ตอนที่แล้วบทที่ 107 ค่ำคืนที่น่าหวาดกลัว (ช่วงที่ 1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 109: พายุฝนกำลังมา

บทที่ 108 ค่ำคืนที่น่าหวาดกลัว (ช่วงที่ 2)


[แฟนเพจBamแปลNiyay:ลงแบบราคาถูกโคตรในmy-novel(ลงช้ากว่าThai-novel100ตอน)กับthai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นนอกจากสองเว็บนี้คือไม่ใช่ผมนะ ถ้าเจอคนอ่านก็อปดันเยอะกว่าก็ท้อเป็นนะครับ]

[ถ้าอ่านฟรีแบบเถื่อนไม่ว่าจะได้มายังไงนั้น ผมไม่ว่าเลยครับ และต่อให้ไม่มีคนอ่าน ผมก็ยังจะแปลต่อจนจบด้วย แต่ถ้าจะจ่ายเงินให้เว็บหรือคนที่copyไปขายอีกที คุณโคตรแย่เลยครับ]

[หลังแปลจบจะมีการแก้คำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้น ดังนั้นถ้าคุณอ่านแบบเถื่อน ก็เชิญเลยครับ เพราะมันไม่มีอัพเดทให้หรอก]

บทที่ 108 ค่ำคืนที่น่าหวาดกลัว (ช่วงที่ 2)

หลังจากอาบน้ำอุ่นเสร็จ ซุนเฉิงกลับมายังห้องพักชั้นหนึ่งของวิลล่า และมองหน้าต่างเพื่อหาเซฟการ์ดที่หายไปในความมืดปรากฏตัวขึ้นมา ดวงตาของเขาจ้องมองไปที่มัน

“เซฟการ์ด เชื่อมต่อกับเครือข่ายได้ไหม?”

“ข้าดักจับการส่งข้อมูลบนเกาะได้นายท่าน จากการสำรวจข้อมูลที่ส่งมา มันสามารถเชื่อมต่อกับระบบสื่อสารดาวเทียมวงโคจรของบริษัทโทรคมนาคมอเมริกันไฟรเซนได้ ให้ข้าเชื่อมทันทีเลยไหมครับ?”

“เชื่อมต่อและพยายามค้นหาฐานข้อมูลของศูนย์วิจัยบนเกาะ”

เมื่อได้ยินว่าเซฟการ์ดสามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายบนเกาะได้ ซุนเฉิงอุ่นใจอย่างมาก เหตุผลที่เขาพาเซฟการ์ดและรีเวนจ์กลับสู่โลกความจริงจากอีกโลกหนึ่ง มันก็เพราะว่าเขาได้ปรับแต่งและเสริมความสามารถให้กับดีเซปติคอนลาดตระเวนขนาดเล็กสองตัวนี้ด้วยมือของเขาเอง ทำให้พวกมันสามารถปกป้องตัวเขาได้

ในบรรดาดีเซปติคอนตัวเล็กสองตัว เซฟการ์ดทำหน้าที่แฮ็กข้อมูลและตรวจสอบข้อมูล หลังจากที่ซุนเฉิงทำการจำลองข้อมูลบางส่วนจากร่างกายจักรกลของเฟรนซี่และถ่ายโอนไปยังเซฟการ์ด ความสามารถในการแฮ็กอินเทอร์เน็ตในโลกแห่งความจริงของเจ้าตัวนี้กลับแข็งแกร่งกว่าร่างกายจักรกลของเฟรนซี่ ตอนที่เพิ่งเข้าไปสิงร่างเฟรนซี่เสียอีก

ส่วนรีเวนจ์นั้น หน้าที่หลักคือมุ่งเน้นไปที่การลอบสังหารและการต่อสู้มากกว่าซุนเฉิง ร่างของมันติดตั้งปืนลมและปืนพลังงาน เสริมความสามารถของแกนหลักด้วย ทำให้ถึงแม้ว่าเขาจะพึ่งพาเซฟการ์ดมากกว่า แต่ในใจของซุนเฉิง ตัวที่เขาวางใจได้มากที่สุดคือรีเวนจ์ ผู้มีความสามารถในการลอบสังหารที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง

“รับทราบครับ!”

หลังจากได้รับคำสั่ง เซฟการ์ดก็เริ่มงานทันที

ซุนเฉิงไม่คิดที่จะนั่งรอเฉย ๆ อย่างเดียว เขาเดินไปที่ตู้เย็นในห้องนอนหยิบไวน์แดงขวดหนึ่งที่มีแบรนด์สเปนที่ไม่รู้จักติดบนขวดและรินใส่แก้วโดยไม่เปิดไฟ เขานั่งเงียบ ๆ รออยู่หน้าต่าง

ประสบการณ์เมื่อครู่ได้บอกเขาแล้วว่าศูนย์วิจัยแห่งนี้ บริษัทอินเตอร์เนชั่นแนลเจเนติกส์ของแฮมมอนด์มีเทคโนโลยีทางพันธุกรรมชั้นนำของโลกจริง ๆ

มันยากที่จะเชื่อเหลือเกินว่าบริษัทแห่งนี้สามารถฟื้นคืนชีพไดโนเสาร์ สัตว์ประหลาดยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่สูญพันธุ์ไปหลายพันล้านปี เพียงแค่การสกัดข้อมูล DNA จากอำพันเมื่อ 100 ล้านปีก่อน

ด้วยเทคโนโลยีดังกล่าว ซุนเฉิงไม่เชื่อหรอกว่าบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนลเจเนติกส์จะเปิดเผยศูนย์วิจัยของตนโดยไม่คิดดำเนินการป้องกันอะไร

หลังจากที่สายตาของเขาจับจ้องไปที่ไฟทำงานของเซฟการ์ดที่กะพริบอยู่ตลอดเวลาอยู่นั้น ปากของเขาขยับขึ้นเล็กน้อย และในไม่ช้าเขาก็ถอนสายตาออกไป

บริษัทเอกชนไม่เหมือนกับสถาบันวิจัยทางทหารภายใต้รัฐบาล แม้ว่ามาตรการป้องกันของพวกเขาจะพิถีพิถันมากแค่ไหน มันก็เหมือนกระดาษใช้แล้วทิ้งอยู่ดีเมื่ออยู่ต่อหน้าเซฟการ์ด ดีเซปติคอนหน่วยสอดแนมผู้เชี่ยวชาญด้านการรุกรานอินเทอร์เน็ต

ไม่มีซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ใด ๆ ที่สมบูรณ์แบบ กระทั่งเทคโนโลยีที่เหนือกว่าโลกเป็นเวลาอย่างน้อยหลายร้อยปีบนดาวไซเบอร์ตรอนจากต่างโลกก็ไม่ตางกัน กล่าวคือเทคโนโลยีล้วนมีข้อบกพร่อง

ดังนั้นตราบใดที่มีช่องโหว่เพียงเล็กน้อยในระบบรักษาความปลอดภัยของบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนลเจเนติกส์ เซฟการ์ดก็สามารถหาจุดเจาะระบบได้

อย่างที่คาดไว้ เขาไม่ต้องรอนานอีกต่อไป

หลังจากผ่านไปประมาณสี่สิบวินาที แสงไฟทำงานของเซฟการ์ดก็หยุดกะพริบ เสียงอิเล็กทรอนิกส์เย็นเหยียบดังขึ้น: "ข้าพบฐานข้อมูลของศูนย์วิจัยและบุกทะลุระบบรักษาความปลอดภัยสำเร็จแล้ว นายท่าน..."

ซุนเฉิงรู้สึกยินดีและเดินเข้าหาเซฟการ์ด เขารู้สึกมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าการนำดีเซปติคอนเจ้าตัวเล็กสองตัวนี้กลับสู่โลกแห่งความจริง มันเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด

สิ่งมีชีวิตจักรกลเหล่านี้มีความสามารถคล้ายเทพเจ้าในยุคอินเทอร์เน็ต หากนำพวกเขามาใช้ในโลกแห่งความจริง มันคงยิ่งใหญ่กว่าการนำเงินกลับมาหลายพันล้านดอลลาร์เสียอีก

“ทำไมใช้เวลานานขนาดนี้...”

เขาถามอย่างงุดหงิด เพราะซุนเฉิงไม่คิดว่าระบบป้องกันเครือข่ายบนเกาะจะหยุดเซฟการ์ดได้นานขนาดนี้

“ขณะที่ข้าได้แฮ็กข้อมูลศูนย์วิจัย ข้าจับข้อมูลอีกกลุ่มหนึ่งที่พยายามต้านระบบรักษาความปลอดภัยของศูนย์วิจัย เมื่อข้าพยายามล็อคจุดการแฮ็กของพวกมัน พวกมันก็รู้ตัวว่าถูกค้นพบ เป้าหมายจึงปล่อยข้อมูลรบกวนบางส่วนออกมา จากนั้นก็หายไปหมด...”

“อะไรนะ?”

เสียงอิเล็กทรอนิกส์เย็นเฉียบของเซฟการ์ดทำให้สีหน้าของซุนเฉิงเปลี่ยนไปทันที เขาถามอย่างรวดเร็ว “แน่ใจเหรอ?”

“ครับ นายท่าน!”

คำตอบเย็นชาทำให้หัวใจของซุนเฉิงจมดิ่ง แม้ว่าเซฟการ์ดและรีเวนจ์จะเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตจักรกลระดับต่ำสุดในอีกโลกหนึ่ง แต่ความสามารถของพวกมันนั้นไม่ต้องสงสัยเลย เขารู้ดีกว่าใคร ๆ

เมื่อได้ยินจากเซฟการ์ดผู้เป็นถึงเชี่ยวชาญในการแฮ็กเครือข่าย ว่ามีคนในโลกแห่งความจริงที่สามารถตรวจจับการติดตามของมันและป้องกันไม่ให้มันติดตามตัวไปได้ อารมณ์ที่ระมัดระวังและสงสัยของซุนเฉิงก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน

“บางทีอาจมีใครบางคนได้รับข้อมูลจากศูนย์วิจัยของบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนลเจเนติกส์และอิจฉาเทคโนโลยีของพวกเขา อาจจะเป็นพวกนักลงทุนเสี่ยงโชคที่มากับฉันแน่!”

หลังจากขยับแก้วไวน์ไปมาสักพัก ซุนเฉิงก็ดื่มไวน์แดงที่เหลืออยู่ในแก้วหมด

ตามแผนเดิม เขาและเซฟการ์ดจะแยกกันไปเพื่อโจรกรรมในคืนนี้ เขาจะไปหาแฮมมอนด์และเอาอำพันจากไม้เท้าของอีกฝ่าย ที่ทำให้เกิดปฏิกิริยากับมิติทรงกลมของซุนเฉิง ในขณะเดียวกัน เซฟการ์ดจะแอบเข้าไปในศูนย์วิจัยในเวลากลางคืนและคัดลอกข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับเทคโนโลยีทางพันธุกรรมของบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนลเจเนติกส์และการฟื้นคืนชีพไดโนเสาร์ของพวกเขา

เทคโนโลยีทางพันธุกรรมของบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนลเจเนติกส์สามารถฟื้นคืนชีพไดโนเสาร์จากเมื่อหลายล้านปีก่อนได้ เป็นไปไม่ได้เลยที่ซุนเฉิงจะไม่รู้สึกดึงดูดใจ

ทว่า ดูเหมือนว่ามีคนอื่น ๆ ที่จับตามองแฮมมอนด์และศูนย์วิจัยเช่นเดียวกับเขา

หลังจากครุ่นคิดสักพัก ซุนเฉิงก็คำนวณอย่างรวดเร็วในใจของเขา

ขณะที่เขากำลังจะสั่งการเซฟการ์ดและรีเวนจ์ อยู่ ๆ เขาก็รู้สึกเวียนหัวอย่างรุนแรง

ความรู้สึกคลื่นไส้ถาโถมเข้ามา ซุนเฉิงเซไปข้าง ๆ เตียงก่อนที่เขาจะเห็นการเปลี่ยนแปลงบางอย่างรอบตัวเขา

เอี๊ยด!

เสียงดังแหลมคมเหมือนเสียงกระจกแตกดังขึ้น ซุนเฉิงรู้สึกตกใจเมื่อพบว่าพื้นที่รอบตัวเขาดูเหมือนจะบิดเบี้ยวไปราวกับแก้วบิดเบี้ยว ปรากฏแปลกประหลาดเริ่มเกิดขึ้น

ขณะที่เขารู้สึกหงุดหงิดและสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น แสงเรืองอ่อนสีฟ้าที่อธิบายไม่ได้ก็เปล่งออกมาจากร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว มันปกคลุมเขาอย่างรวดเร็วและขจัดอาการวิงเวียนรุนแรงคลื่นไส้ที่รบกวนเขา

เมื่อเขาฟื้นคืนสติ ซุนเฉิงมองไปที่แสงเรืองสีฟ้าอ่อนที่เปล่งออกมาจากมือที่ยื่นออกไปของเขา และทันใดนั้น เขาก็นึกขึ้นได้ว่าครั้งก่อนที่เขาเดินทางจากโลกความจริงไปยังโลกคู่ขนาน เขาอยู่ที่นั่นเกือบสองเดือนเลย

ตอนนี้ เขาได้กลับสู่ความจริงมาสองสามวัน หากนับตามเวลาแล้ว มันคงจะเป็นช่วงเวลาผสานโลกครั้งที่สองตามที่ถูกระบุไว้บนหน้าจอสว่างตัวที่สามในมิติทรงกลม

เขารวบรวมความคิดอย่างรวดเร็วและมองไปรอบ ๆ ในไม่ช้าเขาก็รู้สึกว่าพื้นที่ที่บิดเบี้ยวรอบตัวเขามีความสับสนวุ่นวายมากขึ้น ท้องฟ้าคล้ายเต็มไปด้วยดวงดาว

เมื่อมองดูอย่างใกล้ชิด เขาจะเห็นแสงดาวสลัว ๆ กะพริบอยู่ตลอดเวลาในความสับสนวุ่นวาย ทันใดนั้นมันมีแสงสว่างจ้าดวงหนึ่งปรากฏขึ้นจากความมืด มันยิ่งใกล้เข้ามา ยิ่งสว่าง ดึงดูดความสนใจของซุนเฉิง

ขณะที่เขากำลังจะสัมผัสที่ตัวมันและดูว่ามันคืออะไร ความหนาวเย็นก็หลั่งไหลเข้าท่วมจิตใจของเขาทันที ข้อความแจ้งเตือนพลันปรากฎขึ้น: "การหลอมรวมเสร็จสมบูรณ์! เริ่มนับถอยหลังสู่การหลอมรวมโลกคู่ขนานที่ไม่ทราบได้ - 207182:59:59!"

ในห้อง ซุนเฉิงยังคงนอนอยู่บนเตียง เขาไม่ได้รู้เลยว่ามีดาวตกพุ่งผ่านท้องฟ้ามุ่งหน้าสู่ เกาะนูบลา

ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay , ลงแบบราคาถูกแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับ หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิก กระซิก ;-;

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด