ตอนที่ 155 การกลั่นแกล้ง
ตอนที่ 155 การกลั่นแกล้ง
แม้ว่าไอร่าจะก้าวไปสองก้าวแล้ว เธอก็ยังรู้สึกขุ่นเคือง
เธอหันไปมองลั่วและรวบรวมความกล้า
“ข้าสูญเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่เด็ก และไม่มีพี่น้องอยู่ข้าง ๆ ญาติเพียงคนเดียวที่ข้ามีก็ปฏิบัติต่อข้าราวกับเป็นภาระที่ต้องการทอดทิ้ง ตอนที่ข้ายังเด็ก ข้าฝันว่าอยากมีครอบครัว ไม่จำเป็นร่ำรวยล้นฟ้า ข้าแค่อยากเป็นเหมือนคนทั่ว ๆ ไป แต่นั่นมันเป็นได้เพียงความฝันของข้า”
“ความฝันที่ครั้งหนึ่ง ข้าไม่เคยได้รับนั้นเป็นภาระที่เจ้ารังเกียจอย่างยิ่ง พูดกันตามตรง เจ้ามันก็แค่คนสารเลวเสแสร้งไร้ประโยชน์ก็เท่านั้น”
“ในเมื่อเจ้าไม่ชอบเชร์ ก็มอบเขาให้ข้า ข้าจะอยู่กับเขาตลอดไปเอง”
“สำหรับเจ้า จงตายตามลำพังไปพร้อมกับบัลลังก์ของเจ้าซะ”
ด้วยเหตุนี้ ไอร่าจึงเดินจากไปโดยไม่หันกลับไปมองเขาอีก
เธอเดินออกไปอย่างก้าวร้าว หากเธอมีเสื้อคลุมที่เหมาะสม เธอคงสามารถทำท่าทางเป็นราชินีได้ทันที อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เธอเดินออกจากประตู ออร่าของเธอก็หายไปทันที เธอพิงกำแพงแล้วหอบ
เธอไม่เคยพูดแบบนั้นมาก่อน เธอรู้สึกกลัวมาก จะเกิดอะไรขึ้นถ้าจู่ ๆ ลั่วระเบิดและฆ่าเธอ
แค่คิดก็ทำให้ขาของเธออ่อนแรงและการมองเห็นของเธอก็หมุนไป
ไอร่าไม่กล้าไปไกลเกินไป กลัวว่าเชร์จะหาเธอไม่เจอ
เธอพันตัวเองด้วยเสื้อคลุม แล้วหมอบอยู่ที่ประตู เธอโอบแขนรอบเข่า มีหมวกคลุมขนาดใหญ่ปิดครึ่งใบหน้าของเธอ เหลือเพียงคางกลมของเธอเท่านั้นที่โผล่ออกมา เธอรออย่างเงียบ ๆ ให้เชร์มาหาเธอ
ทันใดนั้นบุหรงก็ลงมาจากท้องฟ้ามาอยู่ตรงหน้าเธอ
เมื่อเห็นเธอขดตัวกลมอย่างน่าสมเพช บุหรงก็รู้สึกขบขันและเสียใจ เขาเอื้อมมือไปอุ้มเธอขึ้นมา “เมื่อกี้ไม่ใช่ว่ายังทำเป็นเก่งอยู่เลยไม่ใช่หรือ เหตุใดชั่วพริบตาถึงได้อ่อนแอราวกับลูกไก่ในกำมือไปเสียแล้ว”
ไอร่าตกใจเขาและดิ้นรน “วางข้าลงนะ”
“อย่าขยับ” บุหรงกอดเธอแน่นขึ้น “ขยับอีกครั้ง ข้าจะจูบเจ้า”
ไอร่าหยุดเคลื่อนไหวทันที
เธอรู้ดีว่าอันธพาลเฒ่าคนนี้กล้าทำตามที่เขาพูด เธอไม่ต้องการถูกคนอื่นจูบในพริบตา
รู้สึกแย่มากที่ถูกคนที่ไม่ชอบจูบ
ดอกบัวใช้โอกาสคลานออกจากหมวกและถูหลังมือของบุหรงอย่างเสน่หา “ท่านพ่อ ~”
การจ้องมองของบุหรงหยุดชั่วคราวราวกับว่าเขาประหลาดใจ “เหตุใดบัวน้อยถึงโตขนาดนี้”
ไอร่าถามว่า “มันไม่ปกติหรือที่จะโตขึ้นเช่นนี้”
“หลังจากดอกบัวงอกก็สามารถเข้าสู่วัยทารกได้อย่างรวดเร็ว แต่หากต้องการเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นก็ต้องการสารอาหารจำนวนมาก”
ไอร่าสับสน “สารอาหารอะไร ท่านกำลังพูดถึงน้ำหรือ”
“ไม่ใช่เพียงแค่น้ำ นอกจากนี้ยังมีพลังชีวิตด้วย” บุหรงหยุดชั่วคราว “ข้าเกือบลืมไป เจ้ามีเมล็ดต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัว ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เป็นแหล่งพลังแห่งชีวิต บัวน้อยคงดูดซับพลังของมัน”
ไอร่าไม่เข้าใจ
บุหรงกางปีกของเขาแล้วอุ้มเธอขึ้น
หลังจากนั้นไม่นานเธอก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นและต้องตกใจ “ท่านรู้ได้อย่างไรว่าข้ามีเมล็ดต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์”
บุหรงพูดอย่างไม่แยแส “เจ้ามีรัศมีของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัวเจ้า แม้ว่ามันจะจางมาก แต่ข้ายังได้กลิ่นหากเข้าใกล้เจ้า”
ไอร่ารู้สึกกังวลทันที เธอไม่คาดคิดว่าเมล็ดต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์จะถูกค้นพบได้ง่ายขนาดนี้ เธอต้องระวังในอนาคต
ราวกับว่ารู้สึกถึงความกังวลของเธอ บุหรงพูดอีกครั้งว่า “ไม่จำเป็นต้องกังวลเกินไป มีอสูรในโลกนี้ไม่กี่ตนที่รู้ว่ากลิ่นของเมล็ดต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นอย่างไร แม้ว่าพวกเขาจะได้กลิ่น แต่พวกเขาก็ไม่รู้หรอกว่ามันคืออะไร”
ความกังวลใจของไอร่าผ่อนคลายลงเล็กน้อย
เธอมองดูบุหรงอย่างสงสัย “ทำไมท่านถึงรู้ไปเสียทุกอย่าง”
บุหรงหัวเราะ “เพราะข้าแก่แล้ว ข้าจึงรู้มาก”
ไอร่ารู้ว่าเขาล้อเลียนเธอเพราะเธอมักจะว่าเขาแก่ เธอสัมผัสจมูกของเธออย่างขุ่นเคืองโดยคิดว่าไม่เพียงแต่ผู้ชายคนนี้แก่เท่านั้น แต่เขายังเป็นคนใจแคบอีกด้วย เขาจำคำพูดสบาย ๆ เช่นนั้นอยู่ได้ตั้งหลายวัน
เธอจงใจเปลี่ยนเรื่อง “ท่านจะพาข้าไปที่ใด”
“เพื่อพาเจ้าไปหาคนที่เจ้าอยากเจออย่างไรเล่า”
บุหรงพาเธอไปหาเชร์
ในขณะนี้ เขาเพิ่งเดินออกจากหอการค้าโดยมีอสูรตัวผู้ที่ไม่คุ้นเคยสองตนอยู่ข้างหลังเขา
อสูรตัวผู้ตัวหนึ่งกล่าวด้วยความเคารพ “ระวังตัวด้วย องค์ชายรอง เราจะเตรียมคนให้พร้อม เจอกันที่นอกเมือง”
เชร์พยักหน้า “ได้ แล้วเจอกัน”
เมื่อเขาหันกลับมา เขาเห็นไอร่ายืนอยู่ใกล้ ๆ และมีบุหรงอยู่ข้างหลังเธอ
“ทำไมเจ้าถึงอยู่ที่นี่” เชร์รีบไปอุ้มเธอขึ้นมา “ข้าบอกแล้วไม่ใช่หรือว่าให้รอข้าที่บ้านหมีไผ่”
ไอร่าก้มศีรษะลง หมวกของเธอคลุมใบหน้าส่วนใหญ่ไว้
เธอโอบแขนรอบคอของเขาและแนบไปที่หน้าอกของเขา “ข้าคิดถึงเจ้า” เธอพูดด้วยความรัก
พวกเขาห่างกันเพียงชั่วครู่ แต่สาวน้อยก็คิดถึงเขา หัวใจของเชร์ละลาย
ไอร่าถามว่า “เราไปกันได้หรือยัง ข้าอยากกลับบ้านเร็ว ๆ”
เธอต้องการขายผักและผลไม้ให้กับหนีเหม่ยมากขึ้น แต่ตอนนี้เธอแค่อยากออกไปจากที่นี่
เธออยากกลับไปที่ภูเขาหินจริง ๆ เธอคิดถึงคอนริและธยาน์และลูก ๆ
เชร์ตอบอย่างอ่อนโยน “ได้ เรากลับบ้านกัน”
ทั้งสามคนออกจากเมืองชั้นใน แต่เมื่อไปถึงชั้นแรกของเมืองชั้นนอก พวกเขาถูกทหารยามหยุดไว้
เชร์ขมวดคิ้ว “พวกเจ้าต้องการอะไร”
ซงซูกำหมัดของเขาและกดมันลงบนหน้าอกของเขา เขาโค้งคำนับและพูดว่า “ข้าเสียใจมากขอรับ หากไม่ได้รับอนุญาตจากฝ่าบาท องค์ชายและคู่ครองของท่านจะออกจากเมืองสุริยะไม่ได้ขอรับ”
บุหรงยิ้ม แต่ดวงตาไร้ความอบอุ่น “ราชาองค์ใหม่เพิ่งขึ้นครองบัลลังก์ แต่เขากำลังวางแผนที่จะกำจัดพี่ชายอย่างเจ้าเสียแล้ว เจ้าสองคนเป็นพี่น้องกันจริง ๆ หรือ”
เชร์คิดว่ามันฟังดูรุนแรง เขามองย้อนกลับไปที่บุหรง “ลั่วไม่ใช่คนแบบนั้น”
“เจ้าคิดว่าน้องชายของเขาเป็นเช่นไร ไร้เดียงสา? ใจดี? ร่าเริง?” รอยยิ้มของบุหรงเต็มไปด้วยการเยาะเย้ย “หากเขาดีเฉกเช่นที่เจ้ากล่าวมา เหตุใดเขาถึงรังแกไอร่าด้วย”
เชร์ตกตะลึง “เขารังแกไอร่าหรือ”
บุหรงเหลือบมองหญิงสาวตัวเล็กที่กำลังซุกศีรษะลง และถามด้วยรอยยิ้มจาง ๆ “ไอร่า เหตุใดเจ้าไม่กล้าเงยหน้าขึ้นและให้เชร์ สุดที่รักของเจ้าเห็นปากของเจ้าเสียหน่อยเล่า”
ไอร่าพูดไม่ออก มนุษย์นกตนนี้สนุกกับการแสดงมาก
เชร์ไม่สนใจ เขาคว้าคางของไอร่าแล้วบังคับให้เธอเงยหน้าขึ้นมอง
ริมฝีปากบวมของเธอถูกกัด ทำให้ดูโดดเด่นเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับผิวขาวของเธอ
ใครก็สามารถบอกได้ว่าบาดแผลที่ปากของเธอเกิดขึ้นได้อย่างไร
ดวงตาของเชร์มืดลง
ดวงตาสีฟ้าของเขาดูเหมือนจะก่อเกิดพายุ
เขาถามด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “เขากัดเจ้าหรือไม่”
ไอร่ารู้สึกผิดจากสายตาการจ้องมองของเขา “จริง ๆ แล้วมันไม่ได้เจ็บมากนัก ไว้ข้าจะทายาภายหลัง...”
“เหตุใดเจ้าไม่บอกข้า”
ไอร่าไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร
เธอไม่ต้องการบอกเชร์ เธอไม่ต้องการให้เขารู้ความคิดที่แท้จริงของลั่ว
เธอไม่อยากให้เขารู้สึกแย่