ราชาอันเดดแห่งพระราชวังอันมืดมิด บทที่ 1 (1/4) : ผู้ฟื้นคืนจากความตาย
“เอนด์ ตามข้ามา”
เจ้านายได้ออกคำสั่งสั้นๆ เพียงไม่กี่คำกับผม และเดินออกจากห้องที่ดูราวกับเป็นห้องทดลองแห่งนี้ไป ผมเดินตามเขาไปอย่างเงียบๆ
ร่างกายของผมสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ มือและเท้าเคลื่อนไหวได้ตามที่ผมคาดเอาไว้
มันผ่านมากี่ปีแล้วนะ…กับการที่ผมสามารถเดินได้ราวกับเป็นคนปกติเช่นนี้…
การมีร่างกายที่ปราศจากความเจ็บปวดทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ
มันราวกับว่าผมอยู่ที่ไหนสักแห่งที่ไม่ใช่ความจริง…ราวกับว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ความฝัน
เมื่อผมเดินออกจากห้องมาแล้ว เจ้านายก็หยุดฝีเท้าและหันกลับมาจ้องหน้าผม
ดวงตาสีทองจ้องมองมาที่ผมราวกับว่าเขาสามารถมองทะลุทุกสิ่งทุกอย่างได้
“อืม…ดูเหมือนเจ้าจะเข้าใจในสิ่งที่ข้าบอกไปแล้วสินะ หากเจ้าไม่สามารถเข้าใจคำสั่งของข้าได้ เจ้าก็คงจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย”
“…”
ไม่สามารถเข้าใจ...คำสั่งได้?
ผมไม่เข้าใจว่าเจ้านายกำลังพูดถึงอะไรอยู่ แต่ในทันทีที่ผมฟื้นขึ้นมา ผมจำได้ว่าร่างกายของผมนั้นให้ความสำคัญกับคำสั่งของเจ้านายมากกว่าความคิดของผมเองซะอีก
แย่ชะมัด… ผมไม่สามารถต่อต้านมันได้เลย มันเป็นความรู้สึกที่รุนแรงมาก แม้แต่ผมที่ไม่เข้าใจสถานการณ์ก็สามารถเข้าใจได้ในทันที
ผมเคยได้ยินมาว่าพ่อมดแห่งศาสตร์มืดสามารถควบคุมคนตายได้ตามที่ต้องการ
สำหรับเจ้านายแล้วตัวผมเองคงไม่มีทางเป็นอะไรไปได้มากกว่าหุ่นเชิด
เจ้านายหันมาพยักหน้าให้ผมซึ่งยังคงนิ่งเงียบอยู่เช่นเดิมด้วยความพึงพอใจ และเริ่มออกเดินอีกครั้ง ผมเดินตามออกไปในทันที
ด้านนอกห้องเป็นโถงทางเดินที่ไม่แตกต่างไปจากคฤหาสน์ที่ผมเคยอาศัยในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่มากนัก
ไม่มีแสงแดดสาดส่องเข้ามาเลยสักนิด มีแต่ความรู้สึกแปลกๆ ที่ราวกับว่าผมกำลังโดนกดขี่อยู่ตลอดเวลา
พูดตรงๆ ผมเองก็ไม่รู้ว่าสิ่งเหล่านี้มันคืออะไรกันแน่?
ทำไมผมถึงฟื้นขึ้นมา ที่นี่คือที่ไหน ผมกำลังถูกบังคับให้ทำอะไรอยู่?
ผมไม่รู้อะไรเลย ทั้งเหตุผล ความเป็นมา หรือแม้กระทั่งในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ผมก็ยังไม่รู้
เจ้านายคงไม่คิดจะช่วยให้ผมหลุดพ้นจากความเจ็บปวดไปเฉยๆ หรอก ไม่มีใครที่ทำอะไรแล้วไม่หวังสิ่งตอบแทน
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมรู้ก็คือ สิ่งที่ผมควรทำในตอนนี้ไม่ใช่การถามสิ่งต่างๆ กับเจ้านายหรือวิ่งหนีมัน แต่เป็นการทำความเข้าใจกับสถานการณ์ในตอนนี้ต่างหาก
โชคดีที่ผมเป็นคนคิดเก่งเพียงอย่างเดียว อาจเป็นเพราะในตอนที่ผมยังมีชีวิตอยู่นั้น ผมทำได้เพียงแค่คิด ในขณะที่ตนเองกำลังต่อสู้กับความตายอยู่บนเตียงนอน และร้องคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวดเท่านั้น ผมจึงไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้เลย
ถึงแม้ในตอนนี้ตัวผมจะไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากนัก แต่เมื่อเทียบกับตอนนั้นแล้ว ผมคิดว่าตนเองดีขึ้นมากเพราะอาการเจ็บปวดเหล่านั้นได้หายไปหมดแล้ว
หลังจากติดตามเจ้านายมาไม่กี่นาที ผมก็เดินลงบันไดหินมาจนถึงชั้นใต้ดินแล้ว
เจ้านายเปิดประตูโลหะบานใหญ่และเดินนำเข้าไปข้างใน
ห้องที่อยู่ตรงหน้ามีขนาดใหญ่จนผมแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันจะเป็นห้องใต้ดินจริงๆ
เสียงตกใจของผมเล็ดลอดออกมาโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว ผมรีบกลืนมันลงไปในวินาทีสุดท้าย ก่อนจะหันไปมองด้านในอีกครั้ง
สิ่งที่เรียงรายอยู่ในห้องใต้ดินแห่งนี้คือ…ซากศพจำนวนนับไม่ถ้วน
มันถูกวางไว้บนแท่นหินหลายๆ แท่นที่ถูกเรียงต่อๆ กัน
ทว่า ซากศพเหล่านี้กลับไม่มีวี่แววว่าจะสามารถเคลื่อนไหวได้เหมือนกับผมเลย
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นศพ เดิมทีแล้วผมควรจะรู้สึกกลัว แต่ไม่รู้ทำไม ตอนนี้ผมกลับไม่รู้สึกกลัวเลยแม้แต่น้อย
“รออยู่ที่ห้องนี้จนกว่าข้าจะออกคำสั่ง”
หลังจากเจ้านายพ่นลมหายใจสีขาวออกมาจากปากแล้ว เขาก็มองมาที่ผมอย่างเย็นชาและออกคำสั่งแค่เพียงสั้นๆ