ตอนที่แล้วบทที่ 157 ข้าไม่ต้องการพบพวกเขา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 159 สัตว์วิญญาณกลายพันธุ์

บทที่ 158 ทุบอกกระทืบเท้า


แม้แต่นักปรุงโอสถผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่แห่งอาณาจักรเสินไห่ ที่ต่อให้ใช้ทั้งชีวิต พวกเขาก็ไม่สามารถหลอมโอสถวิญญาณหลงหู่ระดับนิรันดร์ได้เพียงเม็ดเดียว แต่ใต้เท้าหลงที่อยู่ตรงหน้านางผู้นี้ กลับสามารถหลอมได้มากถึงสิบเม็ดในหนึ่งเดือน

ในไม่ช้า ข่าวที่สมาคมการค้าเฟิงยวินจะเปิดประมูลโอสถวิญญาณหลงหู่ระดับนิรันดร์ทั้งสิบในอีกหนึ่งเดือน ก็แพร่สะพัดพร้อมทั้งกระจายไปอย่างรวดเร็ว

บรรดาเหล่าตระกูลน้อยใหญ่ กระทั่งมหาอำนาจอย่างบุคคลในราชวงศ์หลักของอาณาจักรโดยรอบทั้งหมด ยังสั่นสะเทือนกับข่าวนี้

“อะไรนะ เดือนหน้าสมาคมการค้าเฟิงยวิน จะเปิดประมูลโอสถวิญญาณหลงหู่ ระ…ระดับนิรันดร์ สิบเม็ดงั้นรึ” หลินหยง เจ้าสำนักเสินเจี้ยนถึงกับมือไม้อ่อนแรงทิ้งถ้วยชาในมือหกเลอะพื้น

“สิบเม็ด โอสถวิญญาณหลงหู่ระดับนิรันดร์ตั้งสิบเม็ดเชียวนะ” เขาหันมองเฉินหยวนด้วยดวงตาอันเบิกกว้าง ขณะกล่าวน้ำเสียงเลื่อนลอยราวกับวิญญาณหลุดจากร่าง

“สมาคมการค้าเฟิงยวิน ได้โอสถวิญญาณหลงหู่ระดับนิรันดร์มากมายเช่นนี้จากไหนกัน” หลินหยงพึมพำทั้งส่ายศีรษะ ด้วยคับข้องใจอยู่ในอก

ก่อนจู่ๆ จะพลันดีดตัวนั่งตรง หลังนึกถึงบุคคลนั้น ผู้น่าจะสามารถทำเรื่องเช่นนี้ได้ ขนทั่วกายหลินหยงพลางลุกชันทันทีที่คิด

“เป็นไปได้ไหมว่า…” เขาเปิดปากกล่าวน้ำเสียงสั่นเครือ

“ใช่ เป็นใต้เท้าหลงอีกครั้ง ที่ขายมันให้พวกเขา ผู้ประเมินจากสมาคมการค้าเฟิงยวินระบุว่าโอสถวิญญาณหลงหู่ทั้งสิบเม็ดนี้ ได้รับการหลอมในเดือนนี้ ทั้งหมด” เฉินหยวนพยักหน้ากล่าวน้ำคำประหนึ่งสำราญใจ

ซึ่งขณะที่เฉินหยวนกล่าวถึงใต้เท้าหลง อากัปกิริยาเขาดูมีท่าทีแลสีหน้าชื่นชมคนผู้นี้เป็นที่สุด แม้เขาจะไม่ใช่นักปรุงโอสถ แต่ยังคงรู้สึกชมชอบใต้เท้าหลงด้วยใจอันปลื้มปิติยิ่ง

เพราะโอสถวิญญาณหลงหู่ระดับนิรันดร์ทั้งสิบเม็ด ที่ได้รับการหลอมในเดือนเดียว นับว่าไม่เคยเกิดหรือปรากฏขึ้นที่ใดมาก่อน แม้นจะมีนักปรุงโอสถผู้เคยพยายาม แต่ก็ไม่สำเร็จ กระทั่งได้มาภายในเวลาอันสั้นเพียงเท่านี้

แต่ใต้เท้าหลงผู้นี้ ช่างมีทักษะการหลอมโอสถที่แข็งแกร่งจนน่าเกรงขามจริงๆ!

หลินหยงถอนหายใจด้วยอารมณ์กลัดกลุ้มเสียดาย “ไม่น่าแปลกใจเลย ที่บรรดาองค์จักรพรรดิของอาณาจักรโดยรอบ ต่างก็ต้องการพบใต้เท้าหลง เพราะหากพวกเขามีใต้เท้าหลงคอยช่วย ไยต้องกังวลว่าคนในราชวงศ์ขององค์จักรพรรดิทุกผู้จะไม่แข็งแกร่งแลมีอำนาจขึ้น!”

กล่าวเช่นนั้นแล้ว เขาก็ทุบอกกระทืบเท้า เวทนาในความสามารถตน ผู้เป็นถึงเจ้าสำนักอันดับหนึ่งแห่งอาณาจักรเสินไห่

“เหตุไฉนคนเช่นนี้ ข้าผู้เป็นถึงเจ้าสำนักเสินเจี้ยนจึงไม่สามารถสืบหา หรือมีโอกาสพบเขาสักครั้ง ให้ข้าได้ร้องขอเขาเข้าร่วมเป็นหนึ่งในปรมาจารย์ผู้ทรงเกียรติของสำนักเรา สำนักเสินเจี้ยนของเรา”

“ไม่อย่างนั้นแล้ว สำนักเสินเจี้ยนของเราคงได้เป็นสำนักอันดับหนึ่ง ที่ทรงอำนาจแลแข็งแกร่ง มีผู้คนนับหน้าถือตาเป็นที่สุดในจักรวรรดิเทียนโต้ว!” หลินหยงเอ่ย ระบายความคับอกคับใจ

ในเวลาเดียวกันนี้

หลัวจวิ้นเผิงและเติ้งอี้ชุนจากสำนักยวินฮุย ทั้งคู่ยังได้ทราบเรื่องที่ใต้เท้าหลงปรากฏตัว พร้อมขายโอสถวิญญาณหลงหู่ระดับนิรันดร์สิบเม็ดให้กับสมาคมการค้าเฟิงยวิน ซึ่งก็ทำพวกเขาตื่นตระหนกไม่น้อยเช่นกัน

“ท่านเจ้าสำนักให้คนส่งข่าว ว่าเขาจะมาเยือนที่เมืองเสินเจี้ยนด้วยตนเอง”

“อะไรนะ ท่านเจ้าสำนักจะมาเยือนที่เมืองเสินเจี้ยนด้วยตนเองอย่างนั้นรึ!” เติ้งอี้ชุนอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ

หากไม่ใช่เรื่องสำคัญใหญ่หลวงอะไร มีหรือที่ท่านเจ้าสำนักยวินฮุยจะออกจากสำนักมาลงมือด้วยตนเอง จึงมิแปลกที่เติ้งอี้ชุนจะแสดงท่าทีตกใจเช่นนี้

“อีกหนึ่งเดือนข้างหน้า สมาคมการค้าเฟิงยวินจะเปิดประมูลโอสถวิญญาณหลงหู่ระดับนิรันดร์ทั้งสิบเม็ดนั้น ท่านเจ้าสำนักต้องการเข้าร่วมการประมูลและสังเกตการณ์เองว่าจะขอพบปะใต้เท้าหลงได้หรือไม่” หลัวจวิ้นเผิงกล่าวสีหน้าเคร่งเครียด

“ซึ่งงานนี้ ไม่มีเพียงท่านเจ้าสำนักของเราเท่านั้นที่มาแน่ แต่ข้าเกรงว่าอาจมีเจ้าสำนักหลักอื่นๆ อีกสองสำนัก และบางทีองค์จักรพรรดิของอาณาจักรเรา ก็อาจมาเยือนที่เมืองเสินเจี้ยนแห่งนี้ด้วยเช่นกัน!” เขาเสริม

ทั้งหมดนี้ ก็เพื่อได้มีโอกาสพบปะใต้เท้าหลงคนนั้นเองหรือ นับเป็นเหตุการณ์ที่หาได้ยากยิ่งสำหรับเมืองเสินเจี้ยนแห่งนี้

เติ้งอี้ชุนอ้าปากกว้าง หลังได้รับรู้เช่นนั้น เพราะแม้แต่เขาที่ถือว่าเป็นนักปรุงโอสถผู้มีชื่อเสียง ก็ยังมิมีโอกาสหรือได้เกียรติให้บุคคลเหล่านั้นชื่นชมมากถึงเพียงนี้

องค์จักรพรรดิถึงกับเสด็จออกจากวังหลวงเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต เพื่อได้มีโอกาสอันน้อยนิดพบพานคนผู้นั้น และผูกสัมพันธ์ไมตรีหวังใช้งานในภายภาคหน้า

หากเป็นเพียงสถานการณ์ปกติ ผู้ทรงมหาอำนาจอย่างองค์จักรพรรดิจะเสด็จออกจากวังหลวงเหมือนครานี้หรือไม่ คงไม่เป็นเช่นนั้นแน่

แต่คราวนี้ เขายอมกระทั่งเจียดกายออกจากเมืองหลวง เพียงเพื่อได้พบกับใต้เท้าหลง ผู้มิมีใครคาดเดาหรือเสาะหาตัวตนของเขาได้ง่ายๆ เลย

“เมืองเสินเจี้ยน จะต้องปั่นป่วนมหาศาลแน่” หลัวจวิ้นเผิงกล่าวด้วยอารมณ์ไม่สบายใจ

ด้วยเขาสามารถจินตนาการได้ชัด ว่าเหล่าวิญญาจารย์ผู้แข็งแกร่ง พร้อมทั้งบรรดานักปรุงโอสถผู้มีชื่อเสียงจำนวนนับไม่ถ้วนจะแห่แหนกันมาที่เมืองเสินเจี้ยนหนาแน่นเช่นไร

“อย่างไรก็ตาม ใต้เท้าหลงผู้นี้มิค่อยปรากฏตัวให้ผู้ใดประสบพบเจอได้ง่ายๆ นัก ทุกครั้งที่เขาปรากฏตัว เขาก็เพียงมาและไปอย่างไร้ร่องรอย มันจึงเป็นเรื่องยากสำหรับงานที่เราได้รับมอบหมายยิ่งนัก!” เติ้งอี้ชุนรู้สึกเป็นทุกข์

เขาพำนักอยู่ในเมืองเสินเจี้ยน เพื่อติดตามหาข่าวคนผู้นี้มานานกว่าหนึ่งเดือนแล้ว แต่ยังไม่พบร่องรอยของใต้เท้าหลงเลยสักครั้ง

แม้จะพอมีความสามารถ ได้รับข่าวสารบางอย่างเกี่ยวกับใต้เท้าหลงจากเหวินจิงอวี๋ นางผู้ดูแลสมาคมการค้าเฟิงยวินเท่านั้น แต่ข้อมูลจากคำกล่าวเพียงแค่นี้ ไม่มีประโยชน์อันใดสำหรับเขาเลย

ส่วนทางฝั่งของหยางเสี่ยวเทียน

หลังเขากลับจากสมาคมการค้าเฟิงยวิน พร้อมมีหนึ่งล้านเหรียญทองเก็บในแหวนเตาหลอม เพียงเท่านี้ เขาก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาก กระทั่งวันนี้ มิต้องนึกถึงสิ่งใดนอกจากฝึกปรือเสริมความแข็งแกร่งของตนเอง

ในวันรุ่งขึ้น เขาถึงสั่งคนตามเลี่ยวคุนและจางจิงหรง เพื่อมอบหมายงานให้พวกออกเดินทางหาซื้อทาส ที่อยู่ในขั้นนักยุทธ์ระดับสิบมาเพิ่มอีกจำนวนมาก

ถึงตอนนี้ เขาจะมีทาสกว่าสามร้อยคน ที่เป็นวิญญาจารย์อยู่ในขั้นเซียนสวรรค์ภายใต้บัญชาเขาแล้ว แต่ทั้งหมดที่เขามี ยังนับว่าน้อยเกินไป

เสร็จจากสั่งงานเลี่ยวคุนและจางจิงหรง เวลาเดียวกัน เขาก็ขอให้อัตกับอาลี่ดำเนินเรื่องหาซื้อจวนโดยรอบเพิ่มอีกเช่นกัน

พอทั้งสองได้ยินอย่างนั้น พวกเขาก็ถึงกับลิ้นออกด้วยเหน็ดเหนื่อย เมื่อต้องหาซื้อจวนโดยรอบทั้งหมดดั่งที่นายน้อยกล่าวจริง อีกทั้ง หากพวกเขาซื้อมันสำเร็จและต่อเติมจนสมบูรณ์ จวนของนายน้อยคงจะใหญ่เกินหน้าเกินตาจวนท่านเจ้าเมืองเสินเจี้ยนเป็นแน่

ซึ่งหากมันใหญ่โตกว่าจวนเผิงจื้อกังเจ้าเมืองเสินเจี้ยน เขาคงจะรู้สึกอึดอัดแลไม่สบายใจอยู่ไม่น้อย ปัญญาเหล่านี้อาจสร้างความยุ่งยากให้เราในภายภาคหน้าได้

ทั้งสองแสดงความกังวลต่อหยางเสี่ยวเทียน ด้วยเป็นห่วงผู้เป็นนายอย่างถึงที่สุด

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด