ข้านี่แหละจอมเวทไร้เทียมทาน ตอนที่ 16
ข้านี่แหละจอมเวทไร้เทียมทาน ตอนที่ 16
บนใบหน้าของหลี่หยวนเผยรอยยิ้มพึงพอใจ
"เอาล่ะๆ เงียบกันได้แล้วนักเรียน ต่อไปครูจะแนะนำนักเรียนที่เพิ่งย้ายมาต่อพวกเธอทุกคนนะ"
"เธอชื่อว่า จั่วมู่เกอ อาชีพนักบวชวจนะศักดิ์สิทธิ์ นับจากวันนี้ เธอจะมาเป็นเพื่อนร่วมชั้นของพวกเธอทุกคน หวังว่าจะเข้ากันได้ดีนะ"
นักเรียนภายในห้องต่างส่งเสียงเฮลั่น
แม้จะเคยได้ยินมาแล้วว่าจ่วมู่เกอจะย้ายโรงเรียน
แต่พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะย้ายมาเรียนที่ห้องของพวกเขา
เท่านี้ห้องของพวกเขาก็จะมีอาชีพหายากถึงสองคน ทั้งยังเป็นสาวสวยทั้งคู่เลยด้วย
เรื่องนี้ทำให้บรรดาชายหนุ่มตื่นเต้นยินดีกันมาก
หากพวกเขาสามารถแสดงศักยภาพออกมาในระดับที่น่าพึงพอใจ บางทีอาจจะได้รับความสนใจจากพวกเธอก็ได้?
"หลินอวี่ เธอไปนั่งข้างหลัง ให้จั่วมู่เกอนั่งกับหยานจี"
หลี่ซวนหันมาพูดกับหลินอวี่
"ห้ะ?"
ขณะที่หลินอวี่กำลังคิดว่าตัวเองเองหล่อขึ้นอีกแล้วรึเปล่าอยู่นั้นเอง เมื่อได้ยินคำสั่งของหลี่ซวนเขาก็ต้องชะงัก
"ไม่เป็นไรค่ะอาจารย์ ด้วยหนูนั่งข้างหลังอาหวี่เองค่ะ"
ก่อนที่หลินอวี่จะได้พูดอะไร จั่วมู่เกอก็พูดขึ้นเบาๆ
พูดจบ เธอก็ไม่ได้สนใจว่าหลี่ซวนจะตอบว่าอย่างไร เธอเดินตรงไปทางโต๊ะของหยานจีและหลินอวี่
อาหวี่?
หลี่ซวนและเพื่อนร่วมห้องต่างก็เข้าใจได้ทันทีว่าอาหวี่ที่ว่าก็คือหลินอวี่
ทำไมถึงเรียกชื่อนี้?
หรือว่าพวกเขารู้จักกัน?
ทุกคนต่างทำหน้าแปลกๆ
หลี่ซวนหน้าแปรเปลี่ยน เขามองหลินอวี่ด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจอยู่บ้าง
นักเรียนคนนี้มาจากครอบครัวธรรมดาไม่ใช่เหรอ?
ทำไมเขาถึงไปรู้จักกับคุณหนูตระกูลใหญ่อย่างจั่วมู่เกอได้?
หลินอวี่มองดูจั่วมู่เกอที่เดินมาทางเขา ในหัวมึนงงอยู่บ้าง
พวกเราไปสนิทกันตอนไหน?
ขณะจั่วมู่เกอเดินผ่านหยานจี เธอก็ตีมือกับหยานจีและขยิบตาหยอกเย้าหลินอวี่
หลังจากนั่งที่แล้ว จั่วมู่เกอก็จิ้มหลังหลินอวี่
"อาหวี่ ในอนาคตฉันขอฝากตัวด้วยนะ"
หลินอวี่ "...."
หลินอวี่รู้สึกอับจนปัญญา
เธอไปกินยาผิดสำแดงมารึไง?
หยานจีหรี่ตาลงก่อนจะพูดขึ้นยิ้มๆ
"อาหวี่ จากที่ฉันรู้จักแม่นี่มา ดูแล้วเธอคงมาที่นี่เพราะนาย"
"ไม่ใช่ว่าย้ายตามเธอมาหรอกเหรอ?"
หลินอวี่พูดไม่ออก
"แค่วันเดียวเนี่ยนะ พวกเธอไม่สนิทกับฉันเร็วเกินไปหน่อยเหรอ?"
"เมื่อวานนี้ นายช่วยชีวิตพวกเราเอาไว้"
จั่วมู่เกอยิ้ม
พวกเพื่อนร่วมชั้นที่อยู่โดยรอบต่างก็มองหลินอวี่อย่างงุนงงเมื่อได้ยินการโต้ตอบระหว่างพวกเขาทั้งสามคน
หมอนี่....
เมื่อวานนี้เขาถึงกับช่วยชีวิตหยานจีและจั่วมู่เกอไว้จริงๆ?
ต้องรู้ก่อนว่า พวกเธอต่างก็มีอาชีพหายากทั้งคู่เชียวนะ!
พลังต่อสู้ของพวกเธอสูงกว่าอาชีพธรรมดาหลายเท่า!
หากว่าแม้แต่พวกเธอทั้งสองยังต้องให้หลินอวี่ช่วย เช่นนั้นแล้วหลินอวี่ต้องแข็งแกร่งขนาดไหน?
แม้หลี่ซวนที่อยู่หน้าห้องจะไม่ได้การยินสนทนาของพวกเขา แต่สีหน้าของเขาก็พลันขาวซีดเมื่อเห็นท่าทีสนิทสนมของทั้งสาม
นี่ฉันพลาดอะไรไปรึเปล่า!
คิดไม่ถึงว่าหลินอวี่จะมีพื้นหลังยิ่งใหญ่เหมือนกัน!
ไม่อย่างนั้นหยานจีและจั่วมู่เกอจะมีท่าทีสนิทสนมแบบนั้นได้ยังไง?
บ้าเอ๊ย!
ตอนที่หยานจีเลือกที่จะนั่งข้างเขาเมื่อวานนี้ ตอนนั้นฉันน่าจะคิดได้ตั้งนานแล้ว!
เดิมทีเขาเป็นคนประเภทประจบสอพลอผู้มีอำนาจ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะไปเตะเอาแผ่นเหล็กเข้าซะแล้ว
หลี่ซวนได้แต่หวังว่าหลินอวี่จะไม่ถือสากับคำพูดของเขาเมื่อครู่นี้
หลี่ซวนสลัดความคิดฟุ้งซ่าน ถึงเวลาทำการสอนแล้ว
เขาปลุกปลอบสมาธิ กระแอมไอเบาๆก่อนจะพูดขึ้นว่า
"หัวข้อในวันนี้คือ การจำลองการต่อสู้!
หน้าที่ของผู้มีพลังพิเศษก็คือการกำจัดพวกมอนสเตอร์และพวกต่างดาวเพื่อปกป้องบ้านเกิด!
สิทธิพิเศษที่ผู้มีพลังพิเศษครอบครองนั้นจะได้มาผ่านการสร้างผลงาน การเสียสละเลือดเนื้อและหยาดเหงื่อแรงกาย!
ในอนาคต พวกเธอก็จะต้องออกไปต่อสู้เหมือนคนอื่นๆ ตอนนี้ครูจะพาพวกเธอไปที่ป่าเพื่อสร้างความคุ้นเคยกับการต่อสู้และฝึกฝนการต่อสู้แบบทีมเป็นการล่วงหน้า!"
ได้ยินคำพูดของหลี่ซวน บรรดานักเรียนต่างก็มีสีหน้าคาดหวัง
ในฐานะผู้มีพลังพิเศษแล้วย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องต่อสู้
ยิ่งแข็งแกร่งก็ยิ่งฐานะสูงส่ง จากนั้นชื่อเสียงเงินทองก็จะหลั่งไหลเข้ามา
ใครบ้างจะไม่อยากได้รับการยอมรับจากคนอื่นๆ?
มีเพียงหลินอวี่ หยานจี และจั่วมู่เกอเท่านั้นที่มีสีหน้าเรียบเฉย
พวกเขาเพิ่งฆ่านักรบโครงกระดูกเป็นหมื่นตัวไปเมื่อวาน
สำหรับพวกเขาแล้ว หลักสูตรการจำลองการต่อสู้นั้นก็ไม่ต่างจากการละเล่นของเด็กๆ
หลังออกจากห้องเรียนมาแล้ว ทุกคนก็เดินไปขึ้นรถบัส
หลี่ซวนพานักเรียนหลายสิบคนมุ่งหน้าออกจากเมือง
ทุกวันนี้นั้น ด้านนอกเมืองไม่ใช่สถานที่ปลอดภัยเหมือนยุคก่อนๆ
ที่ด้านนอกนั่นมีมอนสเตรอ์เพ่นพ่านและอาศัยอยู่ทั่วทุกหนแห่ง
แน่นอนว่ายิ่งใกล้กับตัวเมืองมากเท่าไร พวกมอนสเตอร์ก็ยิ่งมีระดับต่ำลงเท่านั้น
"วันนี้พวกเราจะไปกันที่ทุ่งหญ้าสีเทา ซึ่งเป็นอาณาเขตของพวกหนูดีบุก"
"พวกเธอควรจะศึกษาคู่มือการต่อสู้เอาไว้ เลเวลของพวกหนุดีบุกคือ 1 ถึง 5 ซึ่งเหมาะสำหรับพวกเธอในตอนนี้ที่สุด"
"เมื่อถึงเวลาจริง พวกเธอก็จะต้องหาผู้มีพลังพิเศษอาชีพอื่นเพื่อตั้งทีมและออกล่าร่วมกัน"
"....."
หลี่ซวนใช้เวลาขณะที่เดินทางกล่าวอธิบายข้อมูงต่างๆสำหรับพวกนักเรียน
จั่วมู่เกอและหยานจีนั่งอยู่ถัดจากหลินอวี่
ขณะที่ฟังหลี่ซวนบรรยาย จั่วมู่เกอก็รู้สึกง่วงขึ้นมา จากนั้นเธอก็เอนศีรษะไปซบไหล่ของหลินอวี่ก่อนจะหลับไป
เหล่าเพื่อนร่วมชั้นที่อยู่ใกล้ๆต่างก็มองหลินอวี่ด้วยดวงตาอาฆาตแค้น
ทำไมกัน?!
ทำไมหมอนี่ถึงมีสาวสวยนั่งประกบซ้ายขาวได้ล่ะฟะ?
เมื่อหลินอวี่สัมผัสได้ถึงความนุ่มนิ่มจากแขนซ้าย เขาก็เกิดความลำบากใจขึ้นมา
นี่มันอะไรอีกล่ะเนี่ย?
หากอยู่กันตามลำพังล่ะก็ เขาจะทำไมให้จั่วมู่เกอได้รู้เองว่าทำไมดอกไม้ถึงมีสีแดง!