ตอนที่แล้วราชาอันเดดแห่งพระราชวังอันมืดมิด บทที่ 1 (1/4) : ผู้ฟื้นคืนจากความตาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปราชาอันเดดแห่งพระราชวังอันมืดมิด บทที่ 1 (3/4) : ผู้ฟื้นคืนจากความตาย

ราชาอันเดดแห่งพระราชวังอันมืดมิด บทที่ 1 (2/4) : ผู้ฟื้นคืนจากความตาย


เมื่อรอยเท้าของเจ้านายจางหายไป ผมก็เริ่มเคลื่อนไหว

เริ่มแรก ผมทำการตรวจสอบร่างกายของตนเองก่อน โดยการยืดแขนและแกว่งขา

รู้สึกได้เลยว่าความเจ็บปวดที่ทรมานผมมาหลายปีได้หายไปแล้วจริงๆ

ไม่ว่าผมจะแกว่งแขน ขยับศีรษะ เหยียดหลัง หรือกระโดดไปมา ก็รู้สึกสบายตัวอย่างไม่น่าเชื่อ

ผมอดไม่ได้ที่จะหัวเราะและยิ้มออกมาโดยไม่พูดอะไรสักคำ

เนื่องจากที่นี่คือห้องใต้ดิน ผมคิดว่าเจ้านายอาจจะเดินกลับมาหากผมส่งเสียงดัง

ห้องที่เจ้านายทิ้งผมเอาไว้ดูเหมือนจะเป็นห้องเก็บศพ ไม่สิ แทนที่จะเป็นห้องเก็บศพ ผมขอเรียกมันว่าคลังวัสดุสำหรับพ่อมดแห่งศาสตร์มืดจะดีกว่า

ศพมนุษย์ประมาณห้าศพถูกวางเอาไว้บนโต๊ะ พวกเขาทุกคนล้วนเป็นวัยรุ่นที่มีอายุไม่เกินสามสิบปีและเป็นเพศชายเสียส่วนใหญ่

แม้ซากศพทั้งหมดจะถูกแต่งกายเอาไว้เรียบร้อยดี แต่รูปร่างหน้าตาของพวกเขากลับไม่มีชีวิตชีวาเอาซะเลย

ครั้งแรกที่เข้ามาในห้องนี้ ผมรู้สึกประหลาดใจมาก แต่เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ มันกลับทำให้ผมนึกขึ้นมาได้ว่า ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ตัวผมเองก็ไม่ต่างอะไรจากซากศพพวกนี้ ผมมีชีวิตอยู่โดยที่รู้สึกเหมือนตัวเองตายไปแล้วครึ่งหนึ่ง

‘บางทีซากศพพวกนี้อาจจะกลายมาเป็นเพื่อนร่วมงานในอนาคตก็เป็นได้…’ แม้แต่ความคิดไร้สาระเช่นนี้ก็ยังเกิดขึ้นในจิตใจของผม

ห้องเก็บศพมีโครงสร้างที่ค่อนข้างเรียบง่าย นอกจากประตูที่มีเพียงบานเดียวและโต๊ะที่ใช้ในการวางศพแล้ว เฟอร์นิเจอร์เพียงอันเดียวก็คือ ตู้เก็บของขนาดใหญ่ที่ถูกตั้งเอาไว้ติดกับผนัง

ผนังโดยรอบดูเหมือนจะทำมาจากหิน พอลองใช้มือทาบดูแล้ว ผมก็รู้สึกถึงความแข็งของมันได้ในทันที

‘ห้องของผมดูดีกว่าที่นี่เยอะ’ ผมคิดขณะที่กำลังตรวจดูตู้เก็บของ

ตอนนี้ขอแค่ได้ข้อมูลอะไรสักอย่างมาก็พอ

ผมเปิดลิ้นชักออกอย่างระมัดระวัง และพบว่ามันไม่ได้ถูกล็อคเอาไว้

ดูเหมือนพ่อมดโฮลอสจะไม่คาดคิดมาก่อนว่าซากศพในห้องนี้จะสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ

“…….”

ลิ้นชักแรกที่ผมเปิดออกด้วยความกระตือรือร้นนั้นเต็มไปด้วยความว่างเปล่า แม้แต่ลิ้นชักที่สองและสามก็ยังคงเป็นเช่นเดิม จนกระทั่งลิ้นชักที่สี่ถูกเปิดออก ผมก็พบว่าด้านในนั้น มีวัตถุคล้ายเขี้ยวแปลกๆ ถูกวางเอาไว้ ทว่า มันก็ไม่มีประโยชน์ในการอธิบายถึงสถานการณ์ปัจจุบันอยู่ดี

ลิ้นชักที่ห้าว่างเปล่า ส่วนลิ้นชักที่หกนั้น มีขวดที่บรรจุของเหลวประมาณหนึ่งโหลถูกวางเอาไว้

ลิ้นชักที่เจ็ดเองก็ว่างเปล่าเช่นกัน

ในขณะที่ผมกำลังเปิดลิ้นชักสุดท้ายด้วยความผิดหวังอยู่นั้น ดวงตาของผมก็ต้องเบิกกว้างขึ้นทันทีเมื่อเห็นว่ามีอะไรอยู่ข้างใน

‘นี่มันของดีเลยไม่ใช่หรอ?’

ผมอดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา เสียงแหบห้าวสะท้อนก้องในห้องอันเงียบสงบของคนตาย

แม้ผมจะไม่ได้ออกเสียงพูดดังๆ มานานแล้ว แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บคอเลยสักนิด

ผมรู้สึกเหมือนว่าตัวเองแค่กำลังฮัมเพลงอยู่เท่านั้น ซึ่งมันก็ถือเป็นเรื่องดีที่ไม่มีอาการเจ็บปวด

ผมหยิบกระจกสี่เหลี่ยมที่อยู่ด้านในออกมา ก่อนจะเช็ดพื้นผิวที่มีฝ้าขึ้นด้วยเสื้อผ้าของตัวเองแล้วจ้องมองเข้าไปข้างใน

สิ่งที่สะท้อนออกมาคือ ตัวผมในแบบที่ผมจำได้

ด้านในกระจกปรากฎให้เห็นใบหน้าเรียวเล็ก แก้มซีดเซียว เบ้าตาจมลึก และทรงผมที่ถูกเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย

ถือว่าเป็นเรื่องดีที่พวกเขาจัดทรงผมให้หลังจากที่ผมตายไปแล้ว

ผมมองเข้าไปในกระจกสักพักหนึ่ง จมดิ่งอยู่กับห้วงอารมณ์ แล้วค่อยเก็บมันกลับเข้าไปในลิ้นชัก

ตอนนี้เองที่ผมตระหนักได้ว่าตัวผมก็ยังคงเป็นตัวผม ถึงมันจะน่าเสียดายที่หาสิ่งของอย่างอื่นไม่เจอเลย แต่ได้เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว

หลังจากตรวจดูรอบๆ ห้องเก็บศพแล้ว ผมก็ตัดสินใจมุ่งหน้าไปยังประตูที่มีอยู่บานเดียวในห้องนี้

เจ้านายไม่ได้ล็อคประตูตอนที่ออกจากห้องเพราะผมไม่ได้ยินเสียงล็อคประตูดังขึ้นเลย ผมพยายามก้าวเท้าเดินไปยังประตูโดยที่ไม่ส่งเสียงใดๆ

ผมไม่รู้โครงสร้างของคฤหาสน์ ไม่รู้สถานการณ์ในปัจจุบัน อีกทั้งข้อมูลที่มีอยู่ในห้องนี้ก็ไม่สามารถบอกอะไรผมได้เลย

ผมไม่รู้อะไรเลยจริงๆ…  ผมก็แค่อยากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับคฤหาสน์หลังนี้และเวทมนตร์แห่งความตาย รวมถึงเรื่องที่ว่า…ผมกลายเป็นตัวบ้าอะไรไปแล้ว?

ตัวผมในตอนนี้แตกต่างจากตัวผมในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ผมมีร่างกายที่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ ซึ่งมันก็ถือเป็นเรื่องดี

ทว่า พ่อมดแห่งศาสตร์มืดเป็นสิ่งมีชีวิตชั่วร้าย ให้ตายก็ไม่สามารถเชื่อใจได้ เพราะอย่างนั้นผมจึงควรทำสิ่งที่ผมสามารถทำได้ให้มากที่สุด

ผมจับลูกบิดทองเหลืองแล้วค่อยๆ หมุนมันช้าๆ เพื่อไม่ให้เกิดเสียงดัง

แม้ผมจะรู้สึกกังวลใจอยู่บ้าง แต่ลูกบิดประตูก็สามารถหมุนได้อย่างง่ายดาย ดูเหมือนมันจะไม่ได้ถูกล็อคเอาไว้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด