ความฝันที่เคยลืมเลือน (อ่านฟรี 13/07/2567)
“ทำการผสานยีนส์ของมอนสเตอร์เข้าไป!”
“ฉีดยากระตุ้นสะสารให้ NO.0”
บุ๋ง บุ๋ง บุ๋ง ครืดดดดด ครืดด
ในห้องที่เต็มไปด้วยหลอดทดลองซึ่งมีของเหลวสีเขียวอมม่วงบรรจุอยู่จนเต็ม นอกจากของเหลวแล้วก็ยังมีสายระโยงระยางอยู่เต็มไปหมด บริเวณกึ่งกลางของหลอดทดลองนั้นถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่ามันก็คือก้อนเนื้อบางอย่าง
เป็นก้อนเนื้อที่ขยับได้ มันขยับตัวไปมา เดี๋ยวยุบ เดี๋ยวพอง เหมือนกับหัวใจที่กำลังเต้นไม่มีผิด บริเวณรอบด้านของหลอดทดลองแต่ละอันจะมีนักวิทยาศาตร์จำนวนสองถึงสามคนคอยยืนจดอะไรบางอย่างลงบนกระดาษอย่างตั้งใจ
“หัวหน้าครับ! NO.5 ล้มเหลวครับ” มีนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าหลอดทดลองสื่อสารใส่ไมค์ที่ติดเอาไว้
“NO.57 ก็ล้มเหลวครับ” หลังจากนั้นไม่นานนักวิทยาศาตร์อีกคนหนึ่งก็รายงานไปยังหัวหน้าของเขาเช่นกัน
“เก็บกวาดให้เรียบร้อย” มีเสียงที่ฟังดูไร้หัวใจ มันราบเรียบและเย็นชาเป็นอย่างมากตอบกลับมา
หลังจากนั้นไม่ถึงห้านาทีก็มีทีมเก็บกวาดในชุดปลอดโรคที่คลุมทั้งตัวเดินออกมา พวกเขาลงมือดูดเศษซากของก้อนเนื้อที่ล้มเหลวแล้วทำความสะอาดหลอดทดลองในทันที
“หัวหน้าครับ... การทำแบบนี้มันจะไม่เป็นอะไรเหรอครับ” มีนักวิทยาศาสตร์อายุน้อยผู้หนึ่งกล่าวออกมาด้วยความสับสน เขาเพิ่งจะเข้ามาทำงานนี้ได้เพียงไม่กี่วัน ในตอนนี้สภาพจิตใจของเขาย่ำแย่เป็นอย่างมาก
“หรือนายอยากจะให้โลกของเราล่มสลายกันล่ะ ?” เสียงอันเย็นชาของหัวหน้าตอบกลับมา ทำให้นักวิทย์อายุน้อยผู้นั้นได้แต่เงียบไป
ทุกอย่างเราทำเพื่อโลก ทุกสิ่งที่ทำมันจำเป็น มันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง!
เขาได้แต่กล่าวคำพวกนี้ซ้ำ ๆ ทุกวันและเวลา ไม่สิ ต้องบอกว่าพวกเขาทุกคนต่างหาก
...
“ตัวทดลองหมายเลข 0 นายเข้าใจที่ฉันพูดรึเปล่า ?” นักวิทยาศาสตร์ในชุดสีขาวสะอาดกล่าวออกมาพลางจ้องมองไปยังร่างของเด็กอายุสองขวบตรงหน้า
“ครับ ผมเข้าใจ” น่าแปลกที่เด็กน้อยอายุเพียงสองขวบกลับเข้าใจแล้วสามารถสื่อสารกลับมาได้
แต่นักวิทยาศาสตร์ที่อยู่โดยรอบก็ไม่ได้มีทีท่าตกใจอะไร เหมือนกับว่าเป็นเรื่องที่คาดการณ์ไว้อยู่แล้วว่าจะต้องเกิดขึ้น
“วันนี่เราจะมาทดสอบการเพิ่มประสิทธิภาพกล้ามเนื้อกัน กินยาพวกนี้เข้าไปสิ” นักวิทยาศาสตร์กล่าวออกมาพลางยื่นโหลแก้วที่มียาเม็ดน้ำสีดำกลิ่นเหม็นสุด ๆ อยู่ด้านใน
เด็กน้อยที่เห็นก็ทำหน้าตาเหมือนไม่อยากจะกิน แต่เมื่อเห็นไม้ที่มีไฟฟ้าออกมาจากมือของนักวิทยาศาสตร์คนอื่นเขาก็จำใจต้องกินมันลงไป
รสชาติของยาสีดำที่สุดแสนจะย่ำแย่ บวกกับกลิ่นของเคมีทำให้อยากจะอ้วกมันออกมา แต่เด็กน้อยก็ฝืนกินมันจนหมด ยาขนาด 500ml.ถูกกินจนหมดในครั้งเดียว
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง
“ร่างกายมีการปรับสภาพของกล้ามเนื้อ มวลกล้ามเนื้อแข็งแกร่งมากขึ้น 10% ครับ” นักวิทยาศาสตร์ผู้หนึ่งกล่าวรายงานตามค่าที่อ่านได้บนแผงควบคุม
ที่ด้านหน้าของพวกเขามีร่างของเด็กน้อยสองขวบซึ่งถูกมัดเอาไว้บนแท่น พร้อมด้วยสายไฟที่ต่อกับร่างของเด็กน้อยเต็มไปหมด เด็กน้อยเจ็บปวดจนต้องร้องไห้ออกมาแต่ก็ไม่อาจเรียกความสงสารจากนักวิทย์เหล่านั้นได้
ครึ่งหลัง
“ให้ยาเสริมกล้ามเนื้อไปอีก 28 วัน หลังจากนั้นเราจะเริ่มฉีดยากระตุ้นการเจริญเติบโตต่อ” หัวหน้าของนักวิทยาศาสตร์ที่ยืนมองอยู่ก็กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
เขาไม่ได้มองเห็นเด็กน้อยตรงหน้าเป็นมนุษย์คนหนึ่ง สิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเขาก็เป็นเพียงร่างทดลองที่ถูกสร้างขึ้นเท่านั้น แม้มันจะมีโครงสร้างและกายภาพที่เหมือนมนุษย์ทุกอย่างก็ตาม
“รับทราบครับ!” นักวิทยาศาสตร์คนอื่น ๆ ตอบรับก่อนจะเริ่มทำการเปิดคลื่นไฟฟ้าอ่อน ๆ เพื่อให้ร่างของเด็กสองขวบเคยชินกับมัน พวกเขาทำเช่นนี้ทุกวันซ้ำไปซ้ำมาไม่มีหยุด
...
ผ่านไปสิบปี
“NO.0 งานครั้งล่าสุดของนายเป็นยังไงบ้าง ?” เด็กหนุ่มคนหนึ่งกล่าวถามออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เด็กหนุ่มคนนี้สวมชุดต่อสู้ที่ดูทันสมัยมีดาบเลเซอร์เหน็บไว้ข้างเอว
“ก็ไม่ยากเท่าไร แขนขาดไปข้างนึงแต่ก็ยังทำงานสำเร็จ” เด็กหนุ่มอีกคนที่มีเส้นผมสีดำใบหน้าดุดันตอบกลับไป พลางยิงปืนเลเซอร์เข้าใส่เป้าซ้อมด้านหน้าไม่หยุด
ทุกการยิงล้วนเข้าจุดสำคัญของเป้าทั้งหมด เป้าที่ใช้ซ้อมไม่ใช่รูปลักษณ์ของมนุษย์ แต่เป็นสัตว์ประหลาดที่มีหลากหลายรูปแบบแทน
“นายเคยได้ยินเรื่องการทดสอบสุดท้ายก่อนได้กลายเป็นนักรบตัวจริงไหม” เด็กหนุ่มคนแรกที่เหน็บดาบเลเซอร์ไว้ข้างเอวชวนคุยต่อ
“เคย...เห็นว่ารุ่นพี่ของพวกเราตายกันเกือบหมด เหลือรอดแค่10%เท่านั้น” NO.0ครุ่นคิดอยู่เล็กน้อยก่อนจะตอบคำถามของอีกฝ่าย
“เฮ้! พวกนายคุยอะไรกันอ่ะ” เสียงของเด็กสาวคนหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับร่างของเด็กสาวในชุดต่อสู้ที่เดินเข้ามาใกล้
“NO.9 ถามเรื่องการทดสอบสุดท้ายน่ะ” NO.0 ตอบกลับในสิ่งที่เด็กสาวถามมา
“ว่าไงNO.8 เสร็จการทดสอบร่างกายของวันนี้แล้วเหรอ” NO.9 ที่เห็นผู้ที่เพิ่งจะมาใหม่ก็กล่าวทักทายออกมา
พวกเขาทั้งสามคนนับว่าเป็นเพื่อนสนิทคนมากเลยทีเดียว ไม่ว่าจะตอนทำภารกิจหรือยามว่างก็มักจะไปด้วยกันเสมอ ถึงแม้ว่าในตอนแรกจะมีเพื่อนมากกว่านี้แต่ก็ล้วนล้มหายตายจากกันไปเป็นจำนวนมากแล้ว
[“ประกาศ! อีกหนึ่งชั่วโมงจะเริ่มการทดสอบสุดท้ายขึ้นแล้ว NO.0-NO.100จงเตรียมตัวให้พร้อม!”] เสียงประกาศดังขึ้นมาทำให้พวกเขาต้องรีบแยกย้ายกันไปเตรียมตัวในทันที
“แล้วเจอกัน!” NO.0 NO.8 NO.9 เพื่อนสนิททั้งสามคนกล่าวลากันก่อนจะแยกย้ายกันไป
...
ผ่านไปแปดปี
“NO.0 ขอแสดงความยินดีกับนายด้วย ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปนายจะมีชื่อว่า คริสกุซ เซอวัล ซึ่งมีความหมายว่าเทพสงครามของดวงดาวของเรา” ชายที่มีเครื่องแต่งกายเหมือนผู้นำกองทัพกล่าวออกมาด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
“ข้าทราบแล้ว ขอบคุณที่ท่านมอบชื่อให้” NO.0 จากเด็กหนุ่มผมสีดำผู้ซึ่งเคยมีความร่าเริงอยู่ในตัวในตอนนี้ผมของเขาได้กลายเป็นสีขาวดุจหิมะไปทั้งหมดแล้ว ลักษณะนิสัยของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นเย็นชาและไร้ความรู้สึกใด ๆ
จาก NO.0-NO.100 มีผู้เหลือรอดเพียงคนเดียวก็คือชายหนุ่มผู้นี้เท่านั้น
‘ข้าจะมีชีวิตอยู่เพื่อพวกเจ้า และปกป้องโลกของเรา’ คริสกล่าวขึ้นมาในใจ เขาหวังว่าเพื่อนพ้องของเขาที่อาจจะยังคงอยู่ที่ไหนสักแห่งในร่าง คงจะรับรู้ได้
“ตั้งแต่นี้ไป เจ้ามีหน้าที่เป็นผู้นำให้กับกองทัพในการกวาดล้างพวกมอนสเตอร์ให้สิ้นซาก! เจ้าจะกลายเป็นสัญลักษณ์ของดาวเวลเฮม!!” ผู้นำดวงดาวกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงทรงพลัง
เหล่าแม่ทัพและทหารที่ยืนต่อแถวยาวเหยียดต่างพากันตะโกนตอบรับดังกึกก้อง
พวกเขาพร้อมที่จะทำสงครามกับเหล่ามอนสเตอร์นั่นแล้ว!!