ตอนที่แล้วตอนที่ 28 ความเข้าใจผิดแสนร้ายแรง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 30 เจ้าคิดมากไปแล้ว

ตอนที่ 29 กระทำการโจ่งแจ้ง


ตอนที่ 29 กระทำการโจ่งแจ้ง

“ยามนี้โจวหลิงเสวี่ยมีสถานะเช่นนี้ในเมืองไพศาลหรอกหรือ”

เซียวเฉินปั่นป่วนในใจอยู่บ้าง ทว่าก็สงบลงอย่างรวดเร็ว

“ไม่ว่าโจวหลิงเสวี่ยจะประสบความสำเร็จเพียงไหน ข้าก็จะฆ่านางให้จงได้!”

จูชิงฮวนไม่พูดมากความ นางเคยเห็นการต่อสู้ระหว่างเซียวเฉินและโจวหลิงเสวี่ย และรับรู้ถึงความแค้นระหว่างพวกเขา นางเชื่อว่าเซียวเฉินรู้ว่าควรทำอย่างไร

“นั่นคือสำนักสวรรค์ไร้ขอบเขต”

ในที่สุดหลังชมทัศนียภาพของเมืองหลวง เหยี่ยวขาวก็ลงยืนบนลานกว้างขนาดใหญ่ ท้ายลานประจวบกับซุ้มประตูโค้งขนาดใหญ่ ลายสลักมังกรและวิหคเพลิงสมจริงยิ่งนัก

สิ่งที่ทำให้เซียวเฉินประหลาดใจคือไม่ทันการคัดเลือกจะเริ่มขึ้น ลานด้านนอกนี้ก็คลาคล่ำไปด้วยผู้คนแล้ว

“พวกเขามาทำอะไรกันที่นี่” เซียวเฉินเห็นว่ามีผู้คนจำนวนมากมายืนต่อแถวยาวเหยียด

“เจ้าไม่รู้จริง ๆ หรือ” จูชิงฮวนเหลือบมองเซียวเฉิน “พวกเขามาลงชื่อสมัครกัน หากไม่ลงชื่อสมัครจะเข้าร่วมการคัดเลือกได้อย่างไร”

“ยังต้องลงชื่ออีกหรือ” เซียวเฉินอึ้งไป ให้ตายเถิด หากวันนี้ไม่ได้ตามจูชิงฮวนมาที่สำนัก ไป๋เนี่ยนปิงคงลงชื่อสมัครล่าช้าไปแล้วไม่ใช่หรือ

“เช่นนั้นข้าไปลงชื่อสมัครก่อน” ไป๋เนี่ยนปิงกลับไม่สนใจ นางกล่าวพร้อมรอยยิ้ม

“ข้าจะไปด้วย ข้ารบกวนศิษย์พี่พาซิ่นเอ๋อร์เข้าไปในสำนักก่อน” เซียวเฉินกล่าว

“ยังไม่เข้าสำนักก็เริ่มใช้ศิษย์พี่แล้วหรือ” จูชิงฮวนหยอกล้อ

“ศิษย์พี่อย่าเย้าข้าเลย” เซียวเฉินรู้สึกอับอาย

ไม่นานเซียวเฉินก็พาไป๋เนี่ยนปิงไปต่อท้ายแถว แม้มีคนต่อแถวอยู่ข้างหน้าหลายร้อยคน แต่พวกเขาก็พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ไม่รู้สึกว่าเวลาผ่านไปเนิ่นนาน

ทว่าผู้คนทั้งหน้าและหลังกลับหมั่นไส้ พวกเขาแอบกัดฟัน อยากจะเตะคนสองคนที่กำลังแสดงความรักออกจากแถวเต็มที

หนึ่งชั่วโมงต่อมา ในที่สุดก็ถึงคราวไป๋เนี่ยนปิงลงชื่อสมัคร

“เจ้าชื่ออะไร” ผู้บันทึกมองไปที่เซียวเฉิน

“ข้าหรือ ข้าไม่ต้องลงชื่อสมัคร” เซียวเฉินส่ายหัวพลางยกยิ้ม

“ไม่ลงชื่อสมัครหรือ” ศิษย์สำนักที่รับผิดชอบการลงชื่อสมัครและผู้คนที่อยู่ด้านหลังแถวพากันงุนงงเล็กน้อย แววฉงนปรากฏในสายตาของพวกเขา

หรือชายผู้นี้รู้สึกว่าพรสวรรค์ของตนไม่เพียงพอที่จะผ่านการคัดเลือก

“เจ้าคิดให้ดีก่อน” ศิษย์ที่รับลงชื่อสมัครถามอีกครั้ง

“ข้าแค่มาเป็นเพื่อนนาง” เซียวเฉินไม่ได้อธิบายอะไรมาก

หยางฉีผู้รับผิดชอบการลงชื่อสมัครหรี่ตามอง ไป๋เนี่ยนปิงรูปโฉมเป็นเลิศ หญิงงามเช่นนี้ หากได้เข้ามาในสำนักสวรรค์ไร้ขอบเขตแล้ว ย่อมมีผู้คนมากมายเข้าหาเป็นแน่

เดิมทีหยางฉีคิดว่าไป๋เนี่ยนปิงมีเจ้าของแล้ว บัดนี้ดูเหมือนว่าจะยังมีโอกาส

“คุณหนูเนี่ยนปิง ข้าชื่อหยางฉี อยู่ขอบเขตสะพานชีวาขั้นสอง หลังเข้าสำนักแล้ว หากมีอะไรก็สามารถมาหาข้าได้”

หยางฉีแนะนำตัวเองพร้อมรอยยิ้ม เขายังเขียนบันทึกย่อส่งให้ไป๋เนี่ยนปิง ระบุที่อยู่ของเขาในสำนัก

เซียวเฉินแสดงสีหน้าแปลก ๆ นี่เป็นการกระทำการช่วงชิงอย่างโจ่งแจ้งไม่ใช่หรือ

ทั้งยังกล้าทำต่อหน้าเขาอีก

ไป๋เนี่ยนปิงหลุดยิ้มเมื่อเห็นท่าทีของเซียวเฉิน อาการหึงหวงของคนซื่อบื้อผู้นี้ช่างน่ารักเหลือเกิน

หยางฉีมองรอยยิ้มของไป๋เนี่ยนปิงจนตกอยู่ในภวังค์ คิดว่านางยิ้มเพราะตนเองจึงยิ่งมั่นใจมากขึ้น

คนอย่างไป๋เนี่ยนปิงที่เดินทางมาจากเมืองไกลปืนเที่ยงเล็ก ๆ หยางฉีเคยเห็นมามากแล้ว พวกนางอาจจะมีคนรักในบ้านเกิด แต่เมื่อมาอยู่ในสำนักสวรรค์ไร้ขอบเขต และได้พบอัจฉริยะตัวจริงแล้ว พวกนางก็จะไม่แยแสคนในใจก่อนหน้าอีกต่อไป

ไป๋เนี่ยนปิงก็คงจะเป็นเช่นนั้น

ตราบใดที่เข้ามาในสำนัก ไม่กี่วันก็คงลืมเซียวเฉินไป

หยางฉียังรอให้ไป๋เนี่ยนปิงรับบันทึกย่อ ทว่าเซียวเฉินกลับคว้ามันไปแทน เขาส่งพลังรากฐานแก่นแท้ออกไป ทำให้บันทึกย่อกลายเป็นเศษกระดาษ ปลิวกระจัดกระจายไปทั่ว

ผู้คนด้านหลังเห็นฉากนี้แล้วเผยสีหน้าสนุกสนาน การกระทำของหยางฉีนั้นไร้มารยาทจริง ๆ ทว่าเขาก็เป็นศิษย์สำนัก ผู้รับผิดชอบการลงชื่อสมัคร ยังพอมีอำนาจอยู่บ้าง

คนผู้นี้กล้าหาเรื่องอีกฝ่ายอย่างเปิดเผยได้อย่างไร

หยางฉีย่อมฉุนจัด “ข้ามอบบันทึกย่อนี้ให้นาง”

“นางไม่ต้องการ” เซียวเฉินตอบอย่างเฉยชา จับมือไป๋เนี่ยนปิงแล้วจากไป

“หยุดเดี๋ยวนี้!”

หยางฉีลุกพรวดขึ้น “คนบ้านนอก กล้าหยิ่งยโสเช่นนี้ต่อหน้าสำนักสวรรค์ไร้ขอบเขต ไม่เคารพข้าก็คือไม่เคารพสำนักสวรรค์ไร้ขอบเขต”

ผู้คนยิ่งยกยิ้มขัน คนผู้นี้คงใหญ่โตไม่น้อย

“ท่านสามารถเป็นตัวแทนของสำนักสวรรค์ไร้ขอบเขตได้หรือ” เซียวเฉินโพล่งถาม

“ชักอวดดีเกินไปแล้ว คุกเข่าขอโทษเดี๋ยวนี้ มิเช่นนั้นอย่าว่าแต่การลงชื่อสมัครของนาง ข้าจะหักขาเจ้าเสีย”

หยางฉีขยำกระดาษที่บันทึกข้อมูลของไป๋เนี่ยนปิง

“ทำไมช่วงนี้ถึงมีคนให้ข้าขอโทษเดรัจฉานอยู่เรื่อย” เซียวเฉินเอ่ยราวกับกำลังพูดกับตัวเอง

ทว่าคำพูดของเขาทำให้หยางฉีเดือดดาลจนแทบพ่นไฟออกมาได้

ช่วงนี้เขาเป็นผู้รับผิดชอบการลงชื่อสมัคร ยอดฝีมือจากทุกหนแห่งต่างแสดงความเคารพนบน้อมเมื่อเห็นเขา มีใครกล้าหยิ่งยโสอย่างเซียวเฉินบ้าง

“ขอโทษเดรัจฉานหรือ” ผู้คนด้านหลังนึกย้อนไป สองสามวันนี้พวกเขาคล้ายจะเคยได้ยินเรื่องราวทำนองนี้

ถึงกระนั้นเมืองไพศาลก็กว้างขวางเกินไป มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายทุกวัน แม้เซียวเฉินจะก่อเรื่องใหญ่โตในเมืองตอนใต้ แต่ก็ไม่มีทางที่ทุกคนจะรู้

แควก!

กระดาษที่บันทึกข้อมูลของไป๋เนี่ยนปิงถูกฉีกไม่มีชิ้นดี หยางฉีมองเซียวเฉินอย่างเย้ยหยัน ราวกับกำลังรอให้เซียวเฉินคุกเข่าขอขมา

“การเข้าใกล้อำนาจทำให้ผู้คนเข้าใจผิดคิดว่าตนมีอำนาจ” เมื่อเห็นเศษกระดาษปลิวว่อน เซียวเฉินก็เอ่ยเสียงเรียบเฉย

หยางฉียังไม่เข้าใจนัก เซียวเฉินมองมาที่เขาก่อนเปล่งเสียงพูดประโยคถัดมา

“กล่าวโดยสรุปคือเจ้าเป็นเพียงสุนัขเฝ้าประตูเท่านั้น มีสิทธิ์อะไรมาข่มขู่ข้า”

โอ้โห!

ผู้คนต่างแตกตื่น สำนักสวรรค์ไร้ขอบเขตก่อตั้งมานานกว่าพันปี มีใครกล้าพูดเช่นนี้กับศิษย์ที่รับผิดชอบการลงชื่อสมัครในวันคัดเลือกบ้าง

ไม่ต้องพูดถึงอำนาจในการตรวจสอบของศิษย์เหล่านี้ พวกเขายังเป็นศิษย์ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้อาวุโสในสำนักด้วย ไม่เช่นนั้นคงจะไม่ถูกส่งมาดูแลเรื่องสำคัญเช่นนี้

“เขาขวัญกล้านัก ดูเหมือนหญิงสาวผู้นั้นคงไม่ได้เข้าสำนักแล้ว”

“ไม่อดทนไว้เสียบ้าง เขาหาเรื่องศิษย์สำนัก ไม่คิดว่าจะได้เข้าสำนักหรือไม่ หรืออย่างน้อยก็รักษาชีวิตไว้ได้หรือเปล่า”

“ข้าคิดว่าเขาทำถูกแล้ว ศิษย์สำนักจะมาฉวยโอกาสเช่นนี้ไม่ได้”

เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของคนด้านหลังยังดังไม่หยุด ทำให้ใบหน้าของหยางฉียิ่งบูดบึ้ง ปราณขอบเขตสะพานชีวาขั้นสองแผ่ซ่าน ฝ่ามือของเขาพุ่งตรงมายังศีรษะของเซียวเฉิน

“มีข้าอยู่ที่นี่ พวกเจ้าไม่มีทางได้เข้าสำนักสวรรค์ไร้ขอบเขต!”

ตราประทับหนึ่งปรากำตรงหน้าหยางฉี

ฝ่ามือของหยางฉีพลันชะงักงัน เขามองคำว่า ‘เหมย’ บนนั้นแล้วนิ่งค้างไปทันที

มันคือตราประทับของอาจารย์เหมย!

เหตุใดคนผู้นี้ถึงได้มีตราประทับของอาจารย์เหมยในครอบครองกัน

“เจ้าเป็น... ศิษย์ของอาจารย์เหมยหรือ” หยางฉีรู้สึกราวกับมีหินอัดแน่นในลำคอ ยากจะเอื้อนเอ่นคำใดออกมาได้

อาจารย์เหมยไม่ได้มีศิษย์เพียงสองคนหรือ ทั้งคู่ต่างฝึกฝนอยู่ในสำนักสวรรค์ไร้ขอบเขต มีคนที่สามเพิ่มเติมมาตั้งแต่เมื่อใดกัน

ไม่ว่าชายหนุ่มคนนี้จะมาจากไหน การถือครองตราประทับของอาจารย์เหมยก็ไม่ใช่สิ่งที่ศิษย์สำนักที่รับผิดชอบการลงชื่อสมัครอย่างเขาจะเทียบได้!

เซียวเฉินเก็บเหรียญตรา หันมองหยางฉีด้วยสายตาเย็นชา “ท่านเพิ่งพูดเมื่อครู่ว่าพวกเราไม่มีสิทธิ์เข้าสำนักสวรรค์ไร้ขอบเขตใช่ไหม”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด