บทที่ 157 ข้าไม่ต้องการพบพวกเขา
มิแปลกใจเลยที่เหวินจิงอวี๋จะมีท่าทีทรงตัวยืนนิ่งไม่ไหวราวขาไร้เรี่ยวแรง ถึงกับต้องใช้มือค้ำชั้นวางสินค้าจัดแสดงเบื้องหลัง เพื่อพยุงร่างอันเรียวบาง ด้วยตื่นเต้นจนเส้นลมปราณพลุ่งพล่านมากไป
เพราะแม้แต่ราชวงศ์บางอาณาจักรโดยรอบยังมิอาจครอบครองโอสถวิญญาณหลงหู่ระดับนิรันดร์ได้ สำมะหาอะไรกับบุคคลผู้มีอำนาจธรรมดาทั่วไป ที่ทำได้แค่ฝันถึงมันเท่านั้น
แต่ขวดหยกทั้งหมดที่วางอยู่ตรงหน้านางเพลานี้ กลับเต็มไปด้วยโอสถวิญญาณหลงหู่ระดับนิรันดร์!
สิบเม็ด! ทั้งหมดสิบเม็ดเชียวนะ!
หยางเสี่ยวเทียนมองเหวินจิงอวี๋ แม่นางผู้มีแววตาสดใสกระทั่งยิ่งเปล่งประกายหลังได้เห็นโอสถที่เขานำมา ซึ่งนางมักจะตื่นเต้นจนเนื้อตัวสั่นเทาอยู่เสมอแม้ต่อหน้าเขา ที่เพียงนิ่งเงียบอย่างสงบด้วยหลอมมันใช้เป็นว่าเล่น
ยิ่งช่วงเดือนที่ผ่านมานี้ เขามีเพียงเวลาว่างหลังฝึกฝนเพลงกระบี่เท่านั้น ใช้หลอมโอสถวิญญาณหลงหู่ระดับนิรันดร์ ซึ่งได้แค่สามสิบหรือสี่สิบเม็ด
เดิมที เขาต้องการขายโอสถวิญญาณหลงหู่ระดับนิรันดร์มากกว่าสามสิบเม็ดเสียด้วยซ้ำ แต่เมื่อพิจารณาว่าสมาคมการค้าเฟิงยวิน อาจไม่สามารถจ่ายเงินเขาได้มากมายในคราเดียว เขาจึงคิดที่จะขายมันเพียงสิบเม็ดก่อน
ซึ่งหากเขามีเวลาหลอมโอสถจริงๆ ทั้งเดือน หนึ่งเดือนสำหรับเขา คงหลอมไม่ได้เพียงสิบเม็ดหรอก
“เงินพร้อมแล้วหรือ สาขาหลักของเจ้าตกลงว่าอย่างไรบ้าง” หยางเสี่ยวเทียนเอ่ยถาม ด้วยเห็นว่านางคงจะล่องลอยอยู่ในฝันไปอีกนาน
เหวินจิงอวี๋สะบัดหัวตื่นจากภวังค์ทันใด นางจ้องมองเขาขณะกลืนน้ำลายหลังอ้าค้างจนคอแห้ง พร้อมพยายามระงับอาการในใจเหล่านั้นเต็มที่ ก่อนสูดหายใจเปิดปากกล่าวกับหยางเสี่ยวเทียนอย่างคลายสงบ
“ตะ ใต้เท้าหลง สาขาหลักของเราบอกว่า หากท่านยินดีที่จะขายโอสถวิญญาณหลงหู่ระดับนิรันดร์เหล่านี้โดยตรง ทางเราเสนอราคาให้ที่เม็ดละหนึ่งแสนเหรียญทอง สิบเม็ดก็เท่ากับหนึ่งล้านเหรียญทอง ท่านเห็นเป็นเช่นไร” กล่าวจบนางก็ผ่อนลมหายใจโล่ง
เมื่อพิจารณาถึงอิทธิพลของโอสถวิญญาณหลงหู่ระดับนิรันดร์ ที่สามารถดึงดูดเงินทองแลชื่อเสียงจากบุคคลทรงอำนาจมากหน้าหลายตา ได้ยิ่งใหญ่กว่าโอสถระดับอื่นๆ
ทางสมาคมการค้าเฟิงยวิน จึงยินดีพร้อมเสนอทองหนึ่งแสนเหรียญ กับการขายโอสถโดยตรงในครั้งนี้แก่เขาอย่างมิมีขัดข้อง ด้วยผลลัพธ์อันจะได้มาในภายภาคหน้านั้น คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม อีกทั้งกิจการของพวกเขาก็เติบโตแลรุ่งเรืองได้ เพราะมีใต้เท้าหลงผู้นี้
และสำหรับหยางเสี่ยวเทียน ราคานี้ถือว่าดีมากแล้ว
“ตกลง” หยางเสี่ยวเทียนพยักหน้า
สิ้นเสียงนั้น เหวินจิงอวี๋ก็นำทองหนึ่งล้านเหรียญออกมาขณะถือมันด้วยมืออันสั่นเทา เพราะนี้ก็เป็นครั้งแรก ที่นางได้สัมผัสมันทีเดียวมากมายเช่นนี้
ส่วนหยางเสี่ยวเทียนที่เห็นท่าทีเดินอย่างระมัดระวังของนาง ก็อดเผลอส่ายหัวด้วยใคร่เห็นใจมิได้
หลังนางวางหีบทองหนึ่งล้านเหรียญลงตรงหน้าหยางเสี่ยวเทียนอย่างเบามือแล้ว เขาก็เพียงเหลือบมองดูมันพอเป็นพิธีเล็กน้อย และเก็บใส่แหวนเตาหลอมทันที
แต่ขณะที่หยางเสี่ยวเทียนกำลังจะเคลือนตัวไป แม่นางเหวินจิงอวี๋ก็พลันเอ่ยปากถามเขาอย่างเร็ว
“ตะ ใต้เท้า ทางสมาคมของเราวางกำหนดงานประมูลโอสถวิญญาณหลงหู่ระดับนิรันดร์สิบเม็ด ที่ท่านนำมาวันนี้ ในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ไม่ทราบว่าท่านสนใจเข้าชมการประมูล… คือ… คือเราใคร่สงสัยว่าจะเชิญท่านมาได้หรือไม่” เหวินจิงอวี๋ถามอย่างลุ้นระทึก
เพราะอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า จะมีการจัดแข่งขันหลอมโอสถ
ซึ่งในเวลานั้น บรรดานักปรุงโอสถและผู้มีทรงอำนาจจำนวนนับไม่ถ้วนจากอาณาจักรเสินไห่ จะมารวมตัวที่เมืองเสินเจี้ยนแห่งนี้กันอย่างหนาแน่น
สมาคมการค้าเฟิงยวินจึงเลือกที่จะจัดการประมูลโอสถวิญญาณหลงหู่ระดับนิรันดร์ ระหว่างวันแข่งขันหลอมโอสถ เพื่อให้ได้ผลตอบรับที่ดีกว่า
และแน่นอนว่าถึงจะไม่มีวันสำคัญอย่างแข่งขันหลอมโอสถ สมาคมการค้าเฟิงยวินก็สามารถดึงดูดผู้คนเหล่านี้ได้สบาย เพียงประกาศข่าวเรื่องโอสถระดับนิรันดร์ บรรดาบุคคลที่ว่านั้นก็เต็มใจบุกป่าฝ่าดงพร้อมหอบเงินทองมาถึงที่อยู่แล้ว
“ไม่จำเป็น” หยางเสี่ยวเทียนส่ายศรีษะ
หากกล่าวตามตรง เขาไม่มีความสนใจในการประมูลโอสถระดับนั้น
ด้วยมันเป็นเพียงโอสถวิญญาณหลงหู่ระดับนิรันดร์แค่สิบเม็ดเท่านั้น ไม่ใช่โอสถวิญญาณหลงหู่ระดับอนันต์สิบเม็ด ที่นับว่าสูญหายไปแล้วเสียหน่อย
รอจนกว่าเขาสามารถหลอมโอสถระดับอนันต์ในสามปีให้สำเร็จเสียก่อนเถิด บางทีเขาอาจจะสละเวลามาดูการประมูลสักคราก็เป็นได้
หัวใจเหวินจิงอวี๋แทบสลายด้วยความรู้สึกผิดหวัง เมื่อได้ยินน้ำเสียงหนักแน่นของหยางเสี่ยวเทียนยืนยันจะไม่เข้าร่วมการประมูลในครั้งนี้
นั่นก็เพราะ หากผู้ใดได้ทราบว่าใต้เท้าหลงจะเข้าร่วมชมการประมูล ไม่ว่าใครก็ต้องเข้าร่วม ด้วยใคร่อยากพบปะบุคคลที่มีความสามารถ ข่าวเช่นนี้จะทำให้การประมูลได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างแน่นอน
อีกทั้ง ขณะนี้ก็มีนักปรุงโอสถและผู้มีอำนาจจำนวนนับไม่ถ้วนจากอาณาจักรโดยรอบ ต้องการพบใต้เท้าหลง
“ใต้เท้าหลง” หลังเงียบอยู่ครู่ จู่ๆ รีมฝีปากบอบบางก็พลันเผยอเอ่ยขึ้น
จากนั้น เหวินจิงอวี๋ที่ลังเลอยู่ครู่จึงกล่าวว่า “จักรพรรดิแห่งเสินไห่ เจ้าสำนักหลินแห่งสำนักเสินเจี้ยน ท่านหลี่เหวินผู้นำสมาคมนักปรุงโอสถแห่งอาณาจักรเสินไห่ และจักรพรรดิแห่งอาณาจักรโดยรอบ ล้วนต้องการพบท่าน ไม่ทราบว่าใต้เท้าพอจะเจียดเวลาอันมีค่า ยอมพบพวกเขาได้หรือไม่”
ผู้ใดจะไม่อยากทำความรู้จักสนิทสนมกับนักปรุงโอสถ ที่สามารถหลอมโอสถวิญญาณหลงหู่ระดับนิรันดร์ได้กัน
หยางเสี่ยวเทียนส่ายศีรษะแล้วกล่าวว่า “ข้าไม่ต้องการพบพวกเขา”
เมื่อคนเหล่านี้ได้พบเขาผู้เป็นใต้เท้าหลงแล้วอย่างไร พวกเขาเพียงใคร่เอาชนะใจผูกไมตรีหยางเสี่ยวเทียน เพื่อให้เขาทำงานสนองความต้องการแลอำนาจกดขี่ผู้คน นี่คือผลทั้งดีและร้ายอันจะตามมาอย่างมหาศาล
หลังหยางเสี่ยวเทียนกล่าวจบ เขาก็ถอยกายหายเข้าไปในความมืดมิดอีกเช่นเคย
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่หยางเสี่ยวเทียนจะอันตรธานหายไป เขาก็ขอให้แม่นางเหวินจิงอวี๋เตรียมทองคำอีกหนึ่งล้านเหรียญทองไว้รอเขาในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า
ใบหน้างดงามของเหวินจิงอวี๋ตกตะลึงอยู่นานก่อนจะทันนึกได้ “เตรียมอีกหนึ่งล้านเหรียญทองงั้นหรือ!”
เช่นนั้นก็หมายความว่า
นางตกใจกระทั่งหัวใจเต้นระรัวไปทั้งทรวงอกจนเกือบหมดสติ หลังคิดได้ว่าสิ่งที่หยางเสี่ยวเทียนหมายถึงคืออะไร
ใต้เท้าหลงหมายความว่า เขาจะขายโอสถวิญญาณหลงหู่ระดับนิรันดร์อีกสิบเม็ด ให้กับสมาคมการค้าเฟิงยวินในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้างั้นหรือ