยางซุนกษัตริย์อาณาจักรซือฉี

เมื่อแปดปีที่แล้ว เนื่องจากหยางหยวนเหนียน ตกหลุมรักบุตรสาวของคนขายเนื้อในประเทศตัวเอง เขาจึงส่งคนไปที่บ้านของคนขายเนื้อเพื่อสู่ขอญาติและมอบของขวัญ

โดยไม่คาดคิดหยางซุน กษัตริย์แห่งอาณาจักรซือฉี ได้เข้ามาแทรกแซงการแต่งงานของหยางหยวนเหนียน เพราะเขาไม่ชอบสถานะที่ต่ำต้อยของสะใภ้

ภายใต้แรงกดดันของหยางซุน หยางหยวนเหนียน และบุตรสาวของคนขายเนื้อไม่มีความหวังที่จะหนีตามกันได้เลย เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากมาที่บ้านของอีกฝ่ายเพื่อยกเลิกการหมั้นหมาย

บุตรสาวคนขายเนื้อที่ถูกยกเลิกการหมั้นหมาย ไม่นานก็เสียชีวิตด้วยอาการซึมเศร้า

เป็นผลให้หยางหยวนเนียนรู้สึกละอายใจผิดบาป จึงละทิ้งทางโลกเข้าสู่เส้นทางพุทธศาสนา และกลายเป็นศิษย์ผู้บำเพ็ญพุทธจิงไห่.

สำหรับอาณาจักรเซียนฉินนั้นเป็นประเทศที่ทรงอำนาจที่ติดอยู่กับอาณาจักรซือฉี

กษัตริย์ของพวกเขาหยิงหู่ เกิดมาพร้อมกับพลังศักดิ์สิทธิ์ มีร่างกายแข็งแกร่ง ทำให้เขาทำยกระดับประเทศให้ทรงอำนาจและยิ่งใหญ่.

นอกจากนี้ เขายังนำทักษะฝึกฝนร่างกายของเขาส่งต่อไปยังกองทัพ และก่อตั้ง“กองทัพหลางหู่”ขึ้นมา.

พลังต่อสู้ของกองทัพหลางหู่นั้นทรงพลังมาก กล่าวได้ว่ามันคือกองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดในสิบประเทศรอบ ๆ เลย.

ทำให้พวกเขาเต็มไปด้วยความอหังการ

เมื่อสามปีที่แล้วหยิงหู่เสนอการแต่งงานกับหยางซุนกษัตริย์ซือฉี ว่าเขาต้องการให้บุตรสาวของอีกฝ่ายหยางซินแต่งงานกับบุตรชายของเขา

หยางซุนพิจารณาว่าอำนาจของอาณาจักรเซียนฉินนั้นแข็งแกร่ง และหยางซินเข้าสู่วัยแต่งงานแล้ว จึงเห็นด้วยกับอีกฝ่าย.

โดยไม่คาดคิด เพียงหกเดือนก่อน

บุตรชายของหยิงหู่ พลาดถูกซุ่มโจมตีจากเผ่าอสูร และถูกสังหารไป.

หยิงหูส่งจดหมายถึงหยางซุนโดยบอกว่าบุตรชายของเขาจากไปแล้ว เขาจึงตัดสินใจแต่งงานกับหยางซินแทนบุตรชายของเขา และขอให้นางเป็นสนมคนที่เก้า

หยางซุนไม่พอใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น และตัดสินใจยกเลิกการแต่งงานระหว่างทั้งสองประเทศทันที

การทำเช่นนี้ ทำให้หยิงหู่โกรธมาก.

อย่างไรก็ตามเนื่องจากอาณาจักรเซียนฉินและอาณาจักรซือฉีต่างก็อยู่ในการปกครองของเป่ยเสวียนเทียน.

ภายใต้การปกครองของจักรพรรดิเสวียนปิง หยิงหูไม่กล้าพึ่งพาอำนาจอันแข็งแกร่งกองทัพชาติเพื่อโจมตีอีกฝ่ายโดยตรง

อย่างไรก็ตาม การคุกคามและการกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ ทุกสิ่งที่พอทำได้ ทั้งเปิดเผยและในที่ลับ ล้วนถูกใช้ออกมาจนประเทศซือฉียากจะทนได้.

และในวันนี้.

เมื่อพวกเขารู้ว่าหยางซุนป่วยหนักและยากจะรักษา.

หยิงหู่ก็ส่งทหารกลุ่มหนึ่งบุกมายังพระราชวังซือฉี และเอ่ยอย่างตรงไปตรงมาว่าต้องการนำหยางซินออกไป.

หยางเหวินยวี่  คิดว่าพี่ชายของเขาหยางเหวินเหนียน ซึ่งเป็นศิษย์ของผู้บำเพ็ญพุทธจิงไห่ผู้มีชื่อเสียง ดังนั้นเขาจึงอยากให้อีกฝ่ายกลับไปเป็นผู้นำจัดการสถานการณ์โดยรวม

บางที หยิงหูอาจไว้หน้าจิงไห่และวัดต้าเหล่ยหยิงแล้วปล่อยหยางซินไป.

หลังจากรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้ว ฮุยเหนิงก็สั่นสะท้าน

หยางซิน เมื่อตอนที่นางอายุได้ 10 ขวบ นางก็มีใบหน้าเหมือนนางเซียนแล้ว กล่าวได้ว่านางมีความงดงามอย่างล้นหลาม

ตอนนี้นางเติบโตแล้วยิ่งสง่างามมากยิ่งขึ้น เขาจะปล่อยให้นางถูกทำลายโดยชายชราผู้ชั่วร้ายอย่างหยิงหูได้อย่างไร?

“อมิตาพุธ หยิงหู่เจ้ารังแกผู้อื่นมากเกินไป จะต้องได้รับผลกรรมที่ชั่วร้าย!” ฮุยเหนิงขมวดคิ้ว

“ถ้าอย่างนั้น เซี่ยงหวงรีบตามข้ามาเถอะ!”

หยางเหวินยวี่มีสีหน้าวิตกกังวล “ตอนนี้ น้องสาวและเสด็จพ่อ ต้องการท่านเป็นอย่างมาก ประเทศซือฉีเองก็เช่นกัน!”

เขาคิดว่าจิงไห่เป็นคนที่แข็งแกร่งในอาณาจักรกึ่งจักรพรรดิ

หยางหยวนเหนียนเป็นลูกศิษย์คนเดียวของจิงไห่  เขาต้องได้เรียนรู้ทักษะมากมายจากการติดตามเขาแน่

เมื่อหยางหยวนเหนียนปรากฏตัวและมีพื้นหลังของวัดต้าเล่ยหยิน เขาจะสามารถจัดการกับหัวขโมยหยิงหู่ได้อย่างแน่นอน

ในเวลานี้จิงไห่เดินไปที่ด้านข้างของฮุ่ยเหนิงแล้วเอ่ยออกมาว่า:

“ฮุยเหนิง พระพุทธเจ้าทรงมีพระเมตตา แม้ว่าเจ้าจะเขามาอาศัยร่มเงาพุทธศาสนาแล้ว แต่เจ้าจะมองดูน้องสาวของเจ้าจมอยู่ในน้ำครำไม่ได้”

“อาจารย์อนุญาตให้เจ้าลงเขาเพื่อแก้ไขปัญหานี้”

ในสายตาของจิงไห่ ฮุ่ยเหนิงมีฐานบ่มเพาะของอาณาจักรจ้าววิญญาณอยู่แล้ว

และยังมี "ทักษะระฆังทองช้างมังกร" ที่ยกระดับไปถึงระดับห้าแล้ว

เมื่อประกอบกับความแข็งแกร่งกำลังทหารของประเทศซือฉี ย่อมสามารถจัดการกับความขัดแย้งในการแต่งงานระหว่างทั้งสองประเทศได้อย่างราบรื่นแน่นอน

หลังจากได้ยินเรื่องดังกล่าว ฮุยเหนิงก็ครุ่นคิดครู่หนึ่ง แล้วส่ายหน้าเอ่ยออกไปว่า:

“เรียนอาจารย์ ข้าเกรงว่าศิษย์จะไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ด้วยตนเองได้”

"ทำไม?" จิงไห่ถาม

ฮุยเหนิงเอ่ย“ท่านไม่รู้ เบื้องหลังของอาณาจักรเซียนฉีนั้นมีแดนศักดิ์สิทธิ์หลิงฉื่ออยู่เบื้องหลัง”

หลังจากที่หยางซุนและหยิงหู่ทำสัญญาแต่งงานเมื่อสามปีที่แล้ว ฮุยหนิงได้สืบข้อมูลเซียนฉินโดยเฉพาะ.

เขารับรู้โดยไม่ได้ตั้งใจว่า เบื้องหลังพวกเขานั้นมีแดนศักดิ์สิทธิ์หลิงฉื่อ.

ในเวลานั้นเขาคิดว่ามันเป็นเรื่องดีสำหรับน้องสาวหยางซินที่จะแต่งงานไปยังอาณาจักรเซียนฉิน.

ทว่าทุกอย่างกับไม่ได้เป็นเช่นนั้น

ดินแดนศักดิ์สิทธิ์หลิงฉื่อ?

เมื่อได้ยินชื่อนี้ ทั้งจิงไห่และหยางเหวินยวี่ก็แสดงสีหน้าตื่นตะลึง!

ดินแดนศักดิ์สิทธิ์หลิงฉื่อเป็นหนึ่งในยี่สิบแดนศักดิ์สิทธิ์ของเป่ยเสวียนเทียน

ตามข่าวลือ ใต้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์หลิงฉื่อ นั้นมีเส้นโลหิตมังกรที่มีความยาว 100,000 ลี้

ในเส้นโลหิตมังกรนั้น ไม่เพียงแต่มีน้ำพุพลังงานทางจิตวิญญาณเท่านั้น แต่ยังมีข่าวว่ามีมังกรศักดิ์สิทธิ์หลับใหล คอยปกป้องทุกคนในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าว

ใครก็ตามที่กล้ารุกรานดินแดนศักดิ์สิทธิ์หลิงฉื่อจะถูกเทพมังกรสาปและได้รับเคราะห์ร้ายตามมา

ไม่เพียงเท่านั้น เซิ่งจู่แห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์หลิงฉื่อไม่เพียงแต่เป็นมหาอำนาจกึ่งจักรพรรดิเท่านั้น แต่ยังเป็นปรมาจารย์ด้านค่ายกลที่ทรงพลังอีกด้วย

ไม่ต้องเอ่ยถึงจิงไห่ แม้ว่าชิงเติ้งลงมือเอง ก็ไม่มีความมั่นใจที่จะปราบปรามเซิ่งจู่แดนศักดิ์สิทธิ์หลิงฉื่อได้.

หากอาณาจักรเซียนฉินมีแดนศักดิ์สิทธิ์หลิงฉื่อหนุนหลัง.

ไม่ใช่ฮุยเหนิงคนเดียวที่สามารถจัดการมันได้

นอกจากนี้ผู้บำเพ็ญพุทธวัดต้าเหล่ยหยินนั้น ได้เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ก้าวสู่วิถีพุทธ ไม่สะดวกที่จะเข้าไปแทรกแซงเรื่องทางโลก ไม่เช่นนั้นก็จะถูกทั้งโลกวิพากษ์วิจารณ์อย่างแน่นอน.

แม้ว่าพวกเขาต้องการแทรกแซง อาณาจักรเซียนฉินและดินแดนศักดิ์สิทธิ์หลิงฉื่อก็เป็นของเป่ยเสวียนเทียน และพวกเขาย่อมไม่มีสิทธิ์และอำนาจโดยตรงเลย

ในช่วงเวลาหนึ่ง ไม่เพียงแต่หยางเหวินยวี่เท่านั้น กระทั่งจิงไห่ก็ยังรู้สึกกระอักกระอ่วนเช่นกัน.

“เฮ้อ ครั้งนี้มันยากจริง ๆ!”หยางเหวินยวี่ ถอนหายใจด้วยความผิดหวัง

เมื่อมองขึ้นไป ทันใดนั้นเขาก็เห็นร่างของหลินซวน สวมชุดสีขาวที่สูงส่งและสง่า

อดไม่ได้ที่จะดวงตาของเขาสว่างขึ้น

"ยังไงก็ตามมีจักรพรรดิอยู่ที่นี่ ไม่ว่าอาณาจักรเซียนฉินและดินแดนศักดิ์สิทธิ์หลิงฉื่อจะแข็งแกร่งแค่ไหน ก็เทียบไม่ได้กับจักรพรรดิ!"

หลังจากได้รับการเตือนจากเขา จิงไห่และฮุ่ยเหนิงก็ตระหนักได้ในทันที

ท้ายที่สุด พวกเขาลืมตี้ฟู่ไป

จะปัญหาอะไรที่ไม่สามารถแก้ไขได้ หากมีตี้ฟู่?

ต่อมา.

หยางเหวินยวี่ที่รีบก้าวเข้าไปทักทายหลินซวนและเอ่ยเกี่ยวกับข้อพิพาทของอาณาจักรซือฉีและอาณาจักรเซียนฉิน

“อาณาจักรซือฉีและอาณาจักรเซียนฉิน ต่างก็อยู่ในการปกครองของเป่ยเสวียนเทียน กษัตริย์เซียนฉินกลั่นแกล้งประเทศพวกเรามากเกินไป ขอให้ตี้ฟู่ให้ความเป็นธรรมด้วย!”หยางเหวินยวี่ที่เอ่ยขอร้อง.

ฮุยเหนิงที่ประสานมือของเขาไว้ด้านข้างด้วยท่าทางขอร้องเช่นกัน

เรื่องนี้หากเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในแดนสวรรค์อื่น หลินซวน ย่อมไม่สามารถดูแลตัดสินได้

แต่ทั้งสองประเทศเป็นของเป่ยเสวียนเทียน และหากพวกเขาทำสงครามกันย่อมก่อให้เกิดปัญหาต่อชีวิตผู้บริสุทธิ์ หลินซวนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องดูแลพวกเขา

ท้ายที่สุดแล้ว ในใจของเขา ตงหวงจื่อโหยว เสด็จแม่ของเด็ก  ๆ เป็นสิ่งต้องห้ามที่ห้ามใครแตะต้องได้

ไม่ควรมีร่องรอยสิ่งสกปรกในโลกของตงหวงจื่อโหยว.

"ไปดูหน่อยก็แล้วกัน" หลินซวนกล่าวอย่างสบาย ๆ

กล้าที่จะปล้นองค์หญิงอาณาจักรอื่นในเป่ยเสวียนเทียน กษัตริย์เซียนฉิน ผู้นี้ช่างอหังการจริง ๆ.

“ขอบพระทัย ตี้ฟู่!”หยางเหวินยวี่ที่ดูมีความสุขมาก.

ต่อมาเขาและฮุยเหนิงก็นำทางกลับไปที่เป่ยเสวียนเทียน พร้อมกับหลินซวน

-

ประเทศซือฉี พระราชวังหลวง

หยวนซู่ผู้บัญชาการทหาร นำองค์รักษ์ชั้นสูงหลายร้อยคนมาขวางประตูหน้าห้องโถงเอาไว้

เขาเหลือบมองประตูพระราชวังอย่างกระวนกระวายในระยะไกล:

“ทำไมองค์ชายสองยังไม่กลับมา? เขาไม่สามารถชักชวนองค์ชายใหญ่ได้หรือไม่?”

ก่อนที่หยางเหวินยวี่จะจากไป เขาขอให้พวกเขาปิดกั้นกองกำลังหลางหู่ของอาณาจักรเซียนฉินเอาไว้.

แต่หลังจากผ่านไปนานแล้วหยางเหวินยวี่ก็ยังไม่ปรากฏตัว

ยิ่งไปกว่านั้น ผู้คนหลายร้อยคนในของกองกำลังหลางหู่ก็บุกเข้ามาแล้ว

ภายใต้การนำของเหล่ยหยาง ผู้บัญชาการของฝ่ายตรงข้ามที่กดดันเขาทุกย่างก้าว ผลักพวกเขาจนถอยร่นมาจนถึงประตูห้องโถงแล้ว.

ราวกับว่าการต่อสู้อาจจะเริ่มขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้.

เหล่ยหยางผู้บัญชาการกองทัพหลางหู่ที่มองหยวนซูและคนอื่น ๆ ด้วยใบหน้าหยิ่งผยอง.

“วันนี้ข้ามาที่นี่ เพราะต้องการพาองค์หญิงของเจ้าไป!”

“ถ้าเจ้าไม่ยอม บิดาจะใช้ดาบหัวพยัคฆ์ฟันพวกเจ้าแน่!”

หลังจากเอ่ยแล้ว มีดหัวพยัคฆ์ในมือของเขาก็ส่งเสียงคำรามแผ่แรงกดดันที่ดุเดือดออกมา

หยวนซูที่ขมวดคิ้ว เขาเป็นเพียงผู้ฝึกตนขั้นต้นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์.

เมื่อเผชิญหน้ากับเหล่ยหยางที่อยู่จุดสูงสุดของวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ เขาไม่มีโอกาสชนะเลย.

อย่างไรก็ตามด้วยภารกิจปกป้องพระราชวัง หยวนซูจึงตัดสินใจขวางเหล่ยหยางและคนอื่น ๆ อย่างเต็มที่ แม้ว่าต้องสังเวยชีวิตก็ตาม.

“เป็นเจ้าเอง ที่ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา!”

เมื่อเห็นว่าหยวนซูและคนอื่น ๆ ไม่ยินยอม ย่อมทำให้เหล่ยหยางโกรธมาก.

ปัง

เขาหมุนเวียนแก่นแท้ในร่างกายของเขา พร้อมกับใช้ดาบหัวพยัคฆ์ฟาดฟันไปยังข้างหน้า.

หยวนซูที่ยกกระบี่ของเขาขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อสกัดกั้น.

อย่างไรก็ตาม เพราะฐานบ่มเพาะของเขานั้นไม่ดีเท่ากับเหล่ยหยาง ความแข็งแกร่งทางกายภาพเองก็ด้อยกว่าเหล่ยหยางมาก.

ทุกครั้งที่ป้องกัน แขนของเขาจะสั่นไปมา ราวกับว่ามันจะแตกออกเป็นชิ้น ๆ.

"ไปให้พ้น!"

เหล่ยหยาง เตะหยวนซูลอยกระเด็นออกไปทันที.

จากนั้นเขาก็ฟาดฟันองค์รักษ์คนอื่น ๆ ตกตายไปทั้งหมด แล้วก้าวเข้าไปในห้องโถงราวกับว่าไม่มีใครอยู่.

“ฮ่าฮ่าฮ่า พระราชวังอาณาจักรซือฉี ไม่มีอะไรเลย จะมาเมื่อไหร่ก็ได้!”

“องค์หญิงซือฉี เจ้าซ่อนตัวอยู่ที่ไหน?”

เมื่อเห็นเหล่ยหยางนำผู้คนบุกเข้ามาได้แล้ว หยวนซูที่ไม่อาจทำอะไรได้เลย.

อาณาจักรเซียนฉินโอหังมาก ไม่มีใครสามารถหยุดพวกเขาได้เลยรึ?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด