ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 119 มีบุญกรรมร่วมกัน
ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 119 มีบุญกรรมร่วมกัน
มณฑลตงหวง พระภิกษุหลายสิบล้านองค์
ภายใต้การนำของปรมาจารย์คงเซียงที่ไม่อาจหยั่งถึงความแข็งแกร่งได้ พระมากมายกำลังขึ้นเรือเหาะมากกว่าร้อยลำ
ค่อย ๆ มุ่งหน้าไปยังทิศทางที่อาณาเขตตระกูลหลัวตั้งอยู่
ในมณฑลตงหวง
ส่วนอาณาเขตตระกูลหลัวในขณะนี้
กำลังจมดิ่งอยู่ในความเงียบสงบ
อาณาเขตตระกูลหลัว
ในลานที่มีกลิ่นอายโบราณแห่งหนึ่ง
ตอนนี้ หลัวจิ่วเกอกำลังจับกระบี่ยาวที่เปื้อนสนิมไว้ในมือ และเคลื่อนไหวช้า ๆ
สัมผัสได้ว่า
ในขณะนี้ ไม่มีพลังเซียนหลงเหลือแม้แต่น้อยบนตัวเขา
แต่พลังกระบี่ของเขา
ระดับความคมกริบนั้น กลับเปรียบเสมือนมังกรทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า สามารถฉีกทำลายห้วงมิตินี้ให้พังทลายได้
"เผ่าค้างคาวมรกต......"
"ปราชัยแล้วหรือ??"
เขาเคลื่อนไหวกระบี่ไปมา
จวบจนครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น
หลัวจิ่วเกอ จึงวางกระบี่ในมือไว้ที่เอว
จากนั้น เขาไพล่มือไว้ด้านหลัง
นั่งสงบนิ่งอยู่ใต้ซุ้มหิน ชงชาให้ตัวเอง
น้ำที่ใช้คือของเหลววิญญาณ
ชาที่ใช้เป็นใบชากระจ่างเต๋าที่เพิ่งเก็บมาใหม่ ๆ
ไฟที่ใช้คือ [เปลวไฟอสูรกระดูกขาว]
ผ่านไปสักพัก
ประมาณ 3 นาที
[ปุ๊ด ๆ]
น้ำชาเดือด
กลิ่นหอมของชาที่ชวนให้ผ่อนคลายจิตใจก็ค่อย ๆ ลอยขึ้นมา
"วัดสมบัติวิญญาณ?
"พระภิกษุลึกลับ?"
"ปราบเผ่าค้างคาวมรกตได้แล้ว ต่อไปจะมาที่ตระกูลหลัวของข้าใช่หรือไม่?
"จากนั้นก็จะยึดครองมณฑลตงหวงอย่างสิ้นเชิง???"
ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
หลัวจิ่วเกอรินชากระจ่างเต๋าให้ตัวเองหนึ่งถ้วย
ยกขึ้นมาที่ปาก
จิบเข้าไปอึกหนึ่ง
จากนั้นก็หรี่ตาลงเล็กน้อย ใบหน้าเผยให้เห็นรอยยิ้มที่จางเลือนลาง
เอ่ยพึมพำ
"หากเป็นเช่นนั้นจริง เช่นนั้นก็ประหยัดเวลาไปได้ไม่น้อย"
"ถึงวัดสมบัติวิญญาณจะไม่มา สถานการณ์การยึดครองมณฑลตงหวงอย่างสิ้นเชิงก็จะไม่เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด"
"มณฑลตงหวงนี้ สุดท้ายก็จะต้องตกอยู่ในมือของตระกูลหลัวของข้า!!!"
อาณาเขตตระกูลหลัว
ภายในห้องที่ค่อนข้างโล่งห้องหนึ่ง
หลัวเหิงผู้เป็นจ้าวตระกูลคนปัจจุบันของตระกูลหลัว
ในเวลานี้ นั่งนิ่งอยู่บนตำแหน่งจ้าวตระกูล
มีเอกสารอยู่ในมือ
เอกสารใบนั้น บันทึกเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ภายในมณฑลตงหวง
"จาก 7 ขุมอำนาจชั้นนำ เหลือเพียงตระกูลหลัวของข้าและวัดสมบัติวิญญาณ”
"เมื่อวาน เผ่าค้างคาวมรกตโจมตีวัดสมบัติวิญญาณ
"วัดสมบัติวิญญาณกลับปราบเผ่าค้างคาวมรกตได้"
"แม้กระทั่ง ยังขึ้นเรือเหาะมุ่งมาทางตระกูลหลัวของข้า.."
หลังจากเห็นข้อมูลที่ถูกบันทึกไว้ในเอกสารแล้ว
หลัวเหิง ไม่อาจหลีกเลี่ยงที่จะถอนหายใจออกมา
เงยหน้าขึ้นช้า ๆ
หรี่ตามองไปทางวัดสมบัติวิญญาณ เอ่ยพึมพำ
"เผ่าค้างคาวมรกต?”
"วัดสมบัติวิญญาณ?"
"ท้ายที่สุด ทุกอย่างก็มาถึงขั้นนี้เสียแล้วรึ?"
"ยึดครองมณฑลตงหวงอย่างสิ้นเชิง?"
"ไม่รู้ว่าท้ายที่สุดแล้ว ฝ่ายที่จะทำได้จริง ๆ นั้นจะเป็นตระกูลหลัวของข้า หรือว่าจะเป็นวัดสมบัติวิญญาณกันแน่???"
หลังจากหัวเราะแห้งแล้งส่ายหัวแล้ว
หลัวเหิง วางเอกสารในมือลงอย่างช้า ๆ
เผ่าค้างคาวมรกต สวามิภักดิ์ต่อวัดสมบัติวิญญาณ ปัจจุบันกลายเป็นสัตว์เทพพิทักษ์ของวัดสมบัติวิญญาณไปแล้ว
ส่วนวัดสมบัติวิญญาณ?
ขุมอำนาจที่ถูกเรียกว่าดินแดนพุทธศาสนาแห่งนี้ในมณฑลตงหวง
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าย่อมไม่โอกาสในการยึดมณฑลตงหวงอย่างสิ้นเชิงให้หลุดมือไป
ดังนั้น เมื่อเรื่องราวมาถึงขั้นนี้ ก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาผู้เป็นจ้าวตระกูลคนปัจจุบันของตระกูลหลัวจะสามารถแก้ไขได้แล้ว
ระหว่างขุมอำนาจทั้งสองฝ่าย
ขุมอำนาจใดกันแน่ที่จะสามารถยึดครองมณฑลตงหวงอย่างสิ้นเชิงได้
ยังต้องคอยดูว่า ระหว่างผู้มีกำลังสูงสุดของแต่ละฝ่าย ใครจะเป็นผู้ชในการต่อสู้
ส่วนผู้ชนะหรือ?
ก็จะได้ครอบครองมณฑลตงหวง!
ส่วนผู้แพ้?
ก็จะล่มสลายไปในโลกนี้ และขุมอำนาจก็จะถูกทำลายจนสิ้น!!!
ขณะที่เวลาล่วงไป
ท้องฟ้าก็ค่อย ๆ มืดลงเรื่อย ๆ
ภายนอกอาณาเขตตระกูลหลัว
เรือเหาะร้อยลำของวัดสมบัติวิญญาณนั้น
ในที่สุดก็มาถึงแล้ว
"ตระกูลหลัว?"
"นี่เองหรือคือตระกูลหลัว??"
"สุดท้าย ก็เป็นแค่สิ่งที่ด้อยค่าดุจเดียวกับมดปลวก....."
ในอากาศ
คงเซียงที่นั่งอยู่บนเรือเหาะ
หรี่ตามอง
มองดูสถานที่ที่เรียกว่าตระกูลหลัวนั้น ดวงตาไม่อาจหลีกเลี่ยงที่จะเผยให้เห็นสีหน้าดูแคลนได้
ทว่าในไม่ช้า
รอยดูแคลนเพียงเล็กน้อยนั้น ก็จางหายไป
"ตระกูลหลัว เจ้าผ่านวิกฤตครั้งยิ่งใหญ่นี้มา ยังคงยืนหยัดอยู่ในที่แห่งนี้ได้
"หากเป็นเช่นนี้ เจ้ากับพุทธศาสนาของข้าถือว่ามีบุญกรรมร่วมกัน
"ตอนนี้ ข้าคงเซียง ยินดีต้อนรับเจ้าเข้าสู่พุทธศาสนา”
"ไม่ทราบว่า”
"พวกเจ้าเต็มใจเข้าสู่พุทธศาสนาของข้าหรือไม่???”
เสียงดังก้องขึ้น ลอยล่องอยู่โดยรอบ
"พุทธศาสนา?”
"มีบุญกรรมร่วมกับพุทธ?”
"ยินดีต้อนรับข้าเข้าสู่พุทธศาสนา?”
"เจ้าล้อเล่นอะไรกัน??"
"ตระกูลหลัวของข้า ถือเป็นขุมอำนาจชั้นนำในมณฑลตงหวง แม้แต่ในยามวิกฤตก็ยังคงยืนหยัดอยู่ที่แห่งนี้ได้ ไยจะเข้าสู่พุทธศาสนาของเจ้า???"
ได้ยินเสียงแล้ว
ที่อาณาเขตตระกูลหลัว
มีสมาชิกตระกูลหลัวที่มีฐานพลังยุทธ์ขอบเขตสันติ 5 สวรรค์
ค่อย ๆ ก้าวเดินเหยียบห้วงเมฆา จนกระทั่ง มาอยู่ที่ระดับความสูงเดียวกับเรือเหาะร้อยลำ
จึงหัวเราะขึ้นมา
"ถูกต้อง"
"ตระกูลหลัวของข้า"
"จะสวามิภักดิ์ต่อเจ้าหัวล้านได้อย่างไร?
"ยังบอกว่ามีบุญกรรมร่วมกับพุทธอีก?"
"ข้าขอด่าทอ เจ้าหัวล้านนี่ช่างไร้ยางอายสิ้นดี!!!"
ต่อมา
ยังมีสมาชิกตระกูลหลัวอีกผู้หนึ่งที่มีฐานพลังยุทธ์ขอบเขตสันติ 3 สวรรค์
เหยียบห้วงอากาศ จนกระทั่งลอยอยู่ที่ระดับความสูงเดียวกับเรือเหาะแล้ว ก็หัวเราะเยาะเย้ยขึ้นมาตาม ๆ กัน
"เข้าสู่พุทธศาสนาของเจ้า?"
"ตระกูลหลัวของข้า ไม่ใช่อะไรที่พวกหัวล้านอย่างเจ้าจะมาเป็นผู้ชักได้”
"รีบไสหัวไปซะ!!!"
ทันใดนั้น
คนที่ถือเป็นเสาหลักของตระกูลหลัว นามว่า หลัวยวี่
ในตอนนี้ สวมชุดคลุมสีเขียว
ยืนเหยียบบนกาศ
สายตาหรี่ตามอง สีหน้าสงบนิ่ง มองที่เรือเหาะร้อยลำตรงหน้า ไม่อาจหลีกเลี่ยงที่จะเอ่ยปากขึ้นมา
พร้อมกับที่สมาชิกตระกูลหลัวออกมาปรากฏตัว
บรรยากาศ ก็เริ่มเปลี่ยนไปในทันที
"ตระกูลหลัว?”
"นี่เองหรือคือตระกูลหลัว?"
"ข้าคงเซียง ยินดีต้อนรับพวกเจ้าเข้าสู่ดินแดนพุทธศาสนาอันศักดิ์สิทธิ์ ให้พวกเจ้าสามารถรับบุญจากธรรมะแห่งพุทธได้"
"แต่พวกเจ้า กลับมีคำพูดเช่นนี้
"ดูเหมือนว่า หากไม่ได้รับบทเรียนสักครั้ง"
"พวกเจ้าก็คงยากจะได้รับการตระหนักรู้!!!”
ในอากาศ
คงเซียงผู้สวมผ้ากาสาวะ และสีหน้าที่สงบนิ่งมาโดยตลอด ในที่สุดก็ยื่นมือขวาซูบผอมออกมา
กดลงมาที่อาณาเขตตระกูลหลัว