ราชาอันเดดแห่งพระราชวังอันมืดมิด บทที่ 2 (1/5) : ทดสอบ
ผมเดินตามเจ้านายออกมาด้านนอกคฤหาสน์ เมื่อเห็นทิวทัศน์ที่อยู่ตรงหน้าก็พูดอะไรไม่ออกไปในทันที
ชีวิตส่วนใหญ่ของผมก่อนที่จะตายล้วนนอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล
โรคประหลาดที่ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ ปวดท้อง ปวดเรื้อรังทั่วทั้งร่างกาย ส่งผลให้ร่างกายของผมค่อยๆ อ่อนแอลงอย่างไม่ทราบสาเหตุ มันเป็นโรคที่รักษาไม่หายและไม่มีแพทย์หรือผู้ใช้เวทมนตร์คนใดสามารถรักษาได้
เมื่ออายุได้สิบขวบ ผมก็ไม่สามารถลุกจากเตียงได้โดยลำพัง มันเป็นอย่างนั้นอยู่หลายปีจนกระทั่งผมตาย ตั้งแต่เด็กจนโต โลกของผมก็มองเห็นแค่ทิวทัศน์จากหน้าต่างภายในห้องเท่านั้น
ผมเป็นคนที่ไร้เดียงสามาก ความรู้ส่วนใหญ่ของผมล้วนมาจากหนังสือที่เคยอ่านบนเตียง นี่ก็ผ่านมาสิบกว่าปีแล้วที่ผมไม่ได้ออกมาข้างนอก
แม้ผมจะเข้าใจได้ว่าคฤหาสน์ของเจ้านายตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ไม่ปกติ แต่ก็ยังอดตกใจไม่ได้เมื่อเห็นทิวทัศน์เบื้องหน้า
สิ่งที่อยู่รอบๆ คฤหาสน์ของเจ้านายคือป่าอันมืดมิดที่น่าขนลุก เวลาในตอนนี้น่าจะเป็นตอนกลางคืน เพราะผมสามารถมองเห็นท้องฟ้าที่มืดครึ้มและดวงจันทร์สีเงินดวงใหญ่ที่ส่องแสงเบาบางอยู่บนท้องฟ้าได้
คฤหาสน์ถูกล้อมรอบไปด้วยรั้วโลหะขนาดใหญ่ ด้านบนยังถูกปูด้วยเสายาวเพื่อป้องกันการปีนป่าย
ประตูบานเดียวที่มีอยู่ดูแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง มันถูกปิดไว้อย่างแน่นหนา
เจ้านายเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม ผมอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกลัวจนตัวแข็งทื่อ เขายกมือขึ้นราวกับว่านั่นเป็นสัญญาณในการเรียกอะไรบางอย่าง ไม่นาน เสียงฝีเท้าอันเงียบสงบก็เข้ามาใกล้
ผมสามารถรับรู้ได้โดยที่ไม่ต้องหันหน้าไปมอง อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ยามเมื่อเห็นสิ่งที่ปรากฏตัวออกมา ทว่าผมก็สามารถกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้
หมาป่าสามตัวที่มีขนสีดำสนิทเริ่มเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นเรื่อยๆ พวกมันน่าจะสูงประมาณครึ่งหนึ่งของผม ถือว่าตัวใหญ่พอที่จะขี่ได้เลย
หมาป่าสามตัวแยกไปทางซ้ายและขวาอย่างละหนึ่งตัว ส่วนอีกตัวเดินตรงเข้ามาหาเจ้านาย พวกมันส่งเสียงหอนแล้วหยุดยืนอยู่กับที่
ผมรู้ได้โดยสัญชาตญาณ หมาป่าพวกนี้คือ…ซากศพ แย่ชะมัด---แต่เมื่อพิจารณาถึงสถานะพ่อมดศาสตร์มืดของเจ้านายแล้ว มันก็ไม่แปลกเลยที่ผมจะคิดแบบนั้นตั้งแต่แรก
การเคลื่อนไหวของหมาป่านั้นว่องไวมาก เขี้ยวและกรงเล็บของพวกมันก็แหลมคมอย่างเห็นได้ชัด แต่ถ้ามองดูใกล้ๆ ก็จะเห็นว่าดวงตาของพวกมันขุ่นมัว ไม่ใสกระจ่างเหมือนตอนยังมีชีวิต
เนื่องจากพ่อมดโฮลอสเป็นพ่อมดแห่งศาสตร์มืด จึงไม่แปลกที่เขาจะสามารถเคลื่อนย้ายซากศพที่ไม่ใช่มนุษย์ได้
เป็นไปอย่างที่ผมคาดเอาไว้...หนีไม่พ้น แม้ว่าผมจะหนีออกจากห้องใต้ดินไปได้ แต่ยังไงก็หนีไม่พ้นอยู่ดี
แม้ว่าผมจะวิ่งหนีออกไปได้ด้วยร่างกายที่ไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร ผมก็จะถูกจับได้อย่างแน่นอน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาผมไม่ได้เดินเลยด้วยซ้ำ นับประสาอะไรกับการวิ่ง นอกจากนี้สิ่งที่เหมือนกันระหว่างผมกับพวกหมาป่าก็คือ พวกเราเป็นเพียงซากศพ จึงไม่มีโอกาสที่ผมและหมาป่าจะชนะในเกมวัดดวงเกมนี้เลย
เจ้านายหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋า เขาเปิดประตูและออกคำสั่งสั้นๆ กับผม
“มาเถอะเอนด์ แสดงพลังของเจ้าให้ข้าดูที”
เขาต้องการให้ผมแสดงพลังให้ดู? แต่ผม...ไม่มีพลังเลยด้วยซ้ำ
ลำพังแค่มีดพร้าที่ผมถืออยู่ก็ค่อนข้างหนักแล้ว ถ้าผมไม่ใช่ซากศพ ผมคงโยนมันทิ้งไปตั้งแต่แรก
แน่นอนว่าการประท้วงในใจเงียบๆ นั้นไม่ได้ผล ผมไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเดินตามเจ้านายที่กำลังก้าวเท้าออกจากประตูไป