ตอนที่ 132: นักแสดงโดยกำเนิด!
เป่ยเสวียนเทียน,พระราชวังหยก
พระจันทร์สาดแสงส่องสว่าง
หลังจากที่หลินซวนทำอาหารเย็นสุดหรูให้กับบุตรสาวตัวน้อย เขาก็เล่นอยู่กับพวกนางอยู่พักหนึ่ง
เมื่อเห็นว่าใกล้จะค่ำแล้ว สาว ๆ ก็เริ่มเหนื่อยแล้วจึงพากันไปอาบน้ำ
แต่ละคนที่ร่างกายหอมฟุ้ง
เหมือนกับดอกไม้เล็ก ๆ สี่ดอกที่เบ่งบานในฤดูใบไม้ผลิ ทั่วทั้งร่างกายเต็มไปด้วยกลิ่นหอม.
เพื่อแสดงกลิ่นหอมของพวกนาง
เสวียนจู่และคนอื่น ๆ ก็วางมือเล็ก ๆ ไว้หน้าจมูกของหลิน ซวน เพื่อปล่อยให้เขาสูดดม
จนกระทั่ง หลินซวน ทำให้พวกนางตกใจกลัว คล้ายกับว่ากำลังกัดมือเล็ก ๆ ของพวกนาง.
และเมื่อเห็นบุตรสาวที่น่ารักแสดงความกลัวหลินซวน ก็หัวเราะอย่างมีความสุข
ข้าคิดว่าเด็กน้อยเหล่านี้เป็นส่วนผสมที่เติมเต็มชีวิตที่ดีที่สุด หากไม่ได้หยอกล้อพวกนาง ชีวิตคงไม่สวยงามเช่นนี้.
“เอาล่ะที่รัก รีบเช็ดตัวให้แห้งแล้วไปนอนกันได้แล้ว!”
หลินซวนหยิบอ่างอาบน้ำออกมาทีละอ่าง หลังจากเช็ดร่างให้บุตรสาวจนแห้งด้วยผ้าขนหนูที่ทำจากผ้าฝ้ายหยกหยุนโหรวที่ดีที่สุด
"อ๊ะ!"
เสวียนจู่เพิ่งสวมรองเท้าและเผลอเหยียบผิดท่าข้อเท้าบิดขณะเดิน
หลินซวนรีบเข้าไปอุ้มนางขึ้นมา ใช้มือนวดข้อเท้าของนางแล้วถามว่า "ธิดาที่รัก ตอนนี้ยังเจ็บอยู่ไหม?"
เนื่องจากตอนนี้เขามีทักษะทางการแพทย์ระดับปรมาจารย์ เทคนิคการนวดของเขายอดเยี่ยมมาก
หลังจากนวดเพียงไม่กี่ครั้ง เสวียนจู่ก็รู้สึกว่าอาการเจ็บที่ข้อเท้าของนางหายไปหมดแล้ว
อย่างไรก็ตาม วันนี้มีกิจกรรมให้ทำมากมายเกินไป และเด็กหญิงตัวน้อยก็เหนื่อยมาก
นางจึงเอ่ยออกมาว่า: "ไม่เจ็บแล้ว แต่เสด็จพ่อ กอดข้าไปบนเตียงได้ไหม?"
หลินซวนเห็นความเหนื่อยล้าของนางและยิ้มเล็กน้อย: "ไม่มีปัญหา!"
หลังจากเอ่ยจบ เขาก็อุ้มเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ขึ้นมาและนำนางไปวางลงบนเตียงอย่างมั่นคง
เมื่อเห็นพี่สาวของนางเพลิดเพลินกับการดูแลที่ดีเช่นนี้เสวียนซี, เสวียนหาน และ เสวียนหยู ก็มีความคิดขึ้นมาทันที
เสวียนซียกมือเล็ก ๆ ของนาง: "เสด็จพ่อ ข้าก็อยากถูกยกไปบนเตียงเหมือนกัน!"
"ได้!" หลินซวนกอดนางไว้ในอ้อมแขนของเขาทันที
เสวียนหานดึงแขนเสื้อของหลินซวน: "เสด็จพ่อ ข้าด้วย!"
"ตกลง!" หลินซวนยกมือีอกข้างเพื่อกอดนางทันที
เสวียนหยูยืนตัวตรง แต่ทันใดนั้นน่องของนางก็อ่อนลง และนางก็แกว่งไปแกว่งมาเหมือนเมาแล้วเอ่ยออกมาว่า:
“โอ้ย ข้าอ่อนแอมาก ไม่มีแรงเลย ใครจะกอดข้านะ”
“สตรีน้อยคนนี้ยังเป็นนักแสดงโดยกำเนิด!”
หลินซวน รู้สึกขบขันกับท่าทางของเสวียนหยู โดยตรง
ด้วยการเคลื่อนไหวนิ้ว เขาได้ใช้พลังวิญญาณกอดร่างเสวียนหยู แล้วดึงนางขึ้นมาไว้บนอกของเขา.
จากนั้นก็นำสาวน้อยทั้งสามขึ้นไปวางบนเตียง เสวียนจูเวลานี้แทบลืมตาไม่ขึ้น.
หลังจากที่หลินซวนวางพวกนางทั้งหมดแล้ว เขาก็เล่านิทานเพื่อเกลี้ยกล่อมให้พวกนางหลับ
โชคดีที่เด็กหญิงตัวน้อยต่างเหนื่อยมาก ทำให้ทุกคนหลับไปในเวลาไม่นาน
หลินซวนจึงกลับมานั่งที่โต๊ะในห้อง
จากรายการสินค้าของระบบ เขานำหอคอยสังหารวิญญาณ ตัวอ่อนกระบี่หยางซี และชิ้นส่วนกระบี่เก้าทัณฑ์สวรรค์ออกมา
หลังจากกำราบกระบี่ศักดิ์สิทธิ์สี่ลักษณ์บนหอคอยสมบัติสังหารวิญญาณ หลินซวนก็นำกระบี่ทั้งสี่ออกมา เนื่องจากมีทักษะหลอมขัดเกลาระดับปรมาจารย์ และฐานบ่มเพาะขอบเขตมหาปราชญ์ที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก.
กระบวนการกลั่นของเขาสามารถอธิบายได้ว่าเป็นเรื่องง่ายและไม่มีความกดดันใด ๆ.
หลังจากนั้นไม่นาน กระบี่ยาวเจ็ดฉื่อสี่เล่มก็ถูกวางไว้บนโต๊ะ(1 ฉื่อเท่ากับ 33.33 ซม.)
กระบี่ทั้งสี่เล่มมีความโปร่งใส
เปล่งประกายด้วยสีฟ้าอ่อน เพรียวบางและงดงามราวกับหยกสลักที่เลิศหรูไม่มีใครเทียบได้.
ด้ามกระบี่เป็นสีม่วงและแดง เต็มไปด้วยความหรูหราและความสูงส่ง
ที่ขอบกระบี่ทั้งเล่ม มีแสงสีเหลืองบริสุทธิ์จาง ๆ กระพริบอยู่ และมีกลิ่นอายของมังกรและหงส์หมุนวน.
นี่คืออำนาจของสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ทั้งเก้าที่ถูกผนึกเอาไว้ในกระบี่โดยหลิงซวน.
นอกจากนี้ หลินซวนยังใช้พลังทางจิตวิญญาณเพื่อควบแน่นอักขระที่สวยงามสลักไว้บนด้ามกระบี่ทั้งสี่เอาไว้ด้วย.
จู่ ซี หาน หยู!
เป็นชื่อของธิดาที่หลินซวนสลักเอาไว้.
“เมื่อพวกนางโตขึ้น ค่อยมอบกระบี่เหล่านี้ให้”
หลินซวน มองดูผลงานชิ้นเอกของเขาด้วยความพึงพอใจ
เขามั่นใจว่าเขาจะทำให้บุตรสาวรู้สึกถึงความรักอันแรงกล้าของบิดาได้
“หืม?”
หลังจากที่หลินซวนเก็บกระบี่กึ่งเซียนทั้งสี่เล่มไป.
เขาสัมผัสได้ว่า ห่างออกไปสิบลี้นอกพระราชวังหยก มีรัศมีแปลก ๆ สามจุดกำลังเคลื่อนที่เข้ามาอย่างรวดเร็ว
มาไม่ดีรึ?
หลินซวนหรี่ตาลงเล็กน้อย และหายตัวไปจากห้องทันที.
ในเวลาเดียวกัน.
ในพื้นที่มืดมิดด้านนอกพระราชวังหยก
“เฮ้ย จู่ ๆ มีพลังอันเกรงขามเช่นนี้ปรากฏขึ้นได้อย่างไร?”
“พวกเราถูกค้นพบแล้วงั้นรึ?”
"อ๊ะ!"
ด้วยการอุทานสามครั้ง ก็มีแสงพุ่งปะทะกับจุดสีดำจำนวนนับไม่ถ้วนในอากาศ
หลังจากนั้นจุดสีดำจำนวนมากก็กลับมารวมตัวกันเป็นร่างสามร่าง ก่อนล่วงกระแทกพื้นเสียงดัง.
หลงซือ หลงอูและหลงป้าคาดไม่ถึงแม้แต่น้อย ก่อนที่พวกเขาจะเข้าไปในพระราชวังหยก พวกเขาก็ถูกกดลงพื้นด้วยพลังที่ไม่รู้จัก.
ด้วยแรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัวไม่อาจอธิบายได้กดทับลงมาอย่างรุนแรง.
ทั้งสามเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว
ภายใต้แสงสลัวปรากฏร่างสีขาวใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพสวรรค์มองลงมาที่พวกเขา
“ผู้อาวุโส ทำไมจู่ ๆ ท่านถึงโจมตีพวกเรา?”
เมื่อรู้สึกถึงความน่ากลัวของหลินซวน หลงซือจึงรีบถามด้วยความเคารพ
หลินซวน ไม่ตอบ แต่เอ่ยอย่างเฉยเมย: "'ทักษะเงาสังหาร' ดูเหมือนว่าพวกเจ้าทุกคนล้วนเป็นมือสังหารอาชีพ"
ด้วย หนังสือสวรรค์เสวียนเจี่ย เขาคุ้นเคยกับทักษะของทั้งสามคนมาก
ทักษะเงาสังหาร โดยการเปลี่ยนร่างกายของตัวเองให้เป็นเงา ทำให้ยากที่จะตรวจจับได้ยากมาก.
ด้วยเหตุนี้ทำให้พวกเขาสามารถเข้าใกล้เหยื่อและลอบโจมตีสังหารในกระบวนท่าเดียวได้.
หลงซือ หลงอู และหลงป้าต่างก็รู้สึกหวาดกลัวเมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าว.
พวกเขาไม่คาดคิดว่า หลินซวน จะมองเห็นการฝึกฝนของพวกเขาได้ในทันที!
หลังจากตรวจสอบหลินซวนอย่างละเอียดแล้ว
พวกเขาทั้งสามมั่นใจอย่างยิ่งว่า คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขา คือบิดาของเป้าหมายที่พวกเขาต้องลอบสังหารในคืนนี้...
จักรพรรดิเป่ยเสวียนเทียน!
ข้อสรุปนี้ สรุปได้เนื่องจากสถานที่แห่งนี้อยู่ใกล้กับพระราชวังหยก
อย่างไรก็ตาม หลินซวน มีพลังมาก ทั้งยังเด็กและสง่างาม
ทั้งรูปลักษณ์และความสามารถสามารถจับคู่กับกับความงามที่น่าทึ่งของจักรพรรดินีเสวียนปิงได้เท่านั้น
ดังนั้นพวกเขาไม่จำเป็นต้องถามอะไรมากกว่านี้ พวกเขารู้ว่าที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาคือบิดาขององค์หญิงน้อยทั้งสี่!
“ไม่คาดคิด บุรุษของจักรพรรดินีเสวียนปิงแข็งแกร่งเกินคาด! ความระมัดระวังและวิธีการของเขาเกินจินตนาการ!”
“เจ้าวังไม่ได้ให้พวกเราสืบข้อมูลก่อนลงมือ นี่เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดของข้า!”
หลงซือและคนอื่น ๆ รู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง
คราวนี้ วังหยานหลัวของพวกเขา ได้รับภารกิจให้ลอบสังหารธิดาทั้งสี่ของจักรพรรดินีเสวียนปิง
เพราะเวลาที่อีกฝ่ายมอบให้เป็นเรื่องเร่งด่วนมากและเป้าหมายของการลอบสังหารก็คือ เด็กเล็กสี่คน
เจ้าวังแห่งวังหยานหลัวเพียงกำหนดแผนการลอบสังหารและส่งคนสามคนไปที่พระราชวังหยกทันที
ตามคำเอ่ยของเจ้าวังหยานหลัว หลงซือและพวกรวมสามคน คือมือสังหารที่ทรงพลังที่สุดของโถงสังหารแล้ว
ประสบการณ์อันยาวนาน ทักษะที่หลากหลาย ฐานบ่มเพาะที่ยอดเยี่ยม งานนี้แทบจะสำเร็จอย่างแน่นอน.
ไม่ว่าอย่างไร เด็กเล็กสี่คนก็ไม่อาจต้านทานได้.
นอกจากนี้เขายังส่งคนไปพร้อม ๆ กันสามคน คิดว่าเพียงพอแล้ว.
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าหลงซือและพวกคิดว่าเจ้าวังนั้นได้ประเมินเป่ยเสวียนเทียนต่ำไป.
โดยเฉพาะอย่างยิ่งจักรพรรดิเป่ยเสวียนเทียน ตี้ฟู่หลินซวน ได้กลายเป็นอุปสรรคต่อแผนการลอบสังหารของพวกเขาในครั้งนี้อย่างสมบูรณ์!
“มาคุยกันเถอะ เจ้าอยากสังหารใคร” หลินซวนมีความคิดในใจอยู่แล้ว แต่เขาต้องการการยืนยัน
ภายใต้การบังคับขู่เข็ญที่น่าสะพรึงกลัวของเขา หลงซือและคนอื่น ๆ ไม่กล้าปกปิดเลย เขากัดฟันและเอ่ยออกมาห้าคำ: "บุตรสาวของท่าน"
หลินซวนระงับความโกรธของเขาและถามต่อไปว่า "แล้วเจ้ามาจากองค์กรไหน?"
ทักษะเงาสังหาร นั้นเป็นสิ่งที่มือสังหารฝึกฝนสืบทอดกันมาหลายร้อยล้านปีแล้ว ดังนั้น หลินซวน จำเป็นต้องยืนยันองค์กรที่พวกเขาเป็นสมาชิก
หลงซือและคนอื่น ๆ ที่กลายเป็นเงียบ.
พวกเขาสามารถบอกได้ว่าลอบสังหารใคร
แต่สิ่งเดียวที่เจ้าทำไม่ได้ คือขายองค์กรที่อยู่เบื้องหลังของตัวเจ้าเอง!
“ไม่บอกรึ?” หลินซวนยิ้มอย่างเย็นชา
แก๊ก!
พลังมหาศาลล่วงลงมาจากท้องฟ้า บดขยี้ หลงป้าให้กลายเป็นแอ่งโคลนโลหิตทันที.
เมื่อเห็นหลงป้าที่ตายอย่างอถนาถข้าง ๆ หลงซือและหลงอูก็หวาดกลัวหนังหัวชาหนึบ ขนลุกตั้งชูชัน หลังเปียกโชกไปทันที.
ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่เคยพบกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พบกับคนที่โหดร้ายและโหดเหี้ยมเช่นหลินซวน!
หลินซวน คว้าคอของหลงซือราวกับคีมเหล็ก.
จิตสำนึกอันศักดิ์สิทธิ์ยักษาถูกปล่อยออกมาผ่านทางสัมผัสเทวะของเขา
“ต้องการให้ข้าลงมืออย่างงั้นรึ?” หลินซวนเอ่ยอย่างเย็นชา
อำนาจที่มองไม่เห็นทำให้ร่างของหลงซือสั่นสะท้าน.
ในเวลานั้นเขาพบว่าดวงตาของอีกฝ่ายมีเปลวเพลิงลุกไหม้ขึ้นมา หลงซือไม่อาจอดกลั้นไว้ได้อีกต่อไป“พวกเรามาจากวังหยานหลัว!”
วังหยานหลัว?
ชื่อนี้ไม่เคยปรากฏในหนังสือสวรรค์เสวียนเจี่ย
ดูเหมือนว่าจะเป็นองค์กรมือสังหารที่เพิ่งจัดตั้งขึ้น
เขายังคงถามต่อไปว่า “ใครมอบหมายให้เจ้าสังหารบุตรสาวของข้า”
“ข้าไม่รู้เรื่องนี้จริง ๆ! เราเพิ่งได้รับคำสั่งจากเจ้าวังให้ปฏิบัติภารกิจนี้!” หลงซือกล่าวอย่างรวดเร็ว
หลินซวน มองลงไปที่หลงอู"จริงเหรอ?"
“ใช่ ไม่มีการโกหก!” หลงอูพยักหน้าอย่างรวดเร็ว
"ดีมาก." หลินซวนที่ยกมืออีกข้างหักคอหลงอูไปทันที.
จากนั้นเขาก็ปล่อยเพลิงสายฟ้าพุ่งไปยังร่างของหลงอู เผาจนกลายเป็นเถ้าถ่าน.
จากนั้นก็หันศีรษะไปมองที่หลงซือเอ่ยอย่างเย็นชา: "พาข้าไปหาเจ้าวังของเจ้า"