ตอนที่ 247 อมตะต้าหลัวลงมือ (ฟรี)
ตอนที่ 247 อมตะต้าหลัวลงมือ
อมตะหมื่นเต๋าเผ่ามนุษย์ทั้ง 6 ต่างมองหน้ากัน
“ดูเหมือนว่าชายคนนี้จะถึงวาระแล้ว”
“เรื่องดังกล่าวไม่ใช่สิ่งที่เราสามารถเข้าไปยุ่งได้ และนั่นเป็นเพียงร่างโคลน เราไม่ควรทำอะไรบุ่มบ่าม”
โดยธรรมชาติแล้วพวกเขาสามารถเห็นได้ว่าซูหยางตรงหน้าเป็นเพียงร่างโคลน แต่ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงตกใจมากยิ่งขึ้น
พวกเขาไม่มีทางเข้าไปแทรกแซงสถานการณ์ได้จึงทำได้เพียงเฝ้าดูเท่านั้น
ซูหยางมองไปรอบๆ และเห็นอมตะหมื่นเต๋าหลายร้อยคนเตรียมที่จะปิดล้อมเขา
เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
“พวกเจ้าคิดจะฆ่าข้างั้นรึ?”
"คิดว่าตัวเองคู่ควรหรือยังไงกัน?"
ซูหยางลอยตัวอยู่กลางอากาศ มองไปรอบๆ โดยไม่สนใจเกี่ยวกับสถานการณ์อันตรายที่เขากำลังเผชิญอยู่
อย่าลืมว่าเจตจำนงดาบแปรเปลี่ยนเป็นได้ทุกสิ่ง มันไร้ขีดกำจัดอย่างแท้จริง!
ก่อนหน้านี้ เขาใช้เพียงวิชาดาบเพลิงดาราเท่านั้น และไม่ได้ใช้วิชาดาบอื่นๆ ไม่ใช่เพราะเขาใช้มันไม่ได้ แต่ไม่เห็นถึงความจำเป็น
“ฮึ่ม มนุษย์ อย่าเย่อหยิ่งเกินไปนัก! ตอนนี้เจ้าถูกล้อมแล้วยังพูดไร้สาระอะไรอยู่ดี!”
“ที่เจ้ากล้าเย่อหยิ่งก็เพราะเป็นเพียงร่างโคลนสินะ หากเป็นร่างหลัก เจ้าคงกลัวตาย และคุกเข่าลงเพื่อขอความเมตตาไปแล้ว”
“หยุดพูดไร้สาระแล้วฆ่าเขาซะ!”
เนื่องจากอมตะหมื่นเต๋าจำนวนมากตัดสินใจลงมือ พวกเขาจะไม่ให้โอกาสซูหยางหนีไปอย่างแน่นอน
พวกเขาร่วมมือกัน และโจมตีพร้อมกัน
อมตะหมื่นเต๋าเผ่ามนุษย์ทั้ง 6 คนต่างหวาดกลัวเมื่อเห็นภาพนี้
หากเป็นพวกเขา พวกเขาจะต้องตายอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่การโจมตีจะมาถึงตัว ซูหยางก็ก้าวเข้าไปในความว่างเปล่า และออกจากจุดนั้น เมื่อเขาปรากฏตัวอีกครั้ง เขาก็ฝ่าออกจากวงล้อมของอมตะหมื่นเต๋านับร้อยได้อย่างไม่ยากเย็น
การโจมตีของอมตะหมื่นเต๋านับร้อยตกลงบนจุดที่ซูหยางเคยอยู่ เกิดการระเบิดอย่างรุนแรง และพลังอันน่าสะพรึงกลัวก็กวาดไปทั่ว เพียงแค่คลื่นพลังที่แผ่ออกมาก็พอที่จะฆ่าอมตะเต๋าได้
แต่ภาพที่ซูหยางฝ่าออกจากวงล้อมก็ปรากฏในสายตาของทุกคนเช่นกัน
ความสามารถของซูหยางทำให้ทุกคนตกใจเป็นอย่างมาก
“ช่างน่ากลัวจริงๆ เขาสามารถตัดมิติในสถานการณ์เช่นนั้นได้!”
เมื่อสักครู่นี้ ด้วยการโจมตีจำนวนมากที่พุ่งเข้าหา ความว่างเปล่าควรไม่เสถียรอย่างยิ่ง และเป็นการยากมากที่จะเดินทางผ่านมัน หากไม่ระวังก็จะถูกฉีกเป็นชิ้นๆ
ความว่างเปล่าที่พวกเขามักจะใช้เดินทางผ่านต้องอยู่ภาวะที่มั่นคง แต่ถ้ามันไม่เสถียร มันจะน่ากลัวอย่างยิ่ง และเป็นอันตรายถึงชีวิต
ซูหยางมองดูคนอื่นๆ และยกมุมปากขึ้น "ในเมื่อพวกเจ้าฆ่าข้าไม่ได้ ก็ถึงคราวของข้าบ้างแล้ว"
เมื่อได้ยินคำพูดของซูหยาง หลายคนที่เข้าร่วมการต่อสู้ต่างรู้สึกหนาวสั่นในใจ และความรู้สึกถึงลางร้ายก็ปกคลุมไปทั่วร่างกายของพวกเขา
การต่อสู้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งในขณะนี้!
หลังจากพูดจบ ซูหยางก็เปิดฉากโจมตี
ธารแห่งดาบที่ประกอบด้วยดาบเพลิงดาราจำนวนมากครอบคลุมพื้นที่หลายพันลี้!
ในเวลาเพียงครู่เดียว ซูหยางก็เหวี่ยงดาบออกไปหลายร้อยครั้ง!
เมื่อเห็นสิ่งนี้ อมตะหมื่นเต๋าบางคนที่อ่อนแอกว่าใครก็รู้สึกหวาดกลัว
ชายคนนี้เป็นสัตว์ประหลาดหรือยังไงกัน!
พลังปราณในร่างกายของเขาไร้ที่สิ้นสุดอย่างแท้จริง!
ไม่มีใครตอบคำถามของพวกเขา มีเพียงดาบเพลิงดาราอันไร้ที่สิ้นสุดเท่านั้นที่พุ่งเข้าใส่!
อมตะหมื่นเต๋าเผ่ามนุษย์จำนวนมากต่างตอบโต้อย่างรวดเร็ว
พวกเขาพอจะสามารถต้านทานการตอบโต้ของซูหยางได้
แต่พวกเขาก็เข้าใจอะไรบางอย่างได้ในขณะนี้ พวกเขาไม่สามารถฆ่าซูหยางได้!
ไม่จำเป็นต้องสู้กันเป็นเวลานาน พวกเขาก็สามารถวิเคราะห์ปัญหาต่างๆ ได้ในการเผชิญหน้าเพียงไม่กี่ครั้ง
หากต้องการฆ่าซูหยาง ต้องมีใครสักคนที่สามารถผนึกความว่างเปล่าได้อย่างสมบูรณ์ เพื่อกันไม่ให้ซูหยางหลบหนี และระดมโจมตีเข้าไปอย่างพร้อมเพียงกัน
แต่ในหมู่พวกเขา ไม่มีใครสามารถทำเช่นนั้นได้
“ไม่มีทางฆ่ามนุษย์คนนี้ได้ ฉะนั้น ข้าขอตัวก่อน พวกเจ้าจัดการกันเองล่ะกัน”
บางคนต้องการถอนตัวหลังจากสังเกตเห็นได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ พวกเขาค่อยๆ เว้นระยะห่างออกจากสนามรบ
การจากไปของบางคนยังกระตุ้นให้คนที่เหลือทำตามอีกด้วย
เดิมทีพวกเขาคิดว่าตนมีโอกาสที่จะชนะ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการมีส่วนร่วม และรับส่วนแบ่ง แต่ตอนนี้พวกเขาพบว่าโอกาสแพ้สูงกว่าจึงคิดที่จะถอนตัวออกมา
แต่ทันทีที่อมนุษย์คนหนึ่งถอยห่างออกไปเพียงเล็กน้อย ดาบเพลิงดาราก็ตัดมิติ และปรากฏตรงหน้าคนๆ นั้นในพริบตาเดียว
ก่อนที่จะทันได้ตอบสนอง เขาก็ถูกผ่าครึ่ง
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้หลายคนตกใจกลัว
ดาบตัดมิติ!
“มนุษย์ เราไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ทำไมถึงไม่ให้เราออกไป” อมนุษย์คนหนึ่งที่ต้องการล่าถอยอดไม่ได้ที่จะพูดออกไป
“เมื่อคิดว่ามีโอกาสชนะ พวกเจ้าก็ต้องการสังหารข้า ตอนนี้สถานการณ์กลับพลิกคิดว่าข้าจะปล่อยพวกเจ้าไปงั้นรึ พวกเจ้ามองโลกในแง่ดีเกินไปหรือเปล่า?”
“วันนี้จะไม่มีใครหนีรอดออกไปได้”
น้ำเสียงสงบของซูหยางสะท้อนอยู่ในความว่างเปล่า แต่มันทำให้อมนุษย์หลายคนโกรธ
“มนุษย์อย่าให้มากเกินไปนัก พวกเราต่างสังกัดกองกำลังต่างๆ ที่ทรงพลัง เจ้าคิดว่าจะรับมือกับผลที่ตามมาไหวงั้นรึ” คนๆ หนึ่งพูดขึ้นอย่างเดือดดาล
ซูหยางอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ "ทำไมข้าต้องสนใจด้วย ข้าจะให้ทุกคนได้เห็นว่าการเข้ามายุ่งเรื่องของข้าจะต้องจ่ายด้วยสิ่งใด!"
“แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ในอนาคต พวกเจ้าคงไม่ได้เห็นมัน ไปนึกเสียใจในโลกหน้าซะเถอะ”
หลังจากที่ซูหยางพูดจบ เขาก็หยุดพูด และเหวี่ยงดาบ ควบแน่นดาบเพลิงดาราให้ตัดมิติ เดินทางผ่านความว่างเปล่าโดยตรง
ไม่ปรากฏร่องรอยใดๆ ให้เห็นเลยแม้แต่น้อย
เมื่อดาบเพลิงดาราปรากฏขึ้นอีกครั้ง มันจะปรากฏขึ้นตรงหน้าอมนุษย์เหล่านั้น
ความสามารถที่แปลกประหลาด และทรงพลังนี้ทำให้อมตะหมื่นเต๋าหลายคนตื่นตระหนก
สักพัก พวกเขาก็รู้สึกเสียใจมากว่าทำไมต้องมายุ่งเรื่องนี้ด้วย ตอนนี้ยากจะถอนตัวแล้ว
“เทียนหยู่ เจ้ามัวทำอะไรอยู่ คิดหาวิธีจัดการมนุษย์คนนี้เร็วเข้า พวกเรากำลังหลายคนกำลังจะตาย”
“รีบแจ้งเจ้าวังเพลิงอัสนีให้มาช่วยเรา”
เมื่อเห็นว่าซูหยางจริงจังกับสิ่งที่พูด พวกเขาก็ตื่นตระหน ดังนั้นจึงหันไปสนใจไปหาเทียนหยู่
เทียนหยู่ก็รู้ถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้ เพียงชั่วครู่หลังจากที่ซูหยางแสดงทักษะโจมตีแปลกๆ อมตะหมื่นเต๋าถึง 10 คนก็ถูกสังหารไปแล้ว
“พวกเจ้าไม่กังวล ข้าได้แจ้งให้ฝ่าบาททราบแล้ว เราแค่ต้องอดทนต่อไปอีกสักหน่อย”
หลังจากได้ยินคำตอบของเทียนหยู่ หลายคนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ อมตะหมื่นเต๋าที่อ่อนแอกว่าบางส่วนยังคงตื่นตระหนกเป็นอย่างมากในเวลานี้
ในช่วงเวลาสั้นๆ นี้ อมตะหมื่นเต๋าขั้นต้นนับสิบคนถูกสังหารภายใต้คมดาบของซูหยาง
คนที่เหลือที่อยู่ในระดับเดียวกันจะไม่หวาดกลัวได้อย่างไร
แม้แต่อมตะหมื่นเต๋าขั้นกลางก็ยังรู้สึกหวาดกลัว
พวกเขาไม่สามารถปัดป้องการโจมตีของซูหยางด้วยตัวคนเดียวได้ ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้แค่หลีกเลี่ยงหรือพึ่งพาคนอื่นๆ เพื่อช่วยปัดป้องมัน
มาถึงตอนนี้ พวกเขาเต็มไปด้วยความเสียใจ
ดูเหมือนเป็นเรื่องที่แน่นอน และพวกเขาก็สามารถได้รับส่วนแบ่ง ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกที่จะมีส่วนร่วม
ตอนนี้ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังมองหาความตาย
ไม่ว่าพวกเขาจะคิดอย่างไร ซูหยางก็คงจะไม่ปล่อยพวกเขาไป
ไม่ว่าฝ่ายใดก็ต้องตายกันไปข้างหนึ่ง!
เป็นเรื่องยากมากที่จะตรวจจับดาบเพลิงดาราที่ตัดมิติมาหา และการที่ต้องตอบสนองอย่างทันท่วงทีก็ยิ่งยากขึ้นไปอีก
หากต้องการโจมตีให้เจาะเข้าไปในความว่างเปล่านั้นต้องใช้พลังงานมาก และการตัดมิติออกมาอีกครั้งนั้นก็ใช้พลังงานมากขึ้นไปอีก
ในท้ายที่สุด พลังก็จะเหลืออยู่ไม่มากนัก
มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะใช้มันเพื่อต่อสู้กับศัตรูในระดับเดียวกัน
แต่ซูหยางทำมันได้
อมตะหมื่นเต๋าหลายคนที่อยู่ที่นี่ไม่ใช่ไร้ความสามารถ พวกเขาพอจะรับรู้ได้ว่าซูหยางมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับกฎมิติ อย่างน้อยก็อยู่ในระดับสูงมากจนไม่มีใครที่แห่งนี้เทียบได้
นั้นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้อีกฝ่ายสามารถใช้ทักษะที่แปลกประหลาดเช่นนี้ได้
ในสนามรบ ซูหยางเหมือนกับยมทูต
ร่างของเขาเดินทางผ่านความว่างเปล่า ปรากฏตัวในตำแหน่งที่แตกต่างกันทุกครั้ง
ดาบของเขาก็เช่นเดียวกัน และมันปรากฏอีกครั้งต่อหน้าศัตรูอยู่เสมอ
มันทำให้ยากที่จะป้องกัน
หากศัตรูคนใดพยายามหลบหนี พวกเขาจะถูกซูหยางไล่ล่า และสังหาร
เมื่อเผชิญหน้ากับกฎมิติระดับสูงของซูหยาง พวกเขาก็ไม่สามารถหลบหนีได้เลย
แม้แต่อมตะหมื่นเต๋าระดับสูงก็ยังรู้สึกกดดันอย่างมากในเวลานี้
มันกลายเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะต้านทาน แม้จะมีอมตะหมื่นเต๋านับร้อย ภายในเวลา หนึ่งก้านธูปก็เหลือเพียง 50 คนเท่านั้น
ขณะที่อมตะหมื่นเต๋าขั้นสูง และขั้นสูงสุดคิดว่าควรจะหนีไปเลย และทิ้งคนอื่นๆ ไว้ดีหรือไม่
พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องหนีอีกต่อไป
จู่ๆ เทียนหยู่ก็มองไปทางท้องฟ้า
ทันใดนั้นรอยแตกก็ปรากฏขึ้น จากนั้นนิ้วก็ทะลุรอยแตกนั้นออกมา
แรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัวทำให้ทุกคนสั่นสะท้าน
“อมตะต้าหลัว!”
ผู้ฝึกฝนเผ่ามนุษย์ทั้งหกที่เฝ้าดูจากภายนอกก็ตกตะลึงเช่นกัน
ชายคนนี้รอดชีวิตจากการถูกปิดล้อม และสังหารอมตะหมื่นเต๋าไปเป็นจำนวนมาก และทำการตอบโต้อย่างค่อยเป็นค่อยไป
การได้เปรียบต่อศัตรูนับร้อยนั้นน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่งแล้ว!
จนถึงขณะนี้ อมตะต้าหลัวยังถูกบังคับให้ลงมือด้วยซ้ำ
และนี่เป็นเพียงร่างโคลนของอีกฝ่ายเท่านั้น!