ตอนที่ 115 วิธีสุดท้ายที่ไม่อยากจะใช้! ผู้จุติ (อ่านฟรี 05/12/2567)
หยุบ หยับ หยุบ หยับ
‘ไอ้มอนสเตอร์บัดซบ! บังอาจกลืนข้าลงมาในท้องได้!’ เย่ซีตะโกนในใจด้วยความเครียดแค้น แม้มันจะไม่อาจทำอันตรายอะไรเขาได้ แต่สัมผัสเหนียวเหนอะ ความรู้สึกอึดอัดและคับแคบ มันทำให้เขารู้สึกแย่เป็นอย่างมาก
เกิดมาก็เพิ่งจะเคยถูกมอนสเตอร์กลืนลงท้องนี่แหละ!
‘เมื่อไรร่างกายของข้าจะขยับได้กัน นี่มันนานเกินไปหน่อยแล้วมั้ง ?’ ชายหนุ่มได้แต่บ่นในใจอย่างไม่อาจทำอะไรได้ แค่ลืมตาเขายังทำไม่ได้เลย
[“ทำการรับสภาพร่างกายให้เข้ากับมิตินี้ได้เสร็จสมบูรณ์ ท่านสามารถเพลิดเพลินกับมิติได้อย่างเต็มที่ เวลาคงเหลือ สองวัน ยี่สิบสามชั่วโมงกับอีกสิบนาที”] เสียงของระบบดังขึ้นทำให้เย่ซีรู้สึกดีขึ้นไม่น้อย
“ในที่… อั้ก!” เย่ซีที่ขยับร่างกายได้แล้วก็อ้าปากก่อนจะกล่าวออกมาได้นิดหน่อยก่อนที่จะเงียบไป
เขาอยู่ในท้องของมอนสเตอร์ ถึงแม้จะไม่มีอันตรายอะไรเกิดขึ้นก็ตาม แต่พวกของเหลวต่าง ๆ ในร่างกายมอนสเตอร์มันก็ยังมีอยู่ พวกมันไหลเข้าปากทันทีที่เขาอ้าปาก ทำให้รู้สึกอยากจะอ้วกทุกทีที่อ้าปากออกมา
ปึ๊ก! ปึ๊ก!
[“ท่านอยู่ในโหมดนักท่องเที่ยวจึงไม่อาจทำอันตรายกับสิ่งมีชีวิตใด ๆ ของมิติที่ท่านเดินทางไปเที่ยวได้”] ระบบอธิบายออกมาชายหนุ่มจึงจำได้ว่ามีกฎแบบนั้นอยู่ด้วย
‘บัดซบ! ก็ลืมไปเสียสนิท’ ชายหนุ่มสบถในใจด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะพยายามแหวกก้อนเนื้อและเหมือกเหนียวรอบตัวเพื่อหาทางออก
‘มันต้องมีทางออกสิ!’ ถึงแม้จะยากลำบาก แต่ชายหนุ่มก็ไม่ยอมแพ้ เขาปีนป่านไปตามผนังก้อนเนื้อ โหนเส้นเลือด ล่องไปตามของเหลวของมอนสเตอร์ ลองทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อหาทางออก
...
[“มีวิธีอะไรแนะนำไหมระบบ ?”] หลังทดลองปีนป่ายอยู่นาน ชายหนุ่มก็เริ่มถอดใจจนถามระบบออกมา ขืนเป็นแบบนี้ต่อไปคงเสียเวลาอยู่ในท้องมอนสเตอร์จนถึงเวลาส่งกลับเป็นแน่
พอเป็นเช่นนั้นก็จะทำให้ตัวเขาใช้บัตรท่องมิติแบบสุ่มไปอย่างเสียเปล่า
[“มอนสเตอร์ตัวนี้มีทางออกอยู่สองจุด หนึ่งคือทางปากของมันดั่งเช่นตอนที่ท่านถูกกลืนลงมา”]
[“สองออกทางทวารหนักของมัน”] พอได้ยินคำแนะนำแรกชายหนุ่มก็รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องปกติอยู่บ้าง แต่พอได้ยินคำแนะนำที่สองเท่านั้นแหละเขาก็รู้สึกได้เลยว่ามันแปลก ๆ
‘โธ่เว้ย! ทำไมมันออกไปไม่ได้สักทีวะ’ เย่ซีลองพยายามทำตามคำแนะนำแรกดูก่อน
เสียดายที่มอนสเตอร์ตัวนี้สูงเกือบสิบเมตร มันจึงทำให้ตัวของชายหนุ่มที่ตอนนี้ไม่ได้มีพลังอะไรปีนขึ้นไปได้ไม่นานก็ถูกความลื่นของเมือกมอนสเตอร์ รวมถึงแรงเหวี่ยงภายในตัวของมันทำให้ตัวของเขาล่วงลงไปทุกครั้ง
‘อ๊ากกกก ข้าหมดความอดทนแล้วนะ!’ ชายหนุ่มกรีดร้องอยู่ภายในใจ ความจริงเขาก็อยากจะแหกปากร้องออกมาเหมือนกัน แต่ก็กลัวว่าจะมีของเหลวในร่างของมอนสเตอร์ทะลักเข้าปากของเขาอีก
มันเป็นความรู้สึกน่าขยะแขยงแบบไม่เคยพบเจอมาก่อน!
[“มีอีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้ท่านออกไปจากที่นี่ได้ในทันที.....”] เสียงของระบบดังขึ้น บอกกล่าวถึงวิธีสุดท้ายออกมา
“ไอ้มอนสเตอร์บัดซบ!” เย่ซีตะโกนออกมาดังก้องด้วยเสียงหงุดหงิด เขาอยากจะฉีกมอนสเตอร์ตรงหน้าให้เป็นชิ้น ๆ เสียเหลือเกิน!
สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะทำตามวิธีสุดท้ายที่ระบบเสนอมาจนได้ ถึงจะเสี่ยงไปบ้างแต่ก็คงต้องทำเสียแล้ว! ไม่อย่างนั้นสามวันก็คงอยู่แต่เพียงในนี้นั่นแหละ!
ครึ่งหลัง
...
ตู้ม! บรึ้มมมม
“เกิดอะไรขึ้น?!” หลี่กงเหมินกล่าวออกมาเป็นคนแรกด้วยความตื่นกลัว เขาได้สินเสียงดังสนั่นก่อนที่มอนสเตอร์มันจะหยุดลากร่างกายของเขาเข้าไปในปากได้ทันเวลาพอดิบพอดี
“ดูเหมือนเสียงนั่นจะดังมาจากมอนสเตอร์นะ” ชางเว่ยที่กำลังจะเข้าไปภายในปากมอนสเตอร์เช่นกันก็กล่าวออกมา ถ้าเขาฟังไม่ผิดมันเป็นเสียงเหมือนมีอะไรบางอย่างถูกทุบจนระเบิดออกอย่างแรงไม่มีผิด
“ทุกคน! ดูข้างล่างให้ดีสิ!” เหยาเซียงที่สังเกตเห็นบางอย่างจึงชี้ให้ทุกคนดู
ทั้งสามคนหันไปมองจุดที่เหยาเซียงชี้ให้ดู ก็พบว่าช่วงท้องของมอนสเตอร์มันเหมือนถูกโจมตีจากภายในจนระเบิดออกอย่างรุนแรง เศษซากร่างกายและชิ้นเนื้อกระจุยไปทั่วบริเวณ
มีร่างของชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาในชุดคลุมแบบจีนโบราณสีดำงดงาม บนชุดคลุมมีลวดลายสีแดงเป็นรูปต้นไม้ประหลาดที่ให้ความรู้สึกกดดันยามจ้องมอง
“โหมดท่องเที่ยวบ้าอะไรห่วยแตกสิ้นดี! ไม่เป็นอันตรายแต่ทำอะไรไม่ได้เลยเนี่ยนะ” เสียงดังโวยวายดังมาจากร่างของชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคนนั้น
ถึงแม้ทั้งสี่คนจะไม่เข้าใจว่าชายคนนั้นจะสื่ออะไรอยู่ก็เถอะ แต่พวกเขาก็อดที่จะรู้สึกตกตะลึงกับความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายไม่ได้
เขาไม่มีสัญลักษณ์ของผู้ปลุกพลังแน่ ๆ แต่ทำไมถึงระเบิดท้องมอนสเตอร์ออกมาแบบนั้นได้กัน ?! จะว่ามีไอเท็มหรืออาวุธพิเศษก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะที่พวกเขาดูคร่าว ๆ อีกฝ่ายล้มอยู่กับพื้นตัวเปล่าชัด ๆ
“ช่วยพวกเราด้วย! พวกเราอยู่บนนี้” กลุ่มเพื่อนทั้งสี่คนที่เป็นผู้ถูกเลือกให้ไปทำการปลุกพลังตะโกนขอความช่วยเหลือเสียดังลั่น ทำให้ชายหนุ่มแปลกหน้าเงยหน้าขึ้นมามอง
กรี๊ซซซซซซซ ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ
มอนสเตอร์ที่นิ่งชะงักไปก่อนหน้านี้กลับมากรีดร้องเสียงฟังพร้อมกับฟาดหนวดไปมาอย่างบ้าคลั่ง ร่างของทั้งสี่ถูกเหวี่ยงไปมาจนได้รับบาดแผลเพิ่มขึ้นมากมาย
“หุบปากซะ! เพราะเจ้าข้าเลยต้องเปลี่ยนโหมดแบบนี้!” เย่ซีตะโกนออกมาด้วยความหงุดหงิด เขากระโดดออกมาจากช่องท่องของมอนสเตอร์ก่อนจะพุ่งเข้าหาขาข้างขวาของมันด้วยความรวดเร็ว
ปึด! ฉูดดดด กรี๊ซซซซซซซ
ชายหนุ่มใช้แขนทั้งสองข้างของเขาจับขาของมอนสเตอร์อย่างแรง ก่อนจะฉีกขาของนั้นให้แยกออกจากกันจนเลือดพุ่งกระฉูดเปลี่ยนให้ทั้งตัวของเขากลายเป็นสีแดงสด
“ตายซะ! ข้าจะฉีกเนื้อเจ้าไปให้ฝูงปลากิน!” หลังฉีกขาขวาของมอนสเตอร์จนเละไปหมดแล้ว ชายหนุ่มก็คำรามออกมาก่อนจะปีนขึ้นไปตามตัวของมอนสเตอร์เพื่อขึ้นไปยังด้านบนสุดที่เป็นบริเวณปากของมัน
ปึด ปึด ปึด ปึด ปึด
ชายหนุ่มใช้แขนทั้งสองข้างหนึ่งหนวดขนาดใหญ่ออกจากปากของมันจนขาดกระจุย เขาโยนหนวดเหล่านั้นไปด้านข้างอย่างไม่ใยดี ทำให้ร่างของกลุ่มคนทั้งสี่ที่ถูกจับอยู่กลายเป็นอิสระในที่สุด
พวกเขาพยายามแกะตัวเองออกจากหนวดที่รัดกุมอยู่อย่างทุลักทุเล เพราะในตอนนี้แต่ละคนก็เต็มไปด้วยบาดแผลมากมายจากการถูกจับฟาดกับพื้นบ้าง ต้นไม้บ้าง แต่มันก็ไม่ใช่แผลสาหัสอะไรนักเนื่องจากร่างกายของพวกเขาแข็งแกร่งกว่ามนุษย์ธรรมดานั่นเอง
“เป็นไงไอ้มอนสเตอร์บัดซบ! แน่จริงก็จับข้ากลืนลงท้องอีกสิวะ!” เย่ซียังคงเมามันกับการฉีกกระฉากร่างของมอนสเตอร์ยักษ์อยู่ ถึงแม้มันจะตายไปแล้วก็ตาม
ความจริงเขาก็ไม่อยากลงมืออย่างนี้หรอก แต่เคล็ดวิชาหรือทักษะอะไรก็ใช้ไม่ได้สักอย่าง แถมในแหวนมิติก็ไม่มีอาวุธอะไรอยู่สักชิ้น มีเพียงของล้ำค่าอื่น ๆ เขาจึงต้องใช้ตัวเปล่าในการต่อสู้แทน
จะว่าไปเขาก็ควรจะหาอาวุธสักชิ้นติดตัวไว้สินะ จะให้ใช้มือเปล่าต่อสู้ตลอดก็ค่อนข้างจะน่ารำคาญอยู่ไม่น้อย
แล้วไอ้สี่คนตรงนั้นทีทำสายตาแปลก ๆ นั่นมันจะสื่ออะไรกัน ?