ตอนที่ 27 โด่งดังในเมืองไพศาล
ตอนที่ 27 โด่งดังในเมืองไพศาล
ตู้ม!
ศีรษะระเบิดกระจุย เจ้าเมืองน้อยแห่งเมืองกาลครามถูกสังหารต่อหน้าธารกำนัล
สภาพศพไม่ต่างจากวัววิญญาณเกราะแดงของเขา
เกรงว่าเขาคงไม่คาดคิดว่าในฐานะเจ้าเมืองน้อยคนหนึ่งผู้ปรารถนาจะเข้าร่วมสำนักสวรรค์ไร้ขอบเขต กลับมาจบชีวิตที่โรงเตี๊ยมทักษิณไพศาลทั้งที่ยังไม่ทันได้เข้าร่วมการคัดเลือก
และสาเหตุการตายก็เพียงเพราะเขาต้องการให้เซียวเฉินขอโทษที่สัตว์พาหนะทำให้หญ้าสกปรก
ผู้คนคร่ำครวญว่าเขาถูกพรากชีวิตไปด้วยเรื่องหยุมหยิมเพราะความหุนหันพลันแล่นของเขา
พวกเขาจินตนาการออกว่าชายหนุ่มในชุดหรูผู้นี้โอหังแค่ไหนในเมืองกาลคราม ไม่เช่นนั้นคงไม่คิดจะกดขี่เซียวเฉินให้ขอโทษที่สัตว์พาหนะของตน และนั่นก็เป็นเพราะเรื่องเล็กน้อยอย่างการที่ม้าทำหญ้าสกปรกเท่านั้น
น่าเสียดายที่เขาไปเจอคนโหดเหี้ยม ไม่แยแสสถานะเจ้าเมืองน้อยของเขาแม้แต่น้อย ถึงขั้นระเบิดหัวของเขา
"สังหารเจ้าเมืองน้อยเช่นนี้ เขาไม่กลัวเมืองกาลครามจะแก้แค้นหรือ"
"ฟังจากคำพูดของเขาก่อนหน้านี้ ดูเหมือนจะเคยฆ่าเจ้าเมืองน้อยมาแล้ว”
"คนจากเมืองกาลครามมากันไม่น้อย ได้ยินว่าในเมืองไพศาลมีคนหนุนหลังเมืองกาลคราม ไม่รู้ว่าพวกเขาจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร"
เซียวเฉินย่อมได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของผู้คน แต่เขากลับไม่แม้แต่จะหันมอง ชายหนุ่มชุดหรูผู้นี้พูดจาหยาบคายกับไป๋เนี่ยนปิง นั่นคือความผิดร้ายแรงในสายตาของเขา
อีกทั้งอีกฝ่ายยังต้องการฆ่าเขา ยังจะเมตตาไว้ทำไมกัน
"พวกท่านเห็นเจ้าเมืองน้อยกาลครามของข้าหรือไม่"
ในเวลานี้มีเสียงสอบถามดังมาจากด้านนอก ทำให้สีหน้าของผู้คนเปลี่ยนไปถนัดตา
เซียวเฉินชะงักฝีเท้า มองไปยังกลุ่มคนที่เดินเข้ามา
เมื่อเห็นสีหน้ากระอักกระอ่วนของผู้คน พวกเขาดูเหมือนยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจึงถามอีกครั้ง
"หากพวกท่านมีข่าวคราวของเจ้าเมืองน้อยก็โปรดบอกกล่าวด้วย ผู้แข็งแกร่งจากตระกูลหวังมาเพื่อพบกับเจ้าเมืองน้อย" ผู้พูดเป็นคนหนุ่มเช่นกัน น้ำเสียงค่อนข้างกระวนกระวาย
"อะแฮ่ม" มีคนไอเหมือนเป็นการเตือน
ทว่าผู้คนจากเมืองกาลครามกลับยิ่งสับสน รู้ก็คือรู้ ไม่รู้ก็คือไม่รู้ กระแอมหมายความว่าอย่างไร
"ท่านดูศพไร้หัว นั่นเจ้าเมืองน้อยของท่านหรือไม่" มีคนชี้พื้นไม่ไกลนัก ชาวเมืองกาลครามจึงสังเกตเห็นว่าบริเวณที่ผู้คนล้อมรอบนั้นมีกองเลือดอยู่
"เจ้าเมืองน้อยหรือ"
คนจากเมืองกาลครามตรวจสอบเสื้อผ้าของศพไร้หัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก่อนกล้าฟันธงว่านี่คือเจ้าเมืองน้อยกาลคราม!
พวกเขาแบกความคาดหวังของเจ้าเมืองมาด้วย ต้องการก้าวเข้าสู่สำนักสวรรค์ไร้ขอบเขต บัดนี้เจ้าเมืองน้อยกลับกลายเป็นศพเย็นชืดที่ไม่มีแม้แต่หัวอย่างนั้นหรือ
"ฝีมือใคร"
คนจากเมืองกาลครามโกรธแค้นยิ่งนัก กวาดตามองไปรอบ ๆ
ฝูงชนไม่ได้ปริปากตอบ ทว่าสายตาทุกคู่ต่างหันไปทางเซียวเฉิน
"เจ้าทำหรือ" ชายหนุ่มที่ถามหาเจ้าเมืองน้อยก่อนหน้านี้เดินไปหาเซียวเฉิน เขามีพลังอยู่ในขอบเขตทะเลทุกข์ขั้นสูงสุด ห่างจากขอบเขตสะพานชีวาเพียงก้าวเดียว
แท้จริงเขาสามารถก้าวสู่ขอบเขตสะพานชีวาได้ตั้งนานแล้ว แต่เพื่อจะได้เข้าสำนักสวรรค์ไร้ขอบเขต จึงระงับไว้ไม่ก้าวข้ามไป
ในกลุ่มคนหนุ่มสาวจากเมืองกาลคราม เขาเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด เพียงแต่ด้วยฐานะกำเนิด จึงทำได้เพียงเป็นผู้ช่วยเจ้าเมืองน้อย
"ข้าเอง" คำตอบของเซียวเฉินชัดเจนมาก
"เจ้ารู้หรือไม่ว่าเขาเป็นใคร" ชิงจิ่วถามอีกครั้ง
"รู้" คำตอบของเซียวเฉินทำให้คนจากเมืองกาลครามยิ่งโมโห
"รู้แล้วยังกล้าฆ่าเขาอีกหรือ" ไอสังหารส่งผ่านมาจากร่างของชิงจิ่ว ปลายดาบชี้ตรงไปยังเซียวเฉิน
"อยากฆ่า ก็ฆ่าเลย"
สิ้นคำเซียวเฉิน กลุ่มคนหนุ่มสาวจากเมืองกาลครามปลดปล่อยความเยือกเย็นอันน่ากลัวออกมาพร้อมกัน เจ้าเมืองน้อยถูกฆ่า พวกเขาทุกคนล้วนได้รับผลกระทบ
เจ้าเด็กผู้นี้รู้ว่าเจ้าเมืองน้อยเป็นใครแล้วยังกล้าสังหาร อุกอาจยิ่งนัก!
"เจ้ากล้าหาญมาก น่าเสียดายที่ต้องตายที่นี่!"
ชิงจิ่วก้าวไปข้างหน้า ชี้นิ้วไปข้างหน้า ทันใดนั้นเงาดาบแหลมคมก็พุ่งออกมาจากปลายนิ้วของเขา ราวกับดาบจริงทะยานผ่าอากาศพุ่งเข้าหาเซียวเฉิน
ผู้คนเปลี่ยนสีหน้า ด้วยระยะห่างสั้น ๆ เช่นนี้ แม้แต่ผู้แข็งแกร่งขอบเขตสะพานชีวายังยากจะหลบหลีก
สายตาของเซียวเฉินสงบนิ่ง เขาเหวี่ยงกำปั้นไป เงาดาบที่พุ่งเข้ามาแตกกระจายในทันที
"แข็งแกร่งเพียงนี้ ไม่แปลกที่เจ้าเมืองน้อยจะตายในมือของเจ้า"
ชิงจิ่วกระทืบพื้นอย่างแรง ดาบสามเล่มที่เขาสะพายบนหลังพลันพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าพร้อมกัน ลอยอยู่ตรงหน้าเขาขณะส่งเสียงดังก้อง
"แต่อย่างไรเจ้าก็ต้องตาย!"
ดาบทั้งสามเข้าฟันเซียวเฉินพร้อมกัน ปราณดาบแหลมคมผ่าลงมาราวกับจะหั่นร่างของเซียวเฉินเป็นชิ้น ๆ
ถึงกระนั้นดาบว่องไวปานสายฟ้ากลับหยุดลงตรงหน้าเซียวเฉิน ราวกับถูกกำแพงล่องหนกั้นเอาไว้
ตู้ม!
เซียวเฉินก้าวเท้าไปข้างหน้า เจตจำนงค์การต่อสู้แผ่กระจายไปทั่วกาย ทะเลทุกข์ในร่างร้องคำราม ทันใดนั้นดาบทั้งสามก็ระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยแล้วร่วงลงมาที่พื้น
สีหน้าของคนจากเมืองกาลครามเปลี่ยนไปเล็กน้อย คนผู้นี้อยู่ในขอบเขตทะเลทุกข์ขั้นแปด เหตุใดพลังจึงแข็งแกร่งเช่นนี้
ดาบของชิงจิ่วเลื่องชื่อในกลุ่มคนรุ่นใหม่ของเมืองกาลคราม
ทว่ากลับไม่สามารถเข้าใกล้เขาได้เลยอย่างนั้นหรือ
"พวกเราช่วยกันลงมือ ฆ่าเขาให้ตาย!"
ผู้คนจากเมืองกาลครามพุ่งเข้าหาเซียวเฉินพร้อมกัน รอยประทับฝ่ามือจากพลังรากฐานแก่นแท้แหวกอากาศ ดาบร้องคำราม คมมีดบ้าคลั่ง ราวกับจะเอาชีวิตเซียวเฉิน
อย่างไรก็ตาม เซียวเฉินดูเหมือนไม่มีท่าทีจะลงมือ เขาก้าวไปข้างหน้าอีกครั้ง เจตจำนงค์การต่อสู้แผ่ซ่านไปทั้งกาย ร่างของเขาเปล่งประกายด้วยแสงแห่งการต่อสู้ที่โดดเด่น ราวกับสวมชุดเกราะเทพสงคราม
ภายใต้แสงแห่งเทพสงครามนั้น การโจมตีทั้งหมดที่พุ่งเข้าใส่เซียวเฉินนั้นสลายไปในอากาศราวกับไม่เคยปรากฏมาก่อน
เซียวเฉินสามารถสังหารโจวขวางเจาผู้อยู่ในทะเลทุกข์ขั้นเก้าได้ตั้งแต่งานประลองครั้งใหญ่ในเมืองวายุไกล บัดนี้พลังของเขายิ่งแข็งแกร่ง การโจมตีของผู้อยู่ในขอบเขตทะเลทุกข์ขั้นเก้าแทบไม่มีทางทำให้เขาสะทกสะท้าน
ฝูงชนต่างตกตะลึง เจ้าเด็กนี่มาจากไหนกัน การโจมตีของผู้อยู่ในขอบเขตทะเลทุกข์ขั้นเก้าไม่อาจทิ้งร่องรอยไว้บนร่างกายของเขาได้ดั่งใจคู่กรณี
"ตอนนี้ถึงตาข้าแล้วหรือ"
เมื่อเห็นสีหน้าหวาดกลัวของคนจากเมืองกาลคราม เซียวเฉินก็ยิ้มบาง เพียงชั่วอึดใจต่อมากำปั้นของเขาก็หมุนวนพลังรากฐานแก่นแท้ล้นทะลัก มันไหลบ่าเข้ามาเหมือนขุนเขาถล่มลง ส่งเสียงคำรามกึกก้อง
คนจากเมืองกาลครามลนลานปลดปล่อยพลังรากฐานแก่นแท้เพื่อต่อต้าน ทว่ากลับถูกหมัดของเซียวเฉินทำลายหมดสิ้น
"เจ้าต้องการเป็นศัตรูกับเมืองกาลครามอย่างนั้นหรือ" ชิงจิ่วตะโกน
"ข้าฆ่าเจ้าเมืองน้อยแล้ว เมืองกาลครามมีหรือจะปล่อยข้าไป" เซียวเฉินเยาะเย้ย
"เราฟังคำสั่งของตระกูลหวัง หากเราตาย ตระกูลหวังจะต้องฆ่าเจ้าอย่างแน่นอน" ชิงจิ่วยกตระกูลหวังขึ้นอ้างเพื่อข่มขู่เซียวเฉิน
"สุนัขรับใช้ของตระกูลหวังนี่เอง เช่นนั้นยิ่งต้องตาย!"
สิ่งที่ทำให้ชิงจิ่วประหลาดใจอย่างมากคือหลังได้ยินชื่อตระกูลหวังแล้ว หมัดของเซียวเฉินกลับแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ชวนให้ผู้คนประหวั่นพรั่นพรึง
หมัดเทพสงครามกวาดไป ศีรษะของกลุ่มคนจากเมืองกาลครามระเบิดกระจุย
ผ่านไปเพียงสามลมหายใจ พวกเซียวเฉินก็จากไป หลงเหลือไว้เพียงศพและฝูงชนที่ตกใจกลัว
"พลังยุทธ์ขนาดนี้ หากเข้าร่วมการคัดเลือกของสำนักสวรรค์ไร้ขอบเขตก็ไม่น่าจะมีปัญหาไม่ใช่หรือ"
"ไม่รู้ว่าเขาเป็นใครกันแน่ แต่ละหมัดของเขาระเบิดศีรษะของคู่ต่อสู้ได้"
"ข้าว่าเราเรียกเขาว่า 'นักฆ่าระเบิดหัว' ดีกว่า"
เซียวเฉินไม่รู้ตัวแต่อย่างใดว่าตนเองเพิ่งมาถึงเมืองไพศาล ยังไม่ทันได้ตั้งรกราก ชื่อเสียงของเขาก็แพร่สะพัดออกไปแล้ว
เพียงแต่ 'นักฆ่าระเบิดหัว' ชื่อเสียงนี้ฟังดูไม่ค่อยดีนัก
"พวกท่านรู้หรือไม่ว่าคนจากเมืองกาลครามอยู่ที่ไหน รอตั้งนานแล้วยังไม่เห็นพวกเขาขึ้นมา"
ขณะกลุ่มคนด้านหลังกำลังพูดคุยกันอย่างออกรสเกี่ยวกับที่มาของนักฆ่าระเบิดหัว หลายคนก็เดินเข้ามาถามพวกเขา
"พวกท่านเป็นคนของตระกูลหวังหรือ" คนผู้หนึ่งถามขึ้น
"ใช่"
"ดูสิ ศพไร้หัวบนพื้นเป็นคนที่พวกท่านตามหาหรือไม่"