ตอนที่แล้วตอนที่ 25 เดินทางสู่เมืองไพศาล
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 27 โด่งดังในเมืองไพศาล

ตอนที่ 26 ใช่ว่าข้าไม่เคยฆ่าคนมาก่อน


ตอนที่ 26 ใช่ว่าข้าไม่เคยฆ่าคนมาก่อน

แคว้นไพศาลมีเมืองในปกครองกว่า 360 เมือง ประชากรหลายล้านคน กว้างขวางไร้ขอบเขต

เมืองไพศาลซึ่งเป็นเมืองหลวงตั้งอยู่ใจกลางของแคว้นไพศาล กล่าวกันว่าเมืองทั้งหมดในแคว้นไพศาลตั้งอยู่ในรูปแบบเหมือนดวงดาวโอบล้อมพระจันทร์

ระหว่างทางไปเมืองไพศาล เซียวเฉินและไป๋เนี่ยนปิงพบว่ายิ่งเข้าใกล้เมืองไพศาลมากเท่าไหร่ ความแข็งแกร่งโดยรวมของผู้บำเพ็ญก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

เมืองวายุไกลตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้อันห่างไกล ขอบเขตทะเลทุกข์ขั้นเก้านับเป็นพลังการต่อสู้ขั้นสูงสุดแล้ว

ทว่าในเมืองต่าง ๆ รอบเมืองไพศาล ผู้บำเพ็ญในขอบเขตสะพานชีวานั้นพบเห็นได้ทั่วไป ความรุ่งเรืองของการฝึกวิชาการต่อสู้ก็เหนือกว่าเมืองวายุไกลมาก

อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่ได้หยุดพักมากนัก ทุ่มเวลาเกือบทั้งหมดไปกับการเดินทาง

หลังจากนั้นหลายวัน

"ในที่สุดก็มาถึงแล้ว"

เมื่อมองไปที่ประตูเมืองไพศาลที่สง่างามและยิ่งใหญ่ เซียวเฉินและไป๋เนี่ยนปิงที่เดินทางมาอย่างยากลำบากก็ยิ้มให้กัน

ช้ากว่านี้อาจจะไม่ทันการประเมินของสำนักสวรรค์ไร้ขอบเขต

"เราเข้าเมืองไปหาที่พักกันก่อน"

เมื่อก้าวเข้าสู่เมืองไพศาล เซียวเฉินและไป๋เนี่ยนปิงก็รู้สึกตื่นตะลึง เมืองหลวงมีผู้คนมากมายใช้สัตว์อสูรน่าเกรงขามเป็นพาหนะ ดูสง่างามยิ่งนัก

เมื่อม้าของเซียวเฉินและไป๋เนี่ยนปิงเดินผ่านสัตว์อสูรเหล่านั้น มันก็สั่นเทาไปหมด

สัตว์อสูรเหล่านั้นเห็นว่าม้าของเซียวเฉินกลัวมาก ก็ส่งเสียงร้องอย่างภาคภูมิใจราวกับกำลังแสดงถึงความพิเศษของมัน

"แรดปฐมสีครามขอบเขตทะเลทุกข์"

เซียวเฉินถอนหายใจ สัตว์อสูรที่เดินผ่านพวกเขาไปนั้นกลับกลายเป็นสัตว์อสูรขั้นสูงสุดของขอบเขตทะเลทุกข์ ไม่ธรรมดายิ่งนัก

หากเป็นสัตว์อสูรขอบเขตสะพานชีวา มันสามารถสยบปราณของคนทั้งเมืองวายุไกลได้ด้วยซ้ำ

"ไม่ต้องกลัว" เซียวเฉินตบม้าเบา ๆ ซื้อแผนที่เมืองไพศาลจากริมถนนเพื่อหาที่พัก

"ตอนนี้เราอยู่ในเมืองไพศาลตอนใต้ ที่พักที่โด่งดังที่สุดที่นี่คือ...โรงเตี๊ยมทักษิณไพศาล!"

ในไม่ช้า เซียวเฉินและไป๋เนี่ยนปิงก็ตามแผนที่ไปยังโรงเตี๊ยมทักษิณไพศาล ที่นี่คึกคักมาก ตกแต่งอย่างหรูหรา แม้แต่เสี่ยวเอ้อร์ก็ยังเป็นผู้บำเพ็ญในขอบเขตทะเลทุกข์เก้าขั้น

เดิมทีเสี่ยวเอ้อร์ที่นี่ไม่ค่อยเต็มใจดูแลเซียวเฉินและไป๋เนี่ยนปิง แต่เมื่อเห็นว่าพวกเขาใจกว้างและเอื้อเฟื้อ ก็เปลี่ยนท่าทีเป็นเคารพในทันที

เซียวเฉินไม่ถือสา จูงม้าไปที่ลานด้านหลังพร้อมไป๋เนี่ยนปิง

ที่นี่มีสัตว์อสูรมากมายเช่นกัน เมื่อมาถึงม้าก็หดคอด้วยหวาดกลัวมาก

เซียวเฉินหยิบหญ้ามาแล้วยืนอยู่ข้างม้า

เมื่อมีเจ้านายอยู่ข้าง ๆ มันก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาก จึงกินอย่างเอร็ดอร่อย

"ฮี้"

หลังกินอิ่มแล้วก็ส่งเสียงร้องอย่างพึงพอใจ ทั้งยังถีบเท้าหลังอีกด้วย เรียกเสียงหัวเราะของเซียวเฉิน มันร่วมทางกับเขามาตลอดทาง สมควรได้พักผ่อนแล้ว

ชั่วขณะนี้เองเสียงคำรามเกรี้ยวกราดก็ดังมาจากโรงนาด้านหลัง

เซียวเฉินและไป๋เนี่ยนปิงไม่ได้สนใจ เตรียมจะออกจากลานด้านหลัง

"เดี๋ยวก่อน!"

เสียงตะโกนดังขึ้น เซียวเฉินหันไปจ้องขณะชะงักฝีเท้า

"มีอะไร" น้ำเสียงของเซียวเฉินไม่สบอารมณ์พลางมองอีกฝ่าย

ชายหนุ่มในอาภรณ์หรูหราเดินเข้ามา สีหน้าหยิ่งยโส แววตาดูถูกเหยียดยามมองมายังเซียวเฉิน

เมื่อเห็นไป๋เนี่ยนปิง ดวงตาของชายหนุ่มผู้นั้นทอประกายละโมบอย่างชัดเจน

สิ่งนี้ทำให้สีหน้าของเซียวเฉินยิ่งเยือกเย็น ก้าวไปข้างหน้าครึ่งก้าว บังปกป้องไป๋เนี่ยนปิงเอาไว้

"ถ้าไม่มีอะไร ข้าขอตัวก่อน"

"ช้าก่อน ฝุ่นที่ม้าเจ้าดีดมาเปื้อนหญ้าของจั้วจี้จนทำมันหมดอารมณ์จะกินแล้ว เรื่องนี้เจ้าควรมีคำอธิบายไม่ใช่หรือ" อีกฝ่ายเอ่ยเสียงเข้ม

“ทำหญ้าของจั้วจี้เปื้อนหรือ” เซียวเฉินกวาดตามอง เห็นวัววิญญาณเกราะแดงด้านหลังอีกฝ่ายแล้วพูดไม่ออก

“เจ้าต้องการอะไรกันแน่”

เซียวเฉินถามกลับ ม้าของเขาอยู่ห่างจากสัตว์อสูรของอีกฝ่ายตั้งไกล ต่อให้ดีดเท้าไปด้านหลังก็ไม่ได้เกิดฝุ่นมากมาย จะเปื้อนหญ้าของวัววิญญาณเกราะแดงได้สักเท่าใด ความไม่เจริญอาหารของมันกลายเป็นความผิดของม้าเขาได้อย่างไรกัน

สัตว์อสูรพวกนี้เป็นสัตว์ป่า ก่อนกินหญ้ากินเนื้อต้องล้างน้ำก่อนหรืออย่างไรกัน

“สัตว์ทำความผิด เป็นความบกพร่องในการฝึกของเจ้านาย ดังนั้นขอโทษจั้วจี้ของข้าเดี๋ยวนี้!” ฝ่ายตรงข้ามเอ่ยเสียงเรียบ ราวกับมันเป็นเรื่องปกติ

“เสียสติไปแล้วหรือ” เซียวเฉินคร้านจะแยแส เห็นทนโท่ว่าเป็นเพียงหนุ่มเสเพลที่เคยตัวกับอวดเบ่งและใช้ชีวิตไปวัน ๆ ระรานผู้อื่นไปทั่ว

“ไอ้เวรนี่!”

ชายหนุ่มเห็นเซียวเฉินและไป๋เนี่ยนปิงหันหลังจากไปก็เผยท่าทีไม่พอใจทันที

ตั้งแต่เด็กเขาไม่เคยถูกใครเพิกเฉย!

ตูม!

ปราณปั่นป่วนปะทุออกมาจากร่างของเขา ฝ่ามือสั่นเทา พลังรากฐานแก่นแท้พุ่งออกไปในทันที ม้าของเซียวเฉินก็ถูกพลังฝ่ามือฟันเป็นสองท่อนในทันที เลือดไหลนองเต็มพื้น

เซียวเฉินหยุดเดินในทันที มองสัตว์พาหนะที่เดินทางมาด้วยกันถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม แววตาสงบนิ่งของเขาก็ปรากฏความโกรธสุดขีด!

“ม้าธรรมดาชั้นต่ำไหนเลยจะมีค่าเท่าวัววิญญาณเกราะแดงของข้า” อีกฝ่ายยิ่งเอ่ยค่อนแคะเสียงดังเมื่อเห็นอารามกรุ่นโกรธของเซียวเฉิน

ราวกับว่านี่คือสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เขาไม่พอใจ

"ข้าจะให้อีกโอกาสแก่เจ้า ถ้าเจ้าไม่ยอมขอโทษและแสดงความเสียใจ สภาพของเจ้าก็จะไม่ต่างกับสัตว์เดรัจฉานตัวนั้น!" ชายหนุ่มชุดหรูหราไม่รู้ว่าเซียวเฉินโมโหแค่ไหน ยังท้าทายขีดจำกัดของเซียวเฉินต่อไป

เซียวเฉินเงยหน้ามองฝ่ายตรงข้าม จากนั้นก็เดินไปทางวัววิญญาณเกราะแดง

ผู้คนรอบข้างต่างแสดงสนอกสนใจ จะขอโทษวัววิญญาณเกราะแดงจริงหรือ?

"ถือว่าเจ้ายังฉลาด" ชายหนุ่มชุดหรูหรายิ้มบอก ทว่าชั่ววินาทีถัดมารอยยิ้มบนใบหน้าก็แข็งค้างไป

เซียวเฉินออกหมัดต่อยเกราะสีแดงของมันจนแตกกระจาย หัววัวก็ระเบิดออก ดูแล้วสยดสยองยิ่งนัก

"เจ้ากล้าฆ่าสัตว์พาหนะของข้า ไม่กลัวตายหรือ แม้เจ้าจะคุกเข่าขอขมา ข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไป นอกเสียจากว่าเจ้าจะมอบหญิงงามผู้นี้ให้แก่ข้า บางทีข้าอาจพิจารณาไว้ชีวิตเจ้า!"

อีกฝ่ายมองไป๋เนี่ยนปิง รอยยิ้มชั่วร้ายผุดขึ้นบนใบหน้า เซียวเฉินกลับหันหลังมาส่งแววตาส่อไอสังหารเยือกเย็นมาให้เขา

ตุบ!

ผืนดินสั่นสะเทือน เซียวเฉินเดินไปหาชายหนุ่มชุดหรู ก่อนเหวี่ยงหมัดทรงพลังออกไป

"กล้าลงมือกับข้าหรือ"

อีกฝ่ายมีรอยยิ้มเยาะอยู่ที่มุมปาก แสงสว่างวาบในมือเขาก่อนดาบยาวจะปรากฏขึ้น แสงลึกลับนั้นส่องประกายราวกับว่ามันไม่ใช่อาวุธธรรมดา

"ดาบอาคมยุทธ์" ไป๋เนี่ยนปิงกระซิบ อาวุธที่แกะสลักด้วยรอยสลักอาคมเรียกว่าอาคมยุทธ์

ราคาของดาบอาคมยุทธ์ขอบเขตทะเลทุกข์นั้นแพงกว่าอาวุธธรรมดาหลายสิบหลายร้อยเท่า

หากเป็นดาบอาคมยุทธ์ระดับสูงกว่านั้นจะยิ่งมีค่ามาก

ชายหนุ่มชุดหรูซึ่งเป็นผู้บำเพ็ญในขอบเขตทะเลทุกข์ขั้นเก้ามีดาบอาคมยุทธ์ในครอบครอง สามารถเพิ่มพลังยุทธ์ได้มากทีเดียว!

ถึงกระนั้นในจังหวะที่ชายหนุ่มชุดหรูฟาดดาบออกไป หมัดก็สวนเข้ามาอย่างรุนแรงราวขุนเขากดทับลงมา เขารู้สึกถึงพลังที่ไม่อาจต้านทานได้พุ่งเข้าใส่แขนของเขา ดาบหลุดออกจากมือก่อนร่วงตกลงไปบนพื้นในทันที!

ร่างกายของเขากระแทกออกไป เมื่อเห็นเซียวเฉินยังคงเดินอาดมาหา ใบหน้าก็ปรากฏแววตื่นตระหนกในท้ายที่สุด

"เจ้าฆ่าข้าไม่ได้ ข้าเป็นเจ้าเมืองน้อยของเมืองกาลคราม ถ้ากล้าแตะต้องข้า เจ้าจะต้องตายเป็นแน่!" เจ้าตัวร้องตะโกน

"ก็แค่เจ้าเมืองน้อย ใช่ว่าข้าไม่เคยฆ่า!"

หมัดของเซียวเฉินไม่รอช้าพุ่งต่อยศีรษะของชายหนุ่มคู่กรณี!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด