ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 1061 ฆ่าหรือปล่อย (อ่านฟรี)
ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 1061 ฆ่าหรือปล่อย (อ่านฟรี)
แปลโดย iPAT
หินก้อนใหญ่กลิ้งลงมาจากยอดเขาพร้อมกับฝุ่นควัน มันทำลายสิ่งปลูกสร้างมากมาย แต่ไม่มีสัญญาณของการหยุด มันเร็วขึ้นเรื่อยๆและทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า เหล่านักบวชหลบหนีไปทุกทิศทุกทางราวกับวันสิ้นโลก
พระอาจารย์แสงธรรมปรากฏตัวขึ้นในพริบตาและทำให้หินก้อนใหญ่แตกเป็นเสี่ยงๆด้วยฝ่ามือ เขาเงยหน้าขึ้นและเห็นกีบเท้าเหล็กคู่หนึ่งที่มีลักษณะคล้ายเสารวมถึงลำตัวสีดำที่ดูเหมือนหล่อมาจากเหล็กดำ
ภูเขาพระใหญ่ราวกับสูงขึ้นเรื่อยๆและได้ยอดเขาใหม่อยู่ท่ามกลางกลุ่มเมฆหมอก ปีกอันใหญ่โตบดบังท้องฟ้าราวกับก้อนเมฆ อย่างไรก็ตามสิ่งที่มันทิ้งไว้เบื้องล่างไม่ใช่เงาแต่เป็นสายลมกรรโชกแรงและเปลวเพลิงที่สว่างไสว
ภูเขาพระใหญ่ลุกเป็นไฟ!
“ปีศาจชั่ว!”
เขาเต็มไปด้วยความโกรธ เขาต้องการก้าวไปข้างหน้าและเผชิญหน้ากับปีศาจในการต่อสู้แห่งชีวิตและความตาย แต่เขารู้ว่านั่นไร้ประโยชน์ เขาไม่สามารถแม้แต่จะอดทนต่อผลพวงจากการต่อสู้ของผู้ยิ่งใหญ่เหล่านั้น
พระอาจารย์ทั้งหมดช่วยกันปิดกั้นและทำลายก้อนหินที่ร่วงหล่นลงมา พวกเขาล้วนเป็นนักบวชที่มีชื่อเสียงของมณฑลชิงโจว แต่ตอนนี้สิ่งเดียวที่พวกเขาทำได้คือลดความเสียหายที่เกิดจากการต่อสู้ให้เหลือน้อยที่สุด
“เปรี้ยง!”
สายฟ้าฟาดลงมาที่ศีรษะของหลี่ฉิงซาน เขาเอียงศีรษะเล็กน้อยและรู้สึกถึงความชาที่ร่างกาย ตราประทับราชาอาณาจักรชูกดลงมาอีกสองสามเมตร
“สหาย ใช้โอกาสนี้สังหารปีศาจ!”
ก่อนที่ผู้นำนิกายเต๋าจะพูดจบ ราชาหุ่นเชิดหลายตัวก็บินขึ้นสู่ท้องฟ้าไปแล้ว พวกมันมีรูปร่างเหมือนมนุษย์หรือสัตว์ป่าและมีขนาดร่างกายที่แตกต่างกัน
“ฮืม พวกเจ้ากำลังใช้ประโยชน์จากสถานการณ์!”
หลี่ฉิงซานเบิกตากว้างและพ่นลมหายใจออกเบาๆ สายลมกรรโชกแรงพัดผู้นำนิกายเต๋าออกไป ด้วยการแกว่งหางพยัคฆ์ที่จับดาบจุดจบบุปผาคลั่งเอาไว้ สายลมกรรโชกแรงผสานเข้ากับปราณดาบ มันบดขยี้ราชาหุ่นเชิดสองตัวและทำให้พวกมันระเบิดเสียงดัง
เสียงดนตรีล่องลอยมาตามสายลมพร้อมกับคำสาปแช่งและเสียงสวดมนต์ซึ่งทำให้จิตใจของเขาปั่นป่วน เมื่อมองย้อนกลับไป เขาเห็นผู้นำสำนักดนตรีและสำนักอักขระยืนอยู่ในระยะไกลมาก ทั้งสองไม่กล้าเข้าใกล้เขา
“แมลงวันสองตัว!” หลี่ฉิงซานหันกลับมาและสงบสติอารมณ์ เขาปล่อยแรงสั่นสะเทือนผ่านฝ่ามือซึ่งแทรกซึมเข้าไปในตราประทับราชาอาณาจักรชูและทำให้มันลดความสว่างไสวลง
ราชาอาณาจักรชูกล่าว “ผู้บัญชาการจิน แม่ทัพเยว่ ข้าคิดว่าพวกเจ้ามีความสามารถมากกว่านี้มาก!”
จินฝูกุ้ยและเยว่อู๋หยางสบตากัน เมื่อพูดถึงการต่อสู้และการเข่นฆ่า สำนักดนตรีและสำนักอักขระไม่สามารถเปรียบเทียบกับสำนักการทหารหรือสำนักพิทักษ์กฎหมาย เว้นเพียงพวกเขาไม่ได้ใช้กำลังเต็มที่ จินฝูกุ้ยมีมิตรภาพที่ดีกต่อพระอาจารย์ไร้กังวล และเขายังพบว่ารายละเอียดของเรื่องนี้น่าสงสัยมาก ขณะที่เยว่อู๋หยางมีความประทับใจที่ดีต่อหลี่ฉิงซานรวมถึงอันฉงจื่อ ดังนั้นเขาจึงไม่พยายามที่จะเอาชีวิตหลี่ฉิงซาน
เดิมทีพวกเขาต้องการไหลไปตามกระแสและดูคนอื่นสังหารปีศาจ แต่พวกเขาไม่เคยคาดหวังว่าหลี่ฉิงซานจะทรงพลังถึงขนาดนี้ เขากระทั่งฆ่าจูฝูจื่อต่อหน้าทุกคนและทำให้สหายเฟิงแห่งสำนักการเกษตรหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ราชาอาณาจักรชูนำตราประทับราชาอาณาจักรชูออกมา แต่เขายังต้องดิ้นรันเพื่อฆ่าฝ่ายตรงข้าม หากพวกเขายังไม่ใช้กำลังอย่างเต็มที่ มันจะค่อนข้างยากสำหรับพวกเขาที่จะอธิบายตัวเอง
“นรกทรายสีดำ!”
จินฝูกุ้ยยกมือขึ้น เม็ดทรายสีดำที่ละเอียดอ่อนจำนวนหนึ่งปรากฎขึ้นกลางฝ่ามือของเขา หน้าตาของเขาดูไม่เป็นมิตรหรือธรรมดาอีกต่อไป มันกลายเป็นมืดครึ้มราวกับเจ้าหน้าที่ผู้โหดร้ายจากขุมนรก เมื่อเขายกมือทั้งสองข้างขึ้น ทรายสีดำก็หมุนวนไปในอากาศราวกับเมฆสีดำที่พลุ่งพล่านพุ่งไปทางหลี่ฉิงซาน
หลี่ฉิงซานหันศีรษะและพ่นลมหายใจออกไป เดิมทีเขาต้องการกระจายทรายสีดำ แต่ทรายสีดำกลับยิ่งปั่นป่วนและยังพุ่งเข้าหาเขาอย่างต่อเนื่อง มันปิดล้อมอยู่รอบตัวเขา แม้แต่ลมหายใจของเขาก็ยังไม่สามารถปัดมันออกไปได้ทั้งหมด เมื่อทรายสีดำสัมผัสร่างกายของเขา เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดไปถึงดวงวิญญาณซึ่งทำให้เขาขมวดคิ้ว นี่คือเขตแดนที่ใช้สำหรับการต่อสู้โดยเฉพาะ มันต่างจากเขตแดนทุ่งนาและสวนของผู้นำสำนักการเกษตรโดยสิ้นเชิง
เยว่อู๋หยางหรี่ตาลงและเพ่งมองดาบจุดจบบุปฝาคลั่งที่กวัดแกว่งอยู่ในอากาศอย่างบ้าคลั่ง เขาโน้มตัวไปข้างหน้าด้วยร่างสูงตรงราวกับสัตว์ร้ายที่กำลังจะตะครุบเหยื่อ ด้วยการกดง้าวในมือลง และแสงสว่างวาบในดวงตา เขาแทงง้าวออกไป มันเหมือนการผงาดขึ้นของมังกรดำ
“ปัง!”
ดาบกับง้าวปะทะกัน เกิดรอยบากขึ้นที่ปลายง้าวทันที เยว่อู๋หยางเผชิญหน้ากับพลังอันยิ่งใหญ่ของดาบซึ่งผลักเขาไปข้างหลัง เขาลอบตื่นตระหนก ‘เพียงหางก็ยังแข็งแกร่งถึงขนาดนี้เลยงั้นหรือ?’ อย่างไรก็ตามมันก็ทำให้จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของเขาลุกโชนขึ้น ‘ข้าจะแพ้เพียงหางได้อย่างไร?’ มัดกล้ามเนื้อของเขากระเพื่อมก่อนที่เขาจะส่งง้าวออกไปอีกครั้งซึ่งทำให้พายุดาบหยุดลง
“ทำได้ดีมาก สหาย!” ผู้นำนิกายเต๋าตะโกน “ฝนสายฟ้า!”
สายฟ้ารวมตัวกันเป็นร่างอวตารเทพสายฟ้า ทันใดนั้นมันก็กางปีกและปล่อยเสียงกรีดร้องที่คล้ายเหยี่ยวและวัว สายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนฟาดลงมาที่หลี่ฉิงซาน
หลี่ฉิงซานไม่สามารถหลบด้วยร่างขนาดมหึมาของเขา ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงรับการโจมตี ภายใต้สภาวะบ้าคลั่งของปีศาจพยัคฆ์ เขาไม่สามารถใช้ความสามารถในการป้องกันอื่นๆ ดังนั้นเขาจึงถูกบังคับให้อดทนกับทุกสิ่ง แผ่นหลังที่ตรงสูงของเขาเริ่มงุ่มงอทันที
“คนผู้นี้เป็นปัญหาจริงๆ”
“เจ้าหนู เจ้าสูญเสียความเป็นลูกผู้ชายไปแล้วงั้นหรือ? พวกเขากำลังพยายามฆ่าเจ้า! ดังนั้นรีบฆ่าพวกมันซะ! แม้พวกมันจะเป็นพ่อของเจ้า แต่นี่ใช่เวลาที่เจ้าจะอดทนอดกลั้นงั้นหรือ? เจ้าคิดจริงๆหรือว่าตนเองอยู่ยงคงกระพัน!” จิตวิญญาณดาบจุดจบบุปผาคลั่งที่นิ่งเงียบมานานตะโกนด่า
หลี่ฉิงซานลอบสั่นไหวอยู่ภายใน เหตุการณ์ในวันนี้ค่อนข้างอันตรายแต่ก็ไม่ใช่สถานการณ์คับขัน ดังนั้นเขาจึงไม่มีความตั้งใจที่จะต่อสู้จนตัวตาย ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะวังหลอมรวมดาบ เขาไม่มีเจตนาที่จะสังหารผู้นำสำนักเหล่านี้ โดยสัญชาตญาณ เขามักจะอดกลั้นและเว้นที่ว่างเอาไว้เสมอ มันเหมือนเขาเพียงต้องการทดสอบความสามารถของตนเท่านั้น
เขาสามารถฆ่าผู้นำสำนักการเกษตรได้ด้วยหมัดเดียว แต่เขากลับโยนชายชราลงบนพื้นเหมือนเรื่องตลก เขาสามารถสังหารจูฝูจื่อได้ด้วยการฟันเพียงครั้งเดียวโดยไม่ให้โอกาสเขาหลบหนี แต่เขาไม่รู้สึกว่าจูฝูจื่อเป็นภัยคุกคามต่อเขา ชายขราเพียงปากเหม็นเท่านั้น
เขาไม่ยินดีฆ่าคนของวัดเทวนาคา แม้เขาจะเผชิญหน้ากับราชาอาณาจักรชูผู้ซึ่งมีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะเอาชีวิตเขา เขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะคิดว่าคนผู้นี้เป็นพ่อของเสี่ยวอัน ข้าจะฆ่าเขาไม่ได้!
มันเป็นเพราะความคิดเหล่านี้นี่เองที่ทำหน้าที่เป็นโซ่ตรวนที่มองไม่เห็นต่อการกระทำของเขา แต่สำหรับการต่อสู้ระหว่างผู้แข็งแกร่ง หากคนหนึ่งมีความตั้งใจฆ่าอันแน่วแน่ขณะที่อีกคนไม่มี มันก็สามารถตัดสินชะตากรรมของพวกเขา
เจ้าวังมองไปที่หลี่ฉิงซานและยิ่งเคร่งเครียดมากขึ้น โดยพื้นฐานแล้วแม้แต่ราชาปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ที่มีชีวิตมานานหลายพันปีก็ยังไม่มีพลังการต่อสู้เท่ากับหลี่ฉิงซาน นี่ทำให้เจ้าวังรู้สึกงงงวยมาก
“ท่านเจ้าวัง ท่านเข้าใจหรือไม่ว่าเมื่อท่านเล่นกับไฟ ท่านจะถูกเผา ข้าขอแนะนำให้ท่านกลับวังหลอมรวมดาบโดยเร็ว ด้วยค่ายกลป้องกัน บางทีท่านอาจยังสามารถปกป้องชีวิตของท่านได้” กู่เยี่ยนหยินกล่าว
“หากเขาไม่ตายที่นี่ในวันนี้ วังหลอมรวมดาบของข้าก็ไม่มีวันสงบสุข ตั้งแต่ความอดทนของเจ้ากำลังจะหมดลง ข้าก็จะให้เจ้าจากไปอย่างรวดเร็ว!”
ทันใดนั้นกระบี่อิงฟ้าก็ลอยสูงขึ้นในอากาศและระเบิดแสงเจิดจ้าออกไป เมื่อมันฟันลงมา มันก็กลายเป็นกระบี่ขนาดใหญ่ที่มีความยาวสามร้อยเมตรฟาดไปทางกู่เยี่ยนหยินกับฮัวเฉิงซานที่อยู่ในเขตแดนนรกลมร้อน เว้นเพียงเป้าหมายสุดท้ายของมันคือหลี่ฉิงซาน!
“ข้าอยากรู้ว่าเจ้าจะช่วยเขาได้อย่างไร?”