ตอนที่ 110 ส่งตัวเย่ซีมาซะ! ไม่เช่นนั้นข้าจะพังร้านแห่งนี้!! (อ่านฟรี 20/11/2567)
[ทักษะก่อสร้างพื้นฐาน
ระดับ : ???
รายละเอียด : เป็นส่วนหนึ่งของเคล็ดวิชาเซียนก่อสร้าง ท่านสามารถสร้างสิ่งก่อสร้างทุกอย่างที่ระดับไม่เกินราชวงศ์ได้ แต่การก่อสร้างนี้จะทำได้เพียงภายนอกเท่านั้น ไม่รวมถึงการตกแต่งภายใน รายละเอียดต่าง ๆ ของสิ่งปลูกสร้างนั้น ๆ ถ้าท่านต้องการให้ก่อสร้างได้ทุกอย่างทุกรายละเอียด โปรดซื้อเคล็ดเซียนก่อสร้าง]
“อย่างน้อยก็มีประโยชน์อยู่ในระดับนึง สร้างพวกโครงไม้ตามขอบที่ดินแล้วค่อยเอาเถาวัลย์ที่โตแล้วไปวางให้มันพันไปตามโครงไม้ก็น่าจะดี” เย่ซีตรวจสอบทักษะอีกอย่างที่ได้มาก่อนจะกล่าวออกมาด้วยความจริงจัง เขามองว่าต่อให้เขาไม่อยู่สามวัน แต่สิ่งต่าง ๆ ก็คงจะเหมือนเดิม ไม่น่าจะมีผู้ใดกล้าเข้ามาบุกรุกที่ดินของเขาได้
“ชื่อเสียงเพิ่มมาเป็นสี่พันแล้ว แถมยังเพิ่มขึ้นไม่หยุดอีกด้วย” ชายหนุ่มกล่าวออกมาด้วยความดีใจ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเขาต้องสำเร็จภารกิจเพิ่มชื่อเสียงให้ได้หนึ่งล้านภายในหนึ่งเดือนได้แน่นอน
“มีอีกหลายเรื่องทำต้องเหมือนกันแหะ” ชายหนุ่มเปิดหน้าต่างภารกิจขึ้นมาดูก่อนจะกล่าวออกมา
ต้องฝึกบำเพ็ญ ต้องหาวิธีฝึกการปรุงยา ต้องหาเงิน ต้องเพิ่มชื่อเสียง ต้องสร้างความปลอดภัยให้ร้านค้า แค่คิดก็ทำเอาคนที่สมองช้าแบบเขาปวดหัวไปหมดแล้ว
ยังดีที่มีเยี่ยหลิงมาคอยจัดการเรื่องลูกค้าที่เข้ามาในแต่ละวันให้ รวมกับฟิชที่คอยเฝ้าระวังความปลอดภัยให้อีกด้วย ทำให้ชายหนุ่มสามารถใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยปลูกพืช ผัก สมุนไพรได้
ในตอนนี้เขานำพวกพีช ผัก สมุนไพรที่ได้จากชั้นลึกสุดของเหวดำลงปลูกในดินได้ราวหนึ่งส่วนสิบของจำนวนทั้งหมดแล้ว พวกมันมีกันเกือบพันต้นเลยทีเดียว แถมยิ่งมีระดับสูงเท่าไหร่ขั้นตอนการปลูกก็ยิ่งวุ่นวายมากขึ้นเท่านั้น การปลูกได้ขนาดนี้ภายในเวลาไม่นานก็นับว่าน่าตกตะลึงมากแล้ว
“เถ้าแก่ มีคนต้องการพบท่าน” หลังจากที่ก้มหน้าก้มตาทำสวนอยู่สักพักหนึ่ง ก็มีเสียงของหญิงสาวดังขึ้นมาด้านหลังของชายหนุ่ม เมื่อหันไปดูก็พบว่าเป็นเยี่ยหลิงนั่นเอง
“เป็นใครรึ ?” เย่ซีกล่าวถามพลางเก็บเครื่องมือทำสวนที่เขาซื้อจากตลาดเข้าไปในแหวนมิติ
ถึงแม้จะเป็นเพียงของทั่วไปแต่ก็นำมาใช้งานได้เป็นอย่างดี เพียงควบคุมลมปราณให้ห่อหุ้มเครื่องมือเหล่านั้นก็เพียงพอที่จะทำให้พวกมันทำงานได้แล้ว
“ข้าก็ไม่ทราบแน่ชัด แต่เห็นพวกเขาบอกว่าเป็นคนของทางการเจ้าค่ะ” หญิงสาวตอบคำถามด้วยความลังเล
“คนของทางการ ? เช่นนั้นข้าจะไปดูสักหน่อยก็แล้วกัน” ชายหนุ่มกล่าวออกมาแล้วเขาก็เดินนำหน้าหญิงสาวกลับไปยังทิศทางที่ร้านเซียนรับจ้างตั้งอยู่
ทำไมคนของทางการถึงต้องการพบเขากันนะ ? หรือจะเป็นเรื่องนั้นที่พูดคุยกับองค์หญิงไว้กันแน่ แต่เวลามันก็เพิ่งจะผ่านไปเพียงไม่นาน องค์หญิงคงยังไม่น่าจะดำเนินการอะไรได้ คงจะเป็นเรื่องอื่นแน่ ๆ
...
“มันเกิดอะไรขึ้นงั้นรึ ?” หลังจากเดินกลับมาถึงที่ร้านค้าสองชั้นซึ่งทำจากไม้ทั้งหลังแล้ว ชายหนุ่มก็พบว่าที่ด้านหน้าร้านมีผู้ฝึกตนมากมายยืนออกันอยู่ ดูเหมือนพวกเขาต้องการจะเข้าไปด้านในแต่ไม่อาจทำได้
เมื่อมองผ่านเข้าไปด้านในก็พบว่า มีมนุษย์แมวร่างสูงใหญ่หลายตัวกำลังยืนประชันหน้ากับผู้ฝึกตนที่สวมชุดเกราะทหารหลายนาย ทั้งสองฝ่ายต่างยืนจ้องมองกันนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา บรรยากาศตึงเครียดถึงขีดสุด
ครึ่งหลัง
“ก็อยู่ดี ๆ ทหารพวกนั้นมันก็มาขับไล่ผู้ฝึกตนที่กำลังเลือกซื้อสินค้าออกไปน่ะสิ แถมยังทำท่าจะยึดสิ่งของภายในร้านอีกด้วย พวกมนุษย์แมวก็เลยมาขวางทางเอาไว้ซะก่อน” ชายชราผู้หนึ่งได้ยินคำถามของเย่ซีจึงกล่าวออกมา
เขารู้สึกโมโหเหมือนกันที่ถูกไล่ออกมาแบบนี้ แต่ตัวเขาก็เป็นเพียงอาจารย์ของสำนักระดับกลางแห่งหนึ่งเท่านั้น จะเอาอะไรไปสู้กับทหารของทางการได้กัน ?
ดีไม่ดีถ้าไปทำอะไรผิดใจกับอีกฝ่ายมีหวังถูกกวาดล้างทั้งสำนักหรือขับไล่ออกจากอาณาจักรก็จะยิ่งซวยเข้าไปใหญ่
‘ดูเหมือนพวกมันจะเดินตรงมายังร้านแห่งนี้โดยไม่ได้แตะต้องสิ่งใดสินะ ถึงรอดมาได้’ ชายหนุ่มใช้ทักษะตรวจสอบกลุ่มทหารทั้งหมดที่มีห้าสิบคนก็พบว่า ส่วนใหญ่มีระดับแม่ทัพปราณกันทั้งนั้น มีเพียงห้าคนที่เป็นราชาปราณ
กองทหารระดับนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่ากองทหารของหน่วยหิมะครามที่เขาพบตอนอยู่เขตยี่หลงเลยสักนิด แต่การที่กองทหารเหล่านี้ไม่ถูกพวกแมลงและดอกไม้ที่เขาปลูกไว้จัดการก็บ่งบอกแล้วว่าพวกมันเดินทางมายังร้านค้าแห่งนี้โดยไม่ได้แสดงท่าทีผิดปกติอะไรนั่นเอง
นี่ก็นับว่าเป็นหนึ่งในข้อเสียของพวกนี้เหมือนกัน เพราะถ้าไม่ได้แสดงออกหรือมีพฤติกรรมใดที่ส่อแววจะส่งผลร้ายต่อที่ดินแห่งนี้พวกมันก็จะไม่ทำสิ่งใดกับสิ่งมีชีวิตที่เข้ามายังที่ดินแห่งนี้นั่นเอง
“ส่งตัวเย่ซี เจ้าของที่ดินแห่งนี้มาซะ!” มีเสียงดังขึ้นมาจากกองทหารที่กำลังยืนประจันหน้ากับเหล่ามนุษย์แมวอยู่
โดยผู้ที่กล่าวออกมาก็คือชายร่างผอมที่มีใบหน้าเจ้าเล่ห์ เพียงมองผ่าน ๆ ก็รู้ได้ว่าไม่ใช่ตัวดีอันใดเป็นแน่ เขายืนเอามือไพล่หลังอยู่ที่ด้านหน้าสุดของกองทหารอย่างโอ้อวด
“พวกเจ้ามีสิทธิ์อะไรมากล่าวเช่นนี้กัน ? พวกข้าไม่ให้ตัวเถ้าแก่กับพวกเจ้าหรอก!” พวกมนุษย์แมวที่แม้จะเป็นเพียงสัตว์อสูรที่ไม่เคยออกมาเจอโลกกว้างมาก่อนก็ตาม แต่พวกมันก็ไม่ได้โง่เขลา!
หลังจากติดตามลูกพี่เยี่ยหลิงและเถ้าแก่กลับมายังสถานที่แห่งนี้ พวกมันก็ได้ออกไปขายสินค้าและพบเจอผู้คนหลากหลายรูปแบบ แม้จะเป็นเพียงเวลาไม่นานก็ทำให้พวกมันที่ได้รับอาหารแมวและการอบรมจากลูกพี่เยี่ยหลิงมีประสบการณ์รวมถึงความรู้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก
ดังนั้นไอ้พวกมนุษย์ตรงหน้าที่มาอวดดีตะโกนโหวกเหวกว่าจะมาเอาตัวเถ้าแก่ไป พวกมันไม่มีทางยินยอมอย่างแน่นอน!
ต่อให้เกิดสงครามขึ้นพวกมันก็ไม่กลัว!!
“พวกครึ่งมนุษย์ครึ่งสัตว์แบบพวกเจ้ากล้าดียังไงมาเหิมเกริมต่อหน้าทหารของราชวงศ์เช่นนี้ คิดจะก่อกบฏรึไง ?” ชายหน้าตาเจ้าเล่ห์ดูเหมือนจะเป็นผู้ที่มีอำนาจมากที่สุดในกองทหารที่มาครั้งนี้ เพราะเมื่อเขาพูดออกมาไม่มีทหารคนใดกล่าวแทรกแม้แต่คนเดียว
“พวกเจ้ามีธุระอะไรกับข้า ?” เย่ซีที่ทนดูต่อไปไม่ไหวจึงเดินแหวกผู้คนตรงเข้าไปหยุดอยู่ระหว่างกองทัพแมว กับเหล่าทหารเอาไว้
“เจ้าเป็นใครกัน ?” ชายหน้าตาเจ้าเล่ห์กล่าวออกมาพลางใช้หางตามองคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า
“ก่อนจะถามคนอื่น ควรจะมีมารยาทบอกชื่อแซ่ตัวเองมาก่อนไม่ใช่รึ ? มาบุกรุกบ้านคนอื่นแล้วยังไร้มารยาทอีก หรือคนของราชวงศ์จะไม่มีเกียรติเช่นเจ้ากันหมดรึไง ?” เย่ซีกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา คำพูดของเขาทำให้ชายหน้าตาเจ้าเล่ห์หน้าแดงขึ้นมาด้วยความอับอาย
ตั้งแต่ที่เขาได้รับตำแหน่งให้เป็นเจ้าหน้าที่ผู้ตรวจการแผ่นดินมาสิบปี เขายังไม่เคยเจอคนที่ไม่ให้ความเคารพเขาแบบนี้มาก่อน ถ้าอีกฝ่ายเป็นพวกคนจากขุมอำนาจระดับสูงหรือสูงสุดก็ยังพอเข้าใจได้ แต่จากที่เขาได้ยินมาชายตรงหน้าเป็นเพียงพวกไร้หัวนอนปลายเท้าที่ใช้เส้นสายในการซื้อที่ดินแห่งนี้มาก็เท่านั้น
เป็นเพียงพวกคดโกงชั้นต่ำแต่กล้ามาหาเรื่องตัวเขาเช่นนี้ ช่างโง่เขลายิ่งนัก!
“ข้าคือฟ่านปิงเหอ เจ้าหน้าที่ผู้ตรวจการแผ่นดินระดับกลาง มีหน้าที่คอยตรวจสอบพวกคดโกงแผ่นดิน! วันนี้ได้รับมอบหมายให้พาตัวเจ้าไปตรวจสอบยังศาลายุติธรรม!!” ฟ่านปิงเหอกล่าวออกมาเสียงดังด้วยความภาคภูมิใจ ถึงแม้เขาจะเป็นเพียงเจ้าหน้าที่ระดับกลาง แต่ก็นับว่ามีตำแหน่งที่สูงไม่ใช่น้อย ชายตรงหน้าจะต้องหวาดกลัวหลังได้รับรู้ถึงตัวตนของเขาเป็นแน่!
“ไม่เห็นจะรู้จัก”