ตอนที่ 156ไปกับพวกเขา
ตอนที่ 156ไปกับพวกเขา
ไอร่าหวังว่าเธอจะกลับบ้านได้อย่างรวดเร็ว สำหรับการถูกลั่วรังแก เธอจะปฏิบัติต่อมันราวกับว่าเธอถูกสุนัขกัด แม้ว่าเธอจะรู้สึกรังเกียจ แต่เธอไม่ต้องการคิดถึงมัน
แต่ลั่วปฏิเสธการกระทำเช่นนี้
เขามองไปที่ซงซู “ลั่วอยู่ที่ใด”
ซงซูก้มศีรษะลง “ฝ่าบาทประทับอยู่ในวังขอรับ”
เชร์ส่งไอร่าให้กับบุหรง “พานางออกไปจากเมืองก่อน มีอสูรจากหอการค้ารออยู่นอกเมือง ไปพบพวกเขากันก่อน ข้าจะไปคุยกับลั่ว”
บุหรงเห็นด้วย
ไอร่าคว้าข้อมือของเชร์อย่างรวดเร็ว “ไปกับพวกเรา”
พระราชวังเต็มไปด้วยคนของลั่วและเหวินเฉียน เชร์จะต้องทนทุกข์ทรมานอย่างแน่นอน หากเขารีบไปเพียงลำพัง
นิ้วหัวแม่มือของเชร์ปัดริมฝีปากของเธอ การกัดนั้นทำให้เขาปล่อยไปไม่ได้ “ข้าเป็นพี่ชายของเขา” เขาพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ข้าเป็นครอบครัวเพียงคนเดียวของเขาที่เหลืออยู่บนโลกใบนี้ มีบางอย่างที่ข้าต้องสอนเขา”
“แต่-”
เชร์ขัดจังหวะเธอ “อยู่กับบุหรง เขาจะทำให้เจ้าปลอดภัย ข้าจะตามไปพบเจ้าเมื่อเสร็จธุระ”
ไอร่ามองเขาด้วยน้ำตาในดวงตาของเธอ “แต่ข้าเป็นห่วงเจ้า”
“ข้าสัญญาว่าจะกลับไปหาเจ้า” เชร์พูดกับบุหรงขณะที่เขาดึงมือของเธอออก “ตอนนี้ ขอฝากไอร่าไว้กับท่านด้วย หวังว่าครั้งนี้ท่านจะน่าเชื่อถือมากขึ้น”
บุหรงหัวเราะเบา ๆ “ได้ ได้ หยุดพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว เจ้าเป็นคู่ครองของนาง หาใช่บิดาของนาง ต้องกังวลขนาดนั้นเลยหรือ”
เชร์คิดกับตัวเองว่า ‘แม้ว่าข้าจะเลี้ยงดูลูกสาว นางก็คงไม่มีค่าเท่านี้’
เมื่อเห็นว่าเชร์กำลังจะขอให้ไอร่าออกไป ซงซูก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากขัดขวาง “ฝ่าบอกได้ออกคำสั่งแล้วว่าองค์ชายรองและคู่ครองของพระองค์ไม่สามารถออกจากเมืองสุริยะได้..”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ เขาก็เห็นว่าบุหรงกางปีกของเขาออกทันที
ภายใต้การจ้องมองของทุกคน บุหรงบินขึ้นไปบนท้องฟ้าโดยมีไอร่าอยู่ในอ้อมแขนของเขา เขามองลงไปที่ซงซูและทหารตนอื่น ๆ ด้วยการเยาะเย้ย “เจ้าต้องการจับข้าโดยใช้ทหารเพียงแค่นี้หรือ ฝันไปเถอะ”
มีทีมนกอินทรีในเมืองสุริยะซึ่งมีหน้าที่ลาดตระเวนและป้องกันทางอากาศ
ซงซูคำรามและเรียกให้ทีมอสูรอินทรีย์มาช่วย พวกเขาหยุดบุหรงและไอร่า ไม่ให้ออกไป
ทีมอสูรอินทรีย์บินไปอย่างรวดเร็ว
แต่เมื่อเห็นปีกเพลิงอันใหญ่โตมาแต่ไกล พวกเขาก็หยุด
พวกเขาดูหวาดกลัวและรวมตัวกันเพื่อพูดคุยกันอย่างแผ่วเบา
“เห็นกันหรือไม่ นั่นคือผู้อาวุโสบุหรงแห่งเผ่าขนนกใช่หรือไม่”
“ในเผ่าขนนกทั้งหมด ท่านเป็นเพียงผู้เดียวที่มีปีกสีแดงฉูดฉาด ต้องเป็นท่านเป็นแน่”
“แย่ละ เหตุใดท่านถึงมาอยู่ที่นี่แทนที่จะอยู่ในเผ่าขนนกเล่า”
“แล้วพวกเราควรเข้าไปหรือไม่”
“เหตุใดต้องเข้าไป คิดจะยอมพลีชีพหรืออย่างไร”
“แต่เราอยู่ที่นี่แล้ว หากเราไม่เข้าไปและทำให้ดูเหมือนว่าเรากำลังทำหน้าที่ของเราอยู่ นายพลซงก็จะต้องสอบสวนเรา ค่าแรงของเราคงถูกหักอย่างแน่นอน”
เพื่อรักษาค่าแรงรายเดือนสองคริสตัล ในที่สุดทีมอินทรีย์ก็ตัดสินใจรับความเสี่ยง
เมื่อพวกเขาอยู่ห่างจากอสูรขนนกสีแดงประมาณสิบเมตร พวกเขาหยุดพร้อมกัน
บุหรงมองย้อนกลับไปที่พวกเขาและถามอย่างไม่เป็นทางการว่า “พวกเจ้าคิดจะหยุดข้างั้นหรือ นานแล้วที่ข้าไม่ได้ออกแรง ถือเสียว่าเป็นการฝึกซ้อมก็แล้วกัน”
ทีมอินทรีย์ถอยไปสิบเมตรทันที
หัวหน้าถูกผลักให้ออกไป เขามองบุหรงจากระยะไกลด้วยรอยยิ้มกระดิกหาง “เราไม่กล้าต่อสู้กับท่านหรอกขอรับ เราเพียงเข้ามาทักทายท่าน ขอให้พวกเราได้เข้าไปทักทายท่านด้วยขอรับผู้อาวุโสบุหรง”
พูดตามหลักเหตุผลแล้ว อินทรีย์เหล่านี้เป็นชนเผ่าขนนก อย่างไรก็ตาม พวกเขาออกจากเผ่าขนนกตั้งแต่ยังเด็กมากและอาศัยอยู่ข้างนอก ตอนนี้พวกเขาได้ตั้งรกรากอยู่ในเมืองสุริยะแล้ว
อย่างไรก็ตาม พวกเขายังคงเกรงกลัวผู้อาวุโสบุหรง ผู้มีชื่อเสียงในเรื่องความบ้าคลั่งเป็นอย่างมาก
ไม่ใช่เพียงเพราะชายผู้นี้แข็งแกร่ง แต่ยังเป็นเพราะอารมณ์ที่แปรปรวนของเขา หากเขาอารมณ์เสียเขาจะจำใครไม่ได้เลย แม้แต่ผู้นำเผ่าขนนกยังไม่กล้าต่อต้านเขา
บุหรงตอบอย่างสบาย ๆ “มีอะไรอีกหรือไม่”
“ไม่มีแล้วขอรับ”
บุหรงอุ้มไอร่าแล้วบินออกไป
อินทรีย์รักษาท่าทางด้วยความเคารพ พวกเขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อบุหรงไปไกลลับสายตา
ในที่สุดพวกเขาก็ส่งลูกพี่ใหญ่ออกไปได้แล้ว
ซงซูซึ่งยืนอยู่ด้านล่าง เฝ้าดูทุกกระบวนการได้แต่กำหมัดแน่น
“เจ้าพวกสารเลวคิดว่าข้าตาบอดจริง ๆ หรืออย่างไร”
ซงซูแอบจดบันทึกนกอินทรีเหล่านี้ที่ได้รับเงินเดือน แต่ไม่ทำตามหน้าที่ เขาจะตัดคะแนนกับพวกเขาภายหลัง!!
ไอร่าถูกบุหรงพาตัวไป เหลือเชร์ไว้ตามลำพังในเมือง
ซงซูมีคนล้อมรอบเขา
“องค์ชาย เท่าที่ข้าเคารพท่าน ทว่านี่คือคำสั่งจากกษัตริย์องค์ใหม่ เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องปฏิบัติตามมัน”
เชร์พูดโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า “ข้าจะไปหาลั่ว หลีกไป”
ทั้งซงซูและทหารไม่ขยับตัว
เชร์หรี่ตาลง “อย่าให้ข้าโจมตีพวกเจ้าเลย”
ซงซูยังคงไม่ถอย
“ข้าคงทำให้ท่านขุ่นเคืองแล้วขอรับ”
การแสดงออกของเชร์มืดลง มือของเขากลายเป็นกรงเล็บอันแหลมคมที่เปล่งประกายสายฟ้าในขณะที่เขาโจมตี
...
บุหรงค่อย ๆ ร่อนลงบนพื้นหญ้านอกเมือง
อสูรที่หอการค้าส่งมากำลังรออยู่ที่นั่น เมื่อพวกเขาเห็นบุหรงและไอร่าลงมาจากท้องฟ้า พวกเขาก็ตกตะลึง
ปีกของบุหรงใหญ่เกินไป พวกเขาไม่เคยเห็นขนสีแดงเพลิงเช่นนี้มาก่อน พวกเขาไม่รู้ว่าเขาเป็นสายพันธุ์อะไร แต่สัญชาตญาณของพวกเขาบอกว่าบุคคลนี้น่าจะมีพลังมาก เป็นการดีที่จะไม่ยั่วยุเขา
ขณะที่พวกเขากำลังมองดูอย่างระมัดระวัง บุหรงก็เดินไปพร้อมกับไอร่า
บุหรงเหลือบมองแผ่นกระดูกที่ห้อยอยู่บนหน้าอกของพวกเขา พิมพ์บนแผ่นกระดูกเป็นสัญลักษณ์ใบไม้สีทองอันเป็นเอกลักษณ์ของหอการค้า
“เจ้าเป็นคนของหอการค้าใช่หรือไม่”
อสูรชายวัยกลางคนที่เป็นผู้นำยืนขึ้นและตอบอย่างระมัดระวังและด้วยความเคารพ “ขอรับ”
บุหรงกล่าวว่า “เชร์ให้พวกเรามาหาเจ้า”
อสูรชายวัยกลางคนพูดอย่างรวดเร็ว “ท่านเป็นเพื่อนขององค์ชายรองสินะขอรับ ข้ามีนามว่าเมย์เน่ เป็นผู้จัดการหอการค้า ขอทราบชื่อของท่านได้หรือไม่”
บุหรงเหลือบมองเขา “เจ้าไม่สมควรที่จะรู้จักนามของข้า”
เมย์เน่พูดไม่ออก
ไอร่าผลักบุหรงออกไป บุคลิกของผู้ชายคนนี้แย่มาก ไม่น่าแปลกใจเลยที่อินทรีย์เหล่านั้นคล้ายกับเห็นผีเมื่อเจอเขาเมื่อสักครู่
เธอยิ้มให้กับเมย์เน่ “ข้ามีนามว่าไอร่า เป็นคู่ครองของเชร์”
เมย์เน่ตะลึงกับรอยยิ้มของหญิงสาวตัวน้อย
สาวน้อยคนนี้หน้าตาดีจริง ๆ ผิวของเธอขาวราวกับหิมะ ดวงตาของเธอโค้งงอด้วยรอยยิ้ม และมีลักยิ้มเล็ก ๆ บนปากทั้งสองข้างของเธอ
เมย์เน่ซึ่งเดินทางไกลและได้พบกับสตรีหลากหลาย อดไม่ได้ที่จะตะลึงกับเธอ
บุหรงดึงไอร่าไปข้างหลังเขา “อย่ายิ้มให้ผู้อื่นโดยไร้เหตุผล จะเกิดอะไรขึ้นหากเจ้าสร้างปัญหา”
แม้ว่าเขาจะเผชิญหน้ากับไอร่าเมื่อเขาพูดเช่นนี้ แต่การจ้องมองของเขาก็พุ่งไปที่เมย์เน่
หนังศีรษะของเมย์เน่เสียวซ่านจากการจ้องมองของเขา และเขาก็รีบหันไปทางอื่น