การพบเจอ
หวังหยวนที่หลีกหนีฝูงนักข่าวได้แล้วนั้นเขาก็กลับมาที่โรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่งในเบอร์มิ่งแฮมทันทีและคิดสิ่งที่เขาจะทำต่อไปแต่ว่าก่อนที่เขาจะได้คิดอะไรเขาก็ได้รับการติดต่อจากยองแจ
เพราะงานประกาศรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ Seoul Music Awards กำลังใกล้เข้ามาแล้วและทางผู้จัดนั้นชัดเจนว่าพวกเขาเจาะจงมายังเขาเพราะการ์ดเชิญนอกจากสี่สาว BaByMonter แล้วและศิลปินเดี่ยวอีกไม่กีี่คนของบริษัท
ส่วนรางวัลที่พวกเขาได้เขาชิงนั้นมี แดซัง เพลงแห่งปี และอัลบั้มแห่งปี โดยที่พวกเธอทั้งสี่คนคาดหวังรางวัลแดซังมากที่สุดเพราะพวกเธอยังไม่เคยได้รางวัลนี้มาก่อน
“พูดให้ถูกคือฉันต้องบินกลับเกาหลีใต้ว่างั้นเถอะ”หวังหยวนกล่าวออกมา
“ใช่แล้วครับนายท่าน”ยองแจกล่าว
“อีกสามวันฉันจะบินไปยังเกาหลีใต้ฉันก็เที่ยวไปทั่วเกาะอังกฤษก่อนแล้วกัน”หวังหยวนกล่าวออกมาเพราะอีกตั้งสี่วันกว่างานจะเกิดขึ้น
และเขาก็ได้รับข้อความจากคิมยองวอนว่าจะเดินพรมแดงพร้อมพวกเธอหรือจะเดินคนเดียวด้วยความที่หวังหยวนไม่อยากยุ่งยากเขาจึงตอบกลับไปว่าคนเดียวเขาอยากจะเข้าไปในงานเงียบๆมากกว่าเขาไม่ชอบออกหน้าเท่าไหร่หากไม่จำเป็น
“ไหนๆก็มาแล้วทั้งทีอังกฤษก็ต้องดูบอลแล้วละ”หวังหยวนกล่าวออกมาพลางหาตั๋ว VIP นัดแมนซิตี้ ที่กำลังจะพบกับเซลซีเร็วๆนี้ หลังจากหาสักพักเขาก็ต้องแปลกใจกับราคาตั๋วที่แพงไปถึงหนึ่งหนึ่งล้านปอนด์!!
“ทำไมมันแพงจังวะนะเอาเถอะซื้อๆไป”หวังหยวนบ่นออกมาเล็กน้อยก่อนที่เขาจะกดซื้อและนัดรับที่เมืองแมนเซสเตอร์
วันต่อมาหวังหยวนที่รอตั๋วอยู่นั้นกำลังมองบรรยากาศรอบๆที่เต็มไปด้วยความคึกคักด้วยความแปลกใจเพราะเขาสัมผัสได้ถึงความตื่นเต้นและเล่าร้อนของแฟนบอลเหล่านี้
“เฮ้นายใช่ไหมที่ซื้อบัตรต่อจากฉัน”เสียงหนึ่งดังขึ้นคัดจังหวะความคิดของเขา
หวังหยวนหันกลับไปมองเจอชายหนุ่มผมบรอนด์ทองคนหนึ่งกำลังยืนโบกตั๋วไปมาข้างหลังเขา
“อ่าใช่”หวังหยวนพยักหน้า
“แต่นายดูคุ้นๆยังไงชอบกลแฮะช่างเถอะถ้าฉันไม่มีเรื่องด่วนที่บริษัทละก็ฉันไม่มีทางขายหรอกรู้ไหมนี้มันเป็นโอกาสหนึ่งในล้านเลยนะ”เขาบ่นออกมาแต่ก็ยังยอมเอาบัตรมาให้หวังหยวน
หวังหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อยโอกาสหนึ่งในล้านเวอร์ไปเปล่าไม่ใช่อย่างน้อยก็แตะกันทุกปีไม่ใช่รึไง?
หลังจากได้ตั๋วมาหวังหยวนก็เดินเข้าไปในถิ่นเอดิฮัตสเตเดี้ยมนี้ทันทีเขานั้นไม่คิดมากกับคำกล่าวของอีกฝ่ายเลยก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมองมายังหวังหยวนแปลกๆและแสดงท่าทีที่เคารพอย่างถึงที่สุดออกมาและเขาพาหวังหยวนมาที่ ห้อง VIPP ห้องแรกที่ตอนนี้มีหญิงสาวคนหนึ่ง และชายหนุ่มวัยกลางคนคนหนึ่งนั่งอยู่ก่อน รวมถึงเด็กชายและเด็กสาวสองคนที่วิ่งวุ่นไปทั่ว
หวังหยวนก็ไม่แปลกใจอะไรเพราะเขารู้ว่า ห้อง VIP นั้นไม่มีทางจองแบบคนเดียวได้อยู่แล้วเขาจึงค่อยๆเดินไปยังเก้าอี้ที่ยังว่างอยู่
“ฮืมไม่คิดเลยว่าคุณมะมาโผล่ที่นี้”เฟเดอร์ริก กล่าวออกมาอย่างแปลกใจเพราะใบหน้านี้นั้นเขาเห็นมันจนเอียนแล้วจากข่าวทั่วทั้งอังกฤษมองแค่แวบเดียวก็จำได้
“คุณรู้จักผมด้วยเหรอ”หวังหยวนกล่าวถามออกไปอย่างแปลกกใจนี้เขาดังขนาดนั้นเลย
ส่วนอีกฝ่ายก็อึ้งไปแล้วกับคำกล่าวของหวังหยวนแต่เขาก็นึกขึ้นได้ว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คงอังกฤษเขาก็เลยยิ้มออกมาและกล่าวออกมาว่า
“ใครจะไม่รู้จักเจ้าของสโมสรที่อายุน้อยที่สุดในพรีเมียร์ลีคกันเล่า”เฟเดอร์ลิกพูดออกมา
“แสดงว่าคุณคงคลั่งไคล้ฟุตบอลมาก”หวังหยวนตอบกลับ
“แน่นอนว่าท่านพี่นั้นคลั่งไคล้ฟุตบอลมากหากมีโอกาสในการละเลยจากราชกิจต้องต้องมาดูฟุตบอลทุกครั้งไป”มิเชลกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มเธอไม่ได้ถือสาที่หวังหยวนพูดแบบเป็นกันเองเลยแม้แต่น้อยเพราะเดิมทีราชวงศ์นั้นไม่ถือตัวอยู่แล้ว
แต่หวังหยวนกลับขมวดคิ้วราชกิจ? และด้วยมันสมองอันชาญฉลาดของเขาเขาก็เดาตัวตนของทั้งสองออกทันทีและอดถอนหายใจไม่ได้เขากะจะมาดูบอลชิวๆแต่กลับมาเจอราชวงศ์อังกฤษนี้นะ
มิน่าละราคาบัตรถึงสูงมากขนาดนั้น!
เฟเดอร์ลิก แห่งฟิลิป์ เจ้าชายองค์ที่สิบสองแห่งอังกฤษ
มิเซล แห่งฟิลิป์ เจ้าหญิงลำดับที่เก้าแห่งเกาะอังกฤษ
“ขออภัยข้าไม่รู้ว่าท่านทั้งสองคือราชวงศ์”หวังหยวนก้มหัวลงเล็กน้อยเท่านั้นไม่ถึงกับอะไรมากมายเพราะเขาไม่ใช่คนอังกฤษสะหน่อย?
“ไม่หรอกนานๆทีจะเจอคนแบบนายพูดแบบเดิมแหละไม่ต้องใส่ใจ”เฟเดอร์ลิกค์กล่าวออกมาอย่างไม่ใส่ใจ
“แต่ปกติตั๋วนี้เป็นของหลานชายเอิลล์ เควิน ไม่ใช่งั้นเหรอ”มิเชลถามออกมากับสองมือที่พยายามจับคอเสื้อเด็กซนทั้งสองคนนี้ไว้เพราะพวกเขาพยายามจะปีนเก้าอี้ของหวังหยวน
“เออเขาขายให้ผมไปแล้วนะ”หวังหยวนกล่าวออกมาพลางยิ้มแห้งๆเพราะดูเหมือนเขาจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ไม่ควรเข้าสะแล้ว!
“เฮ้อเขายังมีความจริงใจมากพอจริงๆ”มิเซลถอนหายใจออกมา
“อืมเขายังยึดมั่นในคำกล่าวของตนเองช่างน่าชื่นชม”เฟเดอร์ลิกค์กล่าวออกมาอย่างเห็นด้วย
“บอกผมที่นี้คงไม่ใช่การคลุมถุงชนหรือการดูตัวอะไรเถือกนั้นใช่ไหม?”หวังหยวนกล่าวถามออกไปอย่างมีความหวัง
“นายไม่รู้อยู่แล้วงั้นเหรอ”มิเชลกล่าวออกมาอย่างแปลกใจ
"เขาบอกผมเพียงแค่มีธุระต้องจัดการที่บริษัทและนี้เป็นโอกาสหนึ่งในล้าน!."หวังหยวนกล่าวออกมาพลางถอนหายใจเขาดันพลาดง่ายๆแบบนี้สะได้
“ฮ่าๆเอาเถอะนายไม่ต้องห่วงหรอกเอิลล์เควินไม่ได้มีอำนาจมากมายขนาดนั้นหรอกในโลกธุรกิจของพวกนายเขาคงเป็นจำพวกเจ้าของบริษัทพันล้านได้แต่คงสู้นายไม่ได้หรอกจริงไหม?”เฟเดอร์ลิกค์พูดออกมา
หวังหยวนพยักหน้าด้วยรอยยิ้มใครบอกว่าเขากลัวเอิลล์เล็กนั้นๆกันเขากลัวจะล่วงเกินราชวงศ์อังกฤษต่างหากเล่าเพราะยังมีอีกหลายบริษัทและหลายโครงการที่เขาต้องดำเนินมันทีนี้โดยเฉพาะโครงการเกาะส่วนตัว เกาะเครื่องเล่นมหาสนุก และอื่นๆเพราะอังกฤษมีเกาะมากมายในครอบครอง!
และตอนนี้ในสนามนั้นทั้งสองทีมเตรียมตัวเรียบร้อยแล้วในอุโมงค์นักเตะ
เอดดี้เกรย์: "สวัสดีทุกคนแฟนบอลที่รัก! วันนี้เรามีการแข่งขันที่น่าตื่นเต้นมาก ระหว่างทีมแมนเซสเตอร์ซิตี้และเซลซี! แมทซ์นี้เสมือนกำลังจะปั่นป่วนไปทั่วทั้งพรีเมียร์ลีคเพราะมันเป็นนัดตัดสินจ่าฝูง!"
มิเชล: "ใช่แล้ว! ทั้งทีมแมนเซสเตอร์ซิตี้และทีมเซลซีมีนักเตะที่มีความสามารถและฝีมือมากมาย! สำหรับแมนเซสเตอร์ซิตี้ เรามีเออร์ลิงฮาแลนด์ที่กำลังโด่งดังไปทั่วทั้งยุโรป!"
เอดดี้เกรย์: "และทีมเซลซีก็มีคนที่น่าจับตามอง! สเตอร์ริงค์ที่มีความสามารถและประสบการณ์มากมาย! โดยทั่วไปเซลซีเขาเล่นในระบบ 4-4-2 และมีนักเตะหลายคนที่มีความสามารถทางการต่อบอล!"
เอดดี้เกรย์: "แมนเซสเตอร์ซิตี้เป็นทีมที่มีการเล่นต่อบอลที่น่าทึ่ง! พวกเขาเล่นในระบบ 4-3-3 โดยในแนวกลางมีเควินเดอบอร์ย์ที่เตะลูกได้ดีและมีความสามารถในการส่งบอลที่ยอดเยี่ยมที่สุดในยุคนี้!"
มิเชล: "ใช่แล้ว! เควินเดอบอร์ย์เป็นกองกลางตัวรุกที่ทำให้ทีมเขามีการโต้กลับที่น่าตื่นเต้น! เขามีทักษะการดำเนินการส่งบอลและการควบคุมบอลที่ยอดเยี่ยม!"
เอดดี้เกรย์: "ไม่เพียงแค่นั้น! ในทางปีก พวกเขามีแจ็คกรีลิชที่เป็นปีกซ้ายที่ทำประตูได้อย่างสวยงาม! นักเตะนี้มีทักษะที่ทำให้ทีมมีอำนาจในการทำประตู!"
เอดดี้เกรย์: "ทีมเซลซีก็มีสเตอร์ริงค์ที่น่าจับตามอง! เขาเป็นกองหน้าที่ชอบต่อบอลด้วยทักษะการเล่นที่แสนดี! รวมถึงปีกซ้ายโคลพาร์เมอร์และปีกขวาคริสโตเฟอร์ที่ทำให้ทีมมีความสามารถในการโต้ทำประตูและส่งบอล!"
มิเชล: "ใช่แล้ว! ทั้งคู่นี้มีทักษะที่ทำให้ทีมมีความหลากหลายในการโต้กลับ! ไม่ว่าจะเป็นการผ่านบอลหรือการแสดงทักษะการทำประตู ทั้งนี้ทำให้เกมนี้เป็นการดูที่น่าตื่นเต้นและท้าทาย!"
เสียงผู้บรรยายดังขึ้นเพื่อบอกรายละเอียดเล้กน้อยของทั้งสองทีมระหว่างที่นักเตะกำลังเดินไปประจำที่ตัวเองหวังหยวนก็มองดูในสนามอย่างตื่นเต้นเช่นกันเพราะนี้เป็นครั้งแรกที่เขาได้ดูฟุตบอลแบบใกล้ชิด
เอดดี้เกรย์: "เราได้มีโมเมนต์ที่น่าประทับใจตลอดเกมแล้ว! ทั้งสองทีมมีการพลัดรุกและรับทำให้เราต้องมีความตื่นเต้นเสมอ!"
มิเชล: "แน่นอน! เป้าหมายที่ได้มีค่าและมีความสามารถทางฝีเท้าของทั้งสองทีม! เราได้เห็นเควินเดอบอร์ย์ควบคุมแดนกลางด้วยทักษะที่ยอดเยี่ยม!"
เอดดี้เกรย์: "แต่ตอนนี้ทีมแมนเซสเตอร์ซิตี้กำลังจะโต้กลับอีกครั้ง! มีการส่งบอลอย่างทรงพลังจากกองกลางตัวรุกเข้าสู่พื้นที่ของเซลซี!"
มิเชล: "และโฟเด้นได้รับบอล! เขากำลังจะลุยเข้าสู่ทางปีกขวาและ..."
เอดดี้เกรย์: "โกลลลลลลลลล ประตู!! โฟเด้นทำประตู! แมนเซสเตอร์ซิตี้ได้นำหน้าเซลซีไปแล้ว 1-0 !"
จังหวะที่โฟเด้นยิงประตูเขาไปนั้นเฟเดอร์ลิกค์ที่นั่งหน้าเครียดมาตลอดทั้งเกมส์ก็แสดงอาการดีใจออกมาทันที
“เฮ้ให้ตายเถอะในที่สุดก็ขึ้นนำสักที”เฟเดอร์ลิกกล่าวออกมาส่วนเด็กแสบทั้งสองคนไม่รู้ว่าปีนขึ้นมาบนเบาะที่นั่งหวังหยวนตอนไหนเช่นกันเด็กทั้งสองคนนั้นปีนขึ้นมานั่งบนตักเขาอย่างไม่เกรงใจและแสดงอาการดีใจออกมา
“เย้ เย้”ทั้งสองโบกมือไปมาจนหวังหยวนมุมปากกระตุกไม่ได้เพราะมันเฉี่ยวหน้าเขาไปหลายรอบแล้วแต่เขาก็พยายามสงบสติอารมณ์และท่องไว้ว่าทั้งสองยังเด็กอยู่
“ฮ่าๆดูเหมือนคุณจะไม่ค่อยชอบเด็กนะ”มิเชลกล่าวออกมาพลางพยายามดึงน้องชายและน้องสาวของเธอออกจากหวังหยวนแต่กลับแปลกเพราทั้งสองนั้นเกาะหนึบกับหวังหยวนมาก
“ไลเนอร์ เลอา พวกน้องอย่าซนได้ไหม”มิเชลก็หมดหวังแล้วเช่นกันเธอจึงกล่าวขอร้องทั้งสองคน
“ไม่ ไม่ อยู่กับพี่ชายคนนี้สะดวกกว่าเพราะพวกพี่ทั้งสองไม่ให้พวกเรานั่งตักแบบนี้”ไลเนอร์กล่าวออกมาพลางเกาะแขนหวังหยวนไว้แน่นหนึบ
“เฮ้อไม่เป็นไรหรอกเออเจ้าหญิงปล่อยไว้แบบนี้แหละ”หวังหยวนถอนหายใจออกมาก่อนที่เขาจะหันไปโฟกัสในสนามต่อส่วนเฟเดอร์ลิกค์นั้นตอนนี้เขาจ่มจ่อมอยู่กับเรื่องฟุตบอลแล้วเรียบร้อยไม่ได้สนใจรอบๆเลยแม้แต่น้อย!!
แต่สุดท้ายแล้วทั้งเกมก็จบลงด้วยสกอร์เพียง 1-0 เท่านั้นไม่ว่าทั้งสองทีมจะผลัดกันรุกเท่าไหร่แต่สองโกล์คีฟเปอร์พวกเขาก็โชว์เซฟมหัศจรรย์มากมาย
“อ่าวไลเนอร์ เลอ่าทำไมพวกน้องไปนัั่งตรงนั้นได้ละ”เฟอเดรอ์ลิคผู้งุนงงนั้นกล่าวออกมาเพราะเขาพึ่งละสายตาจากสนามฟุตบอลได้
“เชอะ เชอะ”ทั้งสองคนสะบัดหน้าหนีเฟเดอร์ลิคเพราะพวกเขาพยายามเล่นด้วยแต่เฟอเดอร์ลิคกลับไม่ตอบสนอง!
“เอาละๆ”มิเซลหิ้วทั้งสองออกมาจากหวังหยวนโดยที่ตอนนี้ทั้งสองนั้นไม่ได้ขัดขืนเนื่องจากเกมฟุตบอลมันจบไปแล้ว
“ดูเหมือนเด็กแสบสองคนนี้จะชอบบนายมากงั้นว่างๆก็มาเยือนที่คฤหาสน์เบอร์มิงแฮมบ้างแล้วกันพูดแล้วเราก็เป็นเพื่อนบ้านกันแหละนะ”เฟอเดอร์ลิกค์กล่าวออกมาขำๆ
แต่หวังหยวนทำเพียงรับปากและขอตัวออกไปก่อนเท่านั้นเด็กอะไรตัวนิดเดียวแต่นั่งทับขาเขาแป๊ปเดียวชาไปทั้งขาเลย!
“น้องคิดว่าไง”เฟเดอร์ลิกค์กล่าวถามน้องสาวตนหลังจากที่หวังหยวนชิ่งหนีไป
“เขาน่าสนใจมาก”มิเซลยิ้มออกมาเฟเดอร์ลิกเลิกคิ้วอย่างแปลกใจหรือว่าตอนนี้ที่เขาจดจ่ออยุ่กับฟุตบอลนั้นมันจะเกิดอะไรขึ้นกันนะ?
เมื่อวานอัพสองตอนนะครับ 555555
จริงๆกองหน้าเซลซีคือแจ็คสันนะครับ