เข้าซื้อ JM Ent.
หวังหยวนได้เดินเรื่องต่ออย่างแรกคือปรับขนาดพนักงานใหม่เดิมทีทั้งบริษัทมีพนังงานทั้งหมดราวๆสองร้อยคนเขาก็ตรวจสอบและปรับลดขนาดลงจากแผนกต่าง ๆที่คนเยอะเกินเหตุอย่างเช่นแผนกโฆษณาที่คนกระจุกกันอยู่เกือบสามสิบชีวิตแต่โฆษณากับไร้คุณภาพบอกตรงๆถ้าเป็นไปได้เขาก็อยากไล่ออกทั้งหมดนั้นแหละแต่มันส่งผลกระทบต่อบริษัทไม่น้อยเขาจึงเหลือไว้บางคนที่ทำงานเป็นจริงๆ
หลังจากนั้นต้นปีของเขาตั้งแต่ย้อนเวลากลับมาก็ผ่านไปได้ด้วยดีเนื่องจากเขาออกกำลังกายทุกวันจากร่างที่ตอนแรกดูผอมบางตอนนี้กับเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่ไม่ดูเทอะทะเป็นกล้ามเนื้อแบบคนสุขภาพดีไม่เยอะเกินไปไม่น้อยเกินไป
และวันนี้ก็เป็นวันแรกที่ยอดขายเสื้อผ้าคอลเลคชั่นล่าสุดกับกระเป๋าของบริษัท Balti ออกมาซึ่งพูดตามจริงว่าได้กำไรจากการขายเสื้อมาเพียงสองถึงสามเปอร์เซ็นเท่านั้นแต่หวังหยวนกลับหวังไว้มากกว่านั้นเพราะฉะนั้นเขาต้องหาแบรนแอมบาสเอดร์ของบริษัทแต่ก็ติดตรงที่ผลงานของบริษัทเขานั้นน้อยเกินไปถึงเสนอเงินไปมากแค่ไหนก็เกรงว่าจะยากเกินไปในการดึงดาราดังมาเป็นแบรนด์เอ็มบาสเดอร์
แต่ก็เหมือนฟ้ามาโปรดเพราะเซี่ยงยี่นั้นได้เดินมาเคาะห้องเขาพร้อมกับแบบแปลนระดับสี่ดาวสามชิ้นเป็นเสื้อของผู้ชายที่ดูวินเทจหนึ่งชิ้นและผู้หญิงที่ดูเรียบหรูหนึ่งชิ้นพร้อมกระเป๋าผ้าหนึ่งใบที่ดูเรียบๆแบบมินิมอลแต่กลับได้รับการประเมินจากระบบสูงถึงสี่ดาว!
“ดีมากเซี่ยงยี่ผมพอใจกับผลงานครั้งนี้ของคุณมากผมจะให้โบนัสคุณหนึ่งล้านหยวนและมันจะโอนเข้าบัญชีคุณทันทีหลังจากผมทำงานที่เหลือเสร็จ”หวังหยวนกล่าวออกมาพลางยิ้มมุมปากเบาๆดูมีเสน่ห์
“ขอบคุณมากครับท่านประธาน”เซี่ยงยี่แทบจะโค้งเก้าสิบองศาขอบคุณหวังหยวนกับโบนัสที่ดูใจป้ำของอีกฝ่าย
“เอาละออกไปเถอะ”หวังหยวนบอกเพราะเขามีเรื่องต้องคุยกับระบบเล็กน้อยถึงเขาจะคุยกับระบบผ่านความคิดได้ก็เถอะ
“ครับท่านประธาน”เซี่ยงยี่ก็ไม่ได้ขัดอะไรเพราะจุดประสงค์ทุกอย่างเขาลุล่วงแล้ว
“เอาละเทียนเต๋านี้หมายความว่ายังไงกันวันนี้ฉันก็ถูกปฎิเสธการแลกเปลี่ยนเป็นครั้งที่สามสิบเก้าแล้วนะ”หวังหยวนกล่าวออกมาอย่างหงุดหงิดเพราะเขาแลกเปลี่ยนทุกนวันแต่หลังจากแลกเปลี่ยนกับโจฮาร์ทเขาก็โดนปฎิเสธมาตลอด
[ช่วยไม่ได้ใครให้ทางช้างเผือกเป็นจักรวาลที่ล้าหลังที่สุดกันเล่าพอเห็นชื่อพวกเขาก็ขยะแขยงกันแล้วแต่โฮสต์ไม่ต้องห่วงไปยังไงโอกาสก็จะมาในสักวันเองนั้นแหละโฮสต์อย่าพึ่งท้อแท้ไป]เทียนเต๋ากล่าวปลอบออกมา
[ไม่งั้นโฮสต์ลองเปลี่ยนของที่จะแลกดูไหมพูดตรงๆไอ้โค๊กไรนี้ไร้สาระไปหน่อยจริงๆนะเปลี่ยนเป็นโสมยังดูดีสะกว่า]เทียนเต๋าแนะนำ
“น่าคิดเหมือนกันดูเหมือนมุขเดินจะใช้ไม่ได้ผลทุกครั้งงั้นพรุ่งนี้ฉันจะลองเอาโสมพันปีในกรุของพ่อไปแลกดูแล้วกัน”หวังหยวนกล่าวออกมาเขาไม่ได้รูสึกผิดแม้แต่น้อยที่ขโมยโสมของพ่อตัวเองไปแลกอีกอย่างพ่อของเขาก็ไม่ได้ใช้มันสะหน่อยเอาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ดีกว่า!
“เอาละเพราะงี้ไงฉันถึงต้องการหุ่นยนต์ผู้ช่วยฉันจะได้ไม่ต้องมานั่งเซ็นต์เอกสารอะไรเองแบบนี้”หวังหยวนบ่นออกมาก่อนที่เขาจะเซ็นต์เอกสารแผ่นสุดท้ายของวันนี้ไป
ส่วนแบบแปลนระดับสี่ดาวนี้เขาได้โทรให้หลินเป๋ยเอาไปจัดการแล้วและกำชับอีกฝ่ายว่าให้ผลิตในจำนวนจำกัดเพราะระดับสี่ดาวนั้นมีอิมแพคระดับทวีปได้เลยเขาเลยคิดจะเดินทางไปเกาหลีในวันพรุ่งนี้เพื่อไปหาแบรนด์เอ็มบาสเดอร์ด้วยตัวของเขาเอง
อีกส่วนเขาจะไปดูด้วยว่าหุ้นของบริษัท JM Ent. นั้นซื้อได้ไหมจากการที่เขาย้อมกลับมานั้นรู้ดีว่าท้ายปีนั้นพวกเขาจะปล่อยบอยแบรนด์กรุ๊ปใหม่ออกมา 7 คนแต่พวกเขาทั้ง 7นั้นสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั้งโลกด้วยเพลงเดบิวต์ที่เซ็กซี่และดุดัน จนกวาดชาร์ตเพลงไปหลายชาร์ตสะเหลือเกิน
และหุ้นJM เดิมทีที่มีราคาเพียงแค่ ไม่กี่หยวนก็ดีดไปเป็นร้อยหยวนทันที! นั้นมันกำไรร้อยเท่า!! ทำไมเขาจะไม่สนใจกันละ
“นายน้อยครับเดือนหน้านายน้อยก็ต้องไปมหาลัยเซี่ยงไฮ้แล้วนะครับ”หลี่หมินกล่าวเตือนออกมาเพราะเขาคิดว่าหวังหลินจะไปเที่ยวเล่น
“เอาน่าอย่าไปซีเรียสเลยต่อให้ฉันไม่เข้าสักคาบก็จบอยู่ดีนั้นแหละนี่มันถิ่นตระกูลหวังนะอีกอย่างฉันไปทำธุระ”หวังหยวนกล่าวออกมาอย่างสบายๆ
“เฮ้อแล้วแต่นายน้อยเถอะครับและผมคุยเรียบร้อยแล้วเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวพร้อมบินทุกเมื่อขอเพียงมีคำสั่งจากนายท่านนะ”หลี่หมินกล่าวออกมา
“อืมไม่ต้องห่วงพ่อไม่ขัดหรอก”หวังหยวนกล่าวออกมาอย่างมั่นใจก็ในเมื่อหวังหลินเป็นคนแนะนำเขาเองให้ไปหาแบรนด์เอ็มบาสเดอร์ที่นั้น
แต่พอคิดว่าเขาจะซื้อหุ้นของ JM Ent. อยู่แล้วงั้นทำไมไม่ซื้อแบบสิทธิ์ขาดเลยละ? และนั่งต่ำแหน่งประธานเอง
หวังหยวนจมอยู่ในห่วงความคิดจนกระทั่งเวลาล่วงเลยไป
เข้ามืดวันต่อมาเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวก็บินมาจอดที่สนามบินกรุงโซลประเทศเกาหลีใต้แต่วันนี้หวังหยวนมีสีหน้าอึมคลึมเล็กน้อยเพราะนี้ก็เป็นอีกวันที่เขาโดนปฎิเสธการแลกเปลี่ยน!
[เอาน่าโฮสต์สู้ๆ] เทียนเต๋าให้กำลังใจ
“เฮ้อช่างเถอะคิดไปก็เท่านั้นสักวันเดียวก็มีคนต้องการโสมพันปีนี้เองนั้นแหละ”หวังหยวนถอนหายใจออกมาก่อนที่จะเดินขึ้นรถลีซีมูลที่ทางบริษัท JM Ent. ส่งมารับและวันนี้มีข่าวที่สั่นสะเทือนไปทั่ววงการไอดอลเพราะมีข่าวหลุดออกไปว่า JM กำลังพิจารณาข้อเสนอใหญ่จากเครือของบริษัทหวังกรุ๊ปที่ติดอันดับ 500 อันดับแรกของบริษัทชั้นนำทั่วโลก
เพราะฉะนั้นวันนี้ที่หน้าตึก JM Ent. จึงมีนักข่าวมากมายมาดักรออยู่แล้วหวังหยวนที่เห็นกล้องและนักข่าวมากมายแบบนั้นก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ตื่นตระหนกเพราะข่าวที่ถูกปล่อยออกไปนั้นเดิมทีก็เป็นฝีมือเขาเช่นกันเพื่อเป็นการกดดันทางด้าน JM Ent.
เสียงชัตเตอร์ดังขึ้นรัวๆ พร้อมกับเสียงแฟลชสาดส่องด้วยออร่าความหล่อเหลาระดับเทพบุตรของหวังหยวนนั้นไม่ต้องแปลกใจเลยว่าเร็วๆนี้เขาจะมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศเกาหลีใต้แห่งนี้แน่นอน!
หวังหยวนโปรยยิ้มให้กล้องและโบกมือเล็กน้อยก่อนที่เขาจะเดินเข้าตึก JM Ent. ไปท่ามกลางความแตกตื่นของแฟนคลับบางคนที่มายืนรอดดักศิลปินหรือไอดอลที่ตนเองชอบ
“เมื่อกี้เขาคือใครนะดาราคนใหม่ของบริษัทเหรอทำไมมีนักข่าวตามถ่ายขนาดนั้น”หญิงสาววัยรุ่นคนหนึ่งกล่าวออกมาพลางหน้าแดงไปด้วยไม่รู้ว่าเป็นเพราะความเขินอายหรือเพราะแดดที่วันนี้ร้อนเป็นพิเศษ!
หวังหยวนที่เดินเข้ามาพร้อมบอดีการ์ดของเขาหลี่หมินนั้นก็เดินขึ้นลิฟต์ VIP ขั้นไปชั้นบนสุดทันทีเพื่อเริ่มการเจรจาของพวกเขา
“ฮ่าๆเชิญๆเลยครับนายน้อยหวัง”ดูฮวางพูดภาษาจีนออกมาอย่างคล่องแคล่วอย่างกัยเป็นประเทศที่ตนเกิดมาหวังหยวนก็ไม่ได้แปลกใจอะไรเพราะอีกฝ่ายก็มีสาขาอยู่ประเทศจีนเช่นกันแค่มันไม่ปังเท่าเกาหลีเท่านั้น
“เช่นกันครับคุณฮวาง”หวังหยวนกล่าวออกมาเป็นภาษาเกาหลีจนดูฮวางเลิกคิ้วขึ้นแต่รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็ไม่ได้หายไป
“เอาละตรงเข้าประเด็นเถอะหุ้นในมือคุณ เจ็บสิบเปอร์เซ็นนั้นผมขอซื้อ สามแสนล้านวอนเป็นยังไง”หวังหยวนยิงเข้าประเด็นทันที
แต่ดูฮวางที่ได้ยินราคานี้ถึงกลับขนลุกเพราะราคาหุ้นนั้นจริงมีเพียงแค่หนึ่งแสนล้านวอนเท่านั้นเองแต่ในเมื่ออีกฝ่ายจริงใจขนาดนี้เขาก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะปฎิเสธแต่ด้วยความเป็นนักธุรกิจเขานั้นต้องการเพิ่มราคามากกว่านี้หน่อย…
“ผมขอ..”แต่เขายังพูดไม่จบ
หวังหยวนก็เปิดคลิปหนึ่งบนหน้าจอโทรศัพท์จนทำให้ใบหน้าของดูฮวางซีดลงทันทีเพราะในคลิปนั้นเป็นคลิปที่เขาลวนลามเด็กฝึกคนหนึ่งแต่เธอไม่ยินยอมและลาออกไป!
“พูดตรงๆนะสามแสนล้านวอนที่ผมให้นั้นเพราะรู้มูลค่าของสี่สาววง BabyMonter ดีหวังว่าเราจะเจรจากันได้ด้วยดี”หวังหยวนนั้งไขว้ห่างชิวๆหลายคนอาจมองว่าเขาโง่แต่ถ้าพวกเขารู้ละก็ว่าอนาคตหุ้นของ JM Ent. จะดีดไปที่ล้านล้านวอนในปีหน้าละก็พวกเขาคงมองเขาเป็นพระเจ้าคนหนึ่งแน่นอน!
ส่วนวง BabyMonter นั้นเขาเอามาเป็นข้ออ้างเท่านั้นแต่ดูฮวางก็ไม่คิดว่าหวังหยวนพูดเล่นเช่นกันเพราะสี่สาวนั้นตอนนี้สามารถกวาดชาร์จเพลงทั่วโลกได้แล้วและเหยียบเท้าข้าวหนึ่งไปในคำว่าระดับโลกแล้วเรียบร้อย! แต่ทำไมเขามีคลิปแบล็คเมล์แล้วนั้นทำไมไม่กดราคาแทนละ? นั้นก็เพราะนี้ไม่ใช่ประเทศจีน! ถึงตระกูลหวังจะมีอำนาจมากแต่พวกเขาไม่อาจทำแบบเซี่งไฮ้ได้แน่นอนที่มือเดียวปิดฟ้า!!! พวกเขายังต้องเกรงใจเจ้าถิ่นอยู่บ้าง
แน่นอนว่าอีกเหตุผลที่ JM Ent. มีมูลค่ามากกขนาดนั้นมาจากสองวงก็คือ GTS กับ BabyMonter นี้แหละ! พูดได้ว่าทั้งสองวงคือเสาหลักของบริษัทเลย
“ฮ่าๆในเมื่อนายน้อยหวังจริงใจขนาดนั้นผมก็ไม่สิทธิ์ที่จะปฎิเสธหรอกจริงไหมครับ”ดูฮวางหยิบผ้ามาเช็ดเหงื่อที่ไหลออกมาจากหน้าผากของตัวเองพลางจรดปากกาเซ็นยินยอมและรับเช็กสามแสนล้านวอนนั้นมา
“ยินดีอย่างยิ่ง”หวังหยวนลุกขึ้นมาจับมือดูฮวางและกล่าวไล่เขาไปตรงๆ
ดูฮวางทำได้เพียงกล้ำกลืนฝืนทนเท่านั้นเพราะเขารู้ดีว่าชายหนุ่มตรงหน้าเขานั้นมีอำนาจมากขนาดไหนและอีกอย่างอีกฝ่ายก็จริงใจมากพอแล้วที่เสนอราคามาสามแสนล้านวอน
“บ้าจริงฉันลืมถามสะได้ว่าห้องซ้อมของสี่สาวนั้นอยู่ที่ไหน”หวังหยวนบ่นออกมาเพราะเขาจะให้สี่สาวนั้นมาเป็นแบรนด์เอ็มบาสเดอร์ของบริิษัท Balti ของเขาอาจฟังดูเอาแต่ใจแต่เขาก็เป็นประธานบริษัทนิแถมผลประโยชน์ที่เขาจะให้พวกเธอบอกตรงๆว่าเยอะกว่า พวกแบรนด์ชั้นนำนั้นแน่นอนเพราะเขาต้องการสร้างปรากฎการณ์!!
สื่อจะได้เอาไปเล่นข่าวอย่างเมามันและเขาจะได้ผลประโยชน์ทางการค้าไปในตัวด้วยนั้นคือการโฆษณา!
หวังหยวนจึงทำได้เพียงเดินไปรอบๆเท่านั้นก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปในห้องหนึ่งเพราะเขาได้ยินเสียงที่ไพเราะเสนาะหูเป็นอย่างมาก!
“เอ๊ะนี้นายเข้ามาได้ยังไงกัน”หญิงสาวที่เสร็จสิ้นจากการวอมเสียงแล้วนั้นก็กล่าวทักหวังหยวนอบ่างแปลกใจพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย
ส่วนหวังหยวนนั้นนิ่งค้างไปเป็นที่เรียบร้อย!