ตอนที่แล้วเข้าซื้อ JM Ent.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปแบรนด์แอมบาสเดอร์

แสดงความจริงใจ


หวังหยวนที่อึ้งค้างไปสองสามวิก็ดึงสติกับมาได้เขายอมรับตรงๆเลยว่าเมื่อกี้เขาอึ้งไปกับความสวยไม่สิต้องพูดว่าองค์ประกอบรูปร่างหน้าตานั้นราวกับผลงานชิ้นเอกที่พระเจ้าสรรสร้างขึ้นมาเลยก็ว่าได้ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาที่ดูสวยงามเกินจะบรรยายและรูปร่างที่เซ็กซี่สมสนที่ส่วนเอวโค้งมนเป็นรูปตัวเอสอย่างสวยงาม

“เทรนนี่นั้นต้องไปชั้นข้างล่างนะนายมาผิดแล้ว”คิมยองวอนขมวดคิ้วเป็นปมเล็กน้อยเพราะเธอคิดว่าหวังหยวนนั้นเป็นเทรนนี่ใหม่ของค่ายเพราะเธอดูจากรูปร่างหน้าตาและชุดสูทที่เขาใส่คงเพราะใส่มาเซ็นสัญญากับบริษัทและหน้าตาเยาว์วัยแบบนี้

แต่เธอกลับรู้สึกเสียดายแทนอีกฝ่ายถ้าเป็นไปได้เธออยากจะบอกอีกฝ่ายเหลือเกินว่าให้ไปค่ายอื่นเพราะค่าย JM Ent. นั้นเป็นค่ายใหญ่ค่ายเดียวที่กดค่าตัวศิลปินและสปอนเซอร์เพื่อเอาประโยชน์เข้ากระเป๋าตัวเอง

แต่คงสายไปแล้ว!

“เหมือนคุณจะเข้าใจผิดผมไม่ได้เป็นเทรนนี่ที่นี้หรอกผมมาหาแบรนด์เอ็มบาสเดอร์ต่างหาก”หวังหยวนกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มเพราะไม่ผิดคนแน่นอนนี้คือคิมยองวอนเซ็นเตอร์ของวง BaBymonter และเป็นพี่ใหญ่ของวงแต่ถึงอย่างงั้นเธอก็อายุเพียง 22 ปีเพียงเท่านั้นเดบิวต์ตอน 20

“พวกแซโบลงั้นเหรอแต่นายก็มาผิดที่อยู่ดีเพราะนี้คือห้องซ้อมไม่ใช่ห้องประธาน”คิมยองวอนกล่าวออกมาด้วยความแปลกใจเพราะเธอเข้าใจคำว่าแบรนด์แอมบาสเดอร์ดีเพราะถึงตอนนี้เธอจะเดบิวต์มาเพียงสองปีและได้สัญญาพรีเซ็นเตอร์หลายๆแบรนด์แต่ยังไม่มีแบรนด์ใดดึงเธอไปเป็นแบรนด์เอ็มบาสเดอร์เลยแม้แต่น้อย

อย่างแรกอิธิพลของเธอยังไม่มากพออย่างที่สองชื่อเสียงเธอก็ยังไม่มากมายขนาดนั้นถึงพวกเธอจะกวาดชาร์ตเพลงมาทั่วโลกแล้วแต่นั้นก็เพียงซิงเกิ้ลเดียวเท่านั้นมันไม่การันตีอะไรเลยแม้แแต่น้อยแต่อย่างน้อยพวกเธอก็มีแนวโน้มที่จะพัฒนาได้!

“ไม่ต้องไปห้องประธานหรอกเพราะที่นี้เป็นของผมแล้ว”หวังหยวนกล่าวออกมาเขาไม่ถือว่านี้เป็นเรื่องใหญ่อะไรเพราะเขานั้นเห็นมามากเกินไปอย่างขาใหญ่กินขาเล็กมันเป็นเรื่องปกติในแวดวงธุรกิจอยู่แล้วส่วนคิมยองวอนก็เป็นฝ่ายที่อึ้งไปบ้างแล้วเพราะดูแล้วอายุของชายหนุ่มตรงหน้าเธอนี้ก็น้อยกว่าเธอแน่นอน

“พี่ๆๆๆ ยองวอนบริษัทเรามีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นแหละ”เสียงที่ทะลุปรอดนั้นดังออกจาจากนอกห้องซ้อมก่อนที่จะมีเสียงประตูเปิดดัง

ปัง!! เข้ามา

“อ่าวมีคนอื่นอยู่ด้วยเหรอ”อินฮยองกล่าวออกมาด้วยความแปลกใจเพราะห้องซ้อมนี้ปกตินอกจากครูฝึกและผู้จัดการวงแล้วก็ไม่มีคนกล้าเข้ามาแน่นอนเพราะมันเป็นกฎเหล็กของบริษัทเพราะห้องซ้อมของพวกเธอนั้นเปรียบดั่งแดนสวรรค์!

“อินฮยองบอกแล้วใช่ไหมว่าให้สำรวมไว้หน่อย”จูอึนกล่าวบ่นมักเน่ของวงตัวเองที่ดูเธอจะมีเอนเนอร์จี้เต็มร้อยมากเกินไปจนบางทีมันก็ล้นจนเธอต้องปวดหัวอยู่บ่อยครั้ง

“เอาน่าจูอึนเธอควรชินมันได้แล้วนะ”เสียงที่ดูปลงๆของเยจีดังขึ้นมาก่อนที่เธอจะเห็นสถาการณ์แปลกเล็กน้อยเพราะตอนนี้มีผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ในห้องกับพี่สาวของพวกเธอ!!!

หวังหยวนที่มองพวกเธอทั้งสี่คนแล้วเขาก็สัมผัสได้ถึงความรุ่งโรจน์ของแบรนด์เสื้อผ้าของเขาทันทีสิ่งที่เขาต้องการคืออิมแพคและตอนนี้อิมแพคนั้นก็อยู่ตรงหน้าเขาแล้วเรียบร้อย!

ด้วยสไตล์ของสี่สาวที่แตกต่างกันนั้นพูดได้เลยว่านี้ถือเป็นจุดเด่นหนึ่งเลยก็ว่าได้

คิมยองวอน นั้นคือเทพธิดาในอุดมคติของเหล่าผู้ชายเลยก็ว่าได้ด้วยรูปร่างน่าตาของเธอนั้นราวกับงานศิลปะชิ้นเอกและเธอเป็น นักร้องนำ พ่วงตำแหน่งเซ็นเตอร์

อินฮยอง สาวน้อยวัยแรกแย้มที่ดูน่ารักและซุกซนแต่ความสามารถของเธอนั้นเป็นที่ยอมรับของทุกคนแน่นนอนเพราะเธอเป็น แร็ปเปอร์, นักร้องนำ

จูอึนสาวสวยอีกคนของวงเธอเหมือนการผสมผสานระหว่างความน่ารักและความสวยงามถ้าคิมยองวอนคือคะแนนเต็มสิบเธอก็ควรได้เก้าจุดห้า! และยังเป็นนักร้องอีกคนของวง

ส่วนเยจีนี้คือนิยามของสาวเซ็กซี่ขนานแท้เลยเพราะเธอมาสาย แรปเปอร์จ๋า

และลองคิดดูว่าด้วยรูปร่างและสไตล์ของพวกเธอที่แตกต่างกันแบรนด์ของเขาสามารถผลิตสี่ไสตล์ที่ครอบคลุมออกมาได้เลยพอยิ่งคิดสายตาของหวังหยวนยิ่งเป็นประกายและปรากฎสีหน้าคาดหวังออกมา

จนสี่สาวรู้สึกแปลกๆกับชายหนุ่มที่ยืนหัวโด่อยู่กลางห้องคนเดียวเดี่ยวก็แสดงสีหน้าครุ่นคิดเดี่ยวก็เผยรอยยิ้มออกมาราวกับคาดหวังอะไรอยู่? เพราะหวังหยวนจมอยู่กับความคิดของตัวเองนานไปหน่อยเลยไม่ได้สังเกตว่าสี่สาวนั้นจับกลุ่มคุยกันอยู่เรียบร้อยแล้ว!

“นี่พี่สาวเขาคือใครกันอะ”อินฮยองกล่าวออกมาและแน่นอนว่าพี่สาวที่อินฮยองพูดถึงคือคิมยองวอนพี่ใหญ่ของวงนั้นเอง

“ไม่รู้สิตอนแรกฉันซ้อมร้องเพลงอยู่ดีๆก็มีคนเปิดประตูเข้ามาตอนแรกคิดว่าเป็นพวกเธอสะอีกแต่ไม่ใช่และฉันคิดว่าเขาเป็นเทรนนี่ของบริษัทที่เข้าห้องผิดจึงแนะนำให้เขาไปแต่เขากับบอกว่าเขาไม่ใช่เทรนนี่แต่เขามาซื้อบริษัทต่างหาก”คิมยองวอนกล่าวสรุปออกมา

แต่ดูเหมือนว่าสามสาวจะแสดงสีหน้าผิดหวังออกมาจนคิมยองวอนแสดงสีหน้าเอือมระอาออกมาทำไมเธอจะไม่รู้ว่าทั้งสามสาวนี้คิดอะไรนี้คงคิดว่าเป็นแฟนหนุ่มของเธอแล้วพวกเขาแอบนัดเจอกันกระมั้ง!!

“อ่า ใช้”อินฮยองร้องออกมาเสียงดังจนแม้แต่หวังหยวนที่จมอยู่กับความคิดตัวเองอยู่สะดุ้งออกมาจากฝันหวานที่เขาวาดไว้!

“นายคงไม่ใช่ประธานคนใหม่ของเราหรอกนะ”อินฮยองตะโกนออกมาพลางชี้มาที่หวังหยวน

“อ่าใช่ว่าแต่พวกเธอรู้ข่าวเร็วดีนะ”หวังหยวนพยักหน้าออกมา

“นั้นก็เพราะพอดีพวกเราเดินผ่ายฝ่ายบุคคลและเห็นพวกเขาเปลี่ยนขื่อของประธานบริษัทพอดีนะบวกกับช่วงนี้ที่มีข่าวออกมาตลอดว่าหวังกรุ๊ปนั้นสนใจที่จะกระโดดลงมาในวงการบันเทิงและเลือกเข้าซื้อ JM Ent.”เยจีกล่าวออกมา

“งั้นนายก็เป็นคนจีนน่าแปลกใจมากที่ภาษาเกาหลีนายดีมากขนาดนี้”คิมยองวอนพูดออกมาอย่างแปลกใจ

“เอาละเรื่องภาษานั้นไม่สำคัญหรอกเพราะผมพูดได้หลายภาษาเลยแหละและเนื่องจากอายุที่ใกล้เคียงกันผมขอพูดแบบเป็นกันเองเลยแล้วกันและไม่ต้องเรียกผมประธานก็ได้”หวังหยวนกล่าวออกมานิ่งๆเข้าลุคการเจรจาธุรกิจของเขาทันที

จนบรรยากาศในห้องกับมากดดันอีกครั้ง

“สัญญาของพวกเธอเหลือกับทางบริษัทกี่ปี”หวังหยวนกล่าวถามเขาขี้เกียจเกินไปที่จะคุยเรื่องนี้ในห้องประธานก้ในเมื่อในนี้ก็มีแต่พวกเขางั้นก็ถามไปตรงๆเลยดีกว่ากระชับเวลาดีด้วย

“2 ปีเท่านั้น ส่วนแบ่งรายได้คือ 80 20 บริษัท 80 ส่วนของเรา คือ 20 ไม่นับรวมสปอนเซอร์ส่วนตัวอย่างฉันก็มีหลายแบรนด์ที่เซ็นสัญญาเป็นพรีเซ็นเตอร์แต่ถ้าเป็นสปอนเซอร์แบบวงต้องเข้าบริษัททั้งหมดนายคงไม่คิดจะลดเปอร์เซ็นเราลงไปอีกหรอกนะ”คินยองวอนตอบกลับไปในฐานะพี่ใหญ่เธอต้องยืนหยัดเพื่อน้องๆ

“เฮ้ๆ พี่สาวนี้คุณมองผมเป็นคนยังไงกันผมดูใจร้ายขนาดนั้นเลยรึไง?”หวังหยวนถึงกับคิ้วกระตุกยิกๆเมื่อเขาได้ยินคำพูดท้ายประโยคของคิมยองวอน

แต่เขาก็แอบสงสารพวกเธอเช่นกันทำงานแทบตายแต่ได้ส่วนแบ่งเพียงสองส่วนถึงรูปแบบไอดอลจะเป็นแบบนี้อยู่แล้วก็เถอะเพราะรายได้หลักๆของพวกเธอมาจากสปอนเซอร์เดี่ยวที่บริษัทไม่เข้าไปยุ่งแต่รายได้ของวงต้องแบ่งเข้าบริษัทแปดส่วนไม่งั้นพวกเขาจะเอาเงินไหนมาจ่ายค่าพนักงานเอาเงินไหนมาปั้นวงต่อไป?

แต่ส่วนแบ่งนี้นับว่าแร้งน้ำใจไปหน่อยเพราะอีกสองบริษัทใหญ่ในประเทศนั้นเป็น 70 30 กับ 60 40

หวังหยวนคิดถึงความคุ้มค่าต่างและในอนาคตของสี่สาวแล้วนั้นเขาก็ติดสินใจออกมาทันที

“ผมต้องการแก้ไขสัญญาส่วนแบ่งจาก 80 20 นั้น จะเปลี่นเป็น 50 50 ส่วนสปอนเซอร์นั้นคงเดิมไว้คิดว่าไงและเราจะขยายสัญญาออกไปอีก 5 ปี เป็น 7 ปี”หวังหยวนกล่าวออกมา

ซึ่งทั้งสี่สาวนั้นอึ้งไปแล้วเรียบร้อยโดยเฉพาะเยจีที่เธอรู้ดีว่าบริษัทนั้นยืนได้ด้วยส่วนแบ่งจากพวกเธอเพราะเธอก็ถือได้ว่าเป็นแซลโบลคนหนึ่งจึงรู้ดีว่าภาระหนี้สิ้นและเงินเดือนพนักงานนั้นมากมายกว่าที่คิด!

“แน่นอนว่าผมให้เวลพวกคุณคิดทบทวนเพราะผมจะอยู่ที่เกาหลีต่ออีกวันเท่านั้นก่อนที่จะบินกลับเพราะยังไงผมก็ยังต้องไปเรียนอยู่ไม่งั้นพ่อสุดที่รักคงบินมาเตะตูดผม”หวังหยวนกล่าวออกมาอย่างติดตลกเพื่อผ่อนคลายบรรยากาศที่เคร่งเครียดแต่คำตอบจากสี่สาวนั้นกับทำให้เขาแปลกใจมาก

“ไม่หรอกเราตกลง”คิมยองวอนส่ายหัวออกมาเพื่อปฎิเสธเวลาที่หวังหยวนเสนอให้และกล่าวตกลงทันที

“ฮืมอะ..เออได้สิผมจะให้คนเตรียมสัญญาให้”หวังหยวนแปลกใจแต่เขาก็ไม่ได้เซาซี้อะไรก่อนที่จะโทรไปหาหลี่หมินให้เตรียมสัญญาพวกเธอใหม่ซึ่งต้องใช้เวลากว่าสองชั่วโมงหวังหยวนจึงบอกลาทั้งสี่สาวและไปนั่งรอในห้องประธานของบริษัท

สองชั่วโมงผ่านไปในพริบตาเดียว

“นายน้อยทบทวนเรื่องสัญญาใหม่เถอะครับนี้เราเสียเปรียบเกินไปหน่อยไหมมีที่ไหนละที่เขาแบ่งอย่างเท่าเทียมแบบนี้”หลี่หมินบ่ออกมาถึงสัญญาใหม่ที่ทางถังหลินจะเซ็นกับวงไอดอลเบอร์หนึ่งของบริษัทโดยที่ไม่ไว้หน้าสี่สาวที่นั่งเด่นหราอยู่ตรงข้ามเลยแม้แต่น้อยนั้นก็เพราะเขาพูดภาษาจีนพวกเธอฟังรู้เรื่องรึไง?

“ฉันติดสินใจแล้วไม่ต้องห่วงหลี่หมินการบริหารนะต้องมองอนาคตด้วยนะ”หวังหยวนกล่าวออกมาเพราะอนาคตถึงจะส่วนแบ่งแค่ 5 ส่วนหวังหยวนก็รู้ว่าเขาจะทำกำไรเป็นกอบเป็นกรรมแค่ไหน ยกตัวอย่างง่ายๆ ปี 2025 ปีหน้านี้พวกเธอจะได้สปอนเซอร์แบบวงจากโวโฟนและตามตกลงนั้นคือบริษัทต้องได้ทั้งหมดและการเซ็นสัญญานั้นเป็นสองปีปีละยี่สิบห้าล้านดอลล่าสองปีก็ห้าสิบล้านดอลล่า! ตีเป็นเงินวอนก็มากกว่าหกหมื่นล้านวอน! และนี้เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้นเพราะปีหน้าเป็นต้นไปพวกเธอจะได้เป็นพรีเซ็นเตอร์มากมายทั้งในนามวงและเดี่ยว

และวง GTS จะเริ่มบูมที่ปีหน้าเช่นกันและเมื่อนั้นเงินสามแสนวอนที่หวังหยวนเสียไปจะได้กลับคืนมาและฟันกำไรเลือดสาดแน่นอน!

แน่นอนว่าสี่สาวถึงจะฟังจีนไม่ออกแต่พวกเธอก็สัมผัสได้ว่าพี่เบิ้มตรงหน้าพวกเธอนั้นไม่เห็นด้วยกับสัญญาแบบนี้โดยเฉพาะคิมยองวินที่อ่านมาแล้วสามรอบยิ่งแปลกใจว่าบนโลกนี้ยังมีคนจริงใจในธุรกิจอีกงั้นเหรอ?

“เอาละพี่สาวไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหมแต่ผมสงสัยทำไมพี่ไม่เก็บข้อเสนอผมกลับไปคิดเลยแต่กับตกลงทันทีอะ”หวังหยวนกล่าวถามออกไปเพราะเรื่องนี้มันคาใจเขาแปลกๆ

“อืมนั้นก็เพราะสัญญาที่เหลืออยู่สองปีพวกเราสามารยกเลิกได้นะและเราต้องต่อสัญญาใหม่อยู่แล้วและถ้ามันไม่เป็นตามที่นายพูดพวกเราก็จะฉีกสัญญาที่เหลือทิ้งและออกไปเป็นศิลปินเดี่ยว!”คิมยองวอนกล่าวด้วยรอยยิ้มซุกซน

ส่วนหวังหยวนหน้าเหวอไปแล้วนี้เธอหมกเม็ดเรื่องสัญญานี้หว่า!

“ฮ่าๆเอาเถอะยินดีที่ได้ร่วมมือกัน”หวังหยวนกล่าวออกมาก่อนที่หลี่หมินจะเดินไปเก็บสัญญาที่เขามองยังไงก็ไม่คุ้มค่า!

“งั้นเราไปที่เรื่องต่อไปกันเลยเถอะ”หวังหยวนแสดงสีหน้าคาดหวังออกมาเพราะพวกเธอทั้งสี่คนยังไม่เซ็นสัญญาเป็นแบรนด์เอ็มบาสเดอร์กับแบรนด์ไหนเลย!!!!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด