ตอนที่แล้วราชาอันเดดแห่งพระราชวังอันมืดมิด บทที่ 1 (2/4) : ผู้ฟื้นคืนจากความตาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปราชาอันเดดแห่งพระราชวังอันมืดมิด บทที่ 1 (4/4) : ผู้ฟื้นคืนจากความตาย

ราชาอันเดดแห่งพระราชวังอันมืดมิด บทที่ 1 (3/4) : ผู้ฟื้นคืนจากความตาย


ผมเอาหูไปแนบที่ประตูพร้อมกับค่อยๆ เปิดมันออก ด้านนอกไม่มีเสียงอะไรเลย มันเงียบสนิท แม้กระทั่งเสียงหัวใจเต้นหรือเสียงเลือดไหลเวียนภายในร่างกายของตัวเองผมก็ไม่ได้ยิน

เมื่อคลายความกังวลแล้ว ผมจึงค่อยๆ ดันประตูเปิดออกเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นข้างนอก

“……………. ?”

ทว่า ประตูกลับเปิดออกไปได้เพียงไม่กี่มิลลิเมตรพอให้เห็นช่องว่างเท่านั้น ไม่ว่าผมจะดันหรือผลักมันออกไปเท่าไหร่ มันก็ไม่สามารถเปิดออกไปได้อีก

เปิดไม่ออก…?  หรือว่าต้องใช้กุญแจ? ไม่สิ มันจะเป็นไปได้ยังไง ในเมื่อประตูไม่ได้ล็อค

ผมใช้ทั้งฝ่ามือและร่างกายของตนเองในการดันประตู พยายามอย่างสุดแรงเพื่อให้มันเปิดออก

ทันใดนั้น

ผมก็รู้สึกเจ็บแปลบราวกับมีสายฟ้าฟาดเข้ามาที่สมอง ขาของผมไร้เรี่ยวแรงจนต้องทรุดนั่งลงตรงนั้น

ประตูทำจากโลหะ แน่นอนว่ามันก็คงจะมีน้ำหนักอยู่บ้าง แต่ผมรู้ดีว่าปัญหาที่แท้จริงมันไม่ใช่เรื่องน้ำหนัก

ผมค่อยๆ วางมือลงบนประตูที่มี่ช่องว่างอยู่แค่ไม่กี่มิลลิเมตร แล้วตัดสินใจผลักประตูออกไปอีกครั้งอย่างสุดกำลัง

แม้จะออกแรงผลักไปแล้ว…

แต่มือของผมกลับไม่สามารถขยับได้เลย ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ตาม

อยู่ดีๆ คำสั่งที่พ่อมดโฮลอสบอกกับผมก่อนที่จะออกไปจากห้องก็ย้ำเตือนเข้ามาในจิตใจของผมอีกครั้ง

‘รออยู่ที่ห้องนี้จนกว่าข้าจะออกคำสั่ง’

ใช่แล้ว มันไม่ใช่ว่า ‘ประตูเปิดไม่ออก’ แต่เป็นเพราะ ‘ผมไม่ได้ผลักมันเลย’ ต่างหาก

ร่างกายของผมจัดลำดับความสำคัญโดยการให้คำสั่งของเจ้านายมาก่อนความต้องการของตนเอง เหมือนกับตอนที่ผมคุกเข่าลงตามคำสั่งของเจ้านายทันทีหลังจากตื่นขึ้นมา

ความรู้สึกขนลุกไล่ลงมาตามกระดูกสันหลังของผม กระบวนความคิดทำงานอย่างผิดเพี้ยน

ผมผลักประตูด้วยมือที่สั่นเทาอย่างสิ้นหวัง แต่ร่างกายกลับไม่ขยับตามความต้องการ

สุดท้ายแล้วนั่นก็เป็นเพียง “ความตั้งใจของผม” เท่านั้น

ดวงตาของผมเบิกกว้างพร้อมกับไหล่ที่สั่นเทา อารมณ์ที่ปะทุขึ้นในอกของผมไม่ใช่ทั้งความกลัวหรือความประหลาดใจ

แต่มันคือความโกรธ นี่ก็ผ่านมานานแล้วที่ผมไม่ได้รู้สึกถึงอารมณ์โกรธที่รุนแรงขนาดนี้ ตอนนั้นผมได้เรียนรู้เป็นครั้งแรกว่าผู้คนจะมีการแสดงออกทางสีหน้าที่แข็งทื่อขึ้นเมื่อรู้สึกโกรธ

ผมพยายามเก็บความรู้สึกอันรุนแรงที่ใกล้จะปะทุออกมาเอาไว้ภายใน ไม่ระบายมันออกมา เพราะกลัวที่จะสูญเสียความเป็นตัวเองไป

ผมเคยคิดว่าตนเองเป็นอิสระ ผมจึงรู้สึกดีใจมากที่ร่างกายของผมสามารถกระโดดไปมาได้โดยไม่เจ็บปวด ผมคิดมาตลอดว่าตนเองสามารถทำอะไรก็ได้หากมีร่างกายที่สามารถเคลื่อนไหวได้ตามปกติ

แต่ความเป็นจริงมันไม่ใช่อย่างนั้นเลย ชีวิตของผมไม่มีอะไรแตกต่างไปจากเดิม ชีวิตนี้มันดีกว่าชีวิตก่อนหน้าของผมจริงๆหรอ? ไม่… มันไม่ได้ดีไปกว่ากันเลย

ในตอนที่ผมยังมีชีวิตอยู่ ผมมีอาการเจ็บปวดทั่วทั้งร่างกาย ไม่สามารถขยับแขนหรือขาได้ ทำได้เพียงจมอยู่กับภวังค์ความคิดราวกับต้องการปกปิดความเจ็บปวด แม้ผมจะไม่สามารถจดจ่ออยู่กับความคิดเหล่านั้นได้เลยก็ตาม

แต่อย่างน้อย---การควบคุมร่างกายของผมก็ไม่ได้ถูกคนอื่นพรากไป

การที่ผมต้องรับฟังคำสั่งของเจ้านายถือเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เพราะอย่างไรเจ้านายก็เป็นผู้ช่วยชีวิตของผม แม้อีกฝ่ายจะเป็นพ่อมดอันชั่วร้าย แต่ผมก็ต้องก้มหัวยอมร่วมมือโดยที่ไม่สามารถขัดขืนได้เลย

นั่นเป็นสิ่งที่ผมไม่สามารถทนได้

ผมไม่รู้ว่าพ่อมดโฮลอสมีเจตนาอะไรในการทำให้ผมฟื้นคืนชีพ แต่ผมไม่อาจยอมให้เขาควบคุมชีวิตและความตายของผมได้อีกต่อไป

ความรู้สึกนั้นมันเอ่อล้นจนแม้แต่ตัวผมก็ยังรู้สึกแปลกใจ ถึงผมจะเตรียมตัวตายมาตั้งแต่ชีวิตก่อน แต่ชีวิตนี้ผมไม่ต้องการที่จะตายอีกแล้ว

ผมไม่อยากละทิ้ง “ชีวิตครั้งที่สอง” ที่ผมพึ่งจะโชคดีได้รับมา

ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีไหนในการรักษาชีวิตนี้เอาไว้ผมก็ยอม

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด