ตอนที่แล้วบทที่ 46 การฉายภาพ (4)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 48 การฉายภาพ (6)

บทที่ 47 การฉายภาพ (5)


[แฟนเพจBamแปลNiyay:ลงแบบราคาถูกโคตรในmy-novel(ลงช้ากว่าThai-novel100ตอน)กับthai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นนอกจากสองเว็บนี้คือไม่ใช่ผมนะ ถ้าเจอคนอ่านก็อปดันเยอะกว่าก็ท้อเป็นนะครับ]

[ถ้าอ่านฟรีแบบเถื่อนไม่ว่าจะได้มายังไงนั้น ผมไม่ว่าเลยครับ และต่อให้ไม่มีคนอ่าน ผมก็ยังจะแปลต่อจนจบด้วย แต่ถ้าจะจ่ายเงินให้เว็บหรือคนที่copyไปขายอีกที คุณโคตรแย่เลยครับ]

[หลังแปลจบจะมีการแก้คำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้น ดังนั้นถ้าคุณอ่านแบบเถื่อน ก็เชิญเลยครับ เพราะมันไม่มีอัพเดทให้หรอก]

บทที่ 47 การฉายภาพ (5)

บนจอภาพยนตร์ขนาดใหญ่ เพื่อนของพวกเขา คังวูจินได้ปรากฏตัวขึ้น สถานการณ์บ้า ๆ นี้คืออะไรกัน? บางครั้งมันก็เป็นแบบนี้แหละ ถ้าตกใจมากเกินไป การกระทำและความคิดของคนๆ นั้นก็มักจะหยุดชะงักไปชั่วขณะ

นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับทั้งสามคนที่กําลังดู 'สำนักงานนักสืบ'

เริ่มจากคิมแดยอง

'เป็นไปไม่ได้ ไอ้คังวูจิน?! มันทำอะไรอยู่ที่นั่น?!! ไม่ดิ ทําไมมันถึงอยู่ที่นั่นได้?! นี่มันบ้าอะไรกัน?!’

ลีคยองซองและป๊อปคอร์นที่เขาถืออยู่ในมือได้ร่วงหล่นลงไป

'บ้าไปแล้ว! ตาของฉันมันฝาดหรือเปล่า? เอาจริงดิ! คังวูจิน? คังวูจินจริง ๆ งั้นเหรอ??!'

นาฮยองกูอ้าปากค้าง ตาเบิกโพลง

'นี่คือความฝันสินะ??! ไม่มีทางที่มันจะเป็นความฝันได้หรอก?! งั้นคังวูจิน นายไปทําอะไรอยู่ที่นั่นวะ??'

ทั้งสามคนแม้จะนิ่งไป แต่ภายในใจกลับตื่นตระหนก พวกเขาแทบจะเสียสติ ถ้าไม่มีคนอยู่รอบ ๆ คงไม่น่าแปลกใจเลยหากจะเห็นพวกเขาตบหน้ากันเอง

นี่แหละคือความตกใจ ที่ใบหน้าของคังวูจินปรากฎบนจอภาพยนตร์ขนาดใหญ่

'โอ้ ฉันแทบจะบ้าไปแล้ว!!'

'เฮ้ย คังวูจินตอบฉันสิ ไอ้เพื่อนบ้า!! นายไปทำอะไรอยู่ที่นั่น!’

'อ่า ไม่มีทางหรอก พวกเขาคงแค่คนหน้าตาคล้ายกันใช่ไหม? ต้องใช่แล้ว คงเป็นคนที่หน้าตาเหมือนเขา หรือว่า… มันจะเป็นคนที่หน้าตาเหมือนเขาจริง ๆ ?'

จิตใจเพื่อนทั้งสามคนคล้ายถูกทำร้ายไม่มีผิด

ในตอนนี้เอง คังวูจินที่กำลังมองดูด้านหลังของเพื่อนรักจากด้านหลังก็กำลัง...

“ฮึบ!”

กลั้นหัวเราะไว้จนแทบแย่ เขาไม่ได้ตั้งใจจะทำเช่นนั้นเลย แต่การเห็นพวกเขามีสภาพเช่นนี้ มันแทบทำให้เขากลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่

เหตุผลนั้นง่ายมาก

เพื่อนสามคนในตอนนี้มสภาพ…

'พวกมันเป็นเมียร์แคตหรือไง โอ้ย ฉันขำเจียนตายแล้วเนี่ย'

พวกเขาทั้งสามดูเหมือนเมียร์แคตตอนนั่งอยู่ พวกเขายืดหัวออกไปเพื่อมองขึ้นไปที่หน้าจอแล้วมองหน้ากันอีกที เขาจะอดกลั้นหัวเราะกับสภาพเช่นนี้ได้ยังไง? สำหรับคังวูจิน มันช่างเป็นภาพที่แสนน่าประหลาดใจจริง ๆ

'ฉันไม่คิดเลยว่าการมองดูด้านหลังของเพื่อนตัวเองมันจะเป็นเรื่องที่สนุกขนาดนี้'

ในบรรดาเพื่อนสามคนที่กำลังมองขึ้นไปที่หน้าจอ นาฮยองกูค่อย ๆ ก้มหัวลงพลางกระซิบกับลีคยองซองที่อยู่ข้าง ๆ เขา

“··· เฮ้ย ตบหน้าฉันทีดิ”

อีคยองซองยังคงถือถังป๊อปคอร์นอยู่ เขาขมวดคิ้วและกระซิบกลับ

"งะ...เงียบไปเลย จะให้มาทำในโรงก็บ้าแล้ว"

"นั่นคือคังวูจินจริง ๆ ใช่ไหม?”

“นายก็คิดเหมือนกันใชไหม? ถ้าไม่ใช่คังวูจิน แล้วมันจะเป็นใครได้?”

“สรุปคือใช่ใช่ไหม?”

คิมแดยองสับสนไปชั่วขณะและในที่สุดก็พูดขึ้น

"เดี๋ยวก่อนนะ···เดี๋ยว พวกเราใจเย็น ๆ กันก่อน"

“นายต่างหากล่ะที่ต้องใจเย็น ลูกตานายแทบจะถลนออกมาแล้ว”

ทั้งสามคนหันกลับไปที่หน้าจออีกครั้ง คังวูจินยังคงแสดงอย่างทุ่มเทในบทคิมรยูจิน  ใช่ มันคือคังวูจินอย่างแน่นอน ตอนแรกพวกเขาไม่เชื่อ แต่ตอนนี้เพื่อนทั้งสามคนยอมรับแล้วว่าคนในหนังคือคังวูจิน พวกเขายอมรับมันแล้ว แต่ก็ยังไม่อาจทำใจได้

พวกเขารู้สึกอยากปฏิเสธความเป็นจริงเหลือเกิน

ถ้าคุณเห็นเพื่อนที่เคยเห็นเขาโป๊เปลือยที่โรงอาบน้ำ โผล่มาบนจอภาพยนตร์กลางโรงภาพยนตร์แบบไม่ทันตั้งตัว ใคร ๆ ก็คงมีอาการตกใจแบบเดียวกัน

ไม่นานนัก คิมแดยองก็ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นขยี้ตา เพื่อนที่เหลือก็พยายามเรียกสติในแบบของตัวเอง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทั้งสามคนก็เริ่มดูหนังสั้นเรื่อง ‘สำนักงานนักสืบ’ ที่มีคังวูจินแสดง เอาล่ะ สมมติว่าไอ้คังวูจินมันโผล่มาในหนังจริง ๆ แต่แปลกชะมัด ทำไมมีแค่ไอ้นั่นคนเดียวอยู่ในเรื่องล่ะ?

คิมแดยองผู้ชื่นชอบการแสดงเป็นงานอดิเรกเริ่มตระหนักได้ในไม่ช้า

‘······มันเป็นพระเอกงั้นเหรอ??’

คังวูจินไม่ใช่แค่ตัวประกอบ แต่เป็นพระเอกของหนังเรื่องนี้ต่างหาก คังวูจินปรากฏตัวบนหน้าจอตั้งแต่เรื่อง ‘สำนักงานนักสืบ’ เมื่อ 5 นาทีที่แล้ว 'สำนักงานนักสืบ' เป็นหนังสั้น ไม่ใช่ภาพยนต์ทำเงิน นี่หมายความว่าคังวูจินที่ปรากฏตัวตั้งแต่แรกเป็นพระเอกอย่างแน่นอน

ตอนนี้เอง

“···เฮ้ เฮ้”

นาฮยองกูที่นั่งอยู่ด้านหลังกระซิบเบา ๆ บอกเพื่อน ๆ

"ออกไปข้างนอกกันเถอะ พอเราออกไปแล้ว โทรหาคังวูจินกัน”

ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถมีสมาธิได้อีกต่อไปเพราะความตกใจ แต่ทว่าเพื่อนที่เหลืออย่างคิมแดยองและอีคยองซองกลับส่ายหัวด้วยสีหน้าจริงจัง

“ไม่ ต้องดูจนจบก่อน ไว้ค่อยคุยกันทีหลัง”

“ฉันเห็นด้วย”

ในท้ายที่สุด นาฮยองกูผู้เสนอความคิดนี้ก็ได้แต่ต้องทําตามการตัดสินใจของเพื่อน ๆ และหันหน้ากลับไปดูที่หน้าจอ ตอนนั้นเอง คังวูจินหรือว่าคิมรยูจินกำลังอยู่ในรถ

-♬♪

บทเพลงเก่าดังกังวานไปทั่วโรงภาพยนตร์ คิมรยูจินลดระดับเสียงลงอย่างเป็นธรรมชาติ เพราะฉะนั้นบทพูดของตัวละครจึงชัดเจนยิ่งขึ้น

[“คุณฆ่าไอ้สารเลวพวกนั้นได้ไหม? ถ้าจะฆ่าคนต้องใช้เงินเท่าไร?”]

คิมรยูจินตอบกลับลูกค้าที่โมโหด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

[“500 ล้านวอนต่อคน”]

[“แพงจัง”]

[“แค่พูดเล่นน่า ผมไม่รับทำอะไรแบบนั้นหรอก”]

[“ไม่มีลดราคาหน่อยเหรอ? เช่นส่วนลดค่าโทรศัพท์หรือบัตรเครดิตอะไรทำนองนี้”]

[“เฮ้ย คุณฟังผมอยู่ไหม? ผมหน้าเหมือนคนทำพิซซ่าหรือเบอร์เกอร์เหรอ?”]

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ‘สำนักงานนักสืบ’ เป็นหนังสั้นที่มีคุณภาพยอดเยี่ยม โดยเฉพาะเสียงประกอบที่สมจริงและความพิถีพิถัน เสียงหายใจของตัวละคร เสียงสัมผัสของวัตถุ บทสนทนา และเสียงประกอบ ทุกคนต่างรับรู้ได้เลยว่าพวกเขาใส่ใจเสียงมากแค่ไหน

‘ฉันบ้าไปแล้วจริง ๆ สินะ’

ท่ามกลางคนทั้งสามคนที่กำลังอินกับหนังมากขึ้นเรื่อย ๆ ความไม่เชื่อของคิมแดยอง ผู้ที่มีความรู้ด้านการแสดงค่อนข้างมากก็เริ่มผุดเพิ่มมากขึ้น

‘ไม่ใช่แค่ไอ้คังวูจินเพื่อนบ้านี้ที่อยู่บนจอเท่านั้น แต่วิธีการแสดงของมันก็บ้าไปแล้วด้วย?? ทำไมมันถึงแสดงเก่งขนาดนี้กัน?’

เพราะการแสดงเป็นคิมรยูจินของคังวูจินนั้นยอดเยี่ยมอย่างไม่น่าเชื่อ จะว่าเป็นธรรมชาติก็ยังดูน้อยไปเสียด้วย คังวูจินบนหน้าจอสามารถอธิบายได้เพียงว่าเขาคือคิมมรยูจินเท่านั้น การแสดงของเขาเหมือนตัวละครในเรื่องไม่มีผิด

แต่ได้ยังไงกัน? คังวูจินแสดงเก่งขนาดนั้นได้ยังไง?

จากนั้นเอง ฉากในอดีตที่เคยแสดงร่วมกับคังวูจินก็แล่นเข้ามาในหัวของคิมแดยอง ทุกอย่างมันเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ตอนที่พวกเขาไปร่วมคัดเลือกนักแสดงในรายการ ‘สุดยอดนักแสดง’ ด้วยกัน

‘จริงสิ พอคิดดูแล้ว วันนั้นมันก็แปลก ๆ เหมือนกันนะ’

หลังจากคัดเลือกเสร็จ ดูเหมือนคังวูจินจะแปลกไป แถมยังแสดงความสนใจในบทหนังด้วย ซึ่งตามปกติเขาไม่เคยสนใจอะไรแบบนี้มาก่อนเลย เขาเป็นคนที่ไม่ชอบอ่านบทอะไรพวกนี้ด้วยซ้ำ

‘เอ๊ะ จะว่าไปแล้ว…ฉันเป็นคนเอาบท ‘สำนักงานนักสืบ’ ให้มันไปดูไม่ใช่เหรอ?’

ก่อนหน้านี้เขาเอาบท ‘สำนักงานนักสืบ’ ไปให้คังวูจิน หลังจากนั้นด้วยเหตุผลบางอย่าง คังวูจินก็เริ่มถามคำถามเกี่ยวกับหนังสั้น นั่นคือช่วงเวลาที่มันเริ่มอ้างว่าตัวเองยุ่งเกินกว่าจะมาเจอกันได้

คิมแดยองที่กำลังจ้องมองไปที่หน้าจอ ก็เริ่มรวบรวมชิ้นส่วนของปริศนาเข้าด้วยกัน

แล้วมันอะไรกันเนี่ย? แค่ขอดูบทหนังสั้น ๆ คัดเลือกนักแสดง แล้วก็ได้บทบาทนำเลยงั้นเหรอ?  ที่มันบอกว่ายุ่งตลอด ก็คือไปถ่ายทำหนังสินะ?’

แม้ว่าทุกอย่างจะดูเข้าล็อคกันพอดี แต่คิมแดยองก็สั่นหัว มันไม่สมเหตุสมผลเลย

‘คนที่ทำงานออกแบบมาทั้งชีวิตจะไปเป็นนักแสดงได้ยังไง แค่ชั่วข้ามคืนเนี่ยนะ?’

แต่ไม่ว่าเขาจะปฏิเสธมากแค่ไหน ความเป็นจริงก็ไม่เปลี่ยนแปลง คังวูจินยังคงแสดงเป็นคิมรยูจินอยู่บนหน้าจอ แน่นอนว่าคังวูจินไม่ได้อยู่แค่บนจอเท่านั้น แต่ยังอยู่ในกลุ่มผู้ชมด้วย

‘ตอนแรกพวกมันเบิกปากกว้างเหมือนปลาทอง แต่ตอนนี้ดูจะอินกันไปแล้วสินะ ชักรู้สึกอายแล้วสิ'

คังวูจินปิดบังใบหน้าของเขาไว้ด้วยหมวกและหน้ากากพลางหัวเราะเบา ๆ เขารู้สึกเหมือนตนกำลังดูรายการที่ซ่อนกล้องอยู่ จากนั้นคังวูจินก็สลับสายตาไปมาระหว่างมองหน้าจอและด้านหลังศีรษะของทั้งสามคน

‘อ่า พวกมันรู้เร็วกว่าที่ฉันคิดแฮะ’

เขาวางแผนที่จะบอกเพื่อน ๆ ของเขาในช่วงที่มีการออกอากาศครั้งแรกของ 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' แต่แล้วทั้งสามคนนั้นกลับปรากฏตัวขึ้นที่นี่ คิมแดยองคงเป็นคนพามา

‘อืม สงสัยฉันต้องบอกพวกเขาตอนนี้เองซะแล้วสิ’

ในที่สุด เวลาก็มาถึง เวลาที่จะได้บอกเพื่อน ๆ

‘ฉันจะพูดอะไรดี? บอกว่าฉันเพิ่งเริ่มเป็นนักแสดงเหรอ?  พูดไปคงฟังว่าบ้า? แม้แต่ฉันก็คงไม่เชื่อ’

ช่างเถอะ เอาเรื่องพวกมันไว้ทีหลัง ทันใดนั้น คังวูจินก็มองตรงไปที่หน้าจอ ภาพที่ฉายออกมาจากหน้าจอขนาดใหญ่นั้นยิ่งใหญ่มาก หรือจะเรียกว่ามันชวนตะลึงดี?  ความยิ่งใหญ่อลังการนั้น แตกต่างจากการทดสอบฉายที่เขาเคยเห็นในห้องอัดเสียงพอสมควร

‘อ่า มันค่อนข้างน่าอายเลยแฮะ ใบหน้าของฉันดูใหญ่มาก’

ในตอนนั้นเอง

“ไม่เลวเลยใช่ไหม?”

“อือ สนุกดี”

เสียงกระซิบของคู่รักที่นั่งข้าง ๆ ลอยมาถึงคังวูจิน นอกจากนี้ แม้ตอนแรกผู้ชมประมาณ 500 คนแทบจะไม่มีความคาดหวังอะไรเลย แต่พวกเขาก็เริ่มที่จะเอนตัวไปข้างหน้า เพราะ ‘สำนักงานนักสืบ’ สนุกกว่าที่คิดไว้ สงสัยเพราะพวกเขาคิดว่ามันเป็นแค่หนังสั้น พวกเขาจึงไม่ได้คาดหวังมันเลยสักนิดเดียว

ซึ่งเสียงที่ดังของภาพยนตร์ก็กลบเสียงพวกเขาบางส่วนไป

“มันสนุกดีมากเลยว่าไหม?”

“อืม มันเป็นหนังสั้น แต่คุณภาพดีมากเลย โดยเฉพาะเรื่องเสียง”

ผู้ชมที่นั่นที่นี่ ต่างก็กระซิบกัน

“คุ้มค่าแก่การดูมากเลยเนอะ? มันไม่รู้สึกเหมือนหนังสั้นเลยนะ?”

“แต่พระเอกนี่หน้าใหม่หรือเปล่า? เขาแสดงได้ดีจริง ๆ เลย”

ผู้ชมทั้งโรงค่อย ๆ อินไปกับ ‘สำนักงานนักสืบ’ ทีละน้อย เหมือนเสื้อผ้าเปียกในฤดูฝนที่เริ่มซึมน้ำ

ตอนนั้นเอง

‘หา??!!’

คิมแดยอง หนึ่งในแก๊งทั้งสามคน เขารู้สึกตกใจเมื่อเห็นใครบางคนบนหน้าจอ ราวกับเป็นโรคติดต่อ ดวงตาของทั้งสามเบิกกว้างด้วยความตกใจพร้อมกัน

‘ว้าว เฮ้ย!!!’

'บ้าไปแล้ว! คังวูจิน ไอ้เพื่อนบ้า!!”

ทันใดนั้น ฮงฮเยยอน นักแสดงชั้นนำก็ปรากฏตัวขึ้นบนหน้าจอ

ฉากนั้นเป็นตอนที่ตัวละครหลัก คิมรยูจินเริ่มติดตามภรรยาของลูกค้าไป กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ นี่เป็นการปรากฏตัวครั้งแรกของฮงฮเยยอน ผู้รับบทเป็นภรรยา วันนี้เป็นการฉายครั้งแรกของ ‘สำนักงานนักสืบ‘ ที่ ‘เทศกาลหนังสั้นมิสออนแซง’ ด้วยเหตุนี้ มันจึงสร้างความตกตะลึง ไม่เพียงแค่กับทั้งสามคน แต่กับผู้ชมทั้ง 500 คนด้วย

“อะไรกัน อะไรเนี่ย? นั่นฮงฮเยยอนไม่ใช่เหรอ?”

“หนังเรื่องนี้มีฮงฮเยยอนอยู่ด้วยเหรอ?”

“ว้าว ฮงฮเยยอน สุดยอดไปเลย”

ความเข้มข้นของผู้ชมพุ่งสูงขึ้นในทันที

ในขณะเดียวกัน ณ จีจีโอเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ นนฮยอนดง

ซีอีโอซอกูชอบ ผู้มีรูปร่างคล้ายสุนัขบูลด็อก หน้าตาขึงขัง กำลังนั่งดูแท็บเล็ตบนโซฟาขนาด 5 ที่นั่งตัวใหญ่โตในห้องทำงานของเขา สิ่งที่เขาดูอยู่นั้นเกี่ยวข้องกับ 'เทศกาลหนังสั้นมิสอองแซง' และผู้จัดการที่นั่งอยู่บนโซฟาข้าง ๆ เขาก็รายงานไปด้วยพร้อมกับดูแท็บเล็ตอันเดียวกัน

“เมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้ว การฉาย 'เทศกาลหนังสั้นมิสอองแซง' เริ่มต้นขึ้นในเวลา 10 นาฬิกา และตั้งแต่วันนี้ 'เมนเทอร์' ของพัคจองฮยอกก็เริ่มฉายแบบสลับรอบแล้วครับ”

ซีอีโอซอกูชอบพยักหน้าช้า ๆ แล้วถาม

“การฉายของพัคจองฮยอกมีแค่สองวันใช่ไหม?  มีปัญหาอะไรกับการฉายบ้างไหม?”

“ไม่ครับ ตามรายงานของทีมหน้างานแล้ว ไม่มีปัญหาอะไรครับ”

“'เทศกาลหนังสั้นมิสอองแซง' ดูเหมือนจะได้รับความนิยมมากขึ้น มีผู้เข้าร่วมเยอะมากไหม?”

"ครับ จํานวนเพิ่มขึ้นหลายเท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด นักข่าวให้ความสนใจมากกว่าปกติ แถมยังมีบรรดาผู้จัดรายการออนไลน์และยูทูปเบอร์หลายคนมาปรากฏตัวในงานด้วย”

“ดีมาก”

ซีอีโอซอกูชอบวางแท็บเล็ตลงด้วยรอยยิ้มพอใจ จากนั้นก็หยุดชะงัก เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยและเปลี่ยนคําถาม

“คุณได้ดูหนังของผู้กำกับชินดงชุนหรือยัง?”

ซีอีโอซอกูชอบไม่เพียงแต่ส่งพนักงานไปดูผลงานของพัคจองฮยอกอย่างเรื่อง 'เมนเทอร์' ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อล้างภาพลักษณ์ของเขาเท่านั้น แต่ยังส่งไปดูเรื่อง 'สำนักงานนักสืบ' ของผู้กำกับชินดงชุนอีกด้วย ผู้จัดการจึงตอบกลับอย่างรวดเร็ว

“ไปมาดูมาแล้วครับ โรงภาพยนตร์ CGV COEX เป็นสถานที่จัดงาน และเช่นเดียวกับ 'เมนเทอร์' มันเพิ่งฉายเป็นครั้งแรกวันนี้”

“ใครเป็นพระเอกในเรื่อง 'สำนักงานนักสืบ' ล่ะ?”

“เป็นนักแสดงโนเนมครับ ดูเหมือนจะเป็นคนที่ไม่มีใครรู้จักเลย”

เมื่อได้ยินคำตอบ ซีอีโอซอยกูซอบก็แค่นเสียงอย่างไม่เชื่อหู

"อะไรนะ? บ้าจริง ไม่ใช่แค่นักแสดงระดับ B แต่เป็นแค่หน้าใหม่โนเนมเลยเหรอ?  ผู้กำกับชินดงชุนมันบ้าไปแล้วหรือไง?  เขากล้าที่จะดูถูกฉันและพัคจองฮยอกด้วยการคัดเลือกนักแสดงโนเนมแทนเหรอ? เขาบ้าไปแล้วจริง ๆ”

“แต่… การแสดงของนักแสดงโนเนมคนนั้นก็ไม่เลวร้ายเลยนะครับ”

"แล้วไง? แม้ว่าเขาจะเก่งแค่ไหน นักแสดงโนเนมก็ยังคงเป็นโนเนม ช่างเถอะ ตราบใดที่การแสดงของพัคจองฮยอกไม่ได้แย่มาก เขาก็ได้รับรางวัลแน่นอน”

หลังจากนั้นไม่นาน ซีอีโอซอกูชอบหยิบเอาซองบุหรี่ที่อยู่บนโต๊ะตรงหน้าเขาขึ้นมา

"จากนี้ไป ไม่ต้องกังวลกับหนังขยะที่ผู้กำกับชินดงชุนสร้างอีก เรามาเริ่มผลักดันการเรื่องของเราและกระจายข่าวลือตามแผนที่วางไว้ แล้วก็เอาให้เนื้อข่าวมันผสม 'เทศกาลหนังสั้นมิสอองแซง' ให้ชื่อของพัคจองฮยอกโผล่มาตลอด และคอยป้อนบทความให้กับนักข่าวที่เรามีความสัมพันธ์ด้วยนะ"

“เข้าใจแล้วครับ”

“ระวังเรื่องดราม่าที่เกิดขึ้นด้วย พัคจองฮยอกจะต้องรับมือกับมันทั้งหมด ถ้าประเด็นมันร้อนแรงมาก ก็ปล่อยให้มันเป็นกระแสไปจนถึงพิธีมอบรางวัล อืม แต่ในเมื่อมีแต่พวกดาราโนเนมมาวุ่นวายอยู่ด้วย สุดท้ายนักข่าวก็จะสนใจแค่จองฮยอกอยู่ดี”

ทันทีที่ได้รับคําสั่ง พนักงานก็ก้มศีรษะ

-ก๊อก ก๊อก ปัง!

จู่ ๆ ประตูห้องทำงานของซีอีโอก็เปิดออก และพนักงานอีกคนก็รีบเข้ามา เมื่อเห็นเขา ซีอีโอก็เลิกคิ้ว

"เกิดอะไรขึ้น? ผู้จัดการพัค"

ผู้จัดการพัคหอบหายใจแรง ๆ เข้าประเด็นทันที

“ซีอีโอ เอ่อ... เราเพิ่งได้รับโทรศัพท์จากฝ่าย 'สำนักงานนักสืบ' ครับ”

"อ่า ลืมเรื่องหนังขยะนั่นไปได้เลย แค่มุ่งความสนใจที่การปั่นกระแสของเราต่อก็พอ”

“ผมว่าเราไม่ควรเพิกเฉยนะครับ”

"หมายความว่ายังไง?"

ซีอีโอซอกูซอบถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา และผู้จัดการพัคก็รายงานอย่างลังเล

“ฮงฮเยยอนแสดงในเรื่อง 'สำนักงานนักสืบ' ครับ”

เกิดช่วงเวลาแห่งความเงียบขึ้น หลังจากจ้องมองพนักงานประมาณ 5 วินาที ซีอีโอซอกูชอบก็ลุกขึ้นยืนอย่างกระทันหัน

“อะไรนะ?! ฮงฮเยยอน? ฮงฮเยยอนแสดงในเรื่อง 'สำนักงานนักสืบ'?!”

“...ครับ”

"เป็นไปไม่ได้! นายพูดเรื่องบ้าอะไรออกมาเนี่ย? ฮงฮเยยอนเพิ่งเข้าร่วมทีมละครของ PDซงมันวูไม่ใช่เหรอ?!  แล้วเธอจะยังไปแสดงในเรื่อง 'สำนักงานนักสืบ' ได้ยังไงอีก?!!”

“เธอแค่รับบทเป็นนักแสดงสนับสนุนหลักเท่านั้นครับ”

“……..”

ผ่านไปครู่หนึ่ง ซีอีโอซอกูซอบก็รู้สึกปวดหัว ฮงฮเยยอนร่วมแสดง? ถ้าเป็นความจริง ทุกกระแสที่พวกเขาเตรียมไว้เพื่อการฟอกขาวให้พัคจองฮยอกคงสูญเปล่า เพราะว่าอีกฝ่ายคือฮงฮเยยอน นักแสดงสาวเลื่องชื่อ

พวกเขาไม่สามารถ่ตอกรกับเธอในแง่ของการสร้างกระแสข่าวได้เลย

ซีอีโอซอกูซอบกัดฟัน ขว้างซองบุหรี่ที่เขาถืออยู่ลงบนพื้นด้วยความโกรธ จากนั้นเขาก็จําบุคคลหนึ่งได้

“… ซีอีโอชเวซองกุน หมอนั่นคือนักลงทุนสินะ”

ขณะเดียวกัน ในช่วงพักกลางวันของวันเดียวกัน

ในขณะที่ 'เทศกาลหนังสั้นมิสอองแซง' กําลังดําเนินไปอย่างเต็มรูปแบบ ทีมงาน 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' ได้ปล่อยวิดีโอตัวอย่าง ลงบนช่องยูทูป แพลตฟอร์มวิดีโออื่น ๆ และเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

-[ตัวอย่างแบบเป็นทางการ 15 วินาที]  ถึงจะเป็นคนเกียจคร้านและทำอะไรไม่เป็นเรื่อง แต่เขาก็เป็นอัจฉริยะ! <ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล> ออกอากาศตอนแรกวันศุกร์ที่ 5 พ.ค. | ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล

-[สถานีโทรทัศน์แซงบ๊ก (SBC)]/คำบรรยายอังกฤษ

-2020. 5. 2

เป็นตัวอย่างแรกอย่างเป็นทางการของ 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' ซึ่งแตกต่างจากตัวอย่างที่ปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ ตัวอย่างนี้มีเนื้อหาบางส่วนจากละครจริง ๆ แม้ว่าความยาวเพียง 15 วินาที แต่มันก็มีประเด็นสำคัญ ๆ อยู่ครบถ้วน

เสียงบรรยายโดยรยูจองมิน

ตัวอย่างนี้ เริ่มต้นด้วยเสียงทุ้มอันทรงพลังของเขา พาผู้ชมไปพบกับฉากต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว แสดงภาพของตัวละครหลากหลายคน  ยูจีฮยองหมอบอยู่ในที่เกิดเหตุ จองยอนฮีกำลังไล่ล่าใครบางคน นักแสดงหลักและนักแสดงสมทบที่ตึงเครียด การระเบิดของรถยนต์ครั้งใหญ่ และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งเมื่อใกล้จะจบ ฉากต่าง ๆ ถูกตัดสลับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว เพลงประกอบก็เร่งจังหวะขึ้นด้วย

ในที่สุด ตัวอย่างก็ตัดไปเป็นภาพหน้าจอดำ เสียงบรรยายของรยูจองมินยังคงก้องกังวานอยู่เบา ๆ

["ทุกอย่าง"]

ในเวลาเดียวกัน รอยยิ้มชั่วร้ายจากชายคนหนึ่งซึ่งมีใบหน้าปกคลุมเหนือจมูกเต็มหน้าจอ

["เริ่มต้นจากรอยยิ้มที่บิดเบี้ยวนี้"]

มันเป็นรอยยิ้มที่น่าขนลุก ผู้ชมทั่วไปอาจจะไม่รู้ แต่เหล่านักแสดงของ 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' ต่างสามารถจำรอยยิ้มนี้ได้ทันที

เพราะมันเป็นของรองหัวหน้าพัค

ทันทีที่อัปโหลดตัวอย่างนี้ คอมเมนต์แรกก็ปรากฏขึ้น

-บ้าไปแล้ว…ใครคือคนที่ยิ้มตอนท้ายกัน? ถึงมันจะสั้น แต่มันทรงพลังเกินไปแล้ว….

ในโรงอาหารของมหาวิทยาลัย หญิงสาวสี่คนกำลังรวมกลุ่มกันอยู่ หนึ่งในนั้นเพิ่งดูตัวอย่างและรู้สึกตื่นเต้นมาก เธอตื่นเต้นมากจนโชว์ตัวอย่างละครให้เพื่อน ๆ ที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ ดู

“ดูนี่สิ! คุณภาพของตัวอย่างนี้สุดยอดไปเลยนะ! ว้าว- นักแสดงที่ยิ้มตอนจบคือใครกันเนี่ย?? น่าขนลุกมาก!”

น้องสาวของคังวูจิน คังฮยอนอา

“อือ! ฉันเองก็อยากดูแทบรอไม่ไหวแล้ว!”

ในขณะเดียวกัน ที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ห่างจาก COEX ประมาณ 10 นาที

ถ้าคุณเดินผ่านถนนที่พลุกพล่านแล้วเข้าไปในซอย คุณจะเจอสวนสาธารณะธรรมดาแห่งหนึ่ง

-ฉึบ

คังวูจินที่เพิ่งมาถึงก็ปรากฏตัวขึ้น เขาใส่แจ็คเก็ตยีนส์สีเข้มและหมวกใบเดิม แต่ถอดหน้ากากออก สีหน้าของเขาดูเคร่งเครียด เขาเพิ่งดูหนังเรื่อง 'สำนักงานนักสืบ' จบและรีบบึ่งมาที่นี่ทันที

จากนั้น คังวูจินก็สอดส่ายสายตามองไปทั่วสวนสาธารณะเหนือแปลงดอกไม้

"พวกเขาอยู่นั่นสินะ"

เขาสังเกตเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยสามคนที่นั่งอยู่บนม้านั่ง พวกเขาคือเพื่อน ๆ ของเขาที่เพิ่งเห็นคังวูจินบนจอภาพยนตร์เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา คิมแดยองโทรหาคังวูจินทันที ที่หนัง 'สำนักงานนักสืบ' จบลง และคังวูจินก็ตกลงที่จะมาเจอกันทันทีโดยไม่ลังเลเช่นกัน

ไม่นานนัก

-คืก

คังวูจินที่แอบเกาคางอยู่ ก็เดินก้าวไปทางประตูทางเข้าสวนสาธารณะโดยไม่คิดอะไรเลย

ในตอนนั้นเอง

“เฮ้!! บ้าจริง! นั่นไงคังวูจิน!”

“ไอ้เพื่อนบ้านั่น!!!”

“ให้ตาย! จับมัน จับมันไว้!!”

ทั้งสามคนที่รออยู่ต่างก็เห็นคังวูจินและ...

-โครม!

พวกเขาวิ่งไล่มาอย่างดุเดือด แรงพุ่งของพวกเขาดุจวัวกระทิงที่กำลังพุ่งชน ถ้าหากชนเข้ากับพวกเขา บางทีแขนสักข้างหนึ่งคงจะหักจากความเร็วของพวกเขาแน่ ซึ่งเพราะอย่างนั้นกระมัง คังวูจินจึงหันกลับไปและวิ่งหนีทันที

“อ๊า เวรเอ้ย!”

เขาวิ่งหนีไปราวกับจรวด

*****

ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay , ลงแบบราคาถูกแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับ หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิก กระซิก ;-;

5 2 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด