หักมุม บทแรก
“หลี่หมินเครื่องบินพร้อมแล้วรึยัง”หวังหยวนกล่าวออกไปพลางกระชับชุดสูทที่ทางห้องตัดเสื้อของ Balti ตัดให้เขาเป็นพิเศษสีน้ำตัดขาวพร้อมเนคไทสีแดงดูแล้วช่างเขากลับเขามาก
“เรียบร้อยครับนายน้อยพร้อมบินทุกเมื่อ”หลี่หมินกล่าวออกมา
“ดีงั้นก็ไปสนามบินเถอะ”หวังหยวนกล่าวพลางหลับตาลงแต่จริงๆแล้วเขากำลังคุยกับเทียนเต๋าหรือระบบอยู่
‘เฮ้ไหนนายบอกว่า S-10 เป็นที่ต้องการของทุกจักรวาลไงทำไมมันถึงเงียบแบบนี้’หวังหยวนกล่าวถามออกไป
[ข้าไม่ได้โกหกท่านหรอกโฮสต์เพียงแค่ช่วงนี้นั้นมันไม่จำเป็นแล้วเท่านั้นเพราะตอนนี้จักรวาลระดับสูงเขจ้ามาแทรกแซงจึงทำให้หุ่นยนต์ S-10 นั้นตกรุ่นไปเพราะพวกเขาได้ส่งสุดยอดหุ่นยนต์อย่าง S-007 ออกมามันเป็นอีกขั้นของหุ่นยนต์เลยก็ว่าได้ทั้งแฝงตัวสายลับเทคนิคต่อสู้ครบครันมีความฉลาดไม่ต่างจากยอดอัจฉริยะในจักรวาลแถมยังมีชิปฝังความภัคดีเต็มร้อยด้วย แตกต่างจาก S-10 ที่พวกมันมีความคิดเป็นของตัวเอง]
‘เฮ้อนี้ฉันต้องรออีกแล้วเหรอเนี่ยแล้วก็แต้มสิบแต้มนี้ทำอะไรไม่ได้มากจริงๆ’หวังหยวนถอดทอนใจออกมา
“ถึงแล้วครับนายน้อยแต่นายน้อยครับมีแค่ผมไปคนเดียวแบบนี้จะดีจริงๆงั้นเหรอ”หลี่หมินกล่าวออกมาอย่างกังวล
“ใช่นายคนเดียวก็พอแล้ว”หวังหยวนพูดออกมาเพราะตั้งแต่ IQ เขาทะลุสองร้อยไปดูเหมือนมันจะทำให้สมองเขาปลอดโปร่งและประสาทสัมผัสเฉียบคมขึ้นเขาจึงมักจะรู้สึกอยู่เสมอว่ามีคนกำลังจับตาดูเขาอยู่ห่างๆแต่อีกฝ่ายไม่เผยตัว
และถ้าเป็นแบบนั้นจริงก็คงมีกองกำลังเดียวเท่านั้นในตระกูลหวังกองกำลังเงาซึ่งเขาก็ไม่ได้แปลกใจแต่อย่างใดในเมื่อเขาเป็นทายาทเพียงคนเดียวของตระกูล
แต่ส่วนใหญ่แล้วกองกำลังเงาพวกเขานั้นเป็นนักฆ่าฝีมือฉกาจ!! ที่ถนัดรอบเร้นและลอบสังหาร
เครื่องบินเจ็ทส่วนตัวค่อยบินขึ้นไปบนท้องฟ้าและออกเดินทางไปยังอีกฝากของซีกโลก
โดยที่ในโทรศัพท์ของหวังหยวนนั้นเขากำลังอ่านข่าวที่เป็นกระแสในตอนนี้อยู่
“ตระกูลหวังสนในในด้านลูกหนังมากพอสมควรพวกเขาจึงยื่นซื้อจิ้งจอกสยาม 800 ล้านดอลล่า”BBC รายงานข่าวออกมาไม่ใช่แค่BBC เท่านั้น
อีกสองสำนักใหญ่ก็เช่นกัน
“จริงหรือหลอกมีการยื่นซื้อหนึ่งทีมดังในอังกฤษ” The Sun ถึงพวกเขาจะไม่บอกว่าทีมไหนเพราะในอังกฤษนั้นถือว่ามีทีมดังมากมายแต่พวกเขากลับใช้รูปจิ้งจอกตัวน้อยคนอ่านข่าวจึงเชื่อมโยงได้
“ทายาทตระกูลหวังบินลัดฟ้ามาเพื่อเจราจากับทาง คิงพาวเวอร์แล้วเรียบร้อย”The Guardian พร้อมแนบรูปที่หวังหยวนกำลังเดินออกจากเกต VVIP
“ฮืมนักข่าวพวกนี้หูตาไวจริงๆ”หวังหยวนส่ายหัวออกมาเขาพึ่งลงมาถึงพวกนี้กลับรู้สะแล้ว
“นายน้อยเราจะเดินทางไปสโมสรเลสเตอร์เลยไหมครับ”หลี่หมินกล่าวถามออกมา
“ยังก่อนรออีกฝั่งเทคแอคชั่นออกมาก่อน”หวังหยวนส่ายหัวออกมาเขาต้องการรอดูสะก่อนว่าทางเลสเตอร์จะทำยังไงกับข่าวที่มากะทันหันแบบนี้เพราะเขานั้นไม่ได้ติดต่ออีกฝ่ายไปเลยแม้แต่น้อย!!
สโมสรเลสเตอร์ซิตี้ ตั้งอยู่ ภาคมิดแลนด์สตะวันออกของประเทศอังกฤษ และเลสเตอร์เป็นเมืองหลวงของเทศมณฑลเลสเตอร์เชอร์ เมืองตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำซอร์และอยู่ใกล้กับขอบตะวันออกของเขตป่าสงวนแห่งชาติ เมืองตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเบอร์มิงแฮมและคอเวนทรี อยู่ทางทิศใต้ของนอตทิงแฮม และอยู่ทางทิศตะวันตกของปีเตอร์โบโร
ในห้องประชุมของสโมสรมีผู้บริหารกว่ายี่สิบชีวิตกำลังทำหน้าจริงจังและเคร่งเครียดอยู่ชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่หนึ่งอยู่ตัวกลางเอ่ยปากออกมา
“พวกคุณคิดว่ายังไงในเป็นเพียงข่าวลือ”ธนวัฒน์ กล่าวออกมาเขาที่รับช่วงต่อจากพ่อนั้นมีปัญหารุมเล้ามากมายจริงๆอย่างแรกเขาต้องการขยายสานามจนทำให้สโมสรต้องเป็นหนี้และทำทีมตกชั้นถึงจะสามารถชำระหนี้ได้หมดแต่นั้นก็เป็นเพราะการขายนักเตะดังๆออกไปรวมถึงค่าตั๋วที่แพงขึ้นมันถือว่าแพงว่ากว่าทีมในแชมป์เปี้ยนชิพรวมกันสะอีกและเขาทีทำแบบนี้แฟนบอลยิ่งเริ่มไม่พอใจในตัวเขามากขึ้น
“ผมคิดว่าจริงเพราะพวกเขานั้นได้เดินทางมาที่อังกฤษแล้ว”วิลเลี่ยมกล่าวออกมาเขาถือว่าเป็นคนเก่าแก่ของสโมสรเขานั้นอยู่มายาวนานที่สุดแล้วและส่วนใหญ่ในห้องนี้ก็เป็นคนใหม่ทั้งนั้นและถ้าเขาคิดไม่ผิดละก็พวกนี้คงตัดสินใจขายแน่ๆ
“คุณธนวัฒน์ขายเถอะยังไงเราก็ไม่เป็นที่ต้อนรับของแฟนบอลแล้วและการแบกรับต่าง ๆนั้นตอนนี้เกินกำลังของเราไปไกลแล้วถึงกลับไปพีเมียร์ลีคได้ก็ไม่รู้เลยว่าจะอยู่รอดไหมถ้าเราตกชั้นมาอีกครั้งละก็”โครทรีพูดออกมาตรงๆเพราะสถานการณ์ของพวกเขานั้นไม่ดีจริงๆถึงจะใช้หนี้ให้สโมสรหมดแต่พวกเขากลับไม่เหลืออะไรแล้วไม่แม้แต่จะมีงบเสริมตัวนักเตะได้ด้วยซ้ำ!
แค่จ่ายค่าเหนื่อยนักเตะพวกเขาก็อ่วมแล้วไม่ต้องพูดเรื่องเสริมทัพอะไรเถือกนั้นเลย
ธนวัฒน์จมอยู่กับความคิดสิ่งที่โครทรีพูดมาก็ไม่ผิดนักอีกอย่างเขาโตมาที่ไทยไม่ได้โตมาที่อังกฤษจึงไม่ได้ซึมซับและบ้าฟุตบอลเหมือนกับพ่อของตนเขานั้นมองผลกำไรมากกว่าและตอนนี้สโมสรนี้กำลังเหนี่ยวรั้งเขาไว้
“ดีผมตัดสินใจแล้วงั้นขายเถอะมีใครจะคัดค้านไหม”ธนวัฒน์กล่าวออกมาพลางมองไปยังรอบที่หลายๆคนมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้าเพราะถ้าขายได้พวกเขาย่อมได้ส่วนแบ่ง!
“ประธานผมคิดว่าข้อเสนอ 800 ล้านดอลล่านั้นน้อยไปและอีกอย่างตามข่าวแล้วตระกูลหวังส่งเด็กสิบเก้ามาเจราจาธุรรกิจนี้ไม่เท่ากับเปิดโอกาสให้กับเราเหรอ?”โครทรีกล่าวออกมาด้วยความโลภเขาไม่พอใจกับตัวเลข 800 ล้านดอลล่านี้
“คุณคิดว่าเราควรโก่งราคราขึ้นเท่าไหร่”ธนวัฒน์พยักหน้าออกมาอย่างเห็นด้วยวงการนี้มันก็แบบนี้แหละไม่มีความสงสารอยู่ในสายเลือดนักธุรกิจหรอก!
“2,000 พันล้านดอลล่าเป็นอย่างไรยังไงผมก็ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะโง่ซื้อราคานี้หรอกแต่มันเป็นการเปิดตัวเลขให้เขาเจรจา”โครทรีกล่าวออกมา
วินเลี่ยมมองภาพนี้อย่างหนักใจเฮ้พวกคุณว่าเด็กนั้นเคี้ยวง่ายนักเหรอคุณไม่รู้เหรอว่าเขาสุดยอดแค่ไหนเพราะวิลเลี่ยมนั้นรู้ดีว่าอีกฝ่ายนั้นสุดยอดแค่ไหน
“ผมคิดว่าพวกคุณดูถูกเขาเกินไปแล้ว”วิลเลี่ยมพูดออกมาจนหลายๆคนหันมามองเขาเพราะเขาถือว่ามีความอาวุโสมากที่สุดในห้องนี้
“คุณหมายความว่ายังไง”โครทรีค่อนข้างไม่พอใจที่อีกฝ่ายนั้นกล่าวขัดเขา
วิลเลี่ยมก็มองออกแต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจนัก
“คุณรู้ไหมว่าหุ้นของ Balti ที่เขาถือครองอยู่มันมีมูลค่าเท่าไหร่ ใช่พวกคุณคงไม่รู้และไม่สนใจแต่ผมจะบอกให้แล้วกันตอนนี้ Balti 4,179,780,000 ล้านดอลล่าสหรัฐ พวกคุณอาจจะคิดว่าโอ้วก็ปกตินิยังไงตระกูลหวังก็รวยขนาดนั้นแต่คุณรู้ไหมว่ามูลค่าของบริษัทนี้เมื่องสองอาทิตย์ก่อนอยู่เท่าไหร่มันไม่ถึงร้อยล้านดอลล่าด้วยซ้ำแต่หลังจากที่เขาหวังหยวนเขาไปควบคุมบริษัทกับมีมูลค่ามากกว่าเดิมร้อยเท่า!! คุณคิดว่าเขาจะมองไม่ออกเหรอว่าพวกคุณต้องการโก่งราคาเขาเป็นคนที่มีความสามารถ”วิลเลี่ยมกล่าวออกมาพร้อมขึ้นข้อมูลบนจอให้ทุกคนในห้องดู
“เฮอะฉันไม่เชื่อหรอกว่านี้เป็นความสามารถของไอ้เด็กขนยังไม่ขึ้นนั้นมันก็คงพึ่งพ่อมันนั้นแหละ”โครทรีกล่าวดูถูกออกมาจนหลายยคนในห้องมีสีหน้าเปลี่ยนไปเพราะถึงยังไงตระกูลหวังก็ยังเป็นตระกูลใหญ่
“คุณโครทรีระวังคำพูดของคุณหน่อย”ธนวัฒน์กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม
“อะไรกันไอ้เด็กนั้นจะได้ยินรึไงกันเขาคงไม่ใช่พระเจ้าหรอกมั้ง”โครทรีบ่นออกมาเขาไม่กลัวเลยแม้แต่น้อยตระกูลหวังยิ่งใหญ่แล้วยังไงที่นี้คือเกาะอังกฤษพวกเขาสาวมือมาไม่ถึงหรอก!!
แต่พอจบคำพูดของโครทรีผู้บริหารคนหนึ่งกับมีรอยยิ้มมุมปากเล็กน้อย!
วิลเลี่ยมก็เงียบไปเพราะดูเหมือนสิ่งที่เขาพูดไปจะไม่มีความหมายและเขาเดาได้เลยว่าสโมสรนี้คงหมดหวังแล้วหรือเขาจะหาที่ทำงานใหม่ดี
วิลเลี่ยมเหม่อลอย
“งั้นเอาตามที่โครทรีพูดแล้วกัน”ธนวัฒน์ยังคงเอนเอียงไปทางที่โครทรีพูดมาเพราะเขาไม่คิดว่าเด็กอายุ สิบเก้าจะมีความสามารถขนาดนั้น!
หนึ่งชั่วโมงต่อมาก็มีข่าวที่สั่นสะเทือนไปทั้งอังกฤษ
“ยืนยันแล้วเลสเตอร์พร้อมขายแต่พวกเขาเรียกร้องเงินสูงถึง 2,000 ล้านดอลล่าสหรัฐ” Fox News รายงานพากข่าวหัวโตๆ
และเจ้าอื่นๆก็ไม่แตกต่างกันมากนักพวกเขาแค่แปลกใจที่ทำไมเลสเตอร์ซิตีนั้นโก่งราคาขนาดนี้?
พวกเขาไม่ได้ติดตามข่าวสารบ้างเลยรึไง
“เนื้อหาการประชุมก็ประมาณนี้แหละนายน้อยหวัง”เจอรรี่หนึ่งในผู้บริหารของเลสเตอร์กล่าวออกมาหลังจากที่เขานั้นเปิดคลิปเสียงทั้งหมดแล้วและสังเกตสีหน้าของหวังหยวนแต่เขากลับต้องแปลกใจเพราะอีกฝั่งยังสงบนิ่งดีอยู่
“2,000 พันล้านดอลล่าสหรับเลยนะนั่นช่างโลภมากจริงๆว่าไหมครับคุณเจอรรี่”หวังหยวนกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มพลางส่งสัญญาณให้หลี่หมิน
หลี่หมินจึงหยิบกระเป๋าสองใบออกมาและมากางเปิดให้เจอรรี่ดูข้างในนั้นอัดแน่นไปด้วยเงินดอลล่าปึกใหญ่เจอรรี่หรี่ตามองกระเป๋าทั้งสองใบตรงหน้าตนพลางยิ้มมุมปากเล็กน้อย
“วิลเลี่ยมพูดถูกดูเหมือนคุณจะมีความสามารถมาก”เจอรรี่กล่าวออกมาพลางปิดกระเป๋าทั้งสองใบนี้ไม่แม้แต่จะนับดูจำนวนเงินด้วยซ้ำและลุกขึ้นยืนแต่ก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นเขากลับพูดออกมาประโยคหนึ่งว่า
“ถ้าคุณกำลังมองหาคนที่จะบริหารสโมสรแทนคุณละก็ผมแนะนำวิลเลี่ยมนะเขาเป็นคนที่มีความสามารถและมองการณ์ไกลมากและเขาไม่ควรไปจมอยู่กับสโมสรที่โสมมนั้น”
หวังหยวนไม่ตอบกลับทำเพียงมองดูแผ่นหลังของอีกฝ่ายที่ดูโดดเดี่ยวและเหงาหงอยยนั้นเขารู้ดีว่าทำไมอีกฝ่ายถึงมีท่าทางแบบนั้นเพราะเขาได้หักหลังและทรยศสโมสรแล้วเรียบร้อยด้วยเงินเพียง สิบล้านดอลล่าเท่านั้น!
การที่จะล็อบบี้ใครสักคนสำหรับหวังหยวนแล้วนั้นไม่ยากเลยแม้แต่น้อยโดยเฉพาะเจอรี่ที่เขานั้นต้องใช้เงินด่วนเพื่อรักษาลูกสาวและไม่พอใจประธานคนใหม่ที่รีบร้อนสร้างสนามใหม่จนทีมต้องตกชั้น!
และการที่เขาให้เงินสดแทนการโอนผ่านธนาคารนั้นเพราะป้องกันการล็อบบี้คืนจากเจอรรี่
“นายน้อยดูเหมือนเราจะมาเสียเที่ยวสะแล้วละครับส่วนเรื่องของคนที่ชื่อโครทรีนั้น”หลี่หมินกล่าวออกมาเพราะเขาไม่คิดว่านายน้อยของตนจะอยากซื้อเลสเตอร์ซิตี้อีกต่อไปแล้ว
“ยังก่อนปล่อยเขาไปก่อนตอนนี้เรายังไม่ควรทำอะไรที่เป็นปัญหาแต่ใครบอกว่าฉันมาเสียเที่ยวกันเราไปเบอร์มิงแฮมกันเถอะ”หวังหยวนกล่าวออกมาเพราะข่าวคอลัมน์เล็กๆ ล่าสุดที่เขาเลื่อนเจอนั้นคือ นัสเซฟ ซาริวิส ต้องการขายสโมสรแอสตันวิลล่าเนื่องจากเขาขาดทุนมาติดต่อกันสองปีแล้ว!
และจ่ายค่าเหนื่อยนักเตะไม่ไหว!
เพราะต่อปีเขาต้องจ่ายค่าเหนื่อยมากกว่า 120ล้านปอนด์!
