ตอนที่ 19 ฆ่าคนครั้งแรก!
ตอนที่ 19 ฆ่าคนครั้งแรก!
ชายหน้าม้าหรี่ดวงตาเล็ก เขาไม่อาจทราบได้ว่าจี้เตี๋ยทราบเรื่องตนเองบุกเข้ามาได้อย่างไร แต่กระนั้นเขาก็ยังเร่งร้อนยกแขนขึ้นมาต้านรับเอาไว้
อึดใจถัดมา หมัดของจี้เตี๋ยต่อยเข้าใส่จนเป็นเหตุให้ชายหน้าม้าส่งเสียงแผดร้องโหยหวนดังออกมา ร่างนั้นถอยเท้าไปหลายก้าวขณะแขนห้อยและสั่นเทา
ชายหน้าม้าเผยสีหน้าดำมืดขณะมองยังเด็กหนุ่มตรงหน้าตนเอง
“บัดซบ เจ้ารู้เรื่องเกสรดอกไม้บนตัวเจ้าได้ยังไง!”
“เกสรดอกไม้นั่นงั้นหรือ อย่างที่คิดไว้สินะ” จี้เตี๋ยหรี่สายตาลงเล็กขณะจิตใจกระจ่างยิ่งกว่ากระจกใส เพราะเหอเฉียงเดินมาชนในช่วงกลางวัน มันคือการทิ้งเกสรดอกไม้เอาไว้กับเสื้อของเขา!
“เหอะ รู้แล้วยังไงล่ะ ไอ้หนู ส่งผลยกวิญญาณที่อยู่ในถุงมิติของแกออกมา หากว่าง่ายข้าจะให้ตายสบาย!” ชายหน้าม้าพยายามสงบจิตใจก่อนจะเผยยิ้มของผู้เหนือกว่าออกมา
จี้เตี๋ยเลิกคิ้ว เขาไม่อาจทราบว่าเหตุใดอีกฝ่ายถึงประสงค์ร้ายขนาดคิดฆ่ากันให้ตายถึงขั้นนี้ “ข้าไม่มีผลยกวิญญาณ”
“เหอะ ในเมื่อปฏิเสธไม่มอบให้ งั้นก็ต้องฆ่าแล้วแย่งชิงมา!” ชายหน้าม้าแค่นเสียงก่อนจะตบถุงมิติของตนเอง กระบี่เล่มยาวพลันปรากฏในมือพร้อมเฉิดฉายประกายแสงคมกล้าวาบผ่านออกมา
“กล้าฆ่าคนในสำนักเจ็ดลึกล้ำ ไม่กลัวโดนสำนักลงโทษหรือไร?” จี้เตี๋ยเผยสีหน้าดำมืด เขาทราบดีว่าวันนี้คงไม่มีทางจบลงด้วยสันติวิธีอีกต่อไปแล้ว
ยามเมื่อแสงกระบี่โจมตีเข้าใส่ เขาเร่งร้อนก้าวเท้าหลบเลี่ยงอย่างว่องไว
เสียงปะทะดังสนั่น กระบี่เล่มยาวที่เกือบผ่าไหล่ของเขาสะพายแล่งได้ทะลวงปักเข้าใส่โขดหินที่อยู่ด้านหลัง!
“หากเจ้าคิดกล่าวโทษใคร ก็จงกล่าวโทษตนเองที่ทั้งครอบครองของมีค่าและหาญกล้าไปมีเรื่องกับศิษย์พี่หญิงซ่ง! ส่วนเรื่องฆ่าเจ้า ข้าที่เป็นผู้ดูแลพื้นที่แถบนี้มีหรือจะปิดเรื่องให้เงียบไม่ได้? นอกจากนี้เจ้าจะตายโดยไร้ซึ่งร่างให้กลบฝัง ผงป่นกระดูกจะทำให้เจ้าตายอย่างไร้ร่องรอย ใกล้เคียงนี้หาได้มีใครไม่ แล้วผู้ใดกันจะทราบว่าข้าเป็นคนฆ่า!”
ชายหน้าม้าแผดเสียงหัวเราะอันคลุ้มคลั่งออกมา กระบี่เล่มยาวถูกดึงกลับเข้ามือพร้อมส่งประกายแสงสะท้อนความเย็นเยือกออกมา
พบเห็นอีกฝ่ายบุกเข้ามาอีกครั้ง จี้เตี๋ยยกแขนขึ้นพร้อมตบถุงมิติของตนเองเรียกกระบี่ไม้ออกมาเล่มหนึ่ง ด้วยความช่วยเหลือจากพลังวิญญาณ มันจึงแปรเปลี่ยนเป็นประกายแสงกระบี่ท่ามกลางความมืดพร้อมพุ่งตรงเข้าหาชายหน้าม้า
“ก็แค่กระบี่ไม้!” ชายหน้าม้าแค่นเสียงเย้ยหยัน กระบี่ของเขาคืออาวุธวิเศษขั้นต้น ต่อให้อีกฝ่ายใช้อาวุธที่เป็นโลหะธรรมดาก็ยังไม่อาจเทียบ ดังนั้นยามฟาดฟันเข้าใส่กระบี่ไม้กลางอากาศ จึงเป็นการผ่ามันออกเป็นสองท่อนร่วงหล่นลงกับพื้น
เพียงแต่ทันใดนี้เองที่หมัดหนึ่งได้แทรกตัวผ่านอากาศมาหยุดตรงหน้า
“เหอะ! ไม่รู้จักประมาณตน!” ชายหน้าม้าเผยสีหน้าดำมืดขณะกวัดแกว่งกระบี่ในมือออกไปอย่างรวดเร็ว
สายลมพัดวูบไหว ใบไม้ลอยล่องในอากาศถูกผ่าออกเป็นสองรอยด้วยแยกที่เรียบเนียน
จี้เตี๋ยถูกแรงผลักจนร่างกระเด็น สุดท้ายต้องถอยไปยืนอยู่ไกลด้วยสีหน้ามืดมน
หากว่าไม่ปลดอาวุธจากมือของศัตรู เขาก็คงไม่มีโอกาสเล่นงานอีกฝ่าย เพราะต่อให้เข้าใกล้ก็จะถูกกดดันจนต้องถอยกลับ!
เพียงแต่ชายหน้าม้าไม่คิดเปิดโอกาสให้จี้เตี๋ยได้ทำตามใจชอบ เขาใช้พลังวิญญาณขับกระบี่ในมืออีกครั้งหนึ่ง มันแปรเปลี่ยนเป็นลำแสงกระบี่พุ่งทะยานเข้าใกล้จี้เตี๋ยอย่างรวดเร็ว
ปัจจุบันยังมีโอกาส จี้เตี๋ยเร่งร้อนถอยหลบ กระนั้นไหล่ของเขาก็ยังถูกคมกระบี่ทิ่มแทงเล่นงานจนเลือดไหลหลั่งออกเป็นทาง!
พบเห็นแสงกระบี่แปรเปลี่ยนทิศพุ่งเข้าหาตนเองอีกครั้ง จี้เตี๋ยจึงรวบรวมพลังวิญญาณเพื่อทะยานร่างไปยังป่าที่อยู่ใกล้เคียง
“อย่าคิดว่าจะหนีรอด ส่งถุงมิติของเจ้ามาแต่โดยดี บางทีข้าอาจยอมละเว้นชีวิตให้!” ชายหน้าม้าแค่นเสียงก่อนจะไล่ตามไป กระบี่ในมือของเขายังพยายามคุกคามจี้เตี๋ยครั้งแล้วครั้งเล่าที่ไล่ตามจนเข้าระยะโจมตี
“อยากได้ผลยกวิญญาณงั้นหรือ ข้าจะให้ก็แล้วกัน!” จี้เตี๋ยเลือกหนทางหลบหนี แต่เขาก็คอยตรวจสอบความเคลื่อนไหวทางด้านหลังอยู่ตลอดด้วยเช่นกัน ยามพบเห็นชายหน้าม้ายังคงไล่ตาม เขาจึงนำผลยกวิญญาณออกมาจากถุงมิติก่อนจะแค่นเสียงและโยนมันไปทางด้านหลัง
“ที่แท้เจ้าก็มีมันอยู่! ทั้งยังมากมายเสียด้วย!” ชายหน้าม้าที่คิดผ่ามันด้วยกระบี่ แต่ภายหลังพบเห็นว่าสิ่งที่โยนมาคืออะไร เขาอดไม่ได้จนต้องเผยดวงตาเบิกกว้างและเร่งร้อนหลบเลี่ยง
“ใช่ ข้ามีมากเท่าที่เจ้าอยากจะได้เลยทีเดียว เก็บมันเสียสิ!” จี้เตี๋ยหัวเราะดังก่อนจะนำผลยกวิญญาณออกมาขว้างโยนใส่อีกฝ่ายต่อเนื่อง
“ไม่ต้องห่วง ข้ามาเก็บมันแน่ แต่เป็นภายหลังฆ่าเจ้า!” ชายหน้าม้าเผยดวงตาเปี่ยมล้นด้วยความละโมบ เขาทราบดีว่าจี้เตี๋ยจงใจโยนสิ่งล่อใจมากมายออกมาเพื่อทำให้ตนเองสับสน จนถึงขนาดเสียเวลาไปเก็บมันตามรายทาง
หากสบโอกาส จี้เตี๋ยอาจลงมือลอบโจมตี หรือไม่ก็เผ่นหนีจนป่าราบ
พบเห็นว่าไม่สามารถล่อหลอกอีกฝ่าย จี้เตี๋ยไม่ได้แตกตื่นหรือตกใจ เขายังคงวิ่งหนีอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็คอยโยนผลยกวิญญาณออกไปเพื่อขัดขวางชายหน้าม้าที่พยายามไล่ตาม และการกระทำนี้เขาไม่ได้มีท่าทีเสียดายแม้แต่น้อย เพราะเพียงแค่ชั่วครู่ เขาก็โยนผลยกวิญญาณไปมากกว่ายี่สิบผลแล้ว
แผนการเดิมในค่ำคืนนี้ของเขาคือสกัดพลังมาใช้งาน หาได้นึกคิดไม่ว่าจะได้นำมาใช้เป็นอาวุธลับเช่นนี้!
“ข้าอยากได้เห็นนักว่าเจ้าจะมีอีกสักเท่าไหร่!” ชายหน้าม้าพยายามหลบเลี่ยงผลยกวิญญาณอย่างต่อเนื่อง ทำให้ความเร็วการไล่ตามเชื่องช้ากว่าที่ควรเป็น กระนั้นเขาไม่ได้ละสายตาไปจากเป้าหมาย เขากำลังรอคอยให้จี้เตี๋ยโยนออกมาจนหมดตัว ถึงตอนนั้นจะได้เป็นโอกาสสังหารอีกฝ่าย!
ถึงตอนนั้นทั้งหมดจะได้เป็นของเขา!
แต่แล้วทันใดนี้เองที่แสงเย็นเยือกปรากฏออกมาจากผลยกวิญญาณที่กำลังพุ่งเข้าหา มันมีเข็มสีเงินขนาดเล็กพุ่งปักเข้าหาตัวเขา!
ชายหน้าม้าที่เพิ่งตระหนักพบเห็นจึงพยายามเร่งร้อนหลบเลี่ยง และเพราะไม่ตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงนี้มาก่อน ทำให้เข็มสีเงินทิ่มแทงเข้าใส่ฝ่ามือ
“ไอ้เดรัจฉานนี่ ข้าจะฆ่าเจ้าให้ตาย!” ความเจ็บปวดทิ่มแทงหัวใจโลดแล่น แขนของชายหน้าม้าพลันอ่อนเรี่ยวแรง กระบี่เล่มยาวร่วงหล่นลงกับพื้นส่งเสียงดัง สีหน้าของเขาแสดงออกว่าทั้งเจ็บปวดและคับแค้น
“ข้าจะฆ่าเจ้า”
สิ้นเสียงอันเย็นเยือก หมัดที่แหวกผ่านสายลมปรากฏตรงหน้าเข้าปะทะกับหน้าอกของชายหน้าม้าจนกระอักเลือดออกมาคำโต ทั้งกายปลิวกระเด็นไปก่อนจะร่วงหล่นลงกระแทกพื้น
“ข้าจะฆ่าเจ้า ฆ่าเจ้า!” ชายหน้าม้าพยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้นด้วยท่าทีคลุ้มคลั่ง
เพียงแต่เขากลับได้พบดวงตาที่ไร้อารมณ์มองมา เลือดในกายของเขาเกิดเย็นเยียบ ขณะก้มศีรษะมอง เขาจึงได้เห็นกระบี่เล่มยาวแทงทะลุหน้าอกของตนเอง กระทั่งทะลวงโผล่คมกระบี่ที่ด้านหลังของร่างกาย!
“เจ้า… ข้า…” ชายหน้าม้าเผยนัยน์ตาที่เริ่มมัวหมอง ร่างกายโอนเอนก่อนจะหงายหลังล้มลง สุดท้ายคำที่อยากเอ่ยกลับไม่อาจเปล่งเสียงต่อ
คาดเดาว่าเขาคงไม่นึกคิดจนกระทั่งตายไปเช่นนี้ ว่าตนเองจะต้องตายด้วยกระบี่ที่เคยภาคภูมิแสนหนักหนา!
“ใครฆ่าใครกันแน่ เหอะ!” จี้เตี๋ยยืนตรงหน้าร่างไร้ชีวิตขณะหอบหายใจ ร่างกายของเขายังคงสั่นเทา
มันคือการฆ่าคนครั้งแรกในชีวิตของเขา ดังนั้นในเวลานี้จึงทั้งประหม่าและร้อนรน เพียงแต่หากว่าไม่ฆ่า ตนเองก็คงต้องเป็นศพเสียเอง ดังนั้นเขาจึงต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาดเพื่อลงมือ
แต่ภายหลังได้สังหารคนไปแล้วครั้งหนึ่ง มันยากที่เขาจะควบคุมสติอารมณ์ของตนเองเอาไว้ได้!
ภายหลังเวลาผ่านไปนาน สายลมเย็นยามค่ำคืนพัดผ่านอีกครั้งหนึ่ง จนกระทั่งทำให้จิตใจของจี้เตี๋ยเกิดความกระจ่างขึ้นมาได้บ้าง
“ต้องไม่ปล่อยให้ใครมารู้เรื่องที่เราสังหารมัน ไม่งั้นคงได้เกิดปัญหาใหญ่ขึ้นแน่ ต้องทำลายร่างและกลบฝังร่องรอยทั้งหมดให้เรียบร้อย! เหมือนจำได้ว่ามันบอกว่ามีผงป่นกระดูกอยู่นี่นะ!” จี้เตี๋ยที่แม้ใบหน้าซีดเผือดก็ยังพยายามสงบจิตใจของตนเอง เขาเร่งร้อนค้นร่างของชายหน้าม้าจนกระทั่งพบถุงมิติ
เพราะความตายของชายหน้าม้า ถุงมิติจึงไม่ได้เชื่อมโยงใดด้วย จนกลายเป็นสภาวะไร้เจ้าของ
จี้เตี๋ยกัดปลายนิ้วของตนเหมือนที่เคยทำก่อนจะหยดเลือดลงไป ความเชื่อมโยงกับมิติภายในถุงก่อเกิดขึ้น สุดท้ายเขาจึงเริ่มค้นหาจนพบขวดน้อยที่อยู่ด้านใน
“นี่หรือ?” จี้เตี๋ยนำออกมาพลางเขย่าดู เขาได้พบว่าภายในคือผงสีแดงชาดส่องสว่าง แม้ไม่ทราบว่ามันจะป่นกระดูกเป็นผงได้อย่างไร แต่วิธีการรวดเร็วที่สุดคือทดลองเทใส่ร่างชายหน้าม้า ผู้ที่แม้ตายแล้วดวงตายังคงเบิกกว้าง
ขณะผงร่วงหล่นลงสู่ร่างไร้ชีวิต อึดใจถัดมาร่างนั้นจึงเริ่มสลายตัวราวกับระเหยไปกับอากาศธาตุ!
สิ่งที่หลงเหลือมีเพียงแค่เสื้อผ้า!