ตอนที่ 146: ไม่อนุญาตให้มีร่องรอยของสิ่งสกปรกกับตงหวงจื่อโหยว
นามจริงของฮุ่ยเหนิงก็คือหยางหยวนเหนียน เป็นพี่ชายขององค์ชายรองหยางเหวินยวี่
เขาและหยางเหวินยวี่มีน้องสาวนาม หยางซิน
ทั้งสามเป็นองค์ชายและธิดาของหยางซุนกษัตริย์อาณาจักรซือฉี
เมื่อแปดปีที่แล้ว เนื่องจากหยางหยวนเหนียน ตกหลุมรักบุตรสาวของคนขายเนื้อในประเทศตัวเอง เขาจึงส่งคนไปที่บ้านของคนขายเนื้อเพื่อสู่ขอญาติและมอบของขวัญ
โดยไม่คาดคิดหยางซุน กษัตริย์แห่งอาณาจักรซือฉี ได้เข้ามาแทรกแซงการแต่งงานของหยางหยวนเหนียน เพราะเขาไม่ชอบสถานะที่ต่ำต้อยของสะใภ้
ภายใต้แรงกดดันของหยางซุน หยางหยวนเหนียน และบุตรสาวของคนขายเนื้อไม่มีความหวังที่จะหนีตามกันได้เลย เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากมาที่บ้านของอีกฝ่ายเพื่อยกเลิกการหมั้นหมาย
บุตรสาวคนขายเนื้อที่ถูกยกเลิกการหมั้นหมาย ไม่นานก็เสียชีวิตด้วยอาการซึมเศร้า
เป็นผลให้หยางหยวนเนียนรู้สึกละอายใจผิดบาป จึงละทิ้งทางโลกเข้าสู่เส้นทางพุทธศาสนา และกลายเป็นศิษย์ผู้บำเพ็ญพุทธจิงไห่.
สำหรับอาณาจักรเซียนฉินนั้นเป็นประเทศที่ทรงอำนาจที่ติดอยู่กับอาณาจักรซือฉี
กษัตริย์ของพวกเขาหยิงหู่ เกิดมาพร้อมกับพลังศักดิ์สิทธิ์ มีร่างกายแข็งแกร่ง ทำให้เขาทำยกระดับประเทศให้ทรงอำนาจและยิ่งใหญ่.
นอกจากนี้ เขายังนำทักษะฝึกฝนร่างกายของเขาส่งต่อไปยังกองทัพ และก่อตั้ง“กองทัพหลางหู่”ขึ้นมา.
พลังต่อสู้ของกองทัพหลางหู่นั้นทรงพลังมาก กล่าวได้ว่ามันคือกองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดในสิบประเทศรอบ ๆ เลย.
ทำให้พวกเขาเต็มไปด้วยความอหังการ
เมื่อสามปีที่แล้วหยิงหู่เสนอการแต่งงานกับหยางซุนกษัตริย์ซือฉี ว่าเขาต้องการให้บุตรสาวของอีกฝ่ายหยางซินแต่งงานกับบุตรชายของเขา
หยางซุนพิจารณาว่าอำนาจของอาณาจักรเซียนฉินนั้นแข็งแกร่ง และหยางซินเข้าสู่วัยแต่งงานแล้ว จึงเห็นด้วยกับอีกฝ่าย.
โดยไม่คาดคิด เพียงหกเดือนก่อน
บุตรชายของหยิงหู่ พลาดถูกซุ่มโจมตีจากเผ่าอสูร และถูกสังหารไป.
หยิงหูส่งจดหมายถึงหยางซุนโดยบอกว่าบุตรชายของเขาจากไปแล้ว เขาจึงตัดสินใจแต่งงานกับหยางซินแทนบุตรชายของเขา และขอให้นางเป็นสนมคนที่เก้า
หยางซุนไม่พอใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น และตัดสินใจยกเลิกการแต่งงานระหว่างทั้งสองประเทศทันที
การทำเช่นนี้ ทำให้หยิงหู่โกรธมาก.
อย่างไรก็ตามเนื่องจากอาณาจักรเซียนฉินและอาณาจักรซือฉีต่างก็อยู่ในการปกครองของเป่ยเสวียนเทียน.
ภายใต้การปกครองของจักรพรรดิเสวียนปิง หยิงหูไม่กล้าพึ่งพาอำนาจอันแข็งแกร่งกองทัพชาติเพื่อโจมตีอีกฝ่ายโดยตรง
อย่างไรก็ตาม การคุกคามและการกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ ทุกสิ่งที่พอทำได้ ทั้งเปิดเผยและในที่ลับ ล้วนถูกใช้ออกมาจนประเทศซือฉียากจะทนได้.
และในวันนี้.
เมื่อพวกเขารู้ว่าหยางซุนป่วยหนักและยากจะรักษา.
หยิงหู่ก็ส่งทหารกลุ่มหนึ่งบุกมายังพระราชวังซือฉี และเอ่ยอย่างตรงไปตรงมาว่าต้องการนำหยางซินออกไป.
หยางเหวินยวี่ คิดว่าพี่ชายของเขาหยางเหวินเหนียน ซึ่งเป็นศิษย์ของผู้บำเพ็ญพุทธจิงไห่ผู้มีชื่อเสียง ดังนั้นเขาจึงอยากให้อีกฝ่ายกลับไปเป็นผู้นำจัดการสถานการณ์โดยรวม
บางที หยิงหูอาจไว้หน้าจิงไห่และวัดต้าเหล่ยหยิงแล้วปล่อยหยางซินไป.
หลังจากรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้ว ฮุยเหนิงก็สั่นสะท้าน
หยางซิน เมื่อตอนที่นางอายุได้ 10 ขวบ นางก็มีใบหน้าเหมือนนางเซียนแล้ว กล่าวได้ว่านางมีความงดงามอย่างล้นหลาม
ตอนนี้นางเติบโตแล้วยิ่งสง่างามมากยิ่งขึ้น เขาจะปล่อยให้นางถูกทำลายโดยชายชราผู้ชั่วร้ายอย่างหยิงหูได้อย่างไร?
“อมิตาพุธ หยิงหู่เจ้ารังแกผู้อื่นมากเกินไป จะต้องได้รับผลกรรมที่ชั่วร้าย!” ฮุยเหนิงขมวดคิ้ว
“ถ้าอย่างนั้น เซี่ยงหวงรีบตามข้ามาเถอะ!”
หยางเหวินยวี่มีสีหน้าวิตกกังวล “ตอนนี้ น้องสาวและเสด็จพ่อ ต้องการท่านเป็นอย่างมาก ประเทศซือฉีเองก็เช่นกัน!”
เขาคิดว่าจิงไห่เป็นคนที่แข็งแกร่งในอาณาจักรกึ่งจักรพรรดิ
หยางหยวนเหนียนเป็นลูกศิษย์คนเดียวของจิงไห่ เขาต้องได้เรียนรู้ทักษะมากมายจากการติดตามเขาแน่
เมื่อหยางหยวนเหนียนปรากฏตัวและมีพื้นหลังของวัดต้าเล่ยหยิน เขาจะสามารถจัดการกับหัวขโมยหยิงหู่ได้อย่างแน่นอน
ในเวลานี้จิงไห่เดินไปที่ด้านข้างของฮุ่ยเหนิงแล้วเอ่ยออกมาว่า:
“ฮุยเหนิง พระพุทธเจ้าทรงมีพระเมตตา แม้ว่าเจ้าจะเขามาอาศัยร่มเงาพุทธศาสนาแล้ว แต่เจ้าจะมองดูน้องสาวของเจ้าจมอยู่ในน้ำครำไม่ได้”
“อาจารย์อนุญาตให้เจ้าลงเขาเพื่อแก้ไขปัญหานี้”
ในสายตาของจิงไห่ ฮุ่ยเหนิงมีฐานบ่มเพาะของอาณาจักรจ้าววิญญาณอยู่แล้ว
และยังมี "ทักษะระฆังทองช้างมังกร" ที่ยกระดับไปถึงระดับห้าแล้ว
เมื่อประกอบกับความแข็งแกร่งกำลังทหารของประเทศซือฉี ย่อมสามารถจัดการกับความขัดแย้งในการแต่งงานระหว่างทั้งสองประเทศได้อย่างราบรื่นแน่นอน
หลังจากได้ยินเรื่องดังกล่าว ฮุยเหนิงก็ครุ่นคิดครู่หนึ่ง แล้วส่ายหน้าเอ่ยออกไปว่า:
“เรียนอาจารย์ ข้าเกรงว่าศิษย์จะไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ด้วยตนเองได้”
"ทำไม?" จิงไห่ถาม
ฮุยเหนิงเอ่ย“ท่านไม่รู้ เบื้องหลังของอาณาจักรเซียนฉีนั้นมีแดนศักดิ์สิทธิ์หลิงฉื่ออยู่เบื้องหลัง”
หลังจากที่หยางซุนและหยิงหู่ทำสัญญาแต่งงานเมื่อสามปีที่แล้ว ฮุยหนิงได้สืบข้อมูลเซียนฉินโดยเฉพาะ.
เขารับรู้โดยไม่ได้ตั้งใจว่า เบื้องหลังพวกเขานั้นมีแดนศักดิ์สิทธิ์หลิงฉื่อ.
ในเวลานั้นเขาคิดว่ามันเป็นเรื่องดีสำหรับน้องสาวหยางซินที่จะแต่งงานไปยังอาณาจักรเซียนฉิน.
ทว่าทุกอย่างกับไม่ได้เป็นเช่นนั้น
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์หลิงฉื่อ?
เมื่อได้ยินชื่อนี้ ทั้งจิงไห่และหยางเหวินยวี่ก็แสดงสีหน้าตื่นตะลึง!
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์หลิงฉื่อเป็นหนึ่งในยี่สิบแดนศักดิ์สิทธิ์ของเป่ยเสวียนเทียน
ตามข่าวลือ ใต้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์หลิงฉื่อ นั้นมีเส้นโลหิตมังกรที่มีความยาว 100,000 ลี้
ในเส้นโลหิตมังกรนั้น ไม่เพียงแต่มีน้ำพุพลังงานทางจิตวิญญาณเท่านั้น แต่ยังมีข่าวว่ามีมังกรศักดิ์สิทธิ์หลับใหล คอยปกป้องทุกคนในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าว
ใครก็ตามที่กล้ารุกรานดินแดนศักดิ์สิทธิ์หลิงฉื่อจะถูกเทพมังกรสาปและได้รับเคราะห์ร้ายตามมา
ไม่เพียงเท่านั้น เซิ่งจู่แห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์หลิงฉื่อไม่เพียงแต่เป็นมหาอำนาจกึ่งจักรพรรดิเท่านั้น แต่ยังเป็นปรมาจารย์ด้านค่ายกลที่ทรงพลังอีกด้วย
ไม่ต้องเอ่ยถึงจิงไห่ แม้ว่าชิงเติ้งลงมือเอง ก็ไม่มีความมั่นใจที่จะปราบปรามเซิ่งจู่แดนศักดิ์สิทธิ์หลิงฉื่อได้.
หากอาณาจักรเซียนฉินมีแดนศักดิ์สิทธิ์หลิงฉื่อหนุนหลัง.
ไม่ใช่ฮุยเหนิงคนเดียวที่สามารถจัดการมันได้
นอกจากนี้ผู้บำเพ็ญพุทธวัดต้าเหล่ยหยินนั้น ได้เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ก้าวสู่วิถีพุทธ ไม่สะดวกที่จะเข้าไปแทรกแซงเรื่องทางโลก ไม่เช่นนั้นก็จะถูกทั้งโลกวิพากษ์วิจารณ์อย่างแน่นอน.
แม้ว่าพวกเขาต้องการแทรกแซง อาณาจักรเซียนฉินและดินแดนศักดิ์สิทธิ์หลิงฉื่อก็เป็นของเป่ยเสวียนเทียน และพวกเขาย่อมไม่มีสิทธิ์และอำนาจโดยตรงเลย
ในช่วงเวลาหนึ่ง ไม่เพียงแต่หยางเหวินยวี่เท่านั้น กระทั่งจิงไห่ก็ยังรู้สึกกระอักกระอ่วนเช่นกัน.
“เฮ้อ ครั้งนี้มันยากจริง ๆ!”หยางเหวินยวี่ ถอนหายใจด้วยความผิดหวัง
เมื่อมองขึ้นไป ทันใดนั้นเขาก็เห็นร่างของหลินซวน สวมชุดสีขาวที่สูงส่งและสง่า
อดไม่ได้ที่จะดวงตาของเขาสว่างขึ้น
"ยังไงก็ตามมีจักรพรรดิอยู่ที่นี่ ไม่ว่าอาณาจักรเซียนฉินและดินแดนศักดิ์สิทธิ์หลิงฉื่อจะแข็งแกร่งแค่ไหน ก็เทียบไม่ได้กับจักรพรรดิ!"
หลังจากได้รับการเตือนจากเขา จิงไห่และฮุ่ยเหนิงก็ตระหนักได้ในทันที
ท้ายที่สุด พวกเขาลืมตี้ฟู่ไป
จะปัญหาอะไรที่ไม่สามารถแก้ไขได้ หากมีตี้ฟู่?
ต่อมา.
หยางเหวินยวี่ที่รีบก้าวเข้าไปทักทายหลินซวนและเอ่ยเกี่ยวกับข้อพิพาทของอาณาจักรซือฉีและอาณาจักรเซียนฉิน
“อาณาจักรซือฉีและอาณาจักรเซียนฉิน ต่างก็อยู่ในการปกครองของเป่ยเสวียนเทียน กษัตริย์เซียนฉินกลั่นแกล้งประเทศพวกเรามากเกินไป ขอให้ตี้ฟู่ให้ความเป็นธรรมด้วย!”หยางเหวินยวี่ที่เอ่ยขอร้อง.
ฮุยเหนิงที่ประสานมือของเขาไว้ด้านข้างด้วยท่าทางขอร้องเช่นกัน
เรื่องนี้หากเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในแดนสวรรค์อื่น หลินซวน ย่อมไม่สามารถดูแลตัดสินได้
แต่ทั้งสองประเทศเป็นของเป่ยเสวียนเทียน และหากพวกเขาทำสงครามกันย่อมก่อให้เกิดปัญหาต่อชีวิตผู้บริสุทธิ์ หลินซวนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องดูแลพวกเขา
ท้ายที่สุดแล้ว ในใจของเขา ตงหวงจื่อโหยว เสด็จแม่ของเด็ก ๆ เป็นสิ่งต้องห้ามที่ห้ามใครแตะต้องได้
ไม่ควรมีร่องรอยสิ่งสกปรกในโลกของตงหวงจื่อโหยว.
"ไปดูหน่อยก็แล้วกัน" หลินซวนกล่าวอย่างสบาย ๆ
กล้าที่จะปล้นองค์หญิงอาณาจักรอื่นในเป่ยเสวียนเทียน กษัตริย์เซียนฉิน ผู้นี้ช่างอหังการจริง ๆ.
“ขอบพระทัย ตี้ฟู่!”หยางเหวินยวี่ที่ดูมีความสุขมาก.
ต่อมาเขาและฮุยเหนิงก็นำทางกลับไปที่เป่ยเสวียนเทียน พร้อมกับหลินซวน
-
ประเทศซือฉี พระราชวังหลวง
หยวนซู่ผู้บัญชาการทหาร นำองค์รักษ์ชั้นสูงหลายร้อยคนมาขวางประตูหน้าห้องโถงเอาไว้
เขาเหลือบมองประตูพระราชวังอย่างกระวนกระวายในระยะไกล:
“ทำไมองค์ชายสองยังไม่กลับมา? เขาไม่สามารถชักชวนองค์ชายใหญ่ได้หรือไม่?”
ก่อนที่หยางเหวินยวี่จะจากไป เขาขอให้พวกเขาปิดกั้นกองกำลังหลางหู่ของอาณาจักรเซียนฉินเอาไว้.
แต่หลังจากผ่านไปนานแล้วหยางเหวินยวี่ก็ยังไม่ปรากฏตัว
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้คนหลายร้อยคนในของกองกำลังหลางหู่ก็บุกเข้ามาแล้ว
ภายใต้การนำของเหล่ยหยาง ผู้บัญชาการของฝ่ายตรงข้ามที่กดดันเขาทุกย่างก้าว ผลักพวกเขาจนถอยร่นมาจนถึงประตูห้องโถงแล้ว.
ราวกับว่าการต่อสู้อาจจะเริ่มขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้.
เหล่ยหยางผู้บัญชาการกองทัพหลางหู่ที่มองหยวนซูและคนอื่น ๆ ด้วยใบหน้าหยิ่งผยอง.
“วันนี้ข้ามาที่นี่ เพราะต้องการพาองค์หญิงของเจ้าไป!”
“ถ้าเจ้าไม่ยอม บิดาจะใช้ดาบหัวพยัคฆ์ฟันพวกเจ้าแน่!”
หลังจากเอ่ยแล้ว มีดหัวพยัคฆ์ในมือของเขาก็ส่งเสียงคำรามแผ่แรงกดดันที่ดุเดือดออกมา
หยวนซูที่ขมวดคิ้ว เขาเป็นเพียงผู้ฝึกตนขั้นต้นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์.
เมื่อเผชิญหน้ากับเหล่ยหยางที่อยู่จุดสูงสุดของวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ เขาไม่มีโอกาสชนะเลย.
อย่างไรก็ตามด้วยภารกิจปกป้องพระราชวัง หยวนซูจึงตัดสินใจขวางเหล่ยหยางและคนอื่น ๆ อย่างเต็มที่ แม้ว่าต้องสังเวยชีวิตก็ตาม.
“เป็นเจ้าเอง ที่ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา!”
เมื่อเห็นว่าหยวนซูและคนอื่น ๆ ไม่ยินยอม ย่อมทำให้เหล่ยหยางโกรธมาก.
ปัง
เขาหมุนเวียนแก่นแท้ในร่างกายของเขา พร้อมกับใช้ดาบหัวพยัคฆ์ฟาดฟันไปยังข้างหน้า.
หยวนซูที่ยกกระบี่ของเขาขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อสกัดกั้น.
อย่างไรก็ตาม เพราะฐานบ่มเพาะของเขานั้นไม่ดีเท่ากับเหล่ยหยาง ความแข็งแกร่งทางกายภาพเองก็ด้อยกว่าเหล่ยหยางมาก.
ทุกครั้งที่ป้องกัน แขนของเขาจะสั่นไปมา ราวกับว่ามันจะแตกออกเป็นชิ้น ๆ.
"ไปให้พ้น!"
เหล่ยหยาง เตะหยวนซูลอยกระเด็นออกไปทันที.
จากนั้นเขาก็ฟาดฟันองค์รักษ์คนอื่น ๆ ตกตายไปทั้งหมด แล้วก้าวเข้าไปในห้องโถงราวกับว่าไม่มีใครอยู่.
“ฮ่าฮ่าฮ่า พระราชวังอาณาจักรซือฉี ไม่มีอะไรเลย จะมาเมื่อไหร่ก็ได้!”
“องค์หญิงซือฉี เจ้าซ่อนตัวอยู่ที่ไหน?”
เมื่อเห็นเหล่ยหยางนำผู้คนบุกเข้ามาได้แล้ว หยวนซูที่ไม่อาจทำอะไรได้เลย.
อาณาจักรเซียนฉินโอหังมาก ไม่มีใครสามารถหยุดพวกเขาได้เลยรึ?