บทที่ 79
บทที่ 79
“เอ้อจริงด้วย ฉันว่านายหยุดไปทำงานความสะอาดอะไรนั่นดีกว่านะ แล้วหาเวลาว่างๆไปขุดสุสานกัน เก็บสมบัติหาเงินมาใช้จ่าย!”
“ฉันไม่เข้าใจจจริงๆว่านายคิดอะไรอยู่!ด้วยนิสัยของนาย จู่ๆก็ไปสมัครทำความสะอาด .... หรือนายจะพลาดโดนสิ่งโสมมในสุสาน เลยสมองไหลไปแล้ว?”
เจ้าอ้วนหวังถามขณะรับประทานอาหาร
“นายไม่ต้องกังวล ฉันมีเหตุผลที่ทำแบบนั้น แล้วอีกอย่าง วางใจได้ว่ามันไม่ส่งผลร้ายต่อนายแน่นอน” อู๋เกอพูด
“ฉันรู้ว่านายไม่คิดร้ายต่อฉัน! ด้วยมิตรภาพของพวกเรา นายไม่ทำงั้นหรอก” เจ้าอ้วนหวังตบไหล่อู๋เกอ แล้วถือโอกาสเช็ดมือมันเยิ้มที่ติดจากอาหาร
ใบหน้าของอู๋เกอเปลี่ยนเป็นสีดำ “อย่าใช้กีบหมูมันเยิ้มของนายมาปาดเสื้อฉัน!”
“แค่ยืมเสื้อเช็ดมือเท่านั้นเอง ไม่ได้เสียหายอะไรซักหน่อย ฮี่ ฮี่”
แล้วทั้งสองก็กินอาหารเย็นด้วยกัน
“ยังไงก็เถอะ เจ้าอ้วน ฉันจะเล่าอะไรให้ฟัง”
“เล่าอะไรไหนว่ามา”
“พรุ่งนี้ฉันจะพาบอสใหญ่ของบริษัทที่ทำงานมา นายช่วยเอาสมบัติดีๆที่พวกเราขุดได้ออกมาวางหน้าร้านด้วย”
“เหอ? นายหาลูกค้ามาได้เหรอ? ทำได้ดีเหมือนกันนี่นา!”
เจ้าอ้วนหวังพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส “ฉันได้ยินมาว่านายทำงานที่บริษัทหลินอินเวสเมนท์ บอสของที่นั่นตอนนี้เป็นแกะดำของเครือบริษัทหลิน เขาร่ำรวยแต่โง่เขลา ถ้าเขาแวะมาที่ร้านเรา ฉันจะฟันกำไรให้ยับเลย!”
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นในชาติที่แล้วแวบเข้ามาในหัวอู๋เกอทันที เขาตื่นตระหนกอย่างยิ่ง รีบเตือนอย่างไว “ห้ามเอาของปลอมไปหลอกขายเขา! บอสใหญ่ของฉันเขาฉลาดมาก ให้ใช้ของจริง!”
“ก็ได้ๆ งั้นฉันจะใช้ของจริงไปขายในราคาที่สูง”
“อย่าขายในราคาที่สูง ให้ขายมันในราคาส่วนลด นายต้องแสร้งทำเป็นไม่รู้คุณค่าของสิ่งของพวกนั้น!”
“อู๋เกอ! นี่นายบ้าไปแล้วเหรอ” เจ้าอ้วนหวังกระโดดโหยง มองอู๋เกอด้วยความตกใจ “นายขอให้ฉันเอาของจริงออกมาแล้วขายขาดทุน นี่ใช่สิ่งที่คนปกติเขาทำกันเหรอ? นายป่วยรึเปล่า?”
อู๋เกอยิ้มเจื่อนในใจ
เขารู้ว่าตัวเองต้องถูกเจ้าอ้วนตำหนิ แต่ก็จำเป็นต้องทำมัน
ธุรกิจขายของเก่าในตลาดแห่งนี้ กว่า 99.99% เป็นของปลอม! ทุกอย่างมีไว้เพื่อหลอกขายคนนอก!
หากคุณสามารถหาสิ่งดีๆ จากการเดินเล่นในตลาด แสดงว่าคุณโชคดีมาก!
อู๋เกอพาหลินเป่ยฝานมาที่นี่เพื่อแสดงความสามารถของตัวเองให้เขาเห็น จะได้รับความไว้วางใจ
ดังนั้นที่ต้องทำก็แค่พาหลินเป่ยฝานมาตลาด จากนั้นซื้อของแท้ในราคาถูก เพื่อเน้นย้ำคุณค่าของตัวเอง!
หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน อู๋เกอจึงตัดสินใจเสียสละผลประโยชน์เพียงเล็กน้อยของตัวเอง
อู๋เกอพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันไม่ได้ป่วย! ตอนนี้ฉันมีสติแจ่มใสมาก เรื่องนี้มีความสำคัญกับฉัน! เจ้าอ้วน นายช่วยทำตามที่ขอหน่อย จบเรื่องแล้วฉันจะพานายไปขุดสุสานเพิ่มซักสองสามแห่ง เอาเงินที่ขาดทุนไปกลับคืนมา!”
เจ้าอ้วนหวังได้ยินแบบนั้นถึงยอมนั่งลงแล้วโบกมือ “ก็ได้ๆ เห็นแก่ที่เราสนิทกัน ถ้าฉันไม่ช่วยนายแล้วใครจะช่วย! แต่บอกก่อนนะว่าฉันจะไม่ขายของชิ้นใหญ่หรือมีราคาสูงมากๆให้บอสใหญ่ของนาย!”
“แค่เอาของโบราณชิ้นเล็กๆก็พอ!” อู๋เกอพยักหน้า
สำหรับเขา ถ้าเป็นแค่ของชิ้นเล็ก อย่างน้อยขายไปก็ขาดทุนไม่กี่ล้าน สามารถขุดสุสานคืนทุนได้ในภายหลัง
การเสียเงินไม่กี่ล้านแลกกับการได้อยู่ใกล้ชิดกับหลินเป่ยฝาน เป็นอะไรที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน!
“อีกอย่าง นายต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้จักฉัน โอเคไหม?”
“ฉันขอพูดหน่อยนะอู๋เกอ!” เจ้าอ้วนหวังขมวดคิ้ว “นายต้องการอะไรกันแน่!”
“ไม่ต้องกังวล ทำตามที่ฉันพูด! สรุปแล้ว ฉันจะไม่ทำร้ายนาย!” อู๋เกอพูดในใจ : เจ้าอ้วน เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเหอะ นายไม่จำเป็นต้องแบกรับอะไร!
วันรุ่งขึ้น บอสใหญ่ของอู๋เกอหรือปลินเป่ยฝานก็ได้มาเยือนตลาดของเก่า
และเขาไม่ได้มาคนเดียว ข้างๆยังมีสาวงามอีกคน!
เมื่อมองจากระยะไกล ทั้งคู่เป็นเหมือนกิ่งทองใบหยก
“รองประธานหลิน คุณมาเร็วมาก!”
“พี่น้องอู๋ คุณก็มาเร็วเหมือนกัน”
“ผใขอแนะนำให้รู้จัก” หลินเป่ยฝานดึงซ่งหยูฉิงออกมาแล้วพูดว่า “นี่คือแฟนของผม ซ่งหยูฉิง ประธานโรงพยาบาลซ่ง! พอเธอได้ยินว่าเราจะมาที่นี่ก็รู้สึกสนใจมาก ผมเลยพามาด้วย!”
อู๋เกอจ้องมองสาวงามซ่งหยูฉิง
ในชาติที่แล้ว เธอเคยเป็นคู่หมั้นของหมอเทวะ แต่หลินเป่ยฝานแย่งชิงไป
ในบรรดาผู้หญิงทั้งหมดของหลินเป่ยฝาน ชื่อเสียงของซ่งหยูฉิงนั้นโดดเด่นน้อยที่สุด
อย่างไรก็ตาม เธอช่วยหลินเป่ยฝานจัดการทุกอย่างอย่างเยือกเย็น คอยสนับสนุนหลินเป่ยฝานจากเบื้องหลัง เป็นผู้หญิงที่สำคัญที่สุดของหลินเป่ยฝาน
“สวัสดีคุณซ่ง! ฉันชื่ออู๋เกอ เรียกฉันว่าเสี่ยวอู๋ก็ได้! พูดตามตรงนะ คุณดูสวยมาก สวยราวกับนางฟ้า! ยิ่งตอนยืนข้างรองประธานหลิน ก็ยิ่งเหมือนกิ่งทองใบหยก!”
“คุณปากหวานจัง ขอบคุณค่ะ!” ซ่งหยูฉิงยิ้มแก้มปริ
“รองประธานหลิน ในเมื่อมากันพร้อมหน้าแล้ว งั้นก็เข้าไปข้างในกันเถอะ”
“เดี๋ยวก่อน ยังมีอีกหนึ่งคน!”
“ใครกัน?”
ณ ขณะนี้ เสียงที่คุ้นเคยและร่าเริงดังมาจากที่ไกล “รองประธานหลิน เสี่ยวอู๋ ฉันอยู่นี่!”
อู๋เกอหันศีรษะไปเห็นแม่หลิวซึ่งมีรูปร่างใหญ่โตผิดปกติ แต่งตัวด้วยชุดหลากสีสัน ทุกย่างเก้าที่ใกล้เข้ามาพื้นสั่นสะเทือนราวกับโขลงช้างกำลังวิ่ง
“ก็ต้องเป็นแม่หลิวอยู่แล้ว!” หลินเป่ยฝานยิ้ม
จิตใจของอู๋เกอแตกสลายทันที
“ผมกับแฟนมาเป็นคู่ แล้วจะให้คุณเหงาอยู่คนเดียวได้ยังไง! ผมเลยจัดการโทรเรียกแม่หลิวมาให้เป็นคู่คุณ! เป็นไง เซอร์ไพรส์ไหม?” หลินเป่ยฝานยิ้มอย่างสดใส
อู๋เกอ “อ๊อก~”
บัดซบ!
เซอร์ไพรส์บ้านป้าแกไง!
“ไม่ต้องขอบคุณผม มันคือสิ่งที่ผมควรทำอยู่แล้ว”
อู๋เกอ “อ๊อก~”
ฉันไม่คิดจะขอบคุณแกหรอก!
ณ ขณะนี้ แม่หลิววิ่งมาถึงหน้าทุกคนแล้ว
“สวัสดีรองประธานหลิน! สวัสดีคุณซ่ง! แล้วก็เสี่ยวอู๋~ สวัสดีจ๊ะ” แม่หลิวบิดตัวอย่างเขินอาย “นี่ก็ผ่านมาอย่างน้อย 18 ชั่วโมงแล้วที่พวกเราไม่ได้เจอกัน คิดถึงฉันไหม คิ คิ”
อู๋เกอ “อ๊อก~”
“ฉันคิดถึงเธอตลอดเลยนะ ทำไมพวกเราไม่ย้ายไปอยู่ด้วยกันซักทีล่ะ ลูกชายฉันก็เอ่ยปากแล้วนะว่าไม่รังเกียจ”
อู๋เกอ “อ๊อก~”
“เธอพูดอะไรบ้างสิ! ถ้าเธอไม่พูด พี่สาวจะใช้กำปั้นเล็กๆชกอกเธอแล้วนะ!”
อู๋เกอ “อ๊อก~”
“เสี่ยวอู๋ แม่หลิว ตอนนี้ไม่ใช่เวลาทำงานหรืออยู่ในสำนักงาน ดังนั้นไม่จำเป็นต้องอดกลั้น เชิญทำตามใจต้องการได้เต็มที่!” หลินเป่ยฝานโบกมือแล้วพูดว่า “ในเมื่อมากันพร้อมหน้าแล้ว งั้นก็เข้าไปข้างในกันเถอะ”
เมื่อพูดแล้วหลินเป่ยฝานก็กุมมือน้อยๆของซ่งหยูฉิงอย่างเป็นธรรรมชาติ
ส่วนอู๋เกออ๊อก~ก็ต้องจำใจกุมมือแม่หลิวอย่างเป็นธรรมชาติเช่นกัน
คู่รักทั้งสองเดินเข้าไปในตลาดของเก่าด้วยกัน