ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 2 ดิโอ

ตอนที่ 1 ชีวิตใหม่


ถ้ารักใครมากๆ ให้ส่งคนนั้นไปนิวยอร์ก เพราะมันคือสวรรค์

แต่ถ้าเกลียดใครเข้าไส้ ก็ให้ส่งไปนิวยอร์กเหมือนกัน เพราะมันคือนรก

เหอหย่งจื้อนั่งอยู่บนเก้าอี้ ถ่ายรูปตัวเองพร้อมกับยุ่งเหยิงอยู่ในหัว เขานึกถึงประโยคที่เห็นในอินเทอร์เน็ตขึ้นมาได้

เขากลับมาจากโรงพยาบาล มาถึงร้านอาหารเล็กๆ ในไชน่าทาวน์ นิวยอร์ก ตอนนี้กำลังพยายามทำความเข้าใจกับ 'เรื่องบ้าๆ' ที่เพิ่งเกิดกับตัวเอง

ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยคิดเลยว่า วันหนึ่งจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของเมืองที่วุ่นวายแบบนี้...

อย่างแรกก็เพราะเขาเป็นแค่พนักงานธรรมดาในบริษัทเล็กๆ ที่ทำเกมมือถืออยู่ในเมืองจีน ไหนจะยังโสดเป็นหนุ่มใหญ่ตอนอายุสามสิบกว่า แถมเงินเก็บก็แทบไม่มี ซื้อบ้านก็ยังต้องผ่อนทุกเดือนจนหัวแทบจะระเบิด ไม่แปลกที่ไม่มีผู้หญิงคนไหนสนใจ ผู้ชายหัวล้านแบบนี้

แล้วอยู่ดีๆ ตื่นมาก็กลายเป็นคนอื่น เป็นลูกครึ่งอังกฤษ-จีนซะงั้น แค่มองตัวเองในกระจก ก็รู้แล้วว่ายีนส์พ่อแม่เขาดีจริงๆ หน้าขาวคม ตาเฉี่ยว คิ้วเข้มหนา ขนตายาวงอน ส่วนสูงนี่ก็ 185 เซน เรียกว่าหล่อได้ทุกประเทศในโลก หุ่นก็สูงล่ำสมส่วน หล่อซะขนาดนี้ ใครจะไม่ชอบ

แต่เหอหย่งจื้อแม้ว่าจะไม่รู้ว่าตัวเองมาอยู่ในร่างนี้ได้ยังไง ก็ไม่ได้ดีใจเท่าไหร่ ตอนนี้ยังพยายามนึกถึงว่าก่อนจะข้ามร่างมาเนี่ย เขาเห็นอะไรเป็นอย่างสุดท้าย...

เขาจำได้ลางๆ ว่าตอนนั้นกำลังทำเกมก็อปอนิเมะดัง "โจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ" อยู่ เป็นวันทำงานวันที่เจ็ดแล้วด้วย บริษัทเล็กๆ แบบนี้ต้องรีบทำจะได้ขายทันกระแส

แน่นอนว่าไม่มีลิขสิทธิ์อะไรทั้งนั้น(เพราะเป็นจีนเหยอ ถามจริง555) เขาเลยต้องเปลี่ยนชื่อเกมใหม่ คล้ายๆ กันแต่จำไม่ได้ละว่าชื่อ โยโย่ ผจญภัยพิสดาร หรือ โจโจ้ เมืองจีนดีล่ะ?

งานก็อปแบบนี้ไม่ใช่ครั้งแรกของบริษัท แค่เปลี่ยนชื่อบริษัทไปเรื่อยๆ แบบนี้เจ้าของลิขสิทธิ์เขาคงไม่ทันสังเกตหรอก

พอตัดสินใจว่าจะก็อปเกมนี้ ก็ต้องทำไปให้เสร็จ แล้วเจ้านายเขาเลยเลี้ยงฉลอง เพื่อเร่งให้พวกพนักงานทำงานเสร็จๆ สักที ทั้งๆ ที่ทุกคนก็รู้ว่ามันผิดกฎหมาย แต่เจ้านายไม่สั่งก็ทำอะไรไม่ได้ ก็เลยมากินเลี้ยงกันแบบนี้แหละ

ส่วนพวกพนักงานนี่ก็สมน้ำหน้าตัวเองหน่อยๆ เพราะส่วนใหญ่คือคนที่หางานดีกว่านี้ไม่ได้ เลยมาลงเอยทำงานแบบนี้เพราะฝีมือไม่ถึง ความรู้ไม่ค่อยมี โชคชะตาก็ไม่ค่อยเข้าข้างซะด้วย สมัยนี้เขาจะให้เกียรติแค่คนที่เก่งและขยันเท่านั้น พวกขี้แพ้พวกนี้ ก็ทำได้แค่กินๆ ดื่มๆ ไปวันๆ

ความจำสุดท้ายของเหอหย่งจื้อ ก็คือตอนเข้านอนคืนนั้นแหละ

พอตื่นมากลับมาอยู่ในวอร์ดโรงพยาบาลในนิวยอร์ก แถมอยู่ในร่างคนอื่นอีกต่างหาก ต้องไปคุยกับหมอถึงได้รู้ว่า มีคนพาเขามาส่งโรงพยาบาลด้วยรถฉุกเฉิน พ่อแม่ของร่างนี้เป็นคนจีนทั้งคู่ แต่ดวงไม่ค่อยดี รักษาไม่ทันเลยตายไปทั้งสองคน ร้านอาหารเล็กๆ ในไชน่าทาวน์นี่ก็คงเป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายที่ทิ้งไว้ให้ลูก

"น่าจะตายไปตอนนั้นจริงๆ นะ...โคตรเหมือนในอนิเมะเลย เวลาตัวเอกกำลังจะตายก็โผล่มาอยู่ในร่างคนอื่น" ไม่คิดว่าตัวเองจะเจออะไรแบบนี้บ้าง เหอหย่งจื้อคงเดาได้ล่ะว่าตัวเองตายเพราะอะไร แต่ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมาก

เพราะชีวิตก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้มีอะไรที่เรียกว่าดีอยู่แล้ว ไม่รู้ว่าเรียกชีวิตแบบนั้นว่ามีชีวิตอยู่ได้ด้วยเหรอ ตื่นมาก็ไปทำงาน หลับก็หมดวันวนไปวนมา ไม่มีญาติพี่น้อง ไม่มีลูกเมีย เพื่อนกินดื่มก็มีอยู่ไม่กี่คน แล้วก็ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นด้วย

พอเขาลองจับๆ หน้าตัวเอง ความทรงจำของเจ้าของร่างนี้ก็พุ่งพรวดเข้ามาในหัว สิ่งแรกที่เขารู้ก็คือโดนวางยาพร้อมพ่อแม่ ไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย แล้วต่อให้ไปแจ้งตำรวจก็คงไม่เชื่อ เพราะตำรวจแถวนี้ก็กินกันทั้งนั้น

และถ้าไม่ใช่เพราะเขา ทั้งสามคนนี้คงจับมือกันตายไปแล้ว

จริงๆ แล้วแม้แต่หมอก็คิดว่าไม่รอดแล้วเหมือนกัน โชคดีที่โรงพยาบาลนี้เจอเคสปาฏิหาริย์เยอะ อย่างเช่นคุณยายอายุ 70 ที่จะโดนฝังทั้งเป็นอยู่แล้ว ก็ดันฟื้นขึ้นมาซะงั้น หมอก็เลยต้องจำใจทำการรักษาต่อไป

"ช่างเถอะ คิดไปก็เปล่าประโยชน์ ทำเท่าที่ทำได้ก็พอดีกว่า"

เขารู้ว่ายังมีเรื่องแย่ๆ รออยู่อีกเพียบ คิดไปตอนนี้มีแต่เครียดเปล่าๆ แล้วก็ไม่ได้ว่าจะไม่มีอะไรดีๆ เลยนี่นา อย่างน้อยพ่อแม่เขาก็ทิ้งร้านอาหารเล็กๆ ไว้ให้ ร้านมีสัก 6-7 โต๊ะ ก็น่าจะพอเลี้ยงตัวในเมืองวุ่นวายแบบนี้ได้อยู่ ถ้าสมมติว่าร้านไปไม่รอด ก็ยังขายร้านแล้วกลับจีนก็ยังได้

แม้ว่าจริงๆ แล้วมันไม่ใช่ของเขาเลยก็เถอะ แต่ไหนๆ ก็มาอยู่ในร่างนี้แล้ว ก็ต้องใช้ทรัพยากรที่มีให้เกิดประโยชน์ที่สุด

คิดได้ไม่นานเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา

เหอหย่งจื้อล้วงโทรศัพท์ออกจากกระเป๋า

"เฮ้ ดิโอ้ ได้ข่าวว่าแกออกจากโรงพยาบาลวันนี้ หายดีแล้วใช่มั้ย? เสียใจด้วยเรื่องลุงแบรนโดกับป้าเฮอนะ อย่าเศร้าไปเลยนะ ถ้าแกไม่มีเงิน เดี๋ยวฉันแบ่งเงินเก็บฉันให้ก็ได้ อ้อ ฉันรู้จักสุสานดีๆ ที่นึงนะ ราคาไม่แพงมาก เผื่อว่า...คือฉันไม่ได้จะทำให้แกนึกถึงพวกท่านหรืออะไรนะ แค่..."

เท่าที่รู้จากความทรงจำ เหอหย่งจื้อรู้ว่าตอนนี้คงวางสายไม่ได้ คนที่โทรมาคือวิลล์ โจส เพื่อนของร่างนี้ เป็นลูกครึ่งผิวดำที่ไม่รู้ว่าพ่อตัวเองเป็นใคร เล่นกับแก๊งมาตั้งแต่เด็ก แต่จริงๆ แล้วใจดีมาก เขาซาบซึ้งที่ดิโอให้ข้าวเขากินตอนลำบากด้วยซ้ำ

0 0 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด