ตอนที่ 209 ตัวตนถูกเปิดเผยแล้ว
“เข้ามาเร็วเข้า ลูกเขยของคุณอยู่ที่นี่แล้ว”
พอเปิดประตู เธอก็เห็นสามีของตนเข้าจริงๆ คุณนายจางจึงรีบพูดเร่ง
“อืม ฉันกลับมาแล้ว!”
“ไปกัน เข้าไปข้างในเถอะ!”
เมื่อได้ยินว่าลูกเขยมาถึงแล้ว จาง เอี๋ยนป๋อ ก็มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าทันที แล้วรีบตามภรรยาเข้าไปข้างในบ้าน
สักพักพวกเขาก็มาถึงห้องรับแขก
เมื่อเห็นคนมากมายในห้องรับแขกของเขา จาง เอี๋ยนป๋อ ก็ทักทายลูกเขยของเขาก่อน แล้วจึงมองไปที่คุณนายหลายคน
“คุณนายเซี่ย ไม่คิดเลยว่า.. วันนี้คุณจะมาด้วย มันทำให้ฉันรู้สึกเป็นเกียรติมาก รู้สึกเป็นเกียรติมากจริงๆ!”
จาง เอี๋ยนป๋อ มองไปที่ สวี่หยุน และกล่าวทักทายอย่างสุภาพทันที
ท้ายที่สุดแล้ว แม้ว่าคุณนายหลายคนในที่เกิดเหตุจะมีตัวตนของตัวเอง แต่ สวี่หยุน นั้นแตกต่างออกไป นั่นเพราะเธอคือ คุณนายเซี่ย
ฮั่วซิน กรุ๊ป ของตระกูลเซี่ย เป็นหนึ่งใน 100 บริษัทชั้นนำของโลก
ในแง่ของความแข็งแกร่ง แน่นอนว่าพวกเขาแข็งแกร่งกว่า หลิ่งเทียน กรุ๊ป ของ ตระกูลตู้ เล็กน้อย
จินเหิง กรุ๊ป ของตระกูลจางของพวกเขาไม่จำเป็นต้องพูดถึง พวกเขาเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำ 500 อันดับแรกในประเทศเท่านั้น
ถ้าเทียบกับ ฮั่วซิน แล้ว นั่นก็เปรียบได้ราวกับพ่อมดเล็กเจอพ่อมดใหญ่ ซึ่งไม่มีนัยสำคัญใดๆ เลย
และเขา จาง เอี๋ยนป๋อ ย่อมไม่กล้าที่จะละเลย
ทันทีหลังจากนั้น จาง เอี๋ยนป๋อ ก็แทบนิ่งอึ้งไปแล้ว
เพราะสายตาของเขาถูกดึงดูดโดยคนหนุ่มสาวสองคนที่ยืนอยู่ข้างหลัง สวี่หยุน หากพูดให้ถูกก็คือเขาน่าจะถูกดึงดูดโดย ซูเหวิน
อีกฝ่าย.. เป็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่เขารู้สึกคุ้นเคยเอามากๆ..
แม้ว่าเขาจะไม่เคยคุยกับอีกฝ่ายเลย และแม้เพิ่งจะเจอกันก็ตาม แต่ใบหน้านี้เขากลับรู้สึกคุ้นเคยมาก และเขารู้สึกเสมอว่าเหมือนเคยเจออีกฝ่าย ..ที่ไหน
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที จาง เอี๋ยนป๋อ พลันตอบสนอง
ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็เบิกกว้างขึ้น และมีความไม่เชื่อในสายตาตัวเอง
“คุณ... คุณคือ ซูเหวิน ซูเหวินจาก Worster Group?”
จาง เอี๋ยนป๋อ กล่าวขึ้นอย่างตกใจ
เขาไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองจริงๆ
“เฮ้ออ~”
ซูเหวิน ถอนหายใจอย่างลับๆ
ก็เห็นชัดๆ อยู่ว่าเขาทำตัวค้อมต่ำ ไม่อยากทำตัวเป็นจุดเด่น จุดสนใจใคร..
คาดไม่ถึงว่าที่นี่ยังมีคนจําเขาได้ ซึ่งทําเอาเขารู้สึกพูดไม่ออกจริงๆ
ชั่วครู่หนึ่งเขาก็ไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว
“คุณ... คุณคือ ประธานซู ใช่ไหมครับ?”
เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่พูด จาง เอี๋ยนป๋อ จึงเปิดปากพูดอีกครั้ง
ท้ายที่สุดแล้วคนคนนี้คือคนใหญ่คนโต มิหนำซ้ำตัวตนของเขานั้นคือผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองม่อ ดังนั้นไหนเลยเขาจะกล้าที่ละเลยอีกฝ่ายได้
“เหล่าจาง คุณ... คุณพูดว่าอะไรนะ?”
“การประชุมเมื่อตอนเช้าทำคุณสับสนหรือเปล่า? คุณกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไร?”
แต่ก่อนที่ ซูเหวิน จะพูด คุณนายจาง ก็พูดขึ้นด้วยสีหน้างงๆ สับสนก่อน
เธอไม่เข้าใจเลยว่าสามีของเธอทำอะไรอยู่
“ใช่คะ ประธานจาง คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า?”
“ชายหนุ่มคนนี้เป็นประธานของ Worster Group? สถานการณ์นี้มันยังไง…”
“ถูกต้อง Worster Group เป็นบริษัทอะไร แล้ว คุณชายซู คนนี้จะไปเกี่ยวข้องกับ Worster ได้อย่างไรกัน”
ไม่เพียงแต่ คุณนายจาง เท่านั้นที่มีสีหน้ามึนงงสับสน แต่เหล่า คุณนายอีกหลายคนก็มีสีหน้ามึนงงสับสนเช่นกัน และไม่เข้าใจสถานการณ์นี้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น
“มันเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ทุกคนจะรู้สึกแปลกใจ อย่าว่าแต่พวกคุณเลย ฉันเองก็ตกใจเหมือนกัน”
“เพียงแต่ คุณชายซู ที่อยู่ตรงหน้าฉันคนนี้เขาเป็นประธานของ Worster Group จริงๆ ฉันจำไม่ผิดแน่นอน เพราะครั้งหนึ่งฉันรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้พบกับ คุณชายซู ในงานเลี้ยง…”
จาง เอี๋ยนป๋อ อธิบายทันที
ทันทีที่คำพูดนี้หลุดออกมา นอกจาก ซูเหวิน, เซี่ย ซินเหยา และแม่ของเธอแล้ว
คนทั้งปวงที่อยู่ที่นั่นต่างตกตะลึง และดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
นี่... มันเป็นไปได้ยังไง?
คุณชายซู ก่อนหน้าบอกตัวเองว่าเป็นแค่คนธรรมดาไม่ใช่เหรอ?
คุณกลับเป็นประธานของ Worster Group อีกครั้งไปตั้งแต่เมื่อไหร่?
และ Worster Group คือบริษัทอะไร?
นั่นเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำ 100 อันดับแรกของโลก โดยมีมูลค่าตลาดมากกว่าล้านล้าน
นี่... คือ คุณชายซู คนนี้ ควบคุมบริษัทใหญ่ขนาดนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย?
“อืมม ในเมื่อคุณจำผมได้แล้ว ผมคงไม่มีอะไรจะพูดอีก และใช่.. ผมเป็นประธานของ Worster Group จริงๆ”
ทันใดนั้น ในที่สุด ซูเหวิน ก็พูดขึ้นแล้ว
เขาพยักหน้า และยอมรับตัวตนของเขา
ในเมื่อหัวหน้าครอบครัวคนอื่นพูดแบบนี้แล้ว
ถ้าเขาไม่ยอมรับตัวตนอีก มันคงกลายเป็นเรื่องตลก
“ประธานจาง ดวงตาของคุณนี่คมเกินไป”
“เดิมทีเรายังไม่อยากให้ เสี่ยวเหวิน เปิดเผยตัวตน แต่ตอนนี้เมื่อคุณอยู่ที่นี่ ทุกอย่างก็ถูกเปิดเผยแล้ว”
ในเวลานี้ สวี่หยุน พลางพูดด้วยรอยยิ้มอย่างช่วยไม่ได้
แต่เดิมวันนี้พวกเขาไม่อยากเป็นจุดสนใจ
ใครจะไปรู้ว่า ประธานจาง คนนี้จะรู้จัก ซูเหวิน เข้าจริงๆ ..ให้ตายสิ
ในที่สุดเมื่อเห็นอีกฝ่ายยอมรับตัวตนของตัวเอง ประธานจาง ก็เรียกได้ว่ามีความสุภาพ และความเกรงใจขึ้นมาทันที
พระเจ้าช่วย!
วันนี้ตระกูลจางของพวกเขาโชคดีแค่ไหนที่มีคนใหญ่คนโตมากมายมาที่บ้านพร้อมกันขนาดนี้?
“ไอ๊หยา ฉันไม่รู้ว่าวันนี้ ประธานซู จะมาที่นี่ และต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้ให้การต้อนรับอย่างเหมาะสม และขอโทษที่ไม่ได้ออกไปต้อนรับคุณ!”
ประธานจาง กล่าวทักทายทันที ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสุข
ไม่มีทาง ซูเหวิน คือบุคคลใด แน่นอนว่าใครก็ตามที่รู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่มีใครไม่ตกใจ
เพราะตัวตนของเขานั้นมันลึกลับเกินกว่าจะคาดเดาได้
เมื่ออายุยังน้อย เขายืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกธุรกิจ และกลายเป็นประธานของ Worster Group
ตัวละครดังกล่าวนี้ ในโลกจะมีได้กี่คน?
และตัวละครแบบนี้ จู่ๆ วันหนึ่งก็ตกลงมาจากท้องฟ้ามาที่บ้านของคุณ เกรงว่าไม่ว่าใครเจอย่อมตกใจอย่างยิ่ง?
ชั่วขณะหนึ่ง หัวหน้าครอบครัวจางคนนี้กลับมองข้ามลูกเขยของเขา และเริ่มพูดคุยกับ ซูเหวิน อย่างกระตือรือร้นแทน คนรอบข้างที่เห็นต่างก็ทําสีหน้างงงวย
โดยเฉพาะกับคุณนายหลายคน ที่แทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเลยด้วยซ้ำ
เรื่องแบบนี้มันเป็นไปได้ยังไง?
คุณชายซู บอกว่าตัวเองเป็นแค่คนธรรมดาไม่ใช่เหรอ?
จู่ๆ เขาจะกลายเป็นประธานของ Worster Group ไปได้อย่างไร?
เมื่อไม่กี่นาทีก่อน พวกเธอยังคร่ำครวญอยู่ว่าทําไม ตระกูลเซี่ย ถึงมองหาลูกเขยที่มีฐานะยากจนเช่นนี้ได้
เพียงแต่ชั่วพริบตานี้ ไหงอยู่ดีๆ ไก่บ้านถึงได้กลายเป็นนกฟินิกซ์ไปแล้ว?
“คุณนายเซี่ย นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
ในที่สุด คุณนายจาง ซึ่งยืนอยู่ข้างๆ ก็พูดแล้ว
เมื่อมองสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า จริงๆ แล้วในใจเธอก็รู้สึกตกใจมานานแล้ว
“อืม สามีของคุณพูดถูก ซูเหวิน เป็นประธานของ Worster Group จริงๆ แต่เราไม่อยากเปิดเผย ดังนั้นเราจึงไม่ได้คิดพูดอะไรออกไป”
“นอกจากนี้เขายังอายุน้อย แม้ว่าฉันจะพูดออกไป พวกคุณเองอาจจะไม่เชื่อ”
ในเมื่ออีกฝ่ายถามแล้ว สวี่หยุน ก็พยักหน้าพลางอธิบาย
“คุณนายจาง คุณนายอวี๋ และคนอื่นๆ อีกหลายคน, อย่างไรฉันต้องขอโทษด้วย”
จากนั้น สวี่หยุน พลันกล่าวขึ้นอีกครั้ง
“อุ๊ย นี่... พอเลยๆ คุณนายเซี่ย อย่าพูดแบบนี้เลย พวกเราเองที่ตาบอด มองไม่เห็นตัวตนแท้จริงของ คุณชายซู คนนี้ เราจะไปคิดตำหนิคุณได้ยังไง?”
“ใช่เลยใช่เลย เป็นเราที่โง่เอง”
“คุณชายซู นั่นน่าทึ่งมากจริงๆ ไม่เพียงแต่เขาเป็นคนที่มีความสามารถเท่านั้น ดูเหมือนว่าตัวตนของเขายังพิเศษมากอีกด้วย ตระกูลเซี่ย และตระกูลซู ของพวกคุณ กล่าวได้ว่าเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง!”
คุณนายหลายคนตอบสนองอย่างรวดเร็ว และรีบแย่งกันพูด
แต่ละคนมีทัศนคติที่สุภาพ อ่อนโยน และเป็นมิตรเอามากๆ
ไม่มีร่องรอยของความโกรธ หรือความไม่พอใจที่ถูกหลอกออกมาให้เห็นเลยแม้แต่น้อย
ดูเหมือนว่าคนที่มีสถานะแข็งแกร่งย่อมแตกต่างออกไปจริงๆ
แม้ว่าคุณจะหลอกคนอื่นแต่คนอื่นก็จะยังยิ้มน้อยๆ และไม่กล้าคิดเก็บเอาเรื่องนี้มาใส่ใจ
เช่นเดียวกับ คุณนายจาง
ในขณะนี้ เมื่อฟัง สวี่หยุน อธิบาย คุณนายจาง ไม่เพียงแต่ไม่โกรธเท่านั้น แต่กลับรู้สึกประหลาดใจ เธอกล่าวว่า : “คุณนายเซี่ย คุณอย่าได้กล่าวขอโทษเลย คนที่ต้องกล่าวขอโทษจริงๆ น่าจะเป็นฉันมากกว่า”
“คุณมีลูกเขยที่เก่งกาจ แถมยังถ่อมตัวได้ขนาดนี้ ฉันต้องบอกว่าขอยอมรับคุณด้วยใจแล้ว”
นี่เป็นคำชมจาก คุณนายจาง แต่ก็เป็นความคิดลึกๆ ในใจของ คุณนายจาง ด้วย
ถ้าเธอมีลูกเขยที่ดี และเก่งกาจถึงขนาดนี้ได้
เธอคงแทบรอไม่ไหวแล้วที่จะให้คนทั้งโลกรู้ถึงเรื่องนี้
แต่ คุณนายเซี่ย กลับนิ่งสงบตลอดเวลา ราวกับภูเขาไร้น้ำค้าง(ทำตัวต่ำต้อย ไม่โอ้อวด)
แม้หลังจากรู้ว่าตระกูลจางของพวกเขามีลูกเขยเป็น คุณชายตู้ คนนี้ ก็ยังไม่มีความตั้งใจที่จะเปรียบเทียบ
สภาวะจิตใจ และระดับของสติปัญญาเช่นนี้ เธอไม่สามารถทำได้จริงๆ
“ฮ่าฮ่าๆ คุณชายซู เป็นคนที่มีความคิดดีจริงๆ คาดไม่ถึงว่าจะซ่อนตัวตนมาได้จนถึงตอนนี้ ช่างไม่ธรรมดาจริงๆ”